พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1234 ครั้งแรก

บทที่ 1234 ครั้งแรก

บทที่ 1234 ครั้งแรก
“นี่คือ…….”

ปยุตยิ้มพูดว่า “ในความมืด จะเป็นการฝึกสมาธิของคุณได้ดี ในขณะเดียวกัน ยังสามารถให้ใจคุณไม่ฟุ้งซ่าน ถึงแม้จะเป็นยาระดับต่ำ แต่เนื่องจากระดับของผู้กลั่น ก็สามารถแบ่งระดับเป็นสูงกลางต่ำได้ รพีพงษ์ ต่อไปก็ที่ของคุณแล้วล่ะ”

วิธีการสอนของตาแก่นี่แปลกๆอยู่ แต่ที่ได้รู้จักกันมา รพีพงษ์รู้ว่า แต่ละขั้นตอนของปยุต ล้วนเป็นผลดีต่อตนเองทั้งนั้น

ลำดับของยาสมุนไพรบนโต๊ะ รพีพงษ์ได้จดจำไว้หมดแล้ว ส่วนวิธีการกลั่นยานั้น รพีพงษ์เห็นแล้ว ก็จดจำไว้ในใจหมดแล้วเช่นกัน

หายใจเข้าลึกๆ แล้วรพีพงษ์ก็หลับตา

ราวกับในโลกนี้มีการหยุดหายใจ หลังจากเข้าสู่แดนเทพครึ่งก้าว รพีพงษ์พบว่า เหมือนกับตนเองจะเอาจิตวิญญาณออกจากร่างตนเองไป

การค้นพบแบบนี้ ทำให้เขาตื่นเต้นดีใจไม่น้อย

ถ้าอยากจะกลั่นยาออกมาได้ระดับสูง จะต้องรีบค้นพบเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ให้เร็วที่สุด

คนธรรมดามักจะนึกออก แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะว่าประสาทสัมผัสของมือ ทำได้ไม่ละเอียดพอ

แต่ทว่า จิตวิญญาณเทพนั้นไม่เหมือนกัน มันเป็นตัวแทนของโลกจิตใจ บ่อยครั้งที่การรับรู้ของผู้คนเกี่ยวกับสิ่งต่างๆนั้นแม่นยำมาก

ด้วยเหตุนี้ จะมีพลังจิตหรือไม่นั้น ก็เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินว่าคนคนหนึ่งจะสามารถเป็นนักกลั่นยาได้หรือไม่

อย่างเช่นปยุตและจิรภัทร ล้วนมีพลังจิตสมาธิที่มากกว่าคนปกติทั่วไป

แต่ว่า เมื่อเทียบกับรพีพงษ์แล้ว พวกเขายังห่างอยู่มาก

มีจิตวิญญาณเทพแต่กำเนิด ทำให้รพีพงษ์มีประสาทสัมผัสที่มากกว่าคนปกติหลายเท่า ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ หลังจากที่จิตวิญญาณเทพตื่นขึ้น แล้วตามด้วยวิชาบูโดระดับของรพีพงษ์ที่สูงขึ้น พลังของจิตวิญญาณเทพก็ยิ่งพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว

รพีพงษ์ค่อยๆ ปลดปล่อยจิตวิญญาณเทพ แล้วสัมผัสกับยาสมุนไพรบนโต๊ะทุกชนิด

ถึงแม้จะอยู่ในความมืด แต่สำหรับรพีพงษ์แล้ว มันราวกับเป็นตอนกลางวันที่มีแสงจ้า

“โอเค เริ่มได้แล้ว”

หลังจากสัมผัสกับยาสมุนไพรทุกชนิดแล้ว รพีพงษ์ก็เริ่มกลั่นยาครั้งแรกในชีวิตของเขา!

“อันดับแรก เอาสมุนไพรไป่หลิงและฮัยโค่วไปบดในครกพร้อมกัน……”

รพีพงษ์ทำตามสิ่งที่ตนเองจดจำมา แล้วก็เริ่มลงมือ

การถอดจิตวิญญาณเทพ ทำให้เขาสามารถหยิบยาสมุนไพรบนแท่นหินได้อย่างถูกต้อง

ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ สำหรับจำนวนปริมาณ รพีพงษ์จัดการได้ไม่ขาดไม่เกินเลย

สองมือของเขาเร็วมาก ในขยับไปตามดวงจิต มือก็ขยับไปตามใจ

ถ้าตอนนี้เป็นช่วงกลางวันล่ะก็ ปยุตคงจะต้องอึ้งมากแน่ๆ

เนื่องจากท่าทางของรพีพงษ์ดูแล้วทะมัดทะแมงมาก ไม่มีการลังเลอะไรเลย ก็เลยทำตามสูตรยาเลยทั้งหมด อีกอย่าง แต่ละขั้นตอนก็สามารถทำได้พอดี

ถ้าคนปกติเห็นล่ะก็ ก็คงจะต้องชื่นชมว่า รพีพงษ์เป็นสุดยอดนักกลั่นยา

แต่จริงๆ แล้ว นี่เป็นเพียง ครั้งแรก ของยอดฝีมือกลั่นยาเท่านั้น

ผ่านไปประมาณ20นาที ในมือของรพีพงษ์ ก็ถือยาเม็ดแรกของเขาไว้ มันคือยาเม็ดตั้งสมาธิ

“ผมทำเสร็จแล้วครับ”

รพีพงษ์กล่าว

“งั้นหรือ เร็วงี้เลย?”

ครั้งนี้ปยุตไม่ได้หลับ เขาเปิดตะเกียงขึ้น แล้วพูดว่า “คุณจะทำเร็วอย่างเดียว แต่ไม่เน้นคุณภาพไม่ได้นะ ใจร้อนจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดี”

รพีพงษ์ก็พูดนิ่งๆ ว่า “ผมรู้ครับ ผมทำช้าลงมากแล้ว แต่ไม่รู้ว่ายาเม็ดนี้ เป็นยาที่คุณต้องการหรือเปล่า แล้วก็ไม่รู้ว่าสัดส่วนเป็นอย่างไรบ้าง”

“งั้นเอามาให้ผมดูหน่อย จะได้ลองตรวจดู”

พูดไป ปยุตก็เอายาเม็ดตั้งสมาธิเม็ดนั้นมาจากมือของรพีพงษ์

พอเห็นยาในมือเม็ดนั้น ปยุตก็นิ่งตาค้างไปเลย!

“นี่มัน………..”

“มีปัญหาตรงไหนหรือเปล่าครับ?” รพีพงษ์ถาม

ปยุตก็เม้มปากแล้วพูดว่า “ผมว่านะ คุณทำมันเร็วเกินไป ไม่ค่อยเน้นสัดส่วนปริมาณ ยาเม็ดตั้งสมาธิที่คุณทำออกมานี้ ไม่ผ่านเลย ไม่ได้เรื่องสักจุดเลย”

พูดไปดังนั้น ปยุตก็เอายาเม็ดตั้งสมาธิเม็ดนั้น ใส่ลงไปกระเป๋าเสื้อของตนเอง

รพีพงษ์ก็ไม่เข้าใจ “ในเมื่อมันไร้ประโยชน์ ทำไมไม่ทิ้งมันไปล่ะครับ?”

“ไม่ได้สิ จะทิ้งได้อย่างไรล่ะ!”

ปยุตก็รีบพูดว่า “เอ่อ…….เดี๋ยวผมจะช่วยดูแลมันให้ก่อน เอาเถอะน่า บอกไว้ก่อนเลยแล้วกัน ว่าผมจะไม่เอาเปรียบคุณหรอก”

รพีพงษ์พยักหน้า “ดูเหมือนว่า วิชาการกลั่นยา จะไม่ใช่เรื่องง่ายๆเสียแล้ว ยาระดับต่ำแบบนี้ยังทำออกมาไม่ดี ดูเหมือนว่า ผมจะทำให้จิรภัทรผิดหวังเสียแล้ว”

“ไม่หรอกน่า!”

ปยุตก็รีบพูดขึ้นมา

“แต่ว่า…..คุณก็บอกเองไม่ใช่หรือว่า ยาเม็ดตั้งสมาธิเม็ดนี้ไร้ประโยชน์” รพีพงษ์ถาม

“เอ่อ……ถึงแม้ว่าครั้งนี้คุณจะยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรนัก แต่ฝึกบ่อยๆคุณจะทำมันออกมาได้ดีแน่นอน”

ปยุตพูดไป แล้วก็หยิบสูตรยาออกมาอีก

“ครั้งนี้พวกเราจะลองอันนี้ดู ดูสิว่าคุณจะทำได้ไหม แล้วก็ยาสมุนไพรต่างๆ คุณไปหาเอง จำไว้ว่า ตอนที่กลั่นยานั้น จะต้องดับไฟด้วยนะ” ปยุตกล่าว

“ครับ เดี๋ยวผมลองดู ครั้งนี้เป็นยาระดับต่ำอีกหรือเปล่า?” รพีพงษ์ถาม

“ใช่ เอ่อ……ด้วยพลังของคุณตอนนี้ ทำได้แต่ยาระดับต่ำ อย่าคิดมาก รีบจัดการให้เสร็จก็พอแล้ว”

ปยุตก็เดินออกจากถ้ำ

“เดี๋ยวผมออกไปธุระเสียหน่อย คุณก็อยู่ในถ้ำนี้แล้วกัน”

พูดจบ ปสเต๊กก็ออกไป

รพีพงษ์ก็หยิบสูตรยา แล้วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

ไม่เหมือนกับเซียนสมุนไพรก่อนหน้านี้ ยาที่ต้องทำครั้งนี้ สมุนไพรที่ต้องใช้ ก็มีกว่า30ชนิด

“นี่น่าจะเป็นยาระดับต่ำอย่างดีสินะ” รพีพงษ์คิดในใจ

แต่ว่า พอนึกถึงตอนที่ปยุตมองดูถูกยาเม็ดตั้งสมาธิของตนเองนั้น รพีพงษ์ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

ใจร้อนจะทำให้ออกมาไม่ดี

รพีพงษ์ปลอบใจตนเอง แล้วก็เดินเข้าถ้ำไปหาเอายาของตนเอง…..

“ไอจิรภัทร!ไอจิรภัทร!”

ศูนย์กลางของสำนักเทพยาเซียน ในห้องของจิรภัทร ด้านนอกมีเสียงผู้ชายเอะอะโวยวาย

“ไอจิรภัทร!ถ้าคุณยังไม่ออกมา ผมจะเข้าไปแล้วนะ!พอถึงตอนนั้น เข้าไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นเข้า ก็อย่าว่าผมก็แล้วกันนะ!” มีเสียงชายตะโกนดัง

ไม่นาน ด้านในห้องก็มีเสียงตวาดออกมา

“ให้ตายเถอะ ใครเอะอะโวยวายอยู่ด้านนอกเนี่ย!มันกี่โมงกี่ยามกันแล้วห้ะ!”

“รีบออกมา เกิดเรื่องแย่แล้ว!” ฝั่งนั้นก็ตะโกนต่อไป โดยไม่สนใจจิรภัทรที่กำลังหัวร้อน

“เกิดเรื่องอะไรไม่ดี?”

จิรภัทรพูดในใจ แล้วก็รีบเปิดประตูออกมา

พอเห็นว่าที่ประตูมีปยุตยืนอยู่ จิรภัทรก็เข้าไปพูดว่า “ตาแก่นี่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นห้ะ? ฉันให้คุณไปสอนวิชากลั่นยาให้กับรพีพงษ์ คุณวิ่งมาที่นี่ทำไมกัน?”

“ไอจิรภัทร เกิดเรื่องแย่แล้ว” ปยุตกล่าว

จิรภัทรได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนทันที

“ทำไม หรือว่าพวกสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุมาอีกแล้วหรือ? ของดีในสำนักเทพยาเซียนของพวกเรา ถูกพวกมันจับจ้องอยู่หรือ?” จิรภัทรถาม

“ไม่ใช่เรื่องนี้ ผมหมายถึงรพีพงษ์…….เกิดเรื่องแย่แล้ว” ปยุตกล่าว

“รพีพงษ์หรือ? เขาทำไมล่ะ?”

จิรภัทรมองสเต๊กยุต แล้วก็ผลักเขาไปที่ต้นไม้ “ตาแก่นี่ ไปทำอะไรกับรพีพงษ์ห้ะ อาศัยช่วงสอนวิชากลั่นยา แล้วไปทรมานเขาใช่ไหม?”

“เปล่า!คุณเห็นผมเป็นคนอย่างไรกัน!อีกอย่าง ไอ้การทรมานต่างๆ ของผม ก็ใช้กับเขาไม่ได้ผลหรอก” ปยุตรีบตอบ

“งั้นก็ดี” จิรภัทรก็ปล่อยมือ แล้วพูดว่า “แล้วรพีพงษ์เป็นอะไรไป คุณร้อนรนแบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”

“ผมมีอะไรให้ดู”

พูดไป ปยุตก็หยิบยาเม็ดตั้งสมาธิที่รพีพงษ์เป็นคนทำ ออกมาจากกระเป๋า

จิรภัทรยื่นหน้าเข้าไปดู ภายใต้แสงจันทร์ ยาเม็ดตั้งสมาธิในมือของปยุตเม็ดนั้น ราวกับมีแสงสีม่วงปกคลุมไปทั้งเม็ด

“นี่คือ……ยาที่เขาทำขึ้นมาครั้งแรกงั้นหรือ?”

จิรภัทรก็พูดอย่างแปลก สายตาก็ไม่ละไปจากยาเม็ดตั้งสมาธิเม็ดนั้น

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท