Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 253

ตอนที่ 253

ตอนที่ 253 เมืองเปลวไฟ
“ชูชิงคุณกลับไปที่บ้านพักพร้อมกับผู้อาวุโสฟางและเสี่ยวหยู ก่อนก็
แล้วกันนะ!” หวังเสียน หันมาพูดกับกวนชูชิงและเสี่ยวหยู หลังจากที่
บรรดาชาวยุทธที่มาร่วมงานชุมนุมทั้งหมดต่างแยกย้ายกันไปหมดแล้ว
“เสี่ยวเสียน!…” กวนชูชิง มีสีหน้าวิตกกังวลก่อนที่เธอจะพูดต่อไป
อีกว่า “คุณต้องระวังตัวด้วยนะ!”
“อืม! ไม่ต้องห่วง!”
หวังเสียน ลูบหัว กวนชูชิง เบา ๆ และหันไปมองที่เจ้าสำนักถังพร้อม
กับพูดขึ้นมาว่า “ท่านเจ้าสำนักถังผมขอฝากดูแลความปลอดภัยของ
พวกเธอด้วยนะครับ!”
“สบายใจได้เลยหมอเทวะหวัง หากว่าจะมีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้น ข้า
ยินดียอมแลกชีวิต เพื่อปกป้องพวกนาง!”
เจ้าสำนักถังแห่งสำนักกระบี่พฤกษาขจี ยกมือขึ้นมาทุบโต๊ะตัวเอง
เบา ๆ พร้อมกับพูดรับรองออกมาด้วยสายตาที่มุ่งมั่น
หวังเสียน พยักหน้าพร้อมกับโบกมือลา กวนชูชิง และ เสี่ยวหยู
“พี่ชาย! พี่ต้องรีบกลับมาเร็ว ๆ นะ!”
“พรุ่งนี้เช้าพี่ก็จะกลับมาแล้วไม่ต้องกังวล!”
“หมอเทวะหวัง คุณตั้งใจที่จะโจมตีสำนักวังเปลวไฟศักด์ิสิทธ์ิจริง ๆ
อย่างนั้นหรือ?”
หลังจากที่เสี่ยวหยู และกวนชูชิง จากไป ดาบคลั่งโลหิตจี มองไปที่
หวังเสียน และถามออกมาตรง ๆ ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
“ถึงแม้ว่าพวกเรานั้นจะไม่ต้องการต่อสู้กับพวกเขา แต่พวกเขาก็จะ
โจมตีเราอย่างแน่นอน!” หวังเสียน ยิ้มออกมาบาง ๆ ก่อนที่จะหันไป
หาโม่หยวน “เขตอาคารทั้งหมดของสำนักวังเปลวไฟนั้นอยู่ที่ไหน
เจ้าพอจะรู้พิกัดบ้างหรือไม่? หากอยู่ไม่ไกลมากนักพวกเราจะได้ไป
กวาดล้างสำนักของพวกเขาในวันนี้กันเลย”
“อยู่ที่เขตภูเขาหินเพลิงขอรับนายท่าน! มันอยู่ห่างจากที่นี่ประมาณ
ร้อยกิโลเมตรขอรับ!” โม่หยวนตอบ
ดาบคลั่งโลหิตจี ผงะตกใจในทันที เมื่อได้ยินหวังเสียงพูดถึงเรื่อง
การกวาดล้างสำนักวังเปลวไฟ ออกมาอย่างง่ายดาย เหมือนกับว่าจะ
ชวนกันไปถอนต้นหญ้า
“อืมม! ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ!”
หวังเสียน ไม่มีความลังเลใจเลยแม้แต่น้อยเขาตัดสินใจทำตามแผนที่
เขาวางไว้ในทันที
“ขอรับ!” โม่หยวนพยักหน้า “นายท่านต้องการรวบรวมสาวกของ
สำนักมังกรมาด้วยหรือไม่ขอรับ!”
“ไม่จำเป็น แค่พวกเราก็พอแล้ว!” หวังเสียน ยิ้มบาง ๆ ก่อนที่พวกเขา
ทั้งหมดจะเดินกลับไปขึ้นรถ
“นายหญิงขอรับ! พวกเราจะไปโจมตีสำนักวังเปลวไฟศักด์ิสิทธ์ิจริง ๆ
หรือขอรับ? ข้าคิดว่าคนของพวกเรามีน้อยเกินไปหรือเปล่าครับนาย
หญิง!” หมอโลหิตหันไปกระซิบถาม ซุนหลิงซิ่ว
“ข้าไม่มีปัญหาใด ๆ กับความคิดของเสี่ยวเสียน! และจะทำตามทุก
อย่างที่เสี่ยวเสียน ต้องการ!” ซุนหลิงซิ่ว พูดออกมาด้วยใบหน้าที่นิ่ง
เฉย
หมอโลหิตไม่ได้ถามคำถามใด ๆ ต่อ แต่เขาแอบชำเลืองมองและ
ลอบสังเกตกลุ่มของพวกเขาอย่างเงียบ ๆ
ตอนนี้พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ ทั้งหมดหกคน
การที่พวกเขาทั้งหกคนจะเข้าไปทำการกวาดล้างสำนักระดับชั้น
ศักด์ิสิทธ์ินั้นเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น
หลังจากนั่งรถกันมาไม่นานพวกเขาก็มาถึงเขตภูเขาหินเพลิง ซึ่งเป็น
แนวเทือกเขาที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของจังหวัดตงฉิง
เมื่อมองในระยะไกลสามารถมองเห็นกลุ่มก้อนควันสีขาวที่ลอยขึ้น
สู่บนท้องฟ้าจากแนวของเทือกเขา พื้นที่บริเวณแถบนี้มีอุณหภูมิสูง
กว่าในภูมิภาคอื่น ๆ 2-3 องศา
มันเป็นเขตของภูเขาไฟที่ไม่ได้ปะทุอีกต่อไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีความ
ร้อนจากอุณหภูมิของหินหนืด (ลาวา) ใต้พิภพส่งขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งขอบเขตภูเขาบางลูกนั้นได้ถูกจัดให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
อันสวยงามไปแล้ว
แต่เขตที่ตั้งของสำนักวังเปลวไฟศักด์ิสิทธ์ิ ถูกละเว้นไว้ไม่ได้ถูก
กำหนดให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ทิวทัศน์และความสวยงาม
ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าจุดชมวิวและสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เลยแม้แต่น้อย
“สถานที่ตั้งหลักของสำนักวังเปลวไฟศักด์ิสิทธ์ิตั้งอยู่บนยอดภูเขาสูง
เนื้อที่บริเวณโดยรอบของสำนักวังเปลวไฟศักด์ิสิทธ์ินั้นมีทั้งหมด
23 ยอดเขา และแต่ละยอดเขานั้นจะมีผู้อาวุโสและกลุ่มของสาวกอยู่
ประจำทุกยอดเขา แต่จะมีเฉพาะยอดเขาหลักเท่านั้นที่เชื่อมต่อกับ
ภูเขาไฟใต้ดิน กระผมได้ยินมาว่ายอดเขาหลักนั้นคือพื้นที่ศักด์ิสิทธ์ิ
ของสำนักของพวกเขา มีเอาไว้สำหรับการบ่มฝึกฝนและเพาะของผู้
อาวุโสและลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงเพียงเท่านั้น!”
โม่หยวน หันไปพูดและอธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้หวังเสียน ได้ทราบถึง
ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปของเทือกเขาหินเพลิง
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เดินทางเข้ามาถึงเขตของตัวเมืองเปลว
ไฟที่อยู่ไม่ไกลจากเขตภูเขาไฟมากเท่าใดนัก
“แวะหาที่กินอาหารเย็นกันก่อนเถอะพวกเราจะเข้าไปหลังจากที่มืด
ลงแล้ว!” หวังเสียน หันไปพูดกับทุกคนพร้อมกับดูเวลา
“ขอรับนายท่าน!”
โม่หยวนพยักหน้าขณะที่เขาขับรถนำทุกคนเข้าไปที่ร้านอาหารที่ดี
ที่สุดในเขตของเมืองเปลวไฟ
เมืองเปลวไฟแห่งนี้นั้นถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ก็ตาม แต่มัน
ก็เป็นเมืองที่มีมรดกทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน
ร้านอาหารเพลิงบุปผา เป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมืองเปลวไฟแห่งนี้
วัตถุดิบส่วนใหญ่ของพวกเขาถูกรวบรวมมาจากสัตว์ป่ าและพืชพันธุ์
นานาชนิดในเขตของป่ารอบ ๆ ภูเขาไฟ
กลุ่มคนทั้งหกคนเข้าไปในร้านอาหารและนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่
ของร้านอาหาร
ร้านอาหารเพลิงบุปผา แห่งนี้อาจจะไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็จัดร้าน
ได้อย่างลงตัวและสวยงามมากเลยทีเดียว
“ท่านครับ! ร้านอาหารของเรานั้นมีเมนูพิเศษเป็นเนื้อสัตว์ที่อร่อย
ที่สุดและผักป่ าประจำท้องถิ่น กระผมขอแนะนำเมนูพิเศษเมนูนี้
รับรองว่าทุก ๆ ท่านจะติดใจแน่เลยละครับ!”
หวังเสียน และกลุ่มของเขานั่งลงที่โต๊ะใหญ่ในห้องโถง พนักงาน
บริการก็ยิ้มต้อนรับและเสนอเมนูแนะนำพิเศษให้กับพวกเขาด้วย
ความเคารพ
“อาหารจีนนั้นอร่อยทุกอย่างช่างน่าประทับใจมากเลยทีเดียว!” หมอ
โลหิต ที่นั่งอยู่ทางด้านข้างของซูหลิงซิ่ว ชูนิ้วโป้งขึ้นพร้อมกับผู้
ชมเชย
“ฮึฮึ! นี่เป็นเรื่องจริงอาหารจีนนั้นอร่อยที่สุดในโลก!” โม่หยวนหัวเราะ
ออกมาเบา ๆ
“ไม่เพียงแต่มีอาหารอร่อย ๆ เท่านั้น แต่ผู้หญิงจีนก็สวยเป็นอย่างมาก
อีกด้วย!”
ในขณะนั้นเองก็มีเสียงพูดแทรกขึ้นมา ลักษณะคำพูดของเขานั้นฟัง
คล้ายกับพวกหนุ่มเพลย์บอย
“หือออ!?”
โม่หยวนและหมอโลหิตเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับหันไปมองโต๊ะที่อยู่ทาง
ด้านข้างทันที
ที่โต๊ะนั้นมีผู้ชายแต่งตัวแปลก ๆ อยู่ประมาณสิบคน
มีชายชราเจ็ดคนชายวัยกลางคนสองคนและชายหนุ่มหนึ่งคน พวก
เขาทั้งหมดทุกคนนั้นเป็นชาวต่างชาติ
ชายชราทั้งเจ็ดมีรูปร่างสูงใหญ่และสวมเสื้อผ้าขนาดใหญ่ ท่าทาง
และการแสดงออกของพวกเขานั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ชายชราคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มนั้นค่อนข้างที่จะสงบ
นิ่ง ลักษณะท่าทางของเขานั้นเหมือนกับพวกนักพรตในนิกายทาง
ศาสนา
ส่วนชายวัยกลางคนทั้งสองคนนั้นหน้าตาค่อนข้างที่จะธรรมดามาก
คนที่พูดนั้นเป็นชายหนุ่มผมบรอนซ์หน้าตาค่อนข้างหล่อเหลา
“พวกแกหุบปากและกินอาหารของพวกแกไปเงียบ ๆ เถอะไอ้พวก
ฝรั่งบัดซบ!”
เมื่อหมอโลหิตสังเกตเห็นชายหนุ่มผมสีบรอนกำลังจ้องมองมาที่นาย
หญิงของเขา หมอโลหิตจ้องมองไปทางพวกเขาพร้อมกับพูดออกมา
ด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร
“ฮ่าฮ่า!” ชายหนุ่มผมสีบลอนด์นั้นไม่สนใจหมอโลหิตเลยแม้แต่น้อย
เขาหัวเราะพร้อมกับพูดจาชื่นชม ซุนหลิงซิ่ว อย่างคลั่งไคล้ “สาวจีน
ช่างงดงามมากจริง ๆ !”
“เจ้าของร้านนำอาหารและสุราที่ดีที่สุดของเจ้ามาให้กับพวกข้า!”
ในขณะนั้นเองก็มีตะโกนดังขึ้นมาจากทางด้านนอก
“ครับคุณชาย! คุณชายทั้งหลายเชิญทางนี้เลยครับ!”
ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทอย่างเรียบร้อยเดินเข้าไปทักทายชายหนุ่ม
กลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาอย่างนอบน้อม
“เชิญด้านนี้เลยครับ!”
ผู้จัดการร้านอาหารรีบพาคนทั้งสี่เข้ามาข้างในห้องโถงใหญ่
“ข้าได้ยินข่าวมาว่า มีผู้มาก่อความวุ่นวายในงานพิธีแสวงบุญของ
สำนักของพวกเราที่เขตภูเขาหวู่ต้วน!”
“ใช่! ผู้อาวุโสหลายคนก็รีบกลับมาที่สำนักแล้ว แม้แต่ท่านเจ้าสำนัก
ก็ยังเรียกประชุมเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน!”
“ฮ่า ๆ ๆ ! ดูเหมือนว่าคนพวกนั้นต้องการแสวงหาความตายมากเลย
จริง ๆ ถึงกับกล้าเป็นศัตรูกับสำนักของพวกเรา!”
ชายหนุ่มทั้งสี่คนนั้นค่อนข้างที่จะอวดดีและหยิ่งผยอง เมื่อฟังจาก
คำพูดของพวกเขาแล้วนั้นคนกลุ่มนี้น่าจะเป็นสาวกของสำนักวัง
เปลวไฟศักด์ิสิทธ์ิอย่างแน่นอน
หวังเสียน หันไปมองอยู่ครู่นึงแล้วก็ไม่ได้สนใจพวกเขาอีกต่อไป
“เถ้าแก่นำสุรามาเสิร์ฟให้พวกเราเร็ว ๆ หน่อย!”
หลังจากนั้นไม่นานชายวัยกลางคนเจ้าของร้านก็นำอาหารและสุรา
มาเสิร์ฟให้แก่พวกเขาอย่างเร่งรีบด้วยความเคารพ
“ข้าได้ยินมาว่าคนที่สร้างปัญหาให้กับสำนักวังเปลวไฟของพวกเรา
นั้นเป็นหมอเทวะไร้สังกัดคนหนึ่งเพียงเท่านั้น!”
“เขาช่างกล้ามากจริง ๆ ผู้อาวุโสของสำนักเราคงจะไม่ปล่อยเขาเอาไว้
อย่างแน่นอน!”
“ถูกต้อง! ใน 5 จังหวัดแถบมณฑลทางตอนใต้ของเรานี้ใครจะกล้า
ขัดใจกับสำนักวังเปลวไฟศักด์ิสิทธ์ิของพวกเราล่ะ หมอเทวะคนนี้
ช่างโง่เขลายิ่งนักฮ่า ๆ ๆ !”
ชายหนุ่มทั้งสี่คน ที่เป็นสาวกของสำนักวังเปลวไฟศักด์ิสิทธ์ิ พูดคุย
และดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน บางครั้งก็พูดจาโวยวายเสียงดังโดย
ไม่เกรงใจใคร
“ข้าได้ยินมาว่าศิษย์น้อง มู่หวั่นหวัน ได้รับบาดเจ็บมากพอสมควร
เลยทีเดียว สงสัยคืนนี้ข้าคงจะต้องขอเข้าไปตรวจดูอาการของนาง
เสียหน่อยแล้วกระมัง ฮิฮิ!”
“ข้าว่าคงจะยาก มู่หวั่นหวันคนนี้หยิ่งมากเกินไป เจ้าควรจะหา
เป้าหมายใหม่เสียจะดีกว่า!”
ชายหนุ่มทั้งสี่คนกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานแต่ในทันใดนั้นชาย
หนุ่มคนหนึ่งก็เหลือบมองไปเห็น ซุนหลิงซิ่ว เขาตกตะลึงจนลืม
หายใจไปชั่วขณะ ความหลงใหลและคลั่งไคล้สว่างวาบขึ้นมาใน
ดวงตาของเขาทันที
ชายหนุ่มคนนั้นลุกรีบขึ้นยืนพร้อมกับเดินตรงเข้าไปหาซุนหลิงซิ่ว
ด้วยความตื่นเต้น “แม่นางเจ้าช่างงดงามยิ่งนัก เจ้าเป็นคนของเมือง
เปลวไฟใช่หรือไม่?”

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท