พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1257 ซูปเปอร์สตาร์

บทที่ 1257 ซูปเปอร์สตาร์

ขณะนี้ ในห้องของรพีพงษ์ มีถังไม้ขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลาง จิลลาที่ไร้เสื้อผ้าแช่น้ำอยู่ข้างใน

หญิงสองคนยืนอยู่คนล่ะฝั่ง พวกเขารู้สึกเก้อเขิน เมื่อรพีพงษ์เข้าไปในห้องอย่างกะทันหัน

เช่นเดียวกันเหมือนครั้งที่แล้ว รพีพงษ์เพิ่งดูสิ่งนี้ไม่กี่วินาที จากนั้นก็รีบออกไป แล้วปิดประตูห้องทันที

เพียงแต่ สิ่งที่แตกต่างจากครั้งที่แล้วที่หลิงฉวน คือคราวนี้ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก และไม่มีหมอกมาบดบัง ทำให้รพีพงษ์มองเห็นเกือบหมด

รพีพงษ์ยืนอยู่ที่ประตูยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าตนเองไม่ได้ไปเข้าห้องผิดจริง ๆ และในขณะนี้ ประตูห้องก็ถูกเปิดออก

ลูกศิษย์หญิงสองคนเม้มปากแล้วยิ้ม และเดินจากไปทันที ตามด้วยจิลลาที่สวมเสื้อผ้าแล้ว ก็เดินออกไปเช่นกัน

“พี่รพีพงษ์” จิลลากล่าว

รพีพงษ์ก้มศีรษะลง “คุณ……คุณไม่เป็นไรแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”

“ขอบคุณ พี่รพีพงษ์สำหรับความช่วยเหลือ แต่เมื่อสักครู่…….” จิลลากล่าวเบา ๆ

รพีพงษ์รีบอธิบาย “เมื่อสักครู่ผมไม่เห็นอะไรเลย คุณไม่ต้องคิดมาก รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ!”

เมื่อคิดถึงภาพตอนที่เขาและจิลลาพบกันครั้งแรก ก็เหมือนกับสถานการณ์เมื่อสักครู่ รพีพงษ์เองก็รู้บุคลิกที่ดื้อรั้นของอีกฝ่าย เลยไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับเธอมากเกินไป

ใครจะไปรู้ คราวนี้จิลลาเม้มปากแล้วยิ้ม และกล่าวว่า “พี่รพีพงษ์ ฉันไม่ได้พูดอะไรเลย ดูสิคุณประหม่า เมื่อสักครู่ เป็นฉันเองที่ผิด”

“คุณผิดอะไร?”

รพีพงษ์ขยี้หูตนเอง สงสัยว่าตนเองได้ยินผิดหรือเปล่า

หญิงสาวดื้อรั้นขนาดนี้ เปลี่ยนอุปนิสัยไปแล้วหรือ?

จิลลาพยักหน้า “ฉันเพิ่งได้ยินสองคนนั้นบอกว่าหลังจากที่ฉันได้รับบาดเจ็บ ร่างกายของฉันอ่อนแอ พวกเขาตื่นตระหนก ก็เลยหาห้องที่อยู่ใกล้ห้องโถงมากที่สุดเพื่อรักษาฉัน ไม่คิดว่า นี่……จะเป็นห้องของคุณ”

“ที่แท้มันเป็นเช่นนี้นี่เอง ผมคิดว่าตนเองเข้าห้องผิด” รพีพงษ์หัวเราะเยาะตนเอง

จิลลายิ้ม “ดังนั้นในเมื่อคุณไม่รู้อะไรเลย ฉันก็โทษคุณไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นฉันได้ยินมาว่าคุณกลั่นยาสำเร็จแล้ว และยาเม็ดเฉียนสิงยังมีชี่ยาด้วย พี่รพีพงษ์ คุณเยี่ยมมาก!”

“นั่นเป็นเพราะก้าวแรกที่คุณทำได้ดี ผมแค่ทำต่อจากคุณเพื่อให้เสร็จเท่านั้น พูดถึงเรื่องนี้ คุณก็มีความดีความชอบอยู่ครึ่งหนึ่ง” รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

หลังจากจิลลาได้ยินประโยคนี้ กล่าวด้วยเสียงราบเรียบว่า “พี่รพีพงษ์ ฉันรู้ว่าคุณกำลังปลอบโยนฉัน ขั้นตอนสุดท้ายของยาชั้นเลิศเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ความสามารถของฉันห่างไกลจากคุณมาก แต่ขอให้คุณวางใจเถอะ ต่อไปฉันจะพยายามและตั้งใจเรียนกับศิษย์อาปยุตอย่างแน่นอน”

“งั้นก็ดี” รพีพงษ์พยักหน้า ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนี้จะเปลี่ยนไปมาก

“เอาล่ะ นี่ก็ดึกแล้ว คุณควรพักผ่อนเช่นกัน”

จิลลาจากไปพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนเดินจากไป เขาหันกลับมาและกล่าวอย่างขี้เล่นว่า “พี่รพีพงษ์ คุณไม่ต้องกังวล เรื่องคืนนี้ฉันกับศิษย์พี่ทั้งสองคนจะไม่แพร่งพรายออกไป นี่เป็นความลับระหว่างเรา”

หลังจากพูดจบ ก็เดินจากไป

รพีพงษ์เกาศีรษะอย่างจำใจ ความลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้ผู้หญิงคนนี้มีความสุข ดูเหมือนว่าตนเองจะมีช่องว่างระหว่างวัยกับคนหนุ่มสาวสมัยนี้

ตอนเที่ยงของวันถัดไป รพีพงษ์ลุกขึ้นจากเตียง

เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูเหมือนว่าการตัดสินของตนเองจะถูกต้อง สุดท้ายชายคนนั้นก็ออกจากสำนักเทพยาเซียนไปพร้อมกับฐปนีย์

หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ รพีพงษ์จุดไม้จันทน์แล้วก็นั่งลงที่โต๊ะ ตอนนี้จิตใจของรพีพงษ์คิดอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งความสนใจไปที่ผู้หญิงที่ชื่อฐปนีย์

จู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในสมอง

วันนั้น ตอนที่เขาอยู่ในเมืองเล็ก ๆ รพีพงษ์ไปที่บ้านของพรต ตอนสุดท้ายพรตกล่าวว่าตนเองถูกคนซื้อตัว และคนที่ซื้อเป็นผู้หญิง!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ก็รู้สึกมีแรงบันดาลใจอย่างมาก

“หรือว่า คนที่ซื้อตัวพรต ก็คือฐปนีย์?”

รพีพงษ์บ่นพึมพำ แล้วก็จำคำพูดที่พรตพูดในวันนั้นได้ ฐปนีย์วางแผนให้เขามาขวางทางตนเอง และพยายามฆ่าตนเอง

ตามที่กล่าวมา ตนเองกับเธอคงเคยมีความแค้นอะไรมาก่อน มิเช่นนั้นเธอจะวางแผนให้คนอื่นมาจัดการตนเองได้อย่างไร

“สาวน้อยคนนี้ ผมจะไปมีความแค้นอะไรกับเธอได้?”

รพีพงษ์สงสัยว่า บางทีฐปนีย์คนนี้อาจเป็นลูกสาวของครอบครัวใครครอบครัวหนึ่ง

เนื่องจากตนเองได้ทำลายล้างตระกูลมากมายในเมือง บางทีอาจจะเป็นลูกสาวของผู้นำตระกูลมาเพื่อแก้แค้นตนเองก็ได้

มิน่าล่ะคิ้วของเธอดูคุ้นเคยนัก

รพีพงษ์อยู่ในอารมณ์ที่ซับซ้อน ตนเองไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องฐปนีย์ เพราะตนเองสามารถบดขยี้เธอได้โดยไม่ต้องใช้เทคนิคลับ แต่สำหรับชายแปลกหน้าเมื่อคืนนี้ ดูมีพลังและร้ายกาจมากจริง ๆ

ตนเองอยู่ในระดับแดนเทพครึ่งก้าว แต่ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนั้นจะสูงกว่าตนเอง

“อยากจะถอดหน้ากากของเขาออก และดูว่าเขาเป็นใคร!”

รพีพงษ์ถอนหายใจเบา ๆ

หลังจากที่เขาสงบสติอารมณ์แล้ว รพีพงษ์ก็ไม่คิดอะไรมากในตอนนี้ เวลาตอนบ่ายมีลูกศิษย์ของสำนักเทพยาเซียนมากมายมารอที่จะตนเองเล่าเรื่องเกี่ยวกับป่าหมอกให้พวกเขาฟัง

ตอนบ่าย ห้องโถงกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง

จิรภัทรและผู้อาวุโสนั่งอยู่ด้านบน และเหล่าลูกศิษย์ที่นั่งอยู่ด้านล่างต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอ

“พี่รพีพงษ์มาแล้ว!”

ชุติเดชที่ตาแหลมพูดก่อน แล้วทุกคนก็มองมา หน้าของจิลลาแดงเล็กน้อย

รพีพงษ์ในเวลานี้ ราวกับซูเปอร์สตาร์ ที่กำลังดื่มด่ำกับสายตาเลื่อมใสศรัทธาของทุกคน

“รพีพงษ์ ผมไม่รู้จะทำยังไงกับคนกลุ่มนี้จริง ๆ ยังไงพวกเขาก็จะให้คุณเล่าเรื่องเกี่ยวกับป่าหมอกฟังให้ได้” จิรภัทรยิ้มอย่างขมขื่น

รพีพงษ์มองดูผู้คนรอบ ๆ และพูดอย่างเป็นกันเองว่า “ไม่เป็นไร พอดีผมก็อยากจะแบ่งปันเรื่องนี้ด้วย”

“พี่รพีพงษ์ คุณรีบเล่าเถอะ ผมรอแทบไม่ไหวแล้ว!”

ชุติเดชพูดนำก่อน

รพีพงษ์พยักหน้า และเริ่มเล่าตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ป่าหมอก ไปจนถึงเห็นแรดโบราณในหุบเขาหลิงซี

เมื่อได้ยินงูเหลือมยักษ์ คางคกพ่นพิษ และแรดโบราณยักษ์ในตอนท้าย ทุกคนก็ตกตะลึง

พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า ในโลกนี้ยังมีสัตว์ประหลาดมากมายเช่นนี้ แล้วก็อยู่ห่างจากตนเองไม่ไกล

รพีพงษ์พูดเหมือนง่าย ๆ แต่คนเหล่านี้รู้ดีว่าสองวันของการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง ถ้าเปลี่ยนเป็นตนเองคงทำไม่ได้

ไม่ต้องพูดถึง คู่ต่อสู้คนสุดท้าย คือแรดโบราณที่มีพลังแดนเทพ!

ความเลื่อมใสศรัทธาจากฝูงชนเพิ่มขึ้นอีก

“พี่รพีพงษ์ คุณช่างน่าทึ่งจริง ๆ แม้แต่สัตว์เซียนที่มีพลังแดนเทพก็สามารถเอาชนะพวกมันได้” ชุติเดชอุทาน

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย “ผมจะสามารถเอาชนะสัตว์เซียนที่พลังแดนเทพได้อย่างไร”

“งั้น……งั้นคุณทำอย่างไร?”

จิลลาและคนอื่น ๆมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความสงสัย

ถ้ารพีพงษ์ไม่สามารถต้านทานได้ จุดจบของเขาควรจะเหมือนบรรพบุรุษของตนเอง แต่ตอนนี้ รพีพงษ์ยังนั่งอยู่ดีมีสุขอยู่ที่นี่ และพูดคุยกันอย่างสนุกสนานกับตนเอง

“อาศัยมันทั้งหมด!”

ขณะที่กำลังพูด ก็ชูกระบี่สยบเซียนที่อยู่ในมือ

เมื่อเห็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์โบราณในมือของรพีพงษ์ ชุติเดชก็อุทานว่า “ใช่! พี่รพีพงษ์มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือ สัตว์เซียนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพี่รพีพงษ์!”

“ถูกต้อง มิเช่นนั้น พี่รพีพงษ์จะเอายาผงหลิงซีมาได้อย่างไร?”

คนที่เหลือก็กล่าวตาม

จิรภัทรที่นั่งอยู่ในตำแหน่งสูง ดูเหมือนจะเห็นบางอย่างแปลก ๆ จากรอยยิ้มของรพีพงษ์

เมื่อฝูงชนแยกย้ายกันไป รพีพงษ์ที่ยืนอยู่กลางห้องโถง หันไปกล่าวกับจิรภัทรว่า “เจ้าจิรภัทร โปรดตามผมไปที่ห้อง ผมมีเรื่องจะบอกคุณ”

จิรภัทรไม่ได้พูดอะไร ทั้งสองคนเดินมุ่งหน้าไปทางห้องพักของรพีพงษ์พร้อมกัน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท