พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1452 ไม่ปฏิบัติตามกฎ

บทที่ 1452 ไม่ปฏิบัติตามกฎ

การพูดคุยระหว่างคนฉลาดเป็นเรื่องสนุกจริง ๆ ธฤตญาณพยักหน้า หยิบขวดเบียร์ขึ้นมาแล้วเคาะลงบนโต๊ะ จากนั้นฝาขวดก็เปิดออกทันที

เตรียมจะเทเหล้าเข้าปาก แต่ถูกรพีพงษ์หยุดไว้เสียก่อน

“คุณกับผมไม่จำเป็นต้องเกรงใจกัน” รพีพงษ์ยิ้มและกล่าว “พวกเราเป็นพี่น้องกัน ถ้าคุณอยากดื่มเหล้าจริง ๆ ผมจะดื่มเป็นเพื่อนคุณ!”

ขณะพูด รพีพงษ์หยิบขวดเหล้าขึ้นมา แล้วถือขวดเหล้าด้วยมือข้างหนึ่ง และปล่อยพลังจิตออกไปอย่างลับ ๆ ทำให้ฝาขวดถูกเปิดออกโดยไม่ขยับร่างกาย

ไตรทศที่นั่งอยู่ด้านข้างเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “นี่ นี่มันสุดยอดมาก พี่ใหญ่ คุณทำได้อย่างไร?”

ธฤตญาณก็สนใจเช่นกัน เห็นได้ชัดเจนว่ารพีพงษ์ไม่ได้ลงมือเปิดฝา แต่ฝาขวดเบียร์ที่รัดแน่นนี้เปิดเองได้อย่างไร?

“มันเป็นแค่ทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ต้องสนใจมาก มาดื่มกันเถอะ”

เมื่อเห็นว่ารพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไร ธฤตญาณและไตรทศก็ไม่ถามอะไรต่อ

อย่างไรก็ตามตอนอยู่ที่เมืองริเวอร์ ธฤตญาณรู้ว่ารพีพงษ์ไม่เพียงแค่มีตัวตนภูมิหลังที่ลึกลับเท่านั้น แต่ทักษะฝีมือของเขานั้นตนเองยังใครเทียบไม่ได้

ตอนนี้ดูเหมือนว่า ในตัวรพีพงษ์จะมีสิ่งลึกลับมากขึ้นไปอีก และสิ่งเหล่านี้ ชั่วชีวิตของตนเองอาจไม่สามารถเข้าถึงได้!

ขณะที่ทั้งสามคนกำลังดื่มกิน มีชายฉกรรจ์หลายคนเดินเข้ามาที่ประตูทีละคน คนที่เป็นหัวหน้าเป็นคนหัวโล้นมันเงา

“มาเถอะ พี่น้อง อาหารมื้อก่อนพวกคุณเป็นคนเลี้ยง อาหารมื้อนี้ผมจะเป็นคนเลี้ยงเอง ใครก็อย่ามาแย่งจ่าย!”

จากนั้นชายหัวโล้นก็ตะโกนบอกเจ้าของร้านว่า “บาร์บีคิวเนื้อหนึ่งร้อยไม้ ไข่แกะสิบฟอง(ลูกอัณฑะของแกะ) ไตสิบชิ้น!”

“เฮียยิ่งคุณ สั่งอาหารเสริมพละกำลังมาเยอะขนาดนี้ ดูเหมือนว่าหลังจากกินเสร็จแล้วจะมีกิจกรรมต่อ” ผู้ชายที่มีตาเล็กกว่าธมกรกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ชายหัวโล้นยิ้มเล็กน้อย “ไอ้หนู คุณฉลาดที่สุด หลังจากทานบาร์บีคิวเสร็จแล้ว พี่จะพาพวกคุณไปสถานที่ที่ทำให้ทุกคนผ่อนคลาย”

หลังจากนั้น คนเหล่านี้ก็หาที่นั่งแล้วนั่งลง

รพีพงษ์ยิ้ม เมื่อเห็นคนเหล่านี้มีท่าทางที่หยิ่งผยอง

โง่เง่า!

นี่คือคำที่ปรากฏอยู่ในสมองของทั้งสามคนในเวลาเดียวกัน

ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ได้ดื่มมาก่อนแล้ว และมาดื่มต่อที่ร้านนี้

“เฮ้ พวกคุณได้ยินไหมว่า รพีพงษ์กลับมาแล้ว” ชายคนที่ตาเล็กกล่าว

ชายหัวโล้นหรี่ตาลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ ดูเหมือนว่าเขาเมาเหล้าแล้ว และเขากล่าวว่า “รพีพงษ์อะไร รพีพงษ์คนไหน?”

“ก็รพีพงษ์ ประมุขตระกูลลัดดาวัลย์ในเกียวโต เฮียยิ่งคุณ หรือว่าคุณจะไม่รู้จักเขา” ชายคนที่ตาเล็กกล่าว

“แม่ง ผมคิดว่าเป็นใคร ที่แท้ก็คือไอ้หมอนั้นเอง ไม่รู้ว่าทำไมไอ้หมอนั้นถึงได้โชคดีได้เป็นประมุขตระกูลลัดดาวัลย์” ชายหัวโล้นกล่าวเสียงดัง

“พูดเบา ๆ หน่อย คุณไม่รู้หรือว่า ตอนนี้ประมุขรพีของตระกูลลัดดาวัลย์เป็นไอดอลของหนุ่ม ๆ ชาวจีน และเป็นชายในฝันของสาว ๆ แม้กระทั่งแฟนของผมที่เพิ่งคบหากัน วันนี้เธอรู้ข่าวว่าคุณชายรพีกลับมา เธอก็ไปรออยู่ที่ประตูบ้านตระกูลลัดดาวัลย์ หลังจากกลับมาเธอก็บอกกับผมว่า คุณชายรพีของตระกูลลัดดาวัลย์โบกมือให้เธอด้วย มันทำให้ผมรู้สึกโกรธมาก” ชายตาเล็กกล่าวพลางดื่มเบียร์

“ประมุขรพี ดูเหมือนว่าในประเทศจีนคุณจะมีเสน่ห์ไม่น้อยเลย ตอนนี้มันส่งผลต่อความรู้สึกของคู่รักหนุ่มสาวแล้ว” ธฤตญาณกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เคร่งขรึม

รพีพงษ์กางมือออก “นี่มันไม่ใช่ความผิดของผม”

ขณะที่พูด รพีพงษ์หยิบผ้าเช็ดปากขึ้นมาเช็ดปาก

“ไปเถอะ พวกเราควรจะกลับแล้ว”

พวกรพีพงษ์สามคนลุกขึ้นและเดินไปที่ประตู

ระหว่างทางไปประตู พวกเขาบังเอิญผ่านโต๊ะของชายหัวโล้น

หลังจากได้ยินสิ่งที่ชายตาเล็กกล่าว ชายหัวโล้นที่เมาก็ลุกขึ้นยืนและกล่าวเสียงดังว่า “แม่งฉิบหาย ไอ้เหี้ยรพีพงษ์ จากลูกเขยแต่งเข้าไร้ประโยชน์ของเมืองริเวอร์ สามารถกลายเป็นประมุขของตระกูลลัดดาวัลย์ได้ ผมยิ่งคุณก็สามารถสร้างเขตอิทธิพลของตนเองในเกียวโตได้เช่นกัน!”

เมื่อพูดจบ เขาหยิบขวดเบียร์ขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจ แล้วเทเบียร์เข้าปากทันที

เนื่องจากแรงกระตุ้น ทำให้เกิดฟองมากมายหลังจากที่เทเบียร์เข้าปาก

เห็นได้ชัดว่าชายหัวโล้นคอไม่แข็งเหมือนที่โม้ เขาไม่สามารถกลั้นไว้ได้ ทำให้เบียร์ในปากทั้งหมดพ่นออกมา

“อาหารชูกำลัง” ที่เพิ่งวางบนโต๊ะทั้งหมดเต็มไปด้วยน้ำลายของชายหัวโล้น

ไม่เพียงเท่านั้น เบียร์ที่พ่นออกมาจากปากยังกระเด็นไปโดนพวกรพีพงษ์ที่เพิ่งผ่านไปด้วย

ไตรทศขมวดคิ้ว และเดินไปข้างหน้าเพื่อจะหาเรื่องพวกเขา

แต่รพีพงษ์ก้าวไปข้างหน้า และขวางเขาไว้ทันที

“เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น อีกสักครู่โยนเสื้อคลุมนี้ทิ้งไป แล้วเปลี่ยนเป็นตัวใหม่ก็สิ้นเรื่อง ไม่ต้องไปถือสาพวกเขา”

รพีพงษ์กล่าวเบา ๆ หมัดที่กำแน่นของไตรทศก็ค่อย ๆ คลายออก จากนั้นเขาก็จ้องไปที่ชายหัวโล้น แล้วก็เดินออกไปข้างนอก

ธฤตญาณนิ่งเหมือนรพีพงษ์ พวกเขาอยู่ในระดับนี้แล้ว พวกเขาจะไปถือสาชายหัวโล้นได้อย่างไร

ขณะที่รพีพงษ์รู้สึกว่าเรื่องดังกล่าวสงบลงแล้ว ทันใดนั้น ชายหัวโล้นที่อยู่ข้างหลังก็ตะโกนเสียงดัง “เฮ้ แม่งฉิบหาย จ้องกูแล้วก็เดินจากไป แกช่างผยองนัก!”

“ไม่ต้องไปสนใจ” รพีพงษ์กล่าวอย่างเย็นชา

ทั้งสามเปิดประตู และเดินออกไปจากร้าน

“พี่ใหญ่ คนแบบนี้พอเหล้าเข้าปาก ก็คิดว่าโลกใบนี้เป็นของตนเอง ทำไมคุณถึงไม่ให้บทเรียนเขาล่ะ” ไตรทศขมวดคิ้วและกล่าว

รพีพงษ์ยิ้มและกล่าวว่า “คุณอยู่กับธฤตญาณก็นานแล้ว ทำไมถึงนิสัยที่รุนแรงของคุณยังเปลี่ยนไม่ได้สักที ทำไมคุณถึงไปถือสาคนเหล่านี้อีก”

ไตรทศยักไหล่ “เมื่อเจอเรื่องที่ไม่เป็นธรรมก็ต้องจัดการ”

พูดจบ ทั้งสามก็เดินไปข้างหน้าพร้อมกัน

ไม่คิดเลยว่า ประตูกระจกที่อยู่ข้างหลังพวกเขาถูกผลักออก และชายหัวโล้นที่ชื่อยิ่งคุณก็รีบวิ่งออกมาพร้อมกับขวดเบียร์ในมือ

“แม่งฉิบหาย กูคุยกับมึงไม่ได้ยินเหรอ!”

ข้างหลังเขา มีพรรคพวกอยู่อีกหลายคน แต่ละคนถือขวดเบียร์อยู่ในมือเช่นกัน

“นี่คุณกำลังคุยกับพวกเราหรือ?”

ธฤตญาณกล่าวด้วยเสียงที่เคร่งขรึม และเขายืนขวางอยู่ข้างหน้าของรพีพงษ์

รพีพงษ์ยิ้ม ธฤตญาณเป็นคนที่ทำงานสุขุม เมื่อเขาทำสิ่งนี้ เขารู้โดยธรรมชาติว่าตอนนี้เขาไม่ใช่ไอ้หนูในเมืองริเวอร์อีกต่อไป แต่กลายเป็นคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของประเทศจีนแล้ว การรับมือกับพวกกระจอกเหล่านี้เป็นเรื่องง่าย ตนเองไม่จำเป็นต้องลงมือเอง

“ใช่! ผมถามคุณว่า เมื่อสักครู่ทำไมคุณถึงมองหน้าผม?” ชายหัวโล้นชี้ไปที่ธฤตญาณและคนอื่น ๆ ขณะที่ถือขวดเบียร์อยู่ในมือ

“แม่ง ถ้าคุณไม่มองหน้าผมแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าผมมองหน้าคุณ นอกจากนี้ คุณเพิ่งพ่นเหล้าจนทำให้เสื้อผ้าของผมเปื้อน ผมไม่ได้ให้คุณชดใช้ แล้วคุณยังมาเอะอะโวยวายอยู่ที่นี่อีก?” ไตรทศกล่าวเสียงดัง “ฉิบหาย อย่าคิดว่าคุณดื่มเหล้าไปไม่กี่ขวดก็คิดว่าตนเองเก่งแล้ว”

“แม่ง คุณว่าอะไรน่ะ!”

ชายหัวโล้นเดินไปข้างหน้าด้วยความโกรธ แล้วมายืนอยู่ข้างหน้าไตรทศและคนอื่น ๆ

ไตรทศและธฤตญาณยืนอยู่ข้างหน้าเขา ทั้งคู่ผ่านอุปสรรคมามากมาย จึงทำให้พวกเขาไม่รู้สึกกลัว!

“ผมจะบอกพวกคุณ รพีพงษ์สามารถประสบความสำเร็จในเกียวโตได้ และผมยิ่งคุณก็ทำได้เช่นกัน วันนี้ผมจะจัดการคุณก่อน!” ชายหัวโล้นกล่าวอย่างโกรธเคือง

“คุณคิดว่าตัวเองเป็นตัวอะไร แค่คนอย่างคุณสามารถเปรียบเทียบกับประมุขรพีได้อย่างไร?” ไตรทศกล่าวอย่างดูถูก

ไม่คิดเลยว่า รอยยิ้มที่ดูถูกนี้จะทำให้ชายหัวโล้นโกรธเป็นอย่างมาก “แม่งฉิบหาย เมื่อก่อนรพีพงษ์เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ คนแบบนี้คู่ควรเป็นประมุขของตระกูลลัดดาวัลย์หรือ? ผมจะบอกพวกคุณว่า เรื่องวันนี้ไม่จบง่าย ๆ พวกคุณจงคุกเข่าลงแล้วเลียพื้นรองเท้าของผมให้สะอาด แล้วเรียกผมว่าพี่ใหญ่ ผมอาจจะปล่อยพวกคุณไป มิเช่นนั้น…”

“มิเช่นนั้น แล้วจะทำไม?” ดวงตาของไตรทศมีแววสังหาร

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท