พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1616 สิ่งของของตนเองก็ต้องเอากลับไปแน่

บทที่ 1616 สิ่งของของตนเองก็ต้องเอากลับไปแน่

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว เขาเคยเจอคนโอหังมาแล้ว แต่ไม่เคยใครอะไรโอหังแบบนี้มาก่อน มีใครต้องการแบบนี้ด้วยหรือนี่?

เห็นอสูรตัวนั้นอ้าแขนทั้งสองข้างออกมา แล้วยืนขึ้น ดูแล้วน่าตลกมาก ทำไปเพื่อให้รพีพงษ์เอากระบี่ไปแทงตัวมันเอง

รพีพงษ์ก็พูดอย่างเอือมระอาว่า “ข้าโตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นใครร้องขอแบบเจ้าเลย ในเมื่อเจ้าต้องการ งั้นก็ข้าก็ไม่เกรงใจแล้วนะ”

รพีพงษ์ก็ถือกระบี่แทงเข้าไป อสูรตัวนั้นมั่นใจรพีพงษ์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตนเองแน่ กระบี่ในมือของรพีพงษ์ก็เป็นของปลอม คำพูดของรพีพงษ์เมื่อครู่นี้ ก็เพื่อข่มขู่ตนเองเท่านั้น

กระบี่เทพเล่มนั้นมีพลังมาก จะไปอยู่ในมือของรพีพงษ์ได้อย่างไรกัน

ตอนที่รพีพงษ์บุกเข้าไปนั้น กระบี่สยบเซียนก็เหมือนจะปล่อยพลังออกมา แล้วก็ลากตัวของรพีพงษ์ไปด้วย จากนั้นตำแหน่งหัวใจของอสูรก็เกิดเป็นรขึ้นมา

ปากของมันก็กระอักเลือดออกมา แล้วก็มองรพีพงษ์อย่างไม่เชื่อสายตนเอง พร้อมพูดว่า “มันเป็นไปได้อย่างไรกัน หรือว่านี่จะเป็นกระบี่สยบเซียนจริงๆ”

รพีพงษ์เห็นมันมีสีหน้าตกใจ แล้วก็พูดอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า “ข้าก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอกนะ แต่เจ้าร้องขอต้องการเอง จะมาโทษว่าข้าโหดเหี้ยมไม่ได้นะ”

รพีพงษ์พูดจบ ก็เอาดึงกระบี่กลับออกมา เลือดสดๆ ก็ไหลร่วงลงมาที่พื้น รพีพงษ์เตีรยมจะเดินออกไป อสูรตัวนั้นก็เรียกไว้ “จอมยุทธ ข้ามีตาแต่ไร้แวว เจ้าอย่าเพิ่งไป ช่วยชีวิตข้าก่อน ข้าบำเพ็ญเพียรจนกว่าจะได้ร่างมนุษย์แล้ว เจ้าจะฆ่าข้าไม่ได้นะ ข้าไม่อยากให้ความพยายามหลายพันปีมานี้ จะถูกทำลายลงในวันนี้”

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว ในเมื่อไม่อยาก แล้วทำไมไม่ทำตัวเป็นคนดีๆ ทำเรื่องดีๆ ล่ะ?

ตอนนี้ตนเองสามารถช่วยมันได้ แต่ว่าไม่มีอะไรที่ต้องทำฟรีๆ จะช่วยคนก็จะช่วยเปล่าๆ ไม่ได้ มันจะให้อะไรกับตนเองได้ล่ะ?

รพีพงษ์มองอสูรตัวนั้น แล้วถามว่า “ข้าช่วยเจ้าได้ ตอนนี้เจ้าไม่ตายหรอก แต่ข้ารับรองว่าสามารถทำให้เจ้าขยับไปไหนไม่ได้ พอข้าเดินออกไปไกลแล้ว ไม่นานก็จะมีสัตว์นักฆ่าตัวอื่นเข้ามา เจ้าก็ตายแน่ ใช่ไหมล่ะ?”

รพีพงษ์พูดถูกต้อง อสูรตัวนั้นก็พูดว่า “ขอเพียงเจ้าช่วยข้า เจ้าก็จะเป็นเจ้านายของข้า เจ้าบอกอะไรข้าก็จะทำตาม ข้าจะเป็นทาสของเจ้า เป็นสัตว์พาหนะของเจ้า เจ้ายังไม่มีสัตว์พาหนะใช่ไหมล่ะ?”

รพีพงษ์ก็มองอสูรตัวนั้นอีก แล้วก็รู้สึกว่าน่าสนใจ ก็ถามไปว่า “เจ้าชื่อว่าอะไรล่ะ?”

“ข้าชื่อว่า กิเลน แต่ไม่รู้ว่าตนเองมีชีวิตนานเท่าไรแล้ว แต่ว่าเจ้าวางใจได้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าข้าดูถูกศัตรู ข้าก็ไม่มีทางถูกจ้าทำร้ายร่างกายได้หรอก” ตอนที่กิเลนพูดนั้น ก็ยังมีความหัวเสียอยู่นิดหน่อย

งั้นก็ต้องโทษว่ารพีพงษ์ยังหนุ่มเกินไป ทำให้มันไม่มีทางติดต่อกับกระบี่สยบเซียนได้

รพีพงษ์ก็หันหน้าหนี แล้วพูดว่า “เจ้าต้องการแบบนี้เองนะ จะมาโทษข้าไม่ได้นะ”

ขณะพูดก็เดินมาข้างๆ อสูร จะฝึกวิชามันก็ไม่ง่าย ยิ่งกว่านั้นยังฝึกมาแล้วหลายพันปี จะช่วยรักษามันไปก็เป็นเรื่องง่ายๆ เท่านั้น มันบอกว่าจะมาเป็นสัตว์พาหนะให้ตนเอง ได้อสูรเทพมาฟรีๆ ตัวหนึ่ง ก็ดีใจเหมือนกัน

รพีพงษ์ขึ้นไปบนตัวมัน แล้วอสูรก็ถามว่า “เจ้าจะช่วยข้าใช่ไหม?”

“ข้าไม่ได้มาช่วยเจ้าหรอก ข้ามาช่วยสัตว์พาหนะของข้า ข้าไม่อยากจะช่วยเจ้าหรอก”

ขณะพูด รพีพงษ์ก็กลั่นยาเม็ดออกมา แล้วเอายาเม็ดระดับเทพเซียนให้กิเลนกินลงไป ยานี้สามารถฟื้นพลังและรักษาแผลได้ ภายในไม่กี่วินาที กิเลนรู้สึกได้ว่าพลังทิพย์ในตัวได้ฟื้นกลับมาแล้ว จากนั้นก็ยิ่งนับถือรพีพงษ์มากขึ้น

ในสายตามัน เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งไม่น่าจะเก่งแบบนี้

รพีพงษ์ลุกขึ้น แล้วพูดกับกิเลนว่า “เจ้าลองลุกขึ้นดู ดูสิว่าผลลัพธ์เป็นไงบ้าง”

กิเลนลุกขึ้น รู้สึกว่าตัวเบาขึ้น แล้วก็ล้มตัวลงไปเป็นปกติ พร้อมพูดว่า “เจ้านาย ต่อไปนี้ข้าก็จะเป็นสัตว์พาหนะของท่าน ท่านขึ้นมาเลยเถอะ”

รพีพงษ์ก็ขึ้นไปโดยไม่ลังเล ถ้าเขาไม่ขึ้นไป เจ้าสัตว์ตัวนี้ก็จะคิดว่าตนเองไม่มีประโยชน์ที่จะใช้งาน ความจริงใจของกิเลน ตนเองปล่อยไปเสียเปล่าไม่ได้

ยิ่งกว่านั้นสัตว์พาหนะของรพีพงษ์ รพีพงษ์จะไม่มีทางเมินเฉยละเลยมันเด็ดขาด

รพีพงษ์นั่งบนหลังของกิเลน หนังนิ่มๆ กิเลนเดินก็นิ่ง รู้สึกสบายมาก

ผลินอยู่อีกฝั่ง ก็รีบเข้ามาหา เห็นว่ากิเลนยังมีชีวิตอยู่ดี ก็ตะโกนเรียกรพีพงษ์

เพราะว่าเห็นแค่กิเลนกำลังเดินเข้ามาหาตนเองทีละก้าว โดยไม่เห็นว่ามีรพีพงษ์อยู่ด้วย ผลินก็เลยนึกว่าถ้ารพีพงษ์ไม่ตาย กิเลนก็คงไม่โผล่ออกมาแบบนี้

เธอตะโกนลั่น “รพีพงษ์ คุณอยู่ที่ไหน คุณถูกฆ่าไปแล้วหรือเปล่า?”

ตอนนี้ไม่รู้สึกกลัวกิเลนแม้แต่น้อย เพราะในหัวมีแต่รพีพงษ์ พอไม่เห็นตัวของรพีพงษ์ เธอก็ไม่สู้ตายไปเลยเสียยังดีกว่า

พอได้ยินเสียงของผลิน พวกของนันท์ธรก็รีบตามเข้ามา พอเห็นกิเลนตัวใหญ่ยักษ์ ในใจก็รู้สึกว่าไม่ได้การแล้ว รพีพงษ์จะต้องเกิดเรื่องแน่เลย

รพีพงษ์นอนเอนหลังอยู่บนหลังของกิเลน หลังของมันกว้างมาก ไม่เพียงนั่งได้เท่านั้น นอนยังได้เลย ถ้าหนูลินดีขึ้นแล้ว ก็จะพากิเลนไปยังโลกมนูษย์ด้วย เอาไปเป็นสัตว์เลี้ยงของหนูลิน

ในใจกำลังคิดอย่างเคลิบเคลิ้ม แต่ถูกเสียงของผลินมาขัดจังหวะ แล้วก็รู้ว่าผลินเสียงดังไปจริงๆ

รพีพงษ์รู้ว่าผลินเป็นห่วงตนเอง แต่ก็ไม่ต้องเกินไปแบบนี้ก็ได้ ที่นี้ล่ะดี เรียกเอาพวกของนันท์ธรมาด้วย รพีพงษ์ก็ลุกขึ้นอย่างเอือมระอา

กิเลนโมโหเล็กน้อย หายใจทีหนึ่งก็พัดเอาใบไม้ปลิวไปทั่ว แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “ยัยผู้หญิงคนนี้พูดเบาๆ หน่อยได้ไหม เล่นเอาเจ้านายข้าตื่นหมดแล้ว”

ผลินก็ผงะ แล้วก็ได้ยินเสียงของรพีพงษ์ดังเข้ามา ก็ถามนันท์ธรว่า “ผู้อาวุโส นี่คือสัตว์พาหนะของผม คุณว่าเป็นไงบ้าง?”

นันท์ธรก็ตกใจกับคำถามนั้น นึกว่ารพีพงษ์จะเป็นอะไรไปเสียแล้ว ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะเล่นสัตว์ตัวนี้จนเชื่องได้ เขาไม่เคยยอมใคร แต่ยอมรพีพงษ์คนเดียว

ทุกคนก็มองรพีพงษ์อย่างอิจฉา กิเลนตัวนี้ดูไปแล้วน่ากลัว แต่พออยู่ต่อหน้าของรพีพงษ์ ก็เหมือนกับสุนัขตัวหนึ่งที่รพีพงษ์เลี้ยงไว้ ยอมฟังคำสั่งแต่โดยดี

ผลินตกใจจนพูดอะไรไม่ออก รพีพงษ์ทำได้อย่างไรกัน? เมื่อครู่ยังเห็นอยู่เลยว่า เจ้าสัตว์ตัวนี้กำลังจะเข้ามาทำร้ายตนเอง แต่ไม่นานก็ได้กลายเป็นสัตว์ของรพีพงษ์ไปเสียอย่างนั้น

ผลินหายใจเข้าอยางลึก แล้วพูดกับรพีพงษ์ว่า “คุณคงไม่เอาเจ้านี่กลับไปที่เมืองแฟรี่ด้วหรอกนะ?”

“ทำไมล่ะ ทำไมจะไม่ได้?” รพีพงษ์รู้สึกว่า ทุกอย่างมันเหมาะสมดี ที่เทวโลกก็เหมือนกันที่โลกมนุษย์ ทุกคนล้วนมีความรู้อะไรมากมาย คงไม่ตกใจกลัวกับแค่อสูรเทพตัวเดียวหรอกมั้ง

ผลินเห็นว่ากิเลนมีรูปร่างน่ากลัว ก็เลยกลัวๆ แล้วพูดว่า “ฉันคิดว่ามันไม่เหมาะ”

ทุกคนต่างก็อิจฉารพีพงษ์ แต่พอได้ยินว่ารพีพงษ์จะเอาเจ้านี่กลับไปด้วย ลองนึกดูถึงแม้จะน่าสนุก แต่ก็มีคนไม่น้อยออกมาว่ารพีพงษ์ กิเลนได้ยินแล้วก็ไม่ค่อยจะสบายใจนัก

รพีพงษ์พูดอย่างไม่สนใจว่า “ของของผม ผมจะต้องเอากลับไปอยู่แล้ว เอาในป่ารกแบบนี้ ไม่แน่วันไหนลืมเจ้านายคนนี้ล่ะจะแย่ ใช่ไหมล่ะ?”

พูดออกมาดังนั้น ก็ไม่มีเคยคัดค้าน รพีพงษ์นั้นเก่งจริง แล้วก็กลับมายังกองทัพที่ล้อมพวกของเดชาเอาไว้ รพีพงษ์นอนเอนหลังบนหลังของกิเลน แล้วถามกิเลนว่า “พวกที่ไปแย่งถ้ำของเจ้า มันมีพลังแค่ไหน พวกมันฟื้นพลังมาได้หรือยัง?”

“พลังก็ไม่เท่าไร ไม่ได้มีคนเก่งอะไร ก็ธรรมดาๆ แต่ว่าข้านั้นขี้กลัว นายท่าน พวกมันแย่งถ้ำของข้าไป ข้าจะไปแก้แค้น นายท่านช่วยข้าได้ไหม?”

กิเลนร้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะถ้ำนั้นอยู่มาหลายปีแล้ว….

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท