Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 306

ตอนที่ 306

ตอนที่ 306 สี่หลักการที่สำคัญ?

.

เตากลั่นยาสามขาขนาดใหญ่ ว่างอยู่กลางห้องดูโดดเด่นเป็นอย่างมาก

ด้านล่างเตากลั่นยามีเปลวเพลิงจากลาวาคอยหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา เตากลั่นยามีสีเขียวดูเก่าแก่โบราณมากเลยทีเดียว

ในตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องกลางถ้ำของภูเขาไฟที่ร้อนจัด แต่หวังเสียน ก็ไม่รู้สึกถึงความร้อนใดๆเลย

“นี่คือเตากลั่นยาซานชิงข้าได้พบมันในซากอารยธรรมโบราณแห่งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว เตาโบราณใบนี้สามารถกลั่นสมุนไพรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเลยทีเดียว ฉะนั้นการปรุงยาโดยใช้เตากลั่นยาซานชิงใบนี้จึงง่ายกว่าการใช้เตากลั่นยาทั่วๆไปมากนัก และก็เพราะเตากลั่นยาใบนี้อีกเช่นเดียวกันจึงทำให้ข้าประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ เตาซานชิงใบนี้นับได้ว่าเป็นรากฐานของข้าอย่างหนึ่งเลยทีเดียวก็ว่าได้!”

ซุยหวางยิ้มและมองไปที่หวังเสียน “ข้าไม่รู้ว่าปีศาจร้ายเช่นเจ้าสามารถประสบความสำเร็จในระดับนี้ได้อย่างไร แต่ข้าว่าเจ้าก็คงได้รับโชคลาภบางอย่างเช่นเดียวกันอย่างแน่นอน!”

“ฮึฮึ!” หวังเสียน ยิ้มและพยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็หันมองไปที่เตากลั่นยาโบราณใบนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการปรุงยาโดยใช้เตากลั่นยาตามที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โบราณหรือที่เคยดูในหนังทีวีนั้นจะมีอยู่จริง ถ้าอย่างนั้นการปรุงยาอายุวัฒนะที่สามารถทำให้มีชีวิตนิรันดร์ได้ก็คงจะมีอยู่จริงใช่หรือไม่?”

“ฮ่าๆๆ! ยาอมตะที่สามารถทำให้มีชีวิตอยู่นิรันดร์อย่างนั้นเหรอ ฮ่าๆๆ! ตามบันทึกจากประวัติศาสตร์แล้วจักรพรรดิในอดีตทุกๆคนต่างต้องการมีชีวิตอมตะ พวกเขาต่างแสวงหาวิธีสร้างและการปรุงยาขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง จนสามารถหาวิธีปรุงยาเพื่อยืดอายุไขของพวกเขาได้จริงๆ มันไม่ใช่เพียงแค่ตำนานเท่านั้น แต่มันมีอยู่จริง แต่ข้าก็ไม่แน่ใจว่ามันสามารถทำให้มีชีวิตอยู่เป็นนิรันดร์ได้หรือไม่!” เมื่อพูดถึงการปรับแต่งและปรุงยาอายุวัฒนะที่ชั่วยืดอายุไข ซุยหวางก็ยิ้มออกมาบางๆเหมือนกับว่าเขานั้นมีความมั่นใจและมีความสามารถในการปรับแต่งยาชนิดนี้ได้

“มันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ? เคยมีผู้เป็นอมตะอยู่บนโลกของเราจริงๆอย่างนั้นเหรอ?” หวังเสียน ถามออกมาด้วยความประหลาดใจ ดวงตาของเขาเป็นประกายออกมาด้วยความตื่นเต้น

“อาจจะใช่หรืออาจจะไม่ก็ได้!” ซุยหวางตอบออกมาอย่างคลุมเครือ ในขณะที่เขาอยู่ในห้วงความคิดก่อนที่จะกล่าวเสริมออกมาอีกว่า “จากบันทึกโบราณบางส่วนที่ข้าเคยได้อ่านเจอ มีบันทึกเกี่ยวกับยาอายุวัฒนะที่สามารถเพิ่มพูนชีวิตอยู่จริงๆ แต่อาจจะเป็นเพราะว่าสมัยโบราณนั้นออร่าของสวรรค์และปฐพีมีพลังแห่งจิตวิญญาณทางธรรมชาติที่สูง ต่างกับสมัยนี้มากนัก ที่ถือได้ว่าเป็นยุคเสื่อมโทรมแห่งพลังงานจิตวิญญาณทางธรรมชาติ!”

“และอีกสาเหตุหนึ่งนั่นก็คือผู้ฝึกตนสมัยโบราณแข็งแกร่งและทรงพลังเป็นอย่างมาก รวมถึงมียาสมุนไพรและยาจิตวิญญาณที่มีคุณภาพสูง การกลั่นและการปรุงยาอายุวัฒนะเพื่อเพิ่มอายุไขจึงสามารถทำได้ง่ายกว่าในปัจจุบันนี้มาก!”

หวังเสียนพยักหน้าเล็กน้อย โลกของผู้ฝึกตนนั้นลึกลับเกินไป ตามตำนานมีทั้งภูตผี ปีศาจ อสูรและเหล่าเทพเซียนที่ท่องไปทั่วโลกและมีผู้อมตะที่บินอยู่บนท้องฟ้า แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะไม่มีหลักฐานที่จะสามารถยืนยันข้อเท็จจริงนี้ได้

“เส้นทางการกลั่นและปรุงยานั้นกว้างใหญ่และลึกซึ้งมาก หากเจ้านั้นสามารถเป็นนักปรุงยาที่ทรงพลังได้ เจ้าก็จะสามารถได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากมัน และโดยทั่วไปแล้วมูลค่าของเม็ดยานั้นจะมีคุณภาพมากกว่ายาจิตวิญญาณตามธรรมชาติที่อยู่ในระดับเดียวกันมากกว่า 10 เท่า!” ซุยหวางอธิบาย

“จริงๆรึ!” หวังเสียนถามออกไปด้วยความตกใจ

“แน่นอนผลของยาอายุวัฒนะระดับ 1 สามารถเทียบได้กับผลของยาจิตวิญญาณระดับ 2 ได้เลยทีเดียว!” ซุยหวางอธิบายเพิ่มเติม

“ยาจิตวิญญาณในโลกเป็นเพียงต้นพืชที่ดูดซับพลังงานของสวรรค์และโลกเอาไว้นานนับปี การกลืนกินมันเข้าไปโดยตรงบางครั้งก็อาจก่อให้เกิดการสูญสลายและเสื่อมคุณภาพของตัวยาเอง แต่การกลั่นและควบแน่นเพื่อนำมาปรุงเป็นเม็ดยานั้น เป็นการหลอมรวมคุณสมบัติทั้งหมดของมันได้อย่างสูงสุดโดยขจัดสิ่งปนเปื้อนที่ไม่พึงประสงค์หรือสิ่งที่เป็นพิษต่อร่างกายทิ้งไป คุณภาพของเม็ดยาจึงดีกว่าการกินยาจิตวิญญาณโดยตรงอย่างเทียบกันไม่ได้เลยทีเดียว!”

“แต่ตามปกติแล้วการปรับแต่งและปรุงยานั้นเป็นสิ่งที่ยากมาก มันต้องใช้ทักษะและพรสวรรค์หลายๆอย่าง เช่นการรู้จักคุณภาพและสรรพคุณของพืชสมุนไพรจิตวิญญาณแต่ละชนิด, การควบคุมไฟและการควบแน่นโดยการใช้พลังทางจิตวิญญาณเพื่อขึ้นรูปเป็นเม็ดยาเป็นต้น และด้วยความสามารถในปัจจุบันนี้ของข้า ข้านั้นสามารถปรับแต่งและปรุงยาได้จนถึงเม็ดยาระดับ 5 เพียงเท่านั้นเอง!”

“เม็ดยาระดับ 5 ที่ข้าปรุงขึ้นมานั้นสามารถช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ สามารถทะลวงคอขวดก้าวเข้าไปสู่ระดับขั้นก่อกำเนิดลมปราณได้โดยไร้สิ่งกีดขวาง!”

“ส่วนเม็ดยาระดับ 6 นั้นสามารถทำให้ผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งขั้นขอบเขตเม็ดยาเซียน ก้าวเข้าสู่ระดับขอบเขตเม็ดยาเซียนได้โดยไม่มีปัญหา และเม็ดยาระดับ 7 นั้นสามารถช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งขั้นขอบเขตหยวนอิง ก้าวเข้าสู่ระดับขอบเขตหยวนอิง ได้อย่างไร้ซึ่งคอขวดเช่นเดียวกัน!”

[ขอบเขตหยวนอิงหรือขอบเขตผนึกปราณเทพ]

“โอ้ว! ประสิทธิภาพของยาที่ถูกปรุงขึ้นมานี่ช่างน่าเหลือเชื่อมากเลยจริงๆ!” หวังเสียนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“เส้นทางการฝึกฝนและบ่มเพาะนั้นมีปัจจัยหลักอยู่สี่อย่างนั่นก็คือ ความมั่งคั่ง, การตระหนักรู้, วิชาและโอกาส! หากขาดอย่างหนึ่งอย่างใดในสี่อย่างนี้การฝึกฝนจะช้าลงเป็นอย่างมาก หรืออาจถึงขั้นไม่สามารถฝึกฝนต่อไปได้อีกเลย!”

“ข้อแรกความมั่งคั่ง นั่นก็คือทรัพยากรการเงินของผู้ฝึกตนนั่นเอง มันค่อนข้างที่จะสำคัญมากที่สุดต่อให้บุคคลนั้นไม่มีพรสวรรค์มากนัก แต่ถ้ามีทรัพยากรและความมั่งคั่งมากมาย ก็สามารถฝึกฝนได้อย่างเชี่ยวชาญเช่นเดียวกัน ดังคำกล่าวที่ว่า ถ้าลมแรงมากพอจนก่อตัวเป็นพายุ ต่อให้เป็นหมูก็สามารถบินได้!”

“ข้อที่สองการตระหนักรู้ หมายถึงการเข้าใจและการใฝ่เรียนรู้ในเทคนิควิชาการบ่มเพาะหรือศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ มีเรื่องเล่าอยู่เรื่องหนึ่งผู้ฝึกตนระดับก่อกำเนิดลมปราณคนหนึ่งได้รับโอกาสผ่านเข้าไปในพื้นที่มิติทับซ้อนที่เป็นวัดเก่าแก่โบราณแห่งหนึ่ง จิตวิญญาณผู้พิทักษ์ในสถานที่แห่งนั้นได้อนุญาตให้เขาเลือกทักษะคัมภีร์วิชาที่อยู่ในวัดเก่าแก่แห่งนั้นออกไปได้เพียงแค่ 1 เล่มเท่านั้น แต่ด้วยความที่ตัวเขานั้นไม่รู้ภาษาโบราณเลยแม้แต่น้อย เขาจึงทำได้เพียงแค่สุ่มเลือกออกมาเพียงเท่านั้น หลังจากที่เขาออกมาแล้วและทำการศึกษาภาษาโบราณอยู่นานปีเขาจึงได้รู้ว่าหนังสือคัมภีร์ที่เขาได้เลือกออกมานั้นเป็นเพียงแค่เทคนิควิชาการฝึกสมาธิทั่วๆไปเพียงเท่านั้นเอง!”

“ข้อที่สามนั่นก็คือวิชา ข้อนี้นั้นก็ตรงตามหัวข้อเลยทีเดียว มันคือเทคนิควิชาการบ่มเพาะนั่นเอง หากวิชาที่เจ้าฝึกฝนนั้นมีคุณภาพที่สูงระดับขีดขั้นความสามารถของเจ้าก็จะสูงตามไปด้วยเช่นเดียวกัน!”

“ขอที่สี่นั่นก็คือโอกาสหรือโชคลาภวาสนา กล่าวก็คือมันสามารถรวมหลายๆปัจจัยสร้างโอกาสให้เราพัฒนาไปได้ไกลกว่าผู้อื่นนั่นเอง แต่สิ่งนี้บางครั้งเราก็ไม่สามารถกำหนดเองได้ ฉะนั้นสิ่งที่พอจะทำได้ในข้อที่สี่นี้นั่นก็คือ การเลือกสถานที่ในการฝึกฝนและบ่มเพาะเพื่อให้สอดคล้องกับตัวเรามากที่สุดก็ได้แล้ว!”

“เพราะฉะนั้นทั้งสี่หลักการที่ข้าได้กล่าวมานี้นั้นสำคัญและเกี่ยวเนื่องกันทุกสิ่ง โดยเฉพาะข้อแรกหากเจ้ามีความมั่งคั่งมากพอปัจจัยอื่นๆ เจ้าก็ยังพอมีโอกาสสามารถได้รับมันมาโดยการใช้ความมั่งคั่งของเจ้าซื้อหามา ฉะนั้นสรุปแล้วเจ้าก็ควรจะให้ความสำคัญกับการกลั่นและปรุงยาให้มาก เพราะการปรุงยานั้นสามารถสร้างความมั่นคั่งให้แก่เจ้าได้อย่างแน่นอนเลยทีเดียว!” ซุยหวางอธิบายและสรุปให้กับหวังเสียน

หวังเสียน ครุ่นคิดตามอย่างเงียบๆ ในฐานะที่เขานั้นเป็นราชันย์มังกรศักดิ์สิทธิ์ เขาสามารถใช้ระบบที่เขาได้รับมานั้นแทนหลักการสามข้อได้อย่างแน่นอน

ที่เขาขาดจริงๆนั่นก็คือข้อแรก ‘ความมั่งคั่ง!’

เพียงแค่เขามีความมั่งคั่งและการเงินที่มากมายมหาศาลเขาก็จะสามารถฝึกฝนได้อย่างไม่ยากเย็นเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการกลืนกินและวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขามันสามารถเพิ่มการฝึกฝนให้กับเขาได้อย่างรวดเร็ว ฉะนั้นในตอนนี้สิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับเขานั่นก็คือการสร้างความมั่งคั่งหรือการหาเงินนั่นเอง

‘หากเป็นเช่นนั้นฉันควรทำอย่างไร?’

‘เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการทั้งหมดของฉัน … ?’

ดวงตาของหวังเสียน เปล่งประกายร้อนแรงออกมาในทันทีเมื่อเขามองไปที่เตากลั่นยาสีเขียวที่วางอยู่กลางห้อง

ระบบที่เขาได้รับมานั้นแตกต่างจากที่เขาเคยอ่านจากนิยายหลายๆเรื่อง ระบบของเขานั้นไม่เคยให้รางวัลและแจกภารกิจใดๆให้กับเขา

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ระบบแจ้งเตือนออกมานั้นเขาต้องเป็นผู้ที่ต้องค้นหาด้วยตัวเอง ฉะนั้นเขาจึงไม่สามารถหวังพึ่งพาระบบของเขาได้มากนัก

“ตาเฒ่าซุยนั่นเตากลั่นยาของท่านใช่ไหม?” หวังเสียน เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาจากมุมปากของเขา “ท่านช่วยสาธิตการหลอมกลั่นและปรุงยาให้ข้าดูได้หรือไม่?”

เมื่อซุยหวางได้ยินคำพูดของหวังเสียน ก็สะดุ้งตกใจเล็กน้อย ใบหน้าของเขามืดมนลงในทันที เขามองไปที่หวังเสียน อย่างรู้เท่าทันพร้อมกับพูดออกมาในทันที “เจ้าปีศาจร้าย เจ้านี้มันหนังหนาเสียจริงๆ!”

“เอาเถอะน่าอย่าขี้งกไปหน่อยเลยตาเฒ่าซุย!” หวังเสียนพูดออกมาอย่างหน้าด้าน “หากว่าข้าหลอมกลั่นและปรุงยาเป็นเมื่อใด ข้าจะปรุงยาระดับ 6 ระดับ 7 และระดับ 8 ให้ท่านฟรีๆเลยทีเดียว!”

พร๊วดด!

ซุยหวาง สำลักน้ำลายตัวเองในทันที เมื่อได้ยินว่าหวังเสียน จะปรุงยาระดับ 7 และระดับ 8 “เจ้าคิดว่าการหลอมกลั่นและปรุงยา มันง่ายเหมือนการปั้นดินเหนียวหรืออย่างไร? เพียงแค่เจ้าจะหาสูตรยาหรือวัตถุดิบของยาระดับ 7 ระดับ 8 เจ้าก็หาไม่ได้แล้ว! เจ้านี่มันขี้โม้มากจริงๆ!”

“เอาเถอะอย่าพูดมากเลยตาเฒ่าซุย! รีบแสดงการปรุงยาของท่านให้ข้าดูได้แล้ว!” หวังเสียน ยังคงเร่งเร้าอย่างหน้าด้านต่อไป

“เจ้าปีศาจร้าย!” ซุยหวาง รู้สึกไม่พอใจเมื่อเขาได้รู้จุดประสงค์ของหวังเสียน ที่ต้องการแอบศึกษาและขโมยเทคนิคการหลอมกลั่นและปรุงยาของเขา สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นไม้เด็ดของเขาเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเขาจำได้ว่าลูกศิษย์คนโปรดของเขาเป็นภรรยาของเจ้าปีศาจร้ายตัวนี้ เขาก็ทำได้เพียงแค่ส่ายหัวอย่างจนใจ

เพราะเขาเดาได้ว่าเจ้าปีศาจร้ายตัวนี้ก็ต้องแอบไปสอบถามและศึกษาวิธีปรุงยาจากลูกศิษย์ของเขาได้อยู่ดี

“เอาล่ะ! ข้าจะยอมให้เจ้าศึกษาเทคนิคการปรุงยาของข้าก็ได้ แต่เจ้าต้องสัญญากับข้าก่อน หากวันใดที่ตระกูลซุยของข้านั้นเกิดวิกฤตที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองขึ้นมา ข้าหวังว่าเจ้าคงจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตระกูลของข้าได้ และนอกจากนี้เจ้าต้องมอบสมบัติจิตวิญญาณบางอย่างให้กับข้าเพื่อชดเชยในเรื่องนี้อีกด้วย!” ซุยหวางพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและจริงจัง

“ตกลง! แต่ข้าไม่สามารถช่วยปกป้องตระกูลซุยของท่านตลอดไปได้หรอกนะ ข้าจะช่วยตระกูลของท่านสามครั้ง ไม่ว่าวิกฤตหรือปัญหาใหญ่ใดๆเพียงแค่คนในตระกูลของท่านร้องขอความช่วยเหลือจากข้า ข้าจะช่วยเหลือตระกูลซุยของพวกท่านสามครั้งเพียงเท่านั้น!” หวังเสียน ขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับตอบออกไปอย่างจริงจังเช่นเดียวกัน

“แล้วอีกอย่างท่านอยากจะได้สมบัติชนิดใดกันล่ะตาเฒ่าซุย เพราะในตอนนี้ข้านั้นไม่มีสมบัติใดๆติดตัวอยู่เลยแม้แต่ชิ้นเดียว?” หวังเสียน ถามออกมาเพราะว่าในตอนนี้ในตัวของเขาไม่มีสมบัติใดๆติดตัวอยู่เลยจริงๆ ยาจิตวิญญาณที่เขามีนั้นก็ถูกตาเฒ่าซุยนำไปปรุงยาให้กับกวนชูชิงและเสี่ยวหรัน หมดแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นก็รอจนกว่าเจ้าจะได้สมบัติจิตวิญญาณหรือยาจิตวิญญาณมาก่อน แล้วข้าจะแสดงเทคนิคการปรุงยาให้เจ้าดูก็แล้วกัน!” ซุยหวางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่เชื่อว่าหวังเสียน นั้นไม่มีสมบัติใดๆติดตัวเลย

“นี่ตาเฒ่าซุย เรื่องนั้นเราค่อยมาคุยกันทีหลังได้หรือไม่ หลังจากนี้หากข้าได้พบกับสมบัติจิตวิญญาณที่ดีๆ ข้าก็จะมอบมันให้กับท่านก็แล้วกัน! ดีไหม?” หวังเสียนยังคงพูดออกมาอย่างหน้าหนา

“ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก! หากว่าเจ้าได้เรียนรู้การหลอมกลั่นและการปรุงยาจากข้าไปแล้ว ถ้าเจ้าได้พบสมบัติจิตวิญญาณที่ดีๆเจ้าคงไม่ยอมมอบมันให้แก่ข้าอย่างแน่นอน!” ซุยหวางหรี่ตามองไปที่หวังเสียน ในขณะที่เขาพูด

“ไอ้เฒ่าขี้งก! ข้าเป็นคนแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!” หวังเสียน ตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด

“ฮึ! ข้าพอจะรู้นิสัยคนอย่างเจ้าดี ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้คบกันมานานนัก แต่ข้าเชื่อว่าถ้าเจ้าได้พบสิ่งของที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้า เจ้าจะไม่นำมันออกมามอบให้แก่ข้าอย่างแน่นอน!” ซุยหวางพูดออกมาด้วยความมั่นใจ

“เจ้า!…เจ้าทำไมมองข้าเป็นคนแบบนั้นไปได้!” หวังเสียน รู้สึกพูดไม่ออกและน้ำเสียงของเขาก็เบาลง เหมือนกับถูกจี้ใจดำ

“ฮึ่มม! เอาล่ะ! ข้าจะไม่ต่อล้อต่อเถียงกับผู้ชายจุกจิกจู้จี้เช่นท่านอีกแล้วตาเฒ่าขี้แย! หากข้าพบสมบัติจิตวิญญาณหรือยาจิตวิญญาณที่ดีข้าจะนำมันมาแลกกับวิธีการหลอมกลั่นและการปรุงยาของท่านก็แล้วกัน!” หวังเสียน พูดออกมาอย่างหมดหนทางพร้อมกับส่ายหัวเล็กน้อย

หลังจากนั้นเขาก็รีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว “ฮิฮิ! ไปกันเถอะท่านจักรพรรดิซุย พาข้าไปเดินดูของดีๆที่อื่นต่อเถอะนะ!”

“ฮึ! ไม่เรียกข้าว่าตาเฒ่าซุยอีกแล้วเหรอ?”

“เอาเถอะน่า! จะเรียกท่านว่าจักรพรรดิซุยหรือตาเฒ่าซุย ท่านก็ยังคงเป็นคนที่หล่อเหลาและดูดีในสายตาของข้าเช่นเดิมนั่นแหละน่า!”

……..

จบบท

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท