พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1273 ทำตัวเองให้ดี

บทที่ 1273 ทำตัวเองให้ดี

กลั่นยาติดต่อกัน3วัน แถมยังกลั่นแต่ยาเม็ดวิญญาณชี่อย่างเดียว รพีพงษ์มีประสบการณ์โดยตรง

เพราะว่า การหลอมรวมยาชนิดเดียวกันนั้น แต่ละครั้งที่กลั่นออกมา จะได้ผลดีกว่าครั้งก่อนเป็นอย่างมาก

ส่วนครั้งนี้ จิลลาก็ตัดสินใจจะกลั่นยาเม็ดเฉียนสิงออกมาอีกครั้ง

สำหรับคนอื่นๆแล้ว ก็กลัวจะเป็นเหมือนครั้งก่อน มันอันตรายมาก แต่รพีพงษ์กลับมองว่า นี่เป็นการเลือกที่ดีมาก

ในเมื่ออยากจะเอาชนะ จะต้องกลั่นยาชั้นเลิศ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมจะไม่เลือกยาที่ตนเองเคยทำพลาดไปเมื่อครั้งก่อนล่ะ?

สูตรยาของยาเม็ดเฉียนสิง จิลลาจำได้ขึ้นใจแล้ว

หายใจเข้าอย่างลึกๆ พลังจิตของจิลลาก็ค่อยๆ ถูกปลดปล่อยออกมา

“ครั้งนี้ ฉันต้องเอาชนะให้ได้ จะทำให้พี่รพีพงษ์ผิดหวังไม่ได้เด็ดขาด”

จิลลาคิดในใจ

เริ่มการแข่งขันได้!

ขั้นตอนแรก จิลลาเริ่มได้อย่างราบรื่น

มีประสบการณ์จากครั้งก่อน เธอทำได้เร็วกว่าครั้งก่อนมาก

อีกอย่าง รพีพงษ์ที่มองดูอยู่ข้างๆ จากการสังเกตของจิตวิญญาณเทพ การหลอมรวมยาในขั้นตอนแรกของจิลลา แทบหาข้อเสียอะไรไม่ได้เลย

ต้องรู้ก่อนว่า ตอนที่รพีพงษ์รับช่วงต่อกลั่นยาเม็ดเฉียนสิงในครั้งก่อนนั้น อันดับแรกคือการปรับปรุงส่วนที่จิลลาทำเสียไว้ในขั้นตอนแรก แล้วค่อยทำขั้นตอนอื่นต่อไป

เพียงแค่40นาที จิลลาก็หลอมรวมในขั้นตอนแรกเสร็จสิ้น

“นังหนูน้อยคนนี้ เร็วขนาดนี้เลยหรือ?”

จินเฉิงที่อยู่ข้างๆ ก็แปลกใจ

ถึงแม้พรสวรรค์ของตนเองจะไม่เท่าศิษย์พี่จั๋วเยว่ แต่สามารถเข้ามาเป็นศิษย์ของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุได้ ก็เพียงที่จะแสดงว่าจินเฉิงนั้น เป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านการกลั่นยามากพอสมควร

ตั้งแต่ต้นจนจบ ดวงตาสวยๆ ของจิลลาไม่เคยลืมออกมาเลย

เธอทำการหลอมรวมยา จากประสาทสัมผัสของตนเองเท่านั้น

ในตอนนี้ เสียงน้ำไหลทางด้านนอก เสียงลม รวมทั้งเสียงสิงสาราสัตว์ในป่า ล้วนไม่อยู่ในความสนใจของเธอ

เธอในวันนี้ ได้เข้าไปอยู่ในห้วงภวังค์ของตนเองจริงๆ เข้าแล้ว

อีกอย่าง ครั้งก่อนรพีพงษ์ได้เอาพลังจิตวิญญาณเทพถ่ายทอดเข้าสู่ร่างกายเธอไปเล็กน้อย จิลลาก็พบว่ามีพลังจิตวิญญาณเทพกำลังหลอมรวมเข้ากับพลังจิตของตนเอง

นี่ก็ทำให้พลังจิตของเธอแข็งแกร่งและบริสุทธิ์ขึ้น

ถึงแม้จะหลอมรวมไปได้น้อย แต่กลับทำให้จิลลาได้รับผลดีมากมาย

ต้องรู้ก่อนว่า คนที่มีพลังจิตวิญญาณเทพนั้นหายากมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรพีพงษ์ที่มีพลังจิตวิญญาณเทพตั้งแต่กำเนิดเลย

“มาถึงขั้นตอนนี้อีกแล้ว ไม่รู้ว่าครั้งนี้จิลลาจะทำสำเร็จหรือไม่”

จิรภัทรนั่งอยู่ข้างๆ นั้น แล้วพูดเสียงต่ำ

เป็นลูกศิษย์ที่เขารักมากที่สุด จิรภัทรก็เลยไม่วางใจ

“วางใจเถอะเจ้าจิรภัทร มีผมอยู่” รพีพงษ์ยืนอยู่ข้างๆ แล้วพูดขึ้นมานิ่งๆ “แล้วผมก็เชื่อว่า ครั้งนี้จิลลาจะต้องทำสำเร็จอย่างแน่นอน!”

ฝั่งจิลลาก็เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย แต่พอมองฝั่งจินเฉิง ก็กำลังเร่งมืออย่างมาก

“ไม่ได้ มีแขกผู้มีเกียรติมากมายอยู่ด้วย จะให้พวกเขามองสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุเราแย่ๆ ไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นล่ะก็ ต่อจากนี้จะธุรกิจกับพวกเขาได้อย่างไร?”

ที่แท้ ครั้งนี้ที่ชนุตร์เชิญพวกตระกูลใหญ่ๆ มามากมาย นอกจากจะมาเพื่อเยาะเย้ยสำนักเทพยาเซียนแล้ว ยิ่งกว่านั้นก็คืออยากจะโชว์ฝีมือของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุให้พวกเขาได้เห็น

แบบนี้ ในอนาคตจะได้มีช่องทางในการขายยาเม็ดได้

ตอนที่จบการแข่งขันรอบแรก แขกพวกนี้ล้วนตื่นเต้น ฝั่งตรงข้ามเป็นถึงเจ้าสำนักของสำนักเทพยาเซียน แม้แต่ผู้อาวุโสรองของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุก็ยังเอาชนะไม่ได้

คำพูดที่ว่า คนในวงการมองเน้นเรื่องฝีมือ คนนอกวงการเน้นเอาสนุก สำหรับแขกพวกนี้แล้ว จิรภัทรและบุณยผลนั้นห่างกันมาก

ตอนนี้ความกดดันทั้งหมดอยู่ที่จินเฉิงแล้ว

ใบหน้าแก่ๆ ของชนุตร์ แทบไม่มีเลือดไหลเวียน สายตาดั่งนกอินทรีก็จับจ้องไปยังสนามการแข่งขัน

ถ้าก่อนหน้านี้จั๋วเยว่ไม่ได้เป็นอะไร วันนี้คนที่ลงแข่งก็คงจะเป็นเขา แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้ สำหรับในตัวจินเฉิงแล้ว ชนุตร์ก็มีความมั่นใจอยู่เหมือนกัน

เขาไม่เคยมองสำนักเทพยาเซียนอยู่ในสายตา!

เพียงแต่ พอเขาเห็นจิลลาหลอมรวมในขั้นตอนแรกเสร็จได้เร็วขนาดนั้น ในใจก็เริ่มไม่สบายใจ

สำนักเทพยาเซียนมีลูกศิษย์ที่มีความสามารถและพรสวรรค์ดีๆ แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

รู้สึกว่าด้านหลังมีแสงเย็นๆ แทรกเข้ามา จินเฉิงก็ยิ่งรีบเร่งมือทำมากกว่าเดิม

จั๋วเยว่ได้พิการไปแล้ว เกรงว่าวันข้างหน้าก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว

อย่างน้อย อนาคตของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุที่ยิ่งใหญ่ คงจะไม่มอบใส่มือคนพิการหรอก

วันนี้ ก็เป็นวันที่จินเฉิงจะมีโอกาสแสดงความสามารถของตนเอง!

ขอเพียงชนะในรอบนี้ สมาคมการเล่นแร่แปรธาตุก็จะได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์

แบบนี้แล้ว ในหมู่ลูกศิษย์วัยรุ่น ก็จะไม่มีใครเทียบเขาได้! ส่วนตนเองก็จะได้รับการสืบทอดจากผู้อาวุโสของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุหลายคน!

แต่ตอนนี้ ถ้าตนเองแพ้ให้กับยัยผู้หญิงที่ไม่มีชื่อเสียงคนนี้ เกรงว่าตนเองจะไม่มีโอกาสได้พลิกตัวเองขึ้นมาอีกได้แน่

“ไม่ได้ จะต้องชนะให้ได้!”

คิดๆ ไป ใจของจินเฉิงก็ว่อกแว่กมากกว่าเดิม ท่าทางของมือก็ร้อนรนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

ถึงขนาดที่การหลอมรวมในขั้นตอนแรกทำได้ไม่ค่อยสมบูรณ์นัก เขาก็ร้อนใจที่อยากจะทำขั้นตอนสุดท้ายเสียแล้ว!

อารมณ์แบบนี้ สำหรับนักกลั่นยาแล้ว มันเป็นไม่สมควรมีขึ้น อีกอย่างร่องรอยของการหลอมรวมในขั้นตอนแรก จะมีผลต่อคุณภาพเม็ดยาในขั้นตอนสุดท้าย

จินเฉิงจะไม่รู้เรื่องพวกนี้ไม่ได้ เพียงแต่ภายในสถานการณ์แบบนี้ เขาจะมั่วมาสนใจเรื่องพวกนี้มากไม่ได้แล้ว

รู้สึกว่าคู่ต่อสู้ข้างๆ เริ่มเร็วขึ้น ไม่นานก็สามารถเทียบเท่าตนเองได้ ใจของจิลลาก็ร้อนรนขึ้นมา

ครั้งนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของสำนักเทพยาเซียน ภาระที่จิลลาต้องแบกรับ มันหนักกว่าการแข่งกับจั๋วเยว่ในครั้งก่อนเสียอีก

โดยเฉพาะ ที่ตนเองออกมาแข่งรอบนี้ ยังเป็นการเสนอชื่อของรพีพงษ์อีกด้วย เธอไม่อาจทำให้รพีพงษ์ผิดหวัง!

“พี่รพีพงษ์ ฉันจะแพ้ไม่ได้!”

จิลลานึกในใจ คิ้วสวยๆ ของเธอก็ขมวดเล็กน้อย

การแข่งขันดำเนินมาถึงตอนนี้ เธอก็ลืมตาขึ้นครั้งแรก

“ไม่ได้การแล้ว จิลลาจะเกิดอาการเหมือนครั้งก่อนหรือเปล่านะ!”

ปยุตพูดอย่างกังวล

เขาและจิรภัทรสองคน ได้เตรียมไว้แล้ว ถ้าหากเกิดอะไรไม่ดีขึ้นมา ก็จะเข้าไปหยุดการแข่งขันนี้เสีย

จากนั้น ตอนที่จิลลาลืมตาขึ้น เธอก็เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่นดั่งแสงสุริยาของรพีพงษ์

รอยยิ้มของรพีพงษ์แฝงไปด้วยการให้กำลังใจ ในขณะเดียวกัน จิลลาก็ได้เห็นพอดี รพีพงษ์ก็ปากกระตุกๆ เหมือนกับกำลังพูดอะไรกับตนเอง

ไม่นาน จิลลาก็มองความหมายของปากรพีพงษ์ออก

ทำตัวเองให้ดี!

จิลลาแอบกำหมัดแน่น พี่รพีพงษ์ให้เธอทำตัวเองให้ดี นี่มันเป็นการเชื่อมั่นในตัวเธอมากแค่ไหนกัน!

ใช่ ฉันจะต้องฟังคำพี่รพีพงษ์ ทำตัวเองให้ดีก็พอ ไม่ต้องไปคิดเรื่องอื่นมากมาย!

จิลลาพยักหน้าให้ตนเอง สีหน้าเคร่งเครียดของเธอก็กลับมาเป็นปกติ

พลังจิตก็ลอยขึ้นช้าๆ ลอยเข้าไปหลอมรวมกับด้านในตัวยาสมุนไพรตัวสุดท้าย

“น่าแปลก ดูๆ ไปแล้ว จิลลาไม่เป็นอะไรแล้ว” ปยุตแปลกใจเล็กน้อย

จิรภัทรก็ลูบเคราขาวๆ ของตนเอง ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มที่น่าพอใจ

“ไม่เลว นังหนูน้อยนี่ พัฒนาไปอีกขั้นแล้ว!”

ปยุตได้ยินดังนั้น ก็มองไปยังจิลลาที่อยู่ตรงกลาง แล้วก็เกิดความชื่นชมขึ้นมา

ตนเองอยู่เป็นอิสระทั้งชีวิต ไม่ยึดติดกับอะไร ขอเพียงมีชีวิตที่ชิลๆ สบายๆ ไม่คิดเลยว่าตอนที่แก่ตัวมา จะมีลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงส่งแบบนี้

ถึงอย่างไร อัจฉริยะแบบรพีพงษ์ ถึงจะบอกว่ามาเรียนกลั่นยากับตนเอง แต่จริงๆ แล้ว ปยุตก็ไม่ได้มีอะไรจะสอนมากนักหรอก

เพียงแค่บอกจุดสำคัญๆ ไป รพีพงษ์ก็สามารถต่อยอดหาทางเรียนรู้เองได้ ฝีมือก็ยิ่งพัฒนาสูงขึ้น แข็งแกร่งกว่าตนเองมาก

ดังนั้น ลูกศิษย์จริงๆ ของปยุต ก็มีเพียงจิลลาคนเดียว!

อายุยังน้อยนิด ก็ต้องมาฝึกจิตที่ริมหน้าผา มารวบรวมพลังจิตภายใต้ความมืด การฝึกของปยุต สำหรับรพีพงษ์แล้ว เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับคนปกติแล้ว มันทรหดมาก

แต่จิลลาก็ทนมาได้ แถมยังทำดีขึ้นกว่าครั้งก่อนหน้าอีกด้วย

ปยุตมองรพีพงษ์ที่อยู่ข้างๆ ในใจก็พูดว่า คนที่ทำให้จิลลาเปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้ คงจะมีแต่รพีพงษ์คนเดียวแล้วล่ะ

รพีพงษ์นี่แหละที่ทำให้จิลลารู้ว่า อะไรคือเหนือฟ้ายังมีฟ้า อะไรคืออัจฉริยะที่ฟ้าประทานมา!

เมื่อเทียบกับรพีพงษ์แล้ว พรสวรรค์ของจิลลานั้น แทบจะเทียบอะไรไม่ได้เลย นี่คือสิ่งที่ทำให้จิลลาวางความโอหังลงไป แล้วกลับมาเริ่มฝึกฝนตนเองมากกว่าเดิม!

กลับไปที่สนามการแข่งขัน จิลลาก็ได้เริ่มการหลอมรวมในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว

พลังจิตแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้มาก จนรู้สึกว่าตนเองสามารถรับมือกับยาเม็ดเฉียนสิงเม็ดนี้ได้แล้ว

ความรู้สึกของจิลลานิ่งสงบลง ไม่ร้อนรน เหมือนกับหลายวันก่อน ตอนที่อยู่บนหน้าผา ปล่อยวางตนเอง ในใจคิดแต่เรื่องวิธีการแต่ละขั้นตอนของการกลั่นยาเม็ดเฉียนสิง

“ไม่นาน จิลลาก็ทำสำเร็จแล้ว!”

กลิ่นหอมตลบอบอวล คนของสำนักเทพยาเซียนทุกคน ก็เงยหน้ามองด้วยความลุ้น

ถ้าหากว่าจิลลาสามารถกลั่นยาเม็ดเฉียนสิงออกมาได้จริงๆล่ะก็ เช่นนั้นเธอก็จะเป็นอนาคตของสำนักเทพยาเซียน เป็นศิษย์วัยรุ่นคนเดียวที่สามารถกลั่นยาชั้นเลิศออกมาได้!

พอได้กลิ่นหอมที่โชยออกมา ทางฝั่งจินเฉิงก็แทบจะบ้าคลั่ง

ท่าทางของมือเขาเร็วขึ้นเรื่อยๆ พลังจิตก็ถูกปลดปล่อยออกมาจนหมด ดวงตาก็เต็มไปด้วยเส้นเลือด

“ไม่ กูจะแพ้ไม่ได้ กูไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!”

จินเฉิงบ่นอยู่ในปาก แต่ก็เพราะว่าร้อนรนมากขึ้น ท่าทางก็เลยดูวุ่นวายสับสนมาก

“ขอโทษทีนะ ดูเหมือนว่า ฉันจะทำเสร็จก่อน!”

เสียงของจิลลาดังขึ้น ทุกๆ คนก็กลั้นหายใจไปตามกัน

ยาชั้นเลิศ คุณภาพต่ำ!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท