พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1574 สงครามทั้งภายในและภายนอก

บทที่ 1574 สงครามทั้งภายในและภายนอก

รพีพงษ์พยักหน้าแสดงว่าเห็นด้วย ตอนนี้ปริตรเป็นแม่ทัพ และพวกเขาเป็นทหารภายใต้แม่ทัพคนนี้ ขอแค่ปฏิบัติตามที่วางแผนไว้ก็จะได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

ตอนแรกตนเองไม่ค่อยเชื่อมากนัก แต่เมื่อเห็นเขาใช้ไหวพริบจนสามารถกักขังนรเทพได้ จึงทำให้เขาเชื่อ

และหลังจากการสู้รบคราวนี้ผ่านไปแล้ว ตนเองยังมีเรื่องที่จะรบกวนเขา

บวรวิทย์รู้สึกแปลก ๆ เขาเคยชินกับการเป็นผู้นำ แต่ตอนนี้เขาต้องเชื่อฟังการวางแผนของปริตร ทำให้เขารู้สึกคับข้องใจอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้

นี่เป็นนิสัยที่ถูกปลุกฝันมาตั้งแต่เด็ก และไม่มีใครสามารถแก้ได้

ธาตุทอง ธาตุไม้ ธาตุน้ำ ธาตุไฟและธาตุดิน ล้วนมีตำแหน่งที่แน่นอน ตำแหน่งของนรเทพอยู่ที่ศูนย์กลาง ตอนนี้นรเทพสามารถรับรู้ถึงลมหายใจของรพีพงษ์แล้ว

ตอนนี้เงียบสงบ ตราบใดที่เขาไม่เคลื่อนไหว ค่ายกลเหล่านั้นก็จะไม่สามารถโจมตีเขาได้

เขาหยิบขวดเล็ก ๆ ออกมา เขาได้วิญญาณลูกสาวของรพีพงษ์ ตอนที่เขาอยู่บนโลกและกำลังจะกลับเทวโลก

รพีพงษ์ไล่ตามตนเองมาถึงที่นี่ แล้วก็ฆ่ามังกรดำของตนเอง ถึงแม้ว่าตนเองจะตาย ก็จะไม่ยอมให้รพีพงษ์สมปรารถนา ตนเองจะต้องฆ่าลูกสาวของเขาเพื่อระบายความแค้น

การแก้แค้นคนคนหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องฆ่าเขา แต่การทำให้เขาเสียใจ และมีชีวิตอยู่โดยรู้สึกผิดต่อครอบครัว นี่ถึงจะเป็นการแก้แค้นที่ดีที่สุด

ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา แล้วก็ท่องคาถาเพื่อทำให้รพีพงษ์สามารถเห็นวิญญาณในขวดได้

รพีพงษ์อยู่ในตำแหน่งธาตุน้ำ และบวรวิทย์อยู่ในตำแหน่งธาตุไฟ ประจวบเหมาะตรงตำแหน่งของรพีพงษ์สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

วิญญาณในขวดหายใจรวยรินกำลังจะตาย รพีพงษ์สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

“เจ้าหนู คุณมาที่นี่เพื่อสิ่งนี้มิใช่หรือ? ถ้าคุณเชื่อฟังผม ผมจะปล่อยเธอไป และให้คุณพาเธอกลับไป นับจากนี้เป็นต้นไปความแค้นระหว่างเราสองคนถือว่าจบสิ้นไป คุณว่าดีไหม?”

รพีพงษ์รู้สึกจำใจ ผู้ชายคนนี้คิดว่าตนเองเป็นเด็กอายุสามขวบหรือ? คิดว่าตนเองจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูดหรือ?

แม้แต่คนโง่เขลาก็ยังรู้นิสัยของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะออกไปจากที่นี่ได้ ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ยอมปล่อยวิญญาณของหนูลิน แต่เขาจะฆ่าตนเองอีกด้วย

ปริตรมองไปที่ขวดด้วยความสงสัย แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้รพีพงษ์ได้รับผลกระทบแล้ว

“รพีพงษ์ ตอนนี้ไม่ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร คุณต้องปฏิบัติราวกับว่าคุณไม่ได้ยินอะไร ถ้าจิตใจของคุณฟุ้งซ่าน จะทำให้คุณต้องตายอยู่ที่นี่เท่านั้น ผมก็ไม่สามารถช่วยคุณได้”

นรเทพไม่ได้ยินเสียงของปริตร แต่รพีพงษ์ได้ยินและส่ายศีรษะด้วยความยากลำบาก

จุดประสงค์ของนรเทพคือต้องการทำให้จิตใจของตนเองวุ่นวาย ถ้าหากตนเองหลงกลจริง ๆ ผลการฝึกตนหลายปีของตนเองก็จะถูกทำลาย

รพีพงษ์ยิ้มอย่างเย็นชา มองไปที่นรเทพแล้วกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณจะฆ่าลูกสาวของผม ผมก็จะไม่ปล่อยคุณไปเด็ดขาด คนอย่างคุณมีชีวิตอยู่เพื่อสร้างความหายนะให้กับโลกเท่านั้น”

นรเทพมองอย่างโกรธแค้นไปตามทิศทางของเสียง แต่เขาไม่สามารถมองเห็นคนได้

จากนั้นก็เล่นขวดที่อยู่ในมืออย่างสบายใจ และบอกว่ารพีพงษ์ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นพ่อ

รพีพงษ์และบวรวิทย์ใช้กระบี่พุ่งไปที่นรเทพพร้อมกัน

ตอนนี้ในสายตาของนรเทพเห็นเงาของรพีพงษ์และบวรวิทย์มากมาย ทำให้เขาไม่รู้ว่าใครคือตัวจริงกันแน่

นราธิปกล่าวไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ร่างลวงตาจะไม่ได้รับอันตรายใด ๆ หากไม่สามารถหาร่างกายที่แท้จริงของพวกเขาได้ ไม่ว่าเขาจะใช้ความพยายามและใช้พลังมากแค่ไหนมันก็ไร้ประโยชน์

ตอนเข้ามาครั้งแรก ถ้ำนี้ถือว่าสมบูรณ์มาก แต่นรเทพไม่พบเป้าหมายจึงโจมตีทุกทิศทาง ทำให้ผนังถ้ำกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ

พลังงานก็ถูกใช้ไปมากเช่นกัน และตอนนี้เขาไม่มีพลังงานมากพอที่จะรับมืออีกแล้ว

กระบี่ของรพีพงษ์และบวรวิทย์าฟันไปที่ร่างของนรเทพอย่างต่อเนื่อง แต่นรเทพก็สามารถหลบเลี่ยงได้ ไม่เคยคิดฝันว่าตนเองจะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้

“นราธิป คุณกับผมอยู่ร่วมโลกเดียวกันไม่ได้อีกแล้ว”

ร่างกายของเขาไม่สามารถทนต่อการโจมตีได้นานอีกแล้ว เขาจึงเอาความแค้นทั้งหมดไปไว้ที่ตัวนราธิป

นราธิปไม่แยแสต่อการกล่าวหาของเขา รพีพงษ์ยิ้มเยาะเย้ยว่า “ตอนที่คุณทำความชั่ว ไม่ใช่ว่าอาจารย์ธิปบังคับให้คุณทำ คนเราต้องชดใช้ในสิ่งที่ตนเองทำ”

สายตาของรพีพงษ์จ้องมองขวดที่อยู่ในมือของนรเทพ เขารู้ว่าวิญญาณของหนูลินอยู่ในนั้น

ต้องไม่ทำร้ายหนูลิน นรเทพนั้นไม่สามารถฆ่าหนูลินได้ มิฉะนั้นสถานการณ์จะไม่เป็นเช่นนี้

บวรวิทย์รับรู้ได้ถึงความผิดปกติของรพีพงษ์ ถามด้วยความเป็นห่วงว่า “เป็นอย่างไรบ้าง ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“ไม่เป็นไร วิญญาณของลูกสาวผมอยู่ในกำมือของมัน”

บวรวิทย์ขมวดคิ้ว และอดไม่ได้ที่จะกังวลแทนรพีพงษ์ “ถ้าอย่างนั้น คุณคิดว่าพวกเราควรทำอย่างไรดี?”

“ฆ่าไอ้หมอนั้นให้เร็วที่สุด”

ปริตรควบคุมอยู่ด้านข้าง ตราบใดที่พวกเขาอยู่ในค่ายกลที่ตนเองสร้างขึ้นมา สิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็จะเป็นหุ่นเชิดของตนเอง ไม่เว้นแม้แต่รพีพงษ์และบวรวิทย์

ตอนนี้พวกเขายังมีความรู้สึกอิสระเป็นตัวของตัวเอง แต่ถ้าปริตรทำกลอุบายเล็กน้อย ต้องการให้พวกเขาทำอะไร พวกเขาก็จะทำตามสิ่งที่ตนเองต้องการ

นรเทพมีวิญญาณหนูลินอยู่ในมือ เขารู้สึกมีความปลอดภัยที่จะต่อสู้กับรพีพงษ์และคนอื่น

ก่อนหน้านั้นไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในนั้น มีเพียงตนเองปรับอยู่ข้างใน แต่ตอนนี้มันต่างไปจากเดิม

ตราบใดที่ตนเองสามารถยืนหยัดได้ ตนเองก็ยังคงเป็นผู้ชนะ

ในเมืองแฟรี่ เมื่อนฤเบศร์รู้สถานการณ์ล่าสุดในภูเขาสองกระบี่ จึงรีบพาคนเดินทางมาที่ภูเขาสองกระบี่

ก่อนหน้านั้นผู้ชายห้าคนนั้นกลับมา และหนึ่งในห้านั้นได้รายงานถึงสถานการณ์ที่นี่ เขาจึงพาคนมาช่วยนรเทพที่ภูเขาสองกระบี่

เมื่อถึงภูเขาสองกระบี่ ไม่เห็นมีใครสักคน จึงเดินตรงไปที่ยอดเขา และเห็นบ้านสูงตระหง่าน

นั่นคือสถานที่ที่นราธิปพักอาศัยอยู่ เขาจึงเดินตรงเข้าไปทันที

มีคนเดินตามหลังนฤเบศร์หลายสิบคน ส่วนนราธิปมองดูสถานการณ์การต่อสู้ในกระจก และไม่สนใจสถานการณ์ภายนอก จากนั้นก็มีเด็กชายมารายงาน

เมื่อรู้ว่าคนของตระกูลพิมพ์สารมาแล้ว เทวเทพก็ขมวดคิ้วและกล่าวกับนราธิปว่า “ตอนนี้เขาเป็นคนของนรเทพแล้ว เกรงว่าคราวนี้เขาจะต้องมาร้ายแน่นอน”

ถูกต้อง เขามาร้ายแน่นอน นราธิปให้เทวเทพออกไปจัดการพวกเขา เพราะเขาไม่สามารถปล่อยให้ค่ายกลนี้ถูกทำลายได้

เทวเทพพานันท์ธร และปัณฑาออกไป และผลินก็อดไม่ได้ที่จะตามออกไปเช่นกัน

เมื่อเห็นนฤเบศร์ เทวเทพยิ้มเยาะเย้ยว่า “คุณเป็นคนของนรเทพ คุณไม่รู้หรือว่านรเทพกำลังจะตาย? และคุณจะเป็นรายต่อไป”

ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลภูสรีดาวและตระกูลพิมพ์สารย่ำแย่เสมอมา เข้าทำนองว่าไม่ใช่คุณตาย ก็คือผมเป็น เป็นศัตรูที่ไม่อยากจะพบหน้ากัน

“ช่างคุยโวโอ้อวดอย่างไม่รู้สึกกระดากปาก นรเทพเป็นคนยังไง พวกคุณบอกว่าจะฆ่าก็จะสามารถฆ่าเขาได้หรือ? มิเช่นนั้นนรเทพจะสามารถอยู่ในตำแหน่งที่สูงได้นานขนาดนั้นหรือ? ถึงแม้ว่าพวกคุณคิดจะขู่เด็กก็ไม่มีประโยชน์หรอก”

นฤเบศร์เยาะเย้ยเทวเทพ ไม่คิดว่าเขาจะมาหลบภัยอยู่กับนราธิป ถ้าไม่ใช่เพราะนราธิป เกรงว่าพวกเขาคงตายไปแล้ว

เทวเทพไม่ต้องการพูดเรื่องไร้สาระกับเขา และแสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะให้พวกเขาเข้าไปในถ้ำ หรือปล่อยพวกเขาเข้าไปในบ้านได้แม้แต่ก้าวเดียว

การต่อสู้ในถ้ำนั้นกำลังชุลมุนวุ่นวาย ส่วนเทวเทพก็กำลังต่อสู้กับนฤเบศร์ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนฤเบศร์ และนฤเบศร์ก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนพลังมารที่ตนเองฝึก อย่างไรเสียรพีพงษ์และคนอื่น ๆ ก็รู้แล้ว

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท