พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1584 กลยุทธ์สาวงามล้มเหลว

บทที่ 1584 กลยุทธ์สาวงามล้มเหลว

รพีพงษ์มองผลินแวบหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “คุณมาได้ยังไง? ”

“หรือจะให้ฉันนั่งมองคุณเล่นหูเล่นตากับผู้หญิงคนอื่น?”

ผลินมองรพีพงษ์ด้วยความไม่พอใจ และท่าทางที่เธอแสดงออกมานั้นเหมือนกับคู่หมั้นของเขาจริงๆ ผลินไม่สามารถคิดเรื่องนี้ได้ มันต้องเป็นความคิดของปัณฑาแน่นอน

เขายิ้มและให้ผลินนั่งลงข้างตนเอง ประจวบเหมาะในการมีข้ออ้างที่จะสลัดผู้หญิงคนนี้ออกไป

ส่วนผลินนั้นมีความสุขเป็นอย่างมาก อยากอยู่เคียงข้างรพีพงษ์ตลอดเวลา แม้ว่าตอนนี้จะเป็นสถานะปลอม เธอก็จะเต็มใจ

ท่าทางของรพีพงษ์ทำให้ผลินรู้ว่า ท่าทางของรพีพงษ์เมื่อสักครู่ไม่มีอะไรมากไปกว่ามีโอกาสก็เล่นสนุกบ้างเป็นครั้งคราว

เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าผลินอยู่ที่นี่ ทำให้เธอรู้สึกเก้อเขิน แต่เธอนั้นมาพร้อมกับภารกิจ ถ้าเธอทำภารกิจไม่สำเร็จ เธอจะถูกลงโทษอย่างแน่นอน

เธอหยิบขวดเหล้าแล้วรินเหล้าให้รพีพงษ์ “ในเมื่อคู่หมั้นของคุณชายอยู่ที่นี่แล้ว ฉันก็ไม่อาจนั่งเป็นก้านขวางคออยู่ที่นี่ได้ ก่อนที่ฉันจะจากไป คุณชายจะสามารถดื่มเหล้าแก้วนี้ได้หรือไม่? ก็ถือว่าเป็นวาสนาที่พวกเราได้พบเจอกัน”

รพีพงษ์ยิ้มอย่างมีความหมาย “ผมไม่สามารถดื่มเหล้านี้ได้ ในเมื่อคุณไม่ดื่ม แล้วผมจะดื่มมันได้อย่างไร?”

รพีพงษ์หยิบขวดเหล้าขึ้น ทำกลอุบายบนขวดเหล้า แล้วก็ยื่นขวดเหล้าให้ผู้หญิงคนนั้น ให้ผู้หญิงคนนั้นรินเอง ขณะที่สัมผัสผู้หญิงคนนั้นเขาได้แตะจุดฝังเข็มของผู้หญิงคนนั้น มันไม่เจ็บหรือคัน จึงทำให้ผู้หญิงไม่รู้สึกตัว

ถ้าเขาเป็นรินเหล้า จะทำผู้หญิงคนนั้นกลัวว่าในเหล้าจะมีพิษ ดังนั้นให้ผู้หญิงเป็นคนลงมือรินเหล้าด้วยตนเองก็ไม่ต้องกลัวว่าเหล้าจะมีพิษ

ผู้หญิงคนนั้นรินเหล้าหนึ่งแก้วให้ตนเอง แล้วดื่มอย่างมีความสุข รพีพงษ์ทำตามที่ตนเองพูดไว้ เขาดื่มเหล้าจนหมด เพียงแต่เหล้าด้านที่เขาดื่มนั้นไม่มีพิษ

ผู้หญิงคนนั้นจากไป ขณะเดินไปถึงประตูก็ล้มลง ชักกระตุกและหมดสติไป

ผลินกลัวจนพูดอะไรไม่ออก เธอมองรพีพงษ์อย่างประหม่าและถามว่า “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“คุณเห็นว่า ผมเหมือนคนเป็นอะไรหรือ?”

รพีพงษ์ยิ้มจาง ๆ ตอนนี้เกิดความโกลาหล จิรันดน์เหลือบมองนฤเบศร์ และขมวดคิ้วและถามด้วยเสียงที่เบาว่าเกิดอะไรขึ้น

สีหน้าของนฤเบศร์เคร่งขรึมและเพิกเฉยต่อจิรันดน์ และเดินไปหาเรื่องรพีพงษ์ทันที

กล่าวว่า “คุณชายรพี ผู้หญิงคนนี้มาบริการคุณ ต่อให้คุณไม่ชอบเธอ แต่ก็ฆ่าเธอไม่ได้ ทำไมคุณถึงได้วางยาเธอ?”

รพีพงษ์คิดว่ามันไร้สาระสิ้นดี เห็นได้ชัดว่าแผนการของเขาล้มเหลวแล้วก็ถูกเปิดเผย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นความผิดของตนเอง

“ผู้นำตระกูลพิมพ์สารมีความสามารถไม่เลวในการย้อนเล่นงานฝ่ายตรงข้าม คุณเป็นคนที่จัดงานเลี้ยงนี้ขึ้นมา และถ้าจะวางยาพิษ คุณก็เป็นคนที่วางเอง ผมจะวางยาพิษได้อย่างไร ผมมางานเลี้ยงอย่างมีความสุข และไม่เคยนำยาพิษมาทำร้ายคน แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะ?”

ชัดเจนว่าใครถูกใครผิด และคนที่นั่งอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่คนโง่เขลา

บวรวิทย์หายใจหอบ เขามองขวดเหล้าและผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว แล้วผู้หญิงคนนั้นก็หลบสายตาของเขาทันที

เขาโชคดีมาก ที่ตนเองไม่สนใจผู้หญิงคนนี้ เมื่อสักครู่ตนเองไม่ได้ดื่มเหล้าขวดนั้น และที่นฤเบศร์ไม่ได้วางยาตนเอง อาจเป็นเพราะตนเองนั่งอยู่ข้างจิรันดน์ และกลัวว่าตนเองและจิรันดน์จะดื่มเหล้าด้วยกัน ดังนั้น…….

นฤเบศร์คิดว่า อย่างไรก็ตามเขาไม่มีหลักฐาน ตนเองไม่ยอมรับสักอย่าง เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้

เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ทำให้ตนเองไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ แต่จะทำให้ตนเองเสียหน้าไม่ได้

“ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ ตระกูลภูสรีดาวและตระกูลพิมพ์สารยังคงรักษาความสงบ ทุกคนรู้ดีว่า วันนี้คุณนำยาพิษมาด้วย ใครจะพูดได้ว่าคุณไม่ได้นำมันมาเพื่อจัดการผม”

“คำพูดนี้ช่างเลอะเลือนจริง ๆ ท่านผู้อาวุโส ถ้าผมต้องการทำร้ายคุณ ผมไม่จำเป็นต้องลงมือกับผู้หญิงที่ไม่เคยพบหน้า ผมรพีพงษ์เป็นคนที่ทำอะไรตรงไปตรงมาและเปิดเผยไม่มีเล่ห์เหลี่ยม เหล้าของคุณมีปัญหา ทำไมคุณไม่มองหาสาเหตุบนตัวของคุณเองล่ะ?”

รพีพงษ์กล่าวต่ออีกมากมาย ไม่มีอะไรมากไปกว่านฤเบศร์จัดเตรียมผู้หญิง และการจัดเตรียมนักร้องเต้นรำ ซึ่งเป็นจุดประสงค์ก็ไม่บริสุทธิ์อยู่แล้ว

ทุกคนที่นี่รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เพื่อคำนึงถึงหน้าของนฤเบศร์ก็เลยไม่พูดออกมา

ผลินมองรพีพงษ์ด้วยความเป็นห่วง เธอเห็นว่ารพีพงษ์เมาแล้ว และกลัวว่าพิษจะกำเริบภายหลัง

แล้วมองไปที่นฤเบศร์ ไอ้จิ้งจอกเฒ่าถึงทำผิดก็ไม่ยอมรับผิด

นฤเบศร์เรียกคนของตนเองออกมา เขาจะไม่ยอมปล่อยรพีพงษ์ นันท์ธรและคนอื่น ๆ ไปง่ายดาย

นันท์ธรเย้ยหยันผู้หญิงที่นฤเบศร์ส่งมา แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้นฤเบศร์ไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านไป จุดประสงค์ของนฤเบศร์ก็คือใช้ประโยชน์จากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้

ตอนนี้ฝูงชนที่อยู่ที่นี่ล้อมรอบรพีพงษ์และนันท์ธร นฤเบศร์กล่าวว่า “คนของผมออกไปจากคุณก็เกิดเรื่อง คุณคิดว่าผมจะปล่อยคุณไปได้อย่างไร ถึงคุณจะพูดคล่องโน้มน้าวจิตใจเก่งแค่ไหนก็ไม่อาจเทียบกับชีวิตของคนคนหนึ่งไม่ได้”

บวรวิทย์เดินออกมาจากด้านหลัง และถามอย่างเย็นชาว่า “คุณลุงหมายความว่าอย่างไร ต้องการให้รพีพงษ์ชดใช้ชีวิตให้ผู้หญิงคนนั้นหรือ?”

“ฆ่าคนชดใช้ชีวิต ก็ไม่ได้เป็นการทำให้รพีพงษ์คับข้องใจ”

นฤเบศร์มองบวรวิทย์ และเหลือบมองจิรันดน์ที่อยู่ข้างบวรวิทย์ ทำให้จิรันดน์ตกใจเป็นอย่างมาก

เขายิ้มอย่างเก้อเขิน “ท่านพ่อ แค่ผู้หญิงคนเดียว เมื่อเธอตายไปแล้วก็ช่างเถอะ มันไม่คุ้มที่จะทำลายความสัมพันธ์ของพวกเราทุกคน”

จิรันดน์ไม่รู้ว่านฤเบศร์ต้องการทำอะไร แต่เขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของบ้านในช่วงสองวันที่ผ่านมา และงานเลี้ยงนี้ได้รับการจัดเตรียมเป็นพิเศษ

คนอื่นอาจไม่เข้าใจนฤเบศร์ แต่ตนเองในฐานะลูกนั้นเข้าใจดี

นฤเบศร์จ้องเขม็งไปที่จิรันดน์และดุว่า “คุณไร้ประโยชน์ ไสหัวออกไป”

จิรันดน์ตะกุกตะกักจนพูดอะไรไม่ออก จึงเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

เขารู้อารมณ์ของพ่อดี และเขาก็ไม่กล้าที่จะคัดค้าน ถ้าเวลาปกติอาจจะสามารถพูดได้หนึ่งหรือสองประโยค แต่เมื่อเห็นว่านฤเบศร์โกรธ รีบออกจากที่นี่จะดีกว่า

รพีพงษ์มองไปที่นฤเบศร์อย่างมีความหมาย “การจะตัดสินอะไรก็ต้องมีหลักฐาน ตอนนี้คุณบอกว่าผมเป็นคนฆ่าคนของคุณ ทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่เป็นคนที่สายตากว้างไกลและเป็นคนฉลาด เป็นไปไม่ได้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าในขวดเหล้านี้มีอะไร”

ขณะที่รพีพงษ์กำลังพูดเขาก็หยิบขวดเหล้านั้นขึ้นมา ทุกคนจ้องมองมาจุดเดียว แล้วรพีพงษ์ก็ดึงฝาขวดเหล้าออก เห็นในขวดเหล้านั้นมีชั้นคั่นสองช่องว่างตรงกลาง และยังมีการดัดแปลงฝาขวดด้วย

จากนั้นรพีพงษ์ก็ปิดฝาขวด แล้วก็เทเหล้าลงไปในแก้วสองใบที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วก็หมุนฝาปิดได้อย่างง่ายดาย

คนที่ท่องยุทธภพมาหลายปีสามารถดูสิ่งที่ปิดบังอยู่ข้างในได้

รพีพงษ์หยิบเหล้าสองแก้วนั้น แล้วเทเหล้าหนึ่งแก้วลงบนพื้น เมื่อเหล้าลงสู่พื้น ก็ปรากฏฟองสีขาวขึ้นทันที แล้วตนเองก็ดื่มเหล้าอีกแก้วหนึ่ง

“เหล้าบนพื้นนี้มีพิษ เหล้าที่อยู่ในมือของผมไม่มีพิษ ทุกคนก็เห็นแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะนำแก้วเหล้ามาทำร้ายคนอื่น ท่านผู้อาวุโส คุณคิดว่าถูกไหม?”

นฤเบศร์ไม่สามารถหักล้างสิ่งที่รพีพงษ์กล่าวได้ และตอนนี้แก้ไขปัญหาได้ด้วยกำลังเท่านั้น

ที่นี่มีคนอยู่มากมาย ไม่สะดวกที่จะลงมืออย่างเปิดเผย

อย่างไรก็ตาม ตนเองได้ปิดล้อมไว้อย่างหนาแน่นแล้ว เขาหนีไม่รอดหรอก

แต่นฤเบศร์ก็ไม่ยอมรับ กล่าวว่ารพีพงษ์กำกับและแสดงด้วยตนเอง มิเช่นนั้นเขาจะคุ้นเคยกับแก้วเหล้านี้ได้อย่างไร

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท