พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1274 เขาไม่คู่ควร

บทที่ 1274 เขาไม่คู่ควร

ชุติเดชก็เป็นคนนำตะโกนออกมา ฝั่งของสำนักเทพยาเซียนก็ส่งเสียงเฮออกมา

อายุเพียง20ปี แต่กลับสามารถกลั่นยาชั้นเลิศออกมาได้ ถึงแม้จะเป็นคุณภาพต่ำ แต่ก็เพียงพอที่การันตีได้ว่าจิลลามีพรสวรรค์ด้านการกลั่นยาจริงๆ !

พวกของชุติเดชก็คิดในใจ ความแตกต่างของฝีมือตนเองกับจิลลา ดูเหมือนว่าจะยิ่งห่างไกลกันออกไปเรื่อยๆ แล้ว

ในตอนนี้ คนที่ร้อนรนที่สุดในฉากนี้ คงจะเป็นจินเฉิงเท่านั้น

ด้านข้าง ชนุตร์ก็ส่งสายตาเยือกเย็น ก็แค่ยาชั้นเลิศคุณภาพต่ำ เขาไม่มองอยู่ในสายตาหรอก

“เหอะ ก็แค่พวกตัวตลก อย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป ประเดี๋ยวเถอะ รอจินเฉิงทำเสร็จก่อน คุณภาพจะต้องสูงกว่าของเธอแน่นอน!คนที่ได้ชัยชนะ สุดท้ายแล้วจะต้องเป็นของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุของพวกเรา!”

สิ้นเสียงพูด ทันใดนั้น จินเฉิงที่อยู่ตรงหน้าก็ตัวสั่นระริกขึ้นมา จากนั้น พลังจิตของเขาก็ถูกยาชั้นเลิศที่อยู่ในมือ ดูดเข้าไปอย่างรวดเร็ว โดยสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า

“พลังสะท้อนกลับ!”

จิรภัทรและปยุตพูดออกมาพร้อมกัน!

จิลลาที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็มองด้วยสีปากซีดๆ เห็นจินเฉิงที่มีสีหน้าน่ากลัว ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

ถ้าครั้งก่อนตนเองไม่ได้มีรพีพงษ์อยู่ด้วยล่ะก็ เกรงว่าวันนี้ก็คงไม่ได้ยืนอยู่ตรงจุดนี้หรอก

จินเฉิงที่รีบร้อนจะทำเสร็จโดยไว สุดท้ายก็ต้องชดใช้ให้กับความรีบร้อนของตนเอง!

ชนุตร์มีสายตาเย็นชา สำหรับเขาแล้ว ถูกพลังของยาชั้นเลิศสะท้อนกลับ ไม่มียารักษาได้ จะต้องอาศัยพลังของผู้กลั่นยาเอง ถึงจะสามารถหลุดออกจากการถูกพลังสะท้อนกลับได้

แต่เห็นได้ชัดว่า จินเฉิงยังไม่มีพลังนั้น

พลังของเขาอ่อนลงเรื่อยๆ แล้วร่างของเขาก็ล้มลงที่พื้นทั้งยืน ร่างกายชักกระตุกไม่หยุด เหมือนกับถูกดูดจนแห้งไปทั้งตัว ใบหน้าไม่มีเลือดไหลเวียน

พวกแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายในงาน เห็นแล้วก็ตกใจไปตามกัน

“นี่มัน……..เกิดอะไรขึ้น?”

“ผู้อาวุโสชนุตร์ คุณรีบไปช่วยไอ้หนุ่มนี่สิ!”

……

แต่ว่า ชนุตร์ก็ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับตัวเลย

สิ่งที่นักกลั่นควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด ก็คือการรวบรวมสติไม่ได้ขณะกลั่นยา จินเฉิงกลับทำในสิ่งที่ชนุตร์ไม่ชอบ และได้ถูกชนุตร์ลบชื่อออกในใจไว้นานแล้ว

“ทุกท่านอย่าตื่นตกใจไป นี่คือการถูกพลังของยาชั้นเลิศสะท้อนกลับ ไม่มียารักษา” ชนุตร์พูดปลอบอารมณ์ของแขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย

“ทำมาเป็นบอกไม่มียารักษา นั่นเป็นเพราะคุณไม่มีปัญญารักษาต่างหาก!”

ทันใดนั้น ชุติเดชก็พูดแทรกขึ้นมาข้างๆ ว่า “หลายวันก่อน พี่จิลลาของพวกเราก็ถูกพลังของยาสะท้อนกลับใส่ตัวเหมือนกัน สุดท้ายถูกพี่รพีพงษ์ช่วยไป แล้วก็ช่วยเธอกลับมาได้ จะว่าไปแล้ว ก็เป็นเพราะพี่รพีพงษ์เก่ง”

“ชุติเดช อย่าพูดมาก!”

จิรภัทรตาขวาง ลูกศิษย์คนนี้ของตนเอง มันชอบปากมาก

“ปกติก็พูดมากอยู่แล้วอะ”

ชุติเดชบ่นๆ แล้วก็ก้มหน้า ถอยออกไป

ชนุตร์มองรพีพงษ์อย่างมีแผนร้ายในใจ แล้วก็เดินขึ้นหน้ามาพูดว่า “ในเมื่อประมุกรพีมีพลังแบบนี้ งั้นก็ช่วยแสดงฝีมือ ช่วยเหลือลูกศิษย์ไม่เอาไหนของผมคนนี้ด้วย”

รพีพงษ์ก็มีสีหน้านิ่งๆ ไม่ขยับอะไร

พวกแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายก็รู้ตัวตนที่แท้จริของรพีพงษ์ แต่ที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ รพีพงษ์จะสามารถรักษาคนที่ถูกพลังของยาชั้นเลิศสะท้อนกลับใส่จนหายได้

แม้แต่โคบายาชิจุนอิจิก็แปลกใจเหมือนกัน

หมอนี่ มาเรียนกลั่นยาไม่ใช่หรือ? ทำไมดูไปแล้ว เขาจะเก่งที่สุดเลย? ถึงสามารถทำให้ผู้อาวุโสใหญ่ของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุยอมลดตัวไปขอร้องได้

พอเห็นรพีพงษ์ไม่ตอบสนองอะไร ส่วนจินเฉิงที่ล้มลงไปที่พื้น ก็หายใจโรยรินลงเรื่อยๆ ชนุตร์ก็พูดเสียงขรึมว่า “ประมุกรพี หรือว่าคุณจะยอมเห็นเขาตายไปต่อหน้าต่อตาโดยไม่ยื่นมือช่วยเหลือเลยหรือ? ถ้าคุณสามารถช่วยจินเฉิงได้ สมาคมการเล่นแร่แปรธาตุของพวกเราก็จะไม่เคืองใจในเรื่องก่อนหน้านี้ บุญคุณชดใช้ด้วยบุญคุณ วันข้างหน้า จะให้ยาชั้นเลิศ5เม็ดแก่ตระกูลลัดดาวัลย์ทุกปี โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ !”

พอคำนี้พูดออกไป พวกตระกูลใหญ่ๆ ทั้งหลาย ก็ตกใจไปตามกัน

ยาชั้นเลิศ5เม็ด แถมยังให้ฟรีอีกงั้นหรือ? มันอย่างกับฟ้าประทานเลยนะนั่น

ต้องรู้ก่อนว่า ยาชั้นเลิศแต่ละเม็ดของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ พอเอาไปประมูล ก็ล้วนมีตระกูลใหญ่ๆ แย่งชิงกันทั้งนั้น แต่ละเม็ดล้วนมีราคา10ล้านขึ้นไปทั้งนั้น!

ชนุตร์ก็มีแผนในใจของเขาอยู่แล้ว

ถ้าสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุอยากจะมีชื่อเสียง ก็ต้องคบค้าสมาคมกับตระกูลลัดดาวัลย์ตระกูลใหญ่ที่สุดในประเทศจีนให้ได้

ส่วนความแค้นของพรตนั้น ไม่อาจจะเทียบกับความเจริญรุ่งเรืองของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุในอนาคตได้เลย

รพีพงษ์ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว มุมปากก็เบ้เล็กน้อย

ความคิดชั่วๆ ของชนุตร์ มีหรือตนเองจะมองไม่ออก แต่ทว่า ก็แค่ยาชั้นเลิศคุณภาพดี5เม็ดเท่านั้น เขาไม่เอามาไว้ในสายตาหรอก

เวลา3วัน 3วันก็ได้ยาชั้นเลิศ8เม็ด แถมยังเป็นยาเม็ดที่มีชี่ยาด้วย ถ้าจะบอกว่ารพีพงษ์เป็นเครื่องกลั่นยา ก็ว่าได้

“ต้องขออภัยด้วยนะครับ ความเป็นตายของเขา ไม่เกี่ยวกับผม ส่วนเรื่องที่คุณบอกว่าจะตอบแทนด้วยคุณธรรมอะไรนั่น ยิ่งน่าขำไปกันใหญ่”

พูดไป รพีพงษ์ก็จ้องมองไปยังชนุตร์ “แค่ศิษย์ทรยศคนหนึ่งของสำนักเทพยาเซียน ยังจะกล้ามาพูดเรื่องคุณธรรมกับผม มันน่าขำสิ้นดี”

คนรอบๆ ก็หายใจเข้าพร้อมกัน พวกเขาที่ล้วนแล้วแต่รู้จักตัวตนของรพีพงษ์ ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก

มุมปากของชนุตร์ก็กระตุกๆ

หลายปีมานี้ ภายใต้การบริหารของตนเอง สมาคมการเล่นแร่แปรธาตุก็พัฒนาไปอย่างยิ่งใหญ่ ไม่ว่าชนุตร์จะเดินไปที่ไหน ทุกๆ ตระกูลใหญ่ก็ต้องเคารพนับถือเขา

ไม่มีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้มาก่อน

ชนุตร์เงยหน้าขึ้น สายตาที่แก่ชราก็มองไปที่รพีพงษ์ “ไม่คิดเลยว่า นายน้อยตระกูลลัดดาวัลย์จะเลือดเย็นขนาดนี้ ยอมทนดูชีวิตคนคนหนึ่งหายไปต่อหน้าต่อตา หรือว่าคุณจะไม่สงสารเลยแม้แต่น้อยหรือ?”

“เหอะ”

รพีพงษ์หัวเราะออกมา แล้วก้มหน้ามองไปยังจินเฉิงที่นอนบนพื้น พร้อมพูดเสียงต่ำว่า “พลังจิตวิญญาณเทพของผมยิ่งใหญ่ขนาดไหน เขา ไม่คู่ควร!”

พูดจบ แล้วก็ไม่มองฝั่งตรงข้ามอีก และไม่สนใจสายตาที่อำมหิตของชนุตร์ด้วย

“ขายหน้าสิ้นดี มาหามมันออกไป!”

ชนุตร์พูดเสียงเย็น แล้วก็ให้ลูกศิษย์ของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ2คน เข้ามาหามจินเฉิงที่ไร้ซึ่งลมหายใจออกไป

“ผู้อาวุโสชนุตร์ เอ่อ…..”

คนที่มองดูอยู่รอบๆ ก็อึ้งกิมกี่ไปตามกัน

คนที่ตายเป็นลูกศิษย์ของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ แต่ดูไปแล้ว เหมือนว่าชนุตร์จะแยแสอะไรเลย

“ไม่มีอะไรแล้วครับทุกท่าน”

ชนุตร์พูดเสียงต่ำขึ้นมา “จินเฉิงฝีมือยังไม่ถึงขั้น ก็เลยถูกพลังของยาสะท้อนกลับ ช่วยเหลืออะไรไม่ได้แล้ว ที่ผมทำแบบนี้ ก็เพื่อทำให้เขาทรมานน้อยลง”

พวกแขกที่มาดูก็พยักหน้า พอคิดๆ ดู ที่ชนุตร์พูดก็มีเหตุผลเหมือนกัน

“ดังนั้น อาชีพนักกลั่นยานี้ ถ้าไม่ระวัง ก็อาจจะตายได้ง่ายๆ ยาชั้นเลิศพวกนั้น ก็ต้องแลกมาด้วยเลือดจากการฝึกฝนอย่างโหดเหี้ยม ดังนั้น ที่ยาแต่ละเม็ดจึงมีราคาแพง ก็มีเหตุผลของมันอยู่” ชนุตร์กล่าว

พวกของจิรภัทรที่อยู่ตรงข้ามก็ยิ้มมองหน้ากัน ชนุตร์คนนี้ สามารถโฆษณาสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุของพวกเขาเองได้ตลอดเวลาจริงๆ

พวกแขกผู้มีเกียรติในงานก็พยักหน้าไปตามๆ กัน และมีคนมากมายแสดงทีท่าจะจ่ายเงินจำนวนมาก เพื่อซื้อยาที่ทำออกมาจากการแข่งขันครั้งนี้ด้วย

“ชนุตร์ รอบนี้ ผมคิดว่าฝั่งพวกเราจะชนะแล้วนะ”

จิรภัทรลุกขึ้นออกมา แล้วพูดกับชนุตร์

ชนุตร์มีสายตาเจ้าเล่ห์ ถึงแม้จะไม่ยอม แต่ความจริงมันก็อยู่ตรงหน้า

“ใช่ รอบที่สองนี้ แม่สาวน้อยคนนี้ชนะ”

ชนุตร์พูดเสียงขรึม

หลายปีมาแล้ว นี่เป็นครั้งแรกในสำนักเทพยาเซียนที่ชนุตร์ยอมรับว่าตนเองแพ้

พอเห็นชนุตร์สีหน้าดูไม่จืด พวกลูกศิษย์ของจิรภัทรในสำนักเทพยาเซียน ก็ดีใจกระโดดโลดเต้นกันขึ้นมา

และคนที่ทำให้ทุกอย่างมันออกมาดีแบบนี้ ก็คือ จิลลา

“จิลลา วันนี้อาจารย์ขอประกาศ ว่าเธอนั้น จบหลักสูตรแล้ว!”

ปยุตยิ้มพูด สายตาก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

“อาจารย์คะ…….”

จิลลาน้ำตาคลอเบ้า เนื่องจากเพิ่งกลั่นยาชั้นเลิศเสร็จ สูญเสียสมาธิไปมาก ตอนนี้ก็เลยอ่อนเพลียมาก

“จิลลา เธอทำให้สำนักเทพยาเซียนของพวกเราได้มีความหวังที่จะกำชัยชนะอีกครั้ง ผมที่เป็นเจ้าสำนัก ขอขอบใจเธอมาก” จิรภัทรก็เข้าไปพูดด้วย

จิลลาก็ค่อนข้างเกรงใจ สำหรับเธอแล้ว จิรภัทรเป็นผู้ใหญ่ที่โอบอ้อมอารีมาก ตอนนี้มาพูดแบบนี้ ทำให้เธอไม่รู้จะตอบกลับไปอย่างไร

“เจ้าสำนัก อย่าพูดแบบนี้เลยค่ะ ขอเพียงท่านยอมให้อภัยในสิ่งที่ก่อนหน้านี้หนูเคยกระทำผิดไปก็พอแล้วค่ะ” จิลลาพูดอย่างหน้าแดง

“ฮ่าๆ เด็กวัยรุ่นนี่นะ ก็ต้องผ่านการไม่รู้มาก่อน แล้วค่อยเรียนรู้กันไปทั้งนั้นแหละ ใช่ไหมล่ะ?”

จิรภัทรพูดอย่างไม่คิดเล็กคิดน้อย

“จิลลา”

เสียงที่อบอุ่นดังเข้ามา จิลลาหันหลังไปมอง

“พี่รพีพงษ์”

“ยินดีด้วยนะ ที่ครั้งนี้สามารถกลั่นยาเม็ดเฉียนสิงออกมาได้” รพีพงษ์อมยิ้มพูด

“พี่รพี ขอบคุณมากนะคะ ถ้าไม่ได้พี่ กลั่นยาเม็ดเฉียนสิงในครั้งนี้ ก็คงจะล้มเหลวแน่ๆ” จิลลาพูดเบาๆ

“ใช่ที่ไหนกันล่ะ ทั้งหมดล้วนเป็นความขยันของเธอต่างหาก ไม่เกี่ยวกับผมเลย”

รพีพงษ์ตบไหล่ของเธอ พอนึกถึงตอนที่พบกันเป็นครั้งแรก จิลลาซุกซนไม่ไว้หน้าใคร พอหลังจากผ่านไปหลายๆ เรื่อง ก็ทำให้สุขุมมากขึ้น กลายเป็นคนกล้าแบกรับภาระหน้าที่

“พี่รพีพงษ์ พี่วางใจเถอะ ถึงแม้ครั้งนี้จะเป็นแค่ยาชั้นเลิศคุณภาพต่ำ แต่ฉันเชื่อว่า สักวันหนึ่งจะสามารถทำยาคุณภาพสูงออกมาให้ได้!”

จิลลาพูดอย่างมั่นใจ

รพีพงษ์ก็พยักหน้า แล้วก็เปลี่ยนสายตาไปข้างหน้า เพื่อมามองใบหน้าที่นิ่งสุขุมของชนุตร์

เขาเดินเข้าไปข้างหน้า “รอบที่สาม ผมจะลงแข่งเอง!”

พวกแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายก็อึ้งกันไป โคบายาชิจุนอิจิก็ยิ่งอึ้งไปจนพูดอะไรไม่ออก!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท