พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1543 บวรวิทย์เป็นตัวปัญหา

บทที่ 1543 บวรวิทย์เป็นตัวปัญหา

เป็นครั้งแรกที่บวรวิทย์รู้สึกว่าไร้เรี่ยวแรง เพราะผู้คนที่อยู่รอบตัวล้วนเข้าข้างรพีพงษ์

แต่ตนเองกับรพีพงษ์ดันเป็นศัตรูกัน ตั้งแต่เล็กจนโตตนเองไม่เคยได้รับความลำบากใจ รพีพงษ์มีสิทธิ์อะไรมารังแกตนเอง และก็คำนึงถึงแต่ประโยชน์ของเขาแล้วไม่สนคนอื่นจะเป็นยังไง?

ในโลกนี้ไม่มีเรื่องดีเช่นนี้หรอก เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ มองไปยังงานเลี้ยงที่อยู่ไม่ไกล อยากจะเดินออกไป แต่นึกถึงคำพูดของเทวเทพ ที่ไม่ให้ตนเองออกไปสร้างปัญหา

ถ้าออกไปข้างนอกตอนนี้ ทำให้เทวเทพโกรธ มันก็จะเป็นการทำให้เทวเทพให้ความสำคัญกับรพีพงษ์มากขึ้นเท่านั้น

รพีพงษ์รู้สึกว่ามีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองตนเองจากข้างหลัง และเทวเทพก็มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก

เมื่อได้ยินนราธิปกล่าวแนะนำตัวรพีพงษ์เช่นนั้น เขาไม่รู้ข้อเท็จจริง แต่แค่เขารู้สึกว่าสำหรับในใจของนราธิปแล้วบวรวิทย์ได้ลดระดับลงไปอีกระดับ

ในเมื่อนราธิปให้ความสำคัญกับรพีพงษ์มากเช่นนี้ งั้นก็รั้งรพีพงษ์ให้อยู่ที่นี่ เช่นนั้นนราธิปก็จะได้พูดเรื่องที่จะไปจากที่นี่

เมื่อไม่กี่วันก่อนนราธิปบอกเทวเทพว่าจะไปจากที่นี่ ขอแค่รพีพงษ์พักอาศัยอยู่ในบ้านของตระกูลภูสรีดาว นราธิปก็จะไม่บอกว่าจะไปจากที่นี่อีกแน่นอน

เขาสามารถยอมรับคำอธิบายของนราธิปเกี่ยวกับสถานะตัวตนของรพีพงษ์เมื่อสักครู่ได้ เพราะตอนนั้นตนเองยังไม่ได้คิดสถานะตัวตนที่ดีอะไรให้รพีพงษ์ได้ แต่กระบี่สยบเซียนที่รพีพงษ์มอบให้เล่มนี้ไม่เลว ตนเองจะไม่พูดเรื่องกระบี่ออกไป เพราะมันจะทำให้คนรอบข้างเกิดการคาดเดา

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเซียน ก็มีความโลภอยู่ภายในใจ

รพีพงษ์ไม่ได้ตั้งใจที่จะอยู่ในตระกูลภูสรีดาวนาน ตามคำโบราณว่าไว้เสือสองตัวนั้นไม่สามารถอยู่ถ้ำเดียวกันได้ หากเกิดขัดแย้งกับบวรวิทย์ในตระกูลภูสรีดาว ยังไงพวกเขาก็เป็นพ่อลูกกัน พวกเขาเข้าข้างกันอยู่แล้ว

หลังจากงานเลี้ยง เขาก็พาปัณฑาเดินออกไปจากที่นี่ ปัณฑามองรพีพงษ์ และกล่าวอย่างจำใจว่า “มอบของล้ำค่าให้คนอื่นไปฟรี ๆ ไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร”

“คุณไม่เห็นหรือว่าทัศนคติของเจ้าบ้านแห่งตระกูลภูสรีดาวที่มีต่อผมเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นฉากหน้าหรือลึก ๆในใจ ก็ไม่เป็นภัยคุกคามต่อผมในตอนนี้”

“จุดประสงค์ของคุณคือทำให้เขาไม่เป็นภัยคุกคามคุณเหรอ?”

“นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป บวรวิทย์เห็นผมเป็นศัตรู ตอนนี้ผมสามารถเป็นที่โปรดปรานของเจ้าบ้านแห่งตระกูลภูสรีดาวได้ อย่างน้อยพ่อกับลูกจะไม่ร่วมมือกันจัดการกับผม”

นี่เป็นเพียงเหตุผลหนึ่งเท่านั้น ต่อไปถ้าบวรวิทย์จะลงมือ ก็จะมีเทวเทพคอยขัดขวางอยู่

เทวเทพนั้นไม่ใช่คนดีอะไร รพีพงษ์สามารถบอกได้หลังจากการพบปะเป็นเวลาสั้นๆ แต่ตนเองเพิ่งจะมอบของล้ำค่าให้ ทำให้เขาลงมือไม่สะดวก แต่ถ้าเขาลงมือจริง จะกลายเป็นว่าเจ้าบ้านแห่งตระกูลภูสรีดาวเป็นคนใจคอคับแคบ

ซึ่งเทวเทพจะไม่ทำข้อผิดพลาดโง่เขลาเช่นนี้แน่นอน

ทันทีที่เขาเดินออกจากประตูของตระกูลภูสรีดาว เทวเทพก็ไล่ตามหลังและกล่าวว่า “คุณมีพรสวรรค์ที่หายาก อายุยังน้อยก็สามารถอยู่ในระดับแดนบุณแล้ว มีพรสวรรค์เหมือนกับลูกชายของผม แต่ลูกชายของผมสู้คนไม่ได้ และเนื่องจากเขามีอาจารย์ธิปคอยอบรมสั่งสอน หากคุณมีอาจารย์อบรมสั่งสอนเฉพาะเจาะจง ความสามารถจะแตกฉานมากกว่านี้แน่นอน ทำไมไม่อยู่และฝึกฝนร่วมกันล่ะ?”

การตอบกลับของรพีพงษ์นั้นสมเหตุสมผล “ผมรู้ว่าคุณมีเจตนาที่ดี แต่คุณชายไม่อยากให้ผมพักอยู่ในตระกูลภูสรีดาว ถ้าผมดื้อรั้นอยู่ต่อช่องว่างระหว่างพวกคุณพ่อลูกจะยิ่งห่าง มันจะไม่เป็นผลดีต่อใคร ผมไปถึงจะดี”

คำพูดที่เขากล่าวกับเทวเทพนั้นไม่มีจุดอ่อนอะไร แล้วเทวเทพก็ถามต่อไปว่า “ตอนนี้พวกคุณพักอาศัยอยู่ที่ไหน?”

เมืองแฟรี่ที่ใหญ่เช่นนี้ จะไม่มีที่พักอาศัยเชียวหรือ?

แต่รพีพงษ์ไม่มีเงิน ดังนั้นมันไม่ง่ายที่จะหาที่พักอาศัย

“ตอนนี้ยังไม่มีที่พักอาศัยประจำ แต่ผมจะหาที่พักอาศัยประจำได้ในไม่ช้า”

เมืองแฟรี่เป็นจุดแรกจากโลกสู่เทวโลก รพีพงษ์จะอยู่ที่นี่ไม่นาน เขาจะต้องหาที่อยู่ของนรเทพให้เจอ

เขาไม่มีเวลามากนัก และสถานการณ์ของหนูลินก็แย่ลงทุกวัน ยิ่งนานไป จนสุดท้ายอาจจะไม่มีวิธี

เมื่อนึกถึงความทรมานที่หนูลินได้รับ เขาก็โทษตนเอง เขาคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับหนูลินเกี่ยวข้องกับคนที่เป็นพ่ออย่างตนเองแน่นอน

หากตนเองไม่อยู่ในตำแหน่งนี้ และสามารถใช้ชีวิตธรรมดาอยู่ที่บ้านกับอารียา คอยดูแลลูกและภรรยา นั่นเป็นสิ่งที่สวยงามในชีวิต

สำหรับคนธรรมดาทั่วไป นี่เป็นเป้าหมายที่บรรลุได้ง่าย แต่สำหรับรพีพงษ์แล้วสิ่งเหล่านี้อยากที่จะแสวงหาได้

เขาถอนหายใจ ปฏิเสธเจ้าบ้านตระกูลภูสรีดาว และจากไปพร้อมกับปัณฑา

เจ้าบ้านตระกูลภูสรีดาวรู้สึกว่าของขวัญที่รพีพงษ์มอบให้นั้นมีค่ามาก ดังนั้นเขาจึงเรียกรพีพงษ์ไว้ และมอบเงินให้หนึ่งหมื่น รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไร แต่คิดอยู่ในใจว่าหากตนเองรับเงินนี้ไว้ก็จะรู้สึกผิดต่อเขา

เพราะกระบี่สยบเซียนยังคงเป็นของตนเอง แต่ตนเองได้กล่าวกับเทวเทพไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่เทวเทพกล่าวอย่างมั่นใจว่าสามารถทำให้กระบี่เล่มนั้นสยบได้ ถ้าตอนสุดท้าย กระบี่สยบเซียนไม่ยอมสยบให้เทวเทพ เทวเทพก็ไม่สามารถตำหนิตนเองได้

ปัณฑานั่งอยู่บนไหล่ของรพีพงษ์นั้นดูเหมือนเป็นลูกของรพีพงษ์ แล้วบ่นว่า “เงินหนึ่งหมื่นจะทำอะไรได้ นอกจากนี้ กระบี่เล่มนั้นมีค่าเป็นเงินแค่นี้เองหรือ?”

“ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ให้สักแดงเดียว พวกเราก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะพวกเรามอบให้พวกเขาเอง มีอะไรบ้างที่จะสามารถทำให้คุณหยุดพูดได้ ผมรู้สึกว่าคุณยิ่งอยู่ยิ่งปากเสียขึ้นเรื่อย ๆ”

ขณะที่รพีพงษ์กำลังพูด ปัณฑามองเขาด้วยความเสียใจ

ปัณฑาเสียดายกระบี่เล่มนั้น แล้วรพีพงษ์ก็เก็บเงินหนึ่งหมื่นไว้ในแหวนเก็บของ แล้วตรงไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งทันที

มาที่นี่หลายวันแล้ว ที่นี่ก็ไม่แตกต่างไปจากโลกมนุษย์มาก ที่นี่เต็มไปด้วยพลังทิพย์ซึ่งโลกมนุษย์เทียบไม่ได้ คู่ต่อสู้มีความแข็งแกร่งมาก ต่างจากโลกมนุษย์ที่เขายืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกแล้ว

เมื่อพวกเขามาถึงโรงแรมแห่งหนึ่ง รพีพงษ์และปัณฑาได้เปิดห้องเพื่อพักผ่อน โดยใช้เงินไปสามร้อย ยังไม่ทันได้นอนพัก ก็ได้ยินเสียงต่อสู้อยู่ข้างนอก

ปัณฑาวิ่งไปที่หน้าต่าง เปิดม่านแล้วมอง และกล่าวว่า “ไม่คิดว่าที่นี่จะไม่สงบสุขขนาดนี้”

“ขอแค่ที่ไหนมีคนอยู่ ก็มีความขัดแย้ง ข้างนอกเกิดอะไรขึ้น?”

“เป็นผู้ชายอ้วนที่พวกเราเคยเห็นที่งานเลี้ยง”

ปัณฑารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เมื่อรพีพงษ์ได้ยินประโยคนี้ก็เกิดความสนใจเช่นกัน เขามีลางสังหรณ์ว่า เรื่องนี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับตนเองแน่นอน เพราะเขารู้ว่าผู้ชายอ้วนคนนี้เป็นคนของตระกูลภูสรีดาว และคอยปกป้องบวรวิทย์อยู่

“ปัณฑาพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้พวกเราจะออกเดินทางไปตามหานรเทพ นรเทพเป็นคนใหญ่คนโต เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะอยู่ในสถานที่เล็ก ๆ เช่นนี้”

เมืองแฟรี่ไม่ใช่เมืองใหญ่ แค่มองแวบเดียวก็สามารถมองออกถึงระดับการบริโภคและอาคารของที่นี่ได้

“แต่พวกเราไม่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ มันไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่คิด?”

“แต่พวกเราก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอด ผมไม่ลืมจุดประสงค์ของการมาที่นี่”

รพีพงษ์นอนอยู่บนเตียง แค่เขาหลับตา ก็จะรับรู้ถึงความเจ็บปวดทรมานของหนูลิน นรเทพจะต้องกำลังดูดวิญญาณของเธอ ทำให้เขาไม่สามารถอยู่นิ่งได้

เงากระบี่ทะลุผ่านประตู รพีพงษ์ขมวดคิ้ว แล้วมองออกไปข้างนอก

มีรอยยิ้มเยาะเย้ย เขารู้ว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับตนเองแน่นอน เหตุการณ์เมื่อสักครู่ชายอ้วนเป็นคนสร้างขึ้นมา และบวรวิทย์จะไม่ปล่อยตนเองไปง่าย ๆ แน่นอน

“น้องชาย ทำไมคุณถึงมาพักอยู่ที่นี่?”

ชายอ้วนแสร้งทำเป็นประหลาดใจ และมองรพีพงษ์เหมือนกับตนเองไม่รู้อะไร

“ผู้อาวุโสเจอปัญหาอะไรหรือ?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท