พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1334 เชือดไก่ให้ลิงดู

บทที่ 1334 เชือดไก่ให้ลิงดู

ณพิชญ์ที่ได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ก็ทำตัวไม่ถูกทันที เพราะเขารู้สึกว่าชื่อเสียงคุณชายของเขาในฮัวตูกรุ๊ปนั้นโด่งดังไปทั่วประเทศจีนแล้วเหมือนกัน

“คำพูดของคุณเมื่อครู่นี้ ผมอยากให้คุณพูดซ้ำอีกครั้ง” รพีพงษ์พูด

ณพิชญ์ตอบอย่างเฉยเมย “ผมพูดว่า ประมุกรพีเป็นเจ้าสำนักของกลุ่มสิงโตของเรา แต่ที่ผ่านมาท่านไม่เคยอยู่ที่นี่เลย ท่านบอกว่างานยุ่ง งานยุ่งของท่านก็คืออยู่ที่บ้านกับภรรยาและลูกสินะครับ อีกอย่างผมคิดว่าคนทั้งประเทศจีนก็รู้ว่าท่านมีภรรยาที่สวยมาก จริงด้วยสิ ผมยังได้ยินมาว่าก่อนที่ท่านเจ้าสำนักจะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลลัดดาวัลย์ ท่านัยงเคยเป็นลูกเขยในบ้านภรรยามาก่อนไม่ใช่เหรอครับ ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือข่าวลือนะครับ ฮ่า ๆ”

เมื่อทุกคนที่ได้ยินเช่นนี้สีหน้าก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที

ณพิชญ์คนนี้จะเย่อหยิ่งเกินไปแล้ว รพีพงษ์เคยเป็นลูกเขยบ้านใคร แล้วมาพูดที่นี่ทำไม เขาตั้งใจจะเรื่องใช่ไหม?

“ณพิชญ์ พอได้แล้วยัง คุณช่างกล้ามาใส่ร้ายเจ้าสำนักเหรอ!”

ธัชธรรมพูดอย่างเย็นชา หลังจากที่ณพิชญ์เข้าสู่กลุ่มสิงโตก็แสดงท่าทีที่เย่อหยิ่งมาตลอด ไม่เคยให้เกียรติคนอย่างเขาเลยด้วยซ้ำ

“เจ้าสำนักครับ ผมผิดพลาดเองครับที่รับเขาเข้ามา ถ้าท่านไม่ว่าอะไร ผมขอไล่มันออกจากกลุ่มสิงโตเลยนะครับ!” ธัชธรรมพูดกับรพีพงษ์

“เหอะ ก็แค่กลุ่มสิงโตเล็กๆ ที่น่าเบื่อ ผมอยากไปจากที่นี่อย่างเต็มทนแล้ว แต่ก่อนที่จะไป ผมอยากถามประมุกรพีก่อนว่า สิ่งที่ผมพูดไปมันผิดตรงไหนครับ ถ้าผมพูดผิด คุณไม่ต้องไล่ผมไปหรอกนะ ผมจะไปเอง!” ณพิชญ์มองรพีพงษ์ด้วยสายตายั่วยุ

เพราะณพิชญ์สามารถฝึกฝนไปถึงแดนดั่งเทพขั้นกลางตั้งแต่อายุเท่านี้ก็ถือว่าเป็นพรสวรรค์ของเขาอย่างไม่ต้องสงสัยแล้ว

ดังนั้นณพิชญ์จึงคิดว่าเขาจะได้รับการยอมรับจากผู้คนในกลุ่มสิงโต และอย่างน้อยก็ควรได้รับตำแหน่งผู้อาวุโสในนี้

แต่ในขณะนี้ เขาได้แต่ยืนอยู่ด้านล่างเวที เฝ้ามองรพีพงษ์ที่อายุไล่เลี่ยกับเขานั่งอยู่ในที่นั่งของเจ้าสำนัก

ซึ่งความแตกต่างนี้เขารู้สึกรับไม่ได้มาตลอด ดังนั้นหลังจากที่รพีพงษ์พูดเมื่อครู่นี้ เขาจึงตั้งใจหักหน้ารพีพงษ์อย่างจงใจ

“ณพิชญ์! ไม่ต้องรอให้เจ้าสำนักลงมือจัดการแกหรอกนะ เดี๋ยวข้าจะส่งแกออกไปจากที่นี่เอง!” ธัชธรรมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เขาที่อยู่บนโลกนี้มาร้อยกว่าปีแล้ว ยังไม่เคยเจอคนประเภทไหนอีก?

ถ้าไม่นับรพีพงษ์แล้ว เขาสามารถยอมรับพรสวรรค์ของณพิชญ์ได้ แต่ถ้าเอาณพิชญ์ไปเทียบกับรพีพงษ์แล้ว มันช่างต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยจริงๆ

“ใจเย็นๆ ก่อนครับ ท่านธัชธรรม”

รพีพงษ์พูดขึ้น เขาได้ตัดสินใจแล้ว เพราะตำแหน่งเจ้าสำนักกลุ่มสิงโตนั้นเขาได้รับมากจากธัชธรรม ดังนั้นแน่นอนว่าต้องมีคนที่ไม่ชอบเขาอยู่บ้าง ฉะนั้นวันนี้เขาต้องแสดงให้เหล่ายอดฝีมือในนี้ได้เห็น ไม่อย่างนั้นเขาจะคุมที่นี่ได้ยากอย่างแน่นอน

เพราะท้ายที่สุดแล้วกลุ่มสิงโตก็คือสถานที่สำหรับการควบคุมทวีปโอชวิน ตามการคาดการณ์ของรพีพงษ์นั้น ไม่นานหลังจากนี้เขาจะต้องทำการต่อสู้กับทวีปโอชวินอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นคนของกลุ่มสิงโตก็จะมีส่วนร่วมในการต่อสู้ และมันก็เป็นหน้าที่ของที่นี่ด้วยเช่นกัน

ฉะนั้นถ้าคนที่นี่ยังไม่เชื่อฟังเขา แล้วพวกเขาจะเอาอะไรไปสู้กับทวีปโอชวินได้?

ซึ่งในวันนี้ เขาจะใช้กรณีของณพิชญ์มาเชือดไก่ให้ลิงดู!

รพีพงษ์ตัดสินใจแล้วค่อยๆ เดินลงจากที่นั่ง

สีหน้าของเขาดูนิ่งมาก ไม่มีความหวั่นไหวใดๆ ปรากฏให้เห็นเลย

เมื่อเห็นรพีพงษ์เดินเข้ามาหาเขา ณพิชญ์ในเวลานี้ก็เริ่มรู้สึกกลัวเล็กน้อย แต่เขาก็ยังพูดอย่างปากแข็งว่า “ทำไม ผมพูดผิดตรงไหนเหรอ? คุณไม่ได้ไปอยู่บ้านภรรยามาสามปีจริงเหรอ?”

รพีพงษ์เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าณพิชญ์ ในขณะนี้ สายตาของทุกคนก็ถูกดึงดูดมาที่เขา

เป็นลูกเขยที่เกาะภรรยากินมาสามปี สำหรับเรื่องนี้แล้วเป็นเรื่องน่าอายสำหรับผู้ชายทุกคน ที่มากไปกว่านั้นคือเขายังเป็นเจ้าสำนักแห่งนี้และยังเป็นหัวหน้าครอบครัวตระกูลลัดดาวัลย์อีกด้วย

ดังนั้นสามปีสั้นในฐานะลูกเขย จะต้องเป็นปมด้อยของเขาทั้งชีวิตอย่างแน่นอน

ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่ารพีพงษ์จะต้องสั่งสอนณพิชญ์ด้วยบทเรียนที่โหดร้ายอย่างแน่นอน แต่รพีพงษ์ในขณะนี้กลับพูดขึ้นว่า “ใช่ คุณพูดถูก!”

“เหอะ ผมบอกแล้วไง ในเมื่อผมพูดความจริง แล้วผมผิดตรงไหน ใช่ไหมครับท่านเจ้าสำนัก!”

ณพิชญ์ยิ้มพูด

ส่วนคนอื่นๆ ของกลุ่มสิงโตต่างก็พากันแปลกใจ ไม่คิดเลยว่าณพิชญ์ยั่วยุขนาดนี้แล้ว แต่รพีพงษ์กลับนิ่งเฉยและไม่ได้แสดงอาการโกรธใดๆ เลย

“แต่ว่า”

รพีพงษ์พูดต่อ “ผมไม่ได้คิดว่าการเป็นลูกเขยแล้วไปอยู่บ้านภรรยาจะน่าอายตรงไหนเลยนะ”

“ช่างมันเถอะครับ ฮ่า ๆ แต่ผมคิดว่านั่นมันผิดวัฒธรรมเลยนะครับ ผู้ชายทั่วไปใครเขาจะทำกันล่ะครับ ว่าไหม” ณพิชญ์ยิ้มพูดต่อ “สมกับเป็นประมุกรพีจริงๆ เลยนะครับ ที่เป็นคนโดดเด่นไม่เหมือนใคร เรื่องแบบนี้ยังคิดว่าไม่น่าอาย ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เลยครับ”

เป็นประโยคที่จงใจประชดกันอย่างเห็นได้ชัด ทุกคนในห้องต่างก็ถอนหายใจดังๆ ถ้าหากเปลี่ยนเป็นพวกเขาคงไม่ปล่อยณพิชญ์ไว้อย่างแน่นอน

แต่รพีพงษ์กลับไม่ได้ทำอะไรเลย “ผมยังมีบ้านภรรยาให้ไปอยู่ด้วย แล้วคุณล่ะ มีไหม?”

“ผมเหรอ?” ณพิชญ์เสียงแหบแห้งทันที เนื่องจากอายุของเขามากกว่ารพีพงษ์หลายปี แต่จวบจนวันนี้เขายังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลย

หลังจากที่เขามาถึงกลุ่มสิงโต เป้าหมายแรกของเขาก็คือหงส์ แต่หงส์กลับเย็นชาต่อเขามาตลอด

และหลังจากที่เห็นฝีมือของรพีพงษ์แล้ว ณพิชญ์ที่อยู่ในสายตาของหงส์ก็ธรรมดายิบย่อยไปเลย

“ไม่ว่าจะยังไง เรื่องนี้มันก็คือความจริงๆ และมันก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้!” ณพิชญ์พูด

รพีพงษ์ยิ้มจางๆ แล้วพูดต่อ “หรือว่า การเป็นลูกเขยที่ไปอยู่บ้านภรรยามันผิดกฎหมาย? ในเมื่อไม่ผิดกฎหมายแล้วทำไมจะไปอยู่ไม่ได้?”

สี่ตำลึงปาดพันชั่ง แม้จะเป็นบทสนทนาสั้นๆ แต่ทุกคนในกลุ่มสิงโตต่างก็ดูออกว่ารพีพงษ์นั้นเป็นคนใจกว้างแค่ไหน และณพิชญ์นั้นเป็นคนที่ใจแคบมากกว่าใคร

รพีพงษ์มองณพิชญ์ที่เริ่มแสดงสีหน้าตึงเครียดและพูดต่อ “เมื่อกี้คุณบอกว่าช่วงนี้ผมใช้เวลาส่วนใหญ่กับภรรยาและลูกผมใช่ไหม?”

“ผมพูดผิดเหรอ?” ณพิชญ์ถามย้อน

รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นอีกครั้ง “ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูดจริงๆ ผมสามารถอยู่กับครอบครัวได้ มันคงจะเป็นเรื่องดีต่อผมที่สุดอย่างหาไม่ได้อีก”

“แล้วคุณไปทำอะไรล่ะ?” ณพิชญ์ถามอย่างสงสัย

รพีพงษ์มองไปที่ณพิชญ์ และทุกคนในห้องก็ตั้งหน้าตั้งตารอคำตอบด้วยเช่นกัน

ซึ่งเป็นความจริง หลังจากที่รพีพงษ์ได้รับตำแหน่งเจ้าสำนัก เขาไม่เคยอยู่ที่กลุ่มสิงโตเลย ดังนั้นจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้ผู้คนสงสัยว่าเขาทำอะไรในช่วงที่เขาหายตัวไป

“อยากรู้ใช่ไหม?” รพีพงษ์ถาม

ณพิชญ์พยักหน้าตอบ

“แต่ คุณไม่มีโอกาสแล้วล่ะ”

รพีพงษ์หันไปพูดกับทุกคนในห้องอย่างเสียงดังว่า “ณพิชญ์ในฐานะสมาชิกของกลุ่มสิงโต เขาไม่ได้ปฏิบัติตามกฎของสำนัก จงใจใส่ร้ายเจ้าสำนัก หงส์! ตามกฎแล้วเราต้องทำยังไงกับเขา!”

หงส์ขมวดคิ้วและลุกขึ้นพูดว่า “ตามกฎแล้ว เขาควรถูกไล่ออกจากสำนักค่ะ”

“ตามนั้น”

รพีพงษ์หันกลับไปพูดกับณพิชญ์ “ตอนนี้คุณไม่ใช่สมาชิกกลุ่มสิงโตของเราแล้ว ดังนั้นเรื่องของผมคุณไม่มีสิทธิ์รับรู้!”

“คุณ!”

สีหน้าของณพิชญ์กลายเป็นความโกรธทันที

แต่เขารู้ดี แม้เขาจะมีฝีมือที่อยู่ในแดนดั่งเทพขั้นกลาง แต่แค่มังกร พยัคฆ์ หงส์ เต่า สี่คนนี้ก็สามารถจัดการเขาได้อย่างราบคาบแล้ว

ลูกผู้ชายย่อมไม่ก้มหัวให้ใคร

ณพิชญ์คิดในใจและพูดกับตัวเองว่า “ได้สิ ไปก็ไป ไหน ๆ อยู่ที่นี่มันก็น่าเบื่อเต็มทนแล้ว กลับไปอยู่ในเมืองใช้ชีวิตสะดวกสบายยังดีกว่าอยู่ที่นี่อีก!”

จากนั้นณพิชญ์หันหลังแล้วเตรียมเดินจากไป

“ช้าก่อน!”

ในขณะนี้รพีพงษ์ก็หยุดเขาไว้

ณพิชญ์หันกลับมาแล้วพูดกับรพีพงษ์ว่า “ประมุกรพี ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับผมอีก? ผมไม่ใช่สมาชิกของกลุ่มสิงโตแล้ว อันที่จริงผมไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งคุณก็ได้นะ!”

“คุณคิดว่าผมจะปล่อยคุณไปง่ายๆ แบบนี้เหรอ?” รพีพงษ์ถามกลับ

“ทำไม คุณต้องการอะไรอีก?” ณพิชญ์ถาม

ทุกคนมองไปที่รพีพงษ์และต่างก็คาดเดาในใจว่ารพีพงษ์กำลังคิดจะทำอะไรอยู่

“ถึงคุณจะไม่ใช่สมาชิกของกลุ่มสิงโตแล้ว แต่ผมเชื่อว่าคุณอยู่ที่นี่มาหลายเดือน คุณต้องรู้เรื่องวงในของกลุ่มสิงโตของเราไม่มากก็น้อย แล้วถ้าหากผมปล่อยคุณออกไปพร้อมกับความลับของเรา ไม่มีใครรับประกันได้ว่าคุณจะไม่บอกความลับของเราให้กับใครฟัง” รพีพงษ์พูด

จากนั้นค่อยๆ เดินเข้าไปหาณพิชญ์

“คุณ……คุณจะทำอะไร?” ณพิชญ์ในขณะนี้สามารถมองเห็นความโกรธจากสายตาของรพีพงษ์ได้

และทุกคนในห้องโถงก็สามารถสัมผัสถึกความเยือกเย็นจากตัวของรพีพงษ์

วันนี้เขาตั้งใจจะเชือดไก่ให้ลิงดู ดังนั้นจึงปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณออกมาอย่างไม่ลังเล ลมหายใจเย็นยะเยือกบนร่างกายของเขาทำให้ทุกคนตื่นตกใจ

ธัชธรรมที่อยู่บนเวทีก็ยิ่งตกใจไปใหญ่ กลิ่นอายแห่งการสังหารนี้ตัวเขาเองยังไม่สามารถทำได้ แต่ในตอนนี้กลับเกิดขึ้นบนตัวของรพีพงษ์แล้ว

ในกลุ่มสิงโตแห่งนี้เกรงว่าจะมีแค่ธีรพัฒน์คนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำเหมือนเขาได้

“คุณไม่ได้ยินที่ผมพูดไปใช่ไหม?”

รพีพงษ์ยืนอยู่ตรงหน้าและพูดด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ

แรงกดดันมหาศาลทำให้เสียงของณพิชญ์ถึงกับสั่นคลอน

เขาในตอนนี้ถึงตระหนักขึ้นได้ว่า การที่รพีพงษ์สามารถเป็นเจ้าสำนักของที่นี่ได้ ต้องเป็นเพราะความสามารถและความแข็งแกร่งของเขาที่อยู่เหนือกว่าคนอื่นเท่านั้น!

“ผม……ผมได้ยินแล้วครับ คุณ……คุณไม่ต้องกังวลนะครับ ผม……จะไม่เล่าเรื่องที่นี่ให้ใครฟังเลยครับ” ณพิชญ์ตอบ

จากนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นนัยน์ตาของรพีพงษ์ และเขาก็ส่ายหัวพูดต่อ

“อันที่จริงผมเชื่อคำพูดของคุณตายมากกว่าคนเป็นนะ เพราะคนตายไม่สามารถโกหกเหมือนคนเป็นได้”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท