“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสสำหรับความเมตตาต่อตระกูลซุยของพวกเรา!”
สาวกของตระกูลซุยทั้งหกคน ที่ถูกชำระล้างเส้นลมปราณโดยหวังเสียน พวกเขาคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับแสดงความเคารพและขอบคุณหวังเสียน อย่างนอบน้อม
สมาชิกที่เหลือของตระกูลซุยที่ได้เห็นเหล่าผู้อาวุโสระดับสูง กล่าวคำขอบคุณและทำความเคารพหวังเสียน ในก่อนหน้านี้ พวกเขาก็รู้มารยาทและธรรมเนียมเป็นอย่างดีว่าต้องทำอย่างไร
ดังนั้นพวกเขาจึงยืนขึ้นทีละคนและพูดเสียงดังว่า “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสสำหรับความเมตตา!”
หวังเสียนที่นั่งอยู่ข้างซุยหวางโบกมืออย่างเรียบง่าย หลังจากนั้นเขาก็หันไปหาซุยหวางและพูดว่า “ตาเฒ่าซุยถึงแม้ว่าข้านั้นจะเคารพนับถือท่านในฐานะสหาย แต่ลูกแก้วจิตวิญญาณพวกนั้นข้าก็ต้องฝ่าฟันอย่างยากลำบากจนเลือดตาแทบกระเด็นเลยนะ กว่าจะได้พวกมันมา!”
“เอาล่ะ! ข้าเข้าใจในสิ่งที่เจ้ากำลังจะพูดแล้ว เจ้าปีศาจร้าย!” ซุยหวาง มองเขาก่อนที่จะพูดต่อ “อีกสักครู่เจ้าก็กลับไปพร้อมกันกับข้า และข้าจะมอบหนังสือทักษะการหลอมกลั่นและการปรุงยาให้เจ้ายืม!”
“โอ้ว! ขอบคุณท่านจักรพรรดิซุยผู้ยิ่งใหญ่ ฮิๆๆ!” หวังเสียน ยิ้มและหัวเราะออกมาเบาๆ ธุรกิจในครั้งนี้ได้กำไรเป็นอย่างยิ่งเขาเสียพลังงานมังกรศักดิ์สิทธิ์ไปเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
หวังเสียนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก นับว่าในครั้งนี้เขาเดิมพันได้อย่างถูกต้อง ด้วยการที่เขานั้นแสดงความเมตตาต่อลูกหลานของตระกูลซุย ฉะนั้นซุยหวางจะไม่ปฏิเสธในสิ่งที่เขาต้องการอย่างแน่นอน จากที่ได้พิจารณาถึงบุคลิกและนิสัยใจคอของเขาแล้ว
และท้ายที่สุดนั้นหวังเสียน ก็ได้ช่วยเหลือคนในตระกูลซุยของซุยหวาง อย่างมากจริงๆ ด้วยการที่เพิ่มผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณมากถึงหกคนในครั้งนี้ นี่นับว่าเป็นของขวัญชิ้นที่ใหญ่มากเลยทีเดียวสำหรับคนในตระกูลซุย
“พวกเจ้าทุกคนจงฟัง! จากเหตุการณ์ในวันนี้พวกเจ้าทุกคนคงจะเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในตระกูลซุยของพวกเราแล้ว ฉะนั้นหลังจากนี้ไปพวกเจ้าทุกคนจงปฏิบัติตัวกันเสียใหม่ และอย่าให้เหตุการณ์เช่นนี้ต้องเกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นข้าจะลงโทษพวกเจ้าทั้งหมดด้วยตัวของข้าเอง!” ซุยหวาง พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน พร้อมกับหันไปจ้องมองกลุ่มผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลซุยด้วยสายตาที่เข้มงวด ก่อนที่เขาจะหันหลังเดินออกไป
“ครับท่านบรรพบุรุษ!”
เหล่าสมาชิกทั้งหมดของตระกูลซุยโค้งตัวลงคำนับ ซุยหวางพร้อมกับตอบรับคำสั่งของบรรพบุรุษพวกเขาด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข็งและจริงจัง
ในตอนนี้สาวกทั้งหมดของตระกูลซุยต่างรู้ดีว่ามาตรฐานของพวกเขานั้นตกต่ำลงมากแค่ไหน สิ่งนี้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ มันคงจะน่าแปลกใจหากท่านบรรพบุรุษของพวกเขานั้นจะไม่รู้สึกโกรธ เพราะแม้แต่ผู้นำตระกูลและผู้อาวุโสระดับสูงก็ยังรู้สึกละอายใจกันเป็นอย่างยิ่ง หลังจากนี้พวกเขาคงจะต้องเข้มงวดและกวดขันกับบรรดาลูกหลานและสาวกของตระกูลซุยให้มากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว!
แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังรู้สึกโล่งใจลงไปได้ค่อนข้างมาก เพราะสิ่งที่หวังเสียนได้ช่วยเหลือคนในตระกูลของพวกเขานั้นสามารถชดเชยจุดอ่อนเหล่านี้ได้มากเลยทีเดียว นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทุกคนในตระกูลซุยต่างให้ความเคารพกับหวังเสียน เหมือนกับแขกระดับอาวุโสที่มีเกียรติระดับสูงสุดของตระกูลซุย
“ชายหนุ่มคนที่อยู่กับท่านบรรพบุรุษคนนั้นเขาเป็นใครกันแน่? ความสามารถของเขานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว ลูกบอลเปลวเพลิงที่เขาพ่นออกมาจากปากสามารถกลายเป็นมังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณก็ยังไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อย!”
“ความสามารถทางการแพทย์และการรักษาของเขานั้นก็สุดยอดมากเลยจริงๆ เพียงแค่โบกมือเบาๆอาการบาดเจ็บของคนกลุ่มใหญ่ก็ถูกรักษาให้หายได้ภายในพริบตา ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขานั้นสามารถนั่งอยู่ในระดับเดียวกันกับท่านบรรพบุรุษของพวกเราได้!”
“ระดับการฝึกฝนและบ่มเพาะของเขานั้นก็ต้องสูงมากเช่นเดียวกัน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถควบคุมสมบัติจิตวิญญาณชิ้นนั้นได้อย่างแน่นอน และข้าคิดว่าเขาคงอยู่ในระดับเดียวกับท่านบรรพบุรุษของพวกเราอย่างแน่นอน!”
“ระดับเดียวกันกับท่านบรรพบุรุษอย่างนั้นเหรอ? เขายังเด็กมากอยู่เลยไม่ใช่เหรอนั่น! แล้วในอนาคตความแข็งแกร่งของเขานั้นจะอยู่ในระดับใดกันแน่? ช่างเป็นชายหนุ่มที่น่าหวาดกลัวเสียจริงๆ!”
“แต่นั่นก็เป็นข้อดีไม่ใช่หรอกเหรอ? เพราะดูจากท่าทางแล้วเขานั้นสนิทกับท่านบรรพบุรุษของพวกเราเป็นอย่างมาก และหากได้เขาเป็นผู้สนับสนุนตระกูลซุยของพวกเราแล้วล่ะก็ ตระกูลของพวกเราก็คงจะรุ่งเรืองไปอีกนานนับศตวรรษอย่างแน่นอน!”
เมื่อสิ้นสุดพิธีการรับลูกศิษย์เรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เห็นบรรพบุรุษของพวกเขาเดินจากไปพร้อมกับหวังเสียน เหล่าสาวกของตระกูลซุยต่างพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเราร้อน ด้วยความรู้สึกหวาดกลัวและเคารพในตัวหวังเสียน อย่างมากเลยทีเดียว
แม้แต่รุ่นที่สองของตระกูลซุยยังต้องมองไปที่ด้านหลังของเขาด้วยความกลัวและเคารพ ในขณะที่พวกเขาถอนหายใจออกมาเบาๆ
หวังเสียนสามารถได้ยินคำพูดของคนในตระกูลซุยได้อย่างชัดเจน มีรอยยิ้มบางๆปรากฏอยู่ที่มุมปากของเขาอย่างไม่รู้ตัว แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพียงแค่ในตอนนี้เขานั้นรู้สึกอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษก็เท่านั้นเอง
เขารีบเดินตามหลังซุยหวางจนมาถึงด้านในถ้ำด้วยความกระตือรือร้น
“นี่คือหนังสือเทคนิคลับการหลอมกลั่นและปรุงยาของข้า ข้าจะอนุญาตให้เจ้านั้นได้นำไปศึกษาเพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น!”
ภายในถ้ำซุยหวางหยิบหนังสือหน้าตาเรียบง่ายที่ทำจากหนังแกะออกมายื่นส่งให้กับหวังเสียน
แต่ตัวอักษรบนหนังสือหนังแกะเล่มนี้เป็นภาษาโบราณที่หวังเสียนอ่านแล้วไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย
แต่โชคดีที่มีกระดาษคำแปลติดอยู่กับทุกหน้าของหนังสือหนังแกะ ซึ่งถูกแปลเป็นภาษาปัจจุบันเอาไว้แล้ว บางข้อความยังถูกอธิบายไว้โดยละเอียดอีกด้วย
“เป็นหนังสือโบราณที่วิเศษมากเลยล่ะเฒ่าซุย! ข้าขอขอบคุณท่านมากเลยจริงๆ! หลังจากที่ข้าสามารถเป็นนักปรุงยาระดับสูงแล้ว ข้าจะปรับแต่งยาระดับสูงให้กับท่านเป็นการตอบแทนก็แล้วกันนะ ฮ่าๆๆ!” หวังเสียน หัวเราะออกมาเบาๆ
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาได้เข้าไปพูดคุยกับ กลุ่มเด็กสาวทั้งสี่คนเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เขาก็หยิบหนังสือเล่มนั้นออกมาและเริ่มอ่านมันในทันที…
‘เอาล่ะ! หวังว่าข้าคงจะสามารถศึกษาและกลายเป็นนักปรุงยากับเขาได้นะ!’
หวังเสียนหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดพึมพำออกมาเบาๆ
หากว่าเขาสามารถกลืนกินและสกัดพลังงานพลังมังกรจากต้นพืชยาจิตวิญญาณได้ เขาก็น่าจะสามารถสกัดพลังงานมังกรจากเม็ดยาพวกนี้ได้เช่นเดียวกัน หากว่าเป็นอย่างที่ซุยหวางได้พูดเอาไว้ว่าเม็ดยาจิตวิญญาณนั้นมีผลมากกว่าต้นยาจิตวิญญาณที่เป็นพืชมากถึง 10 เท่า
นั่นก็หมายความว่าพลังงานมังกรในเม็ดยาจิตวิญญาณที่ถูกปรับแต่งขึ้นมา ก็จะต้องมีมากกว่าต้นยาจิตวิญญาณอย่างน้อยหลายเท่าตัว
และถ้าเป็นเช่นนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว!
และนอกจากนี้เขายังจะสามารถปรุงยาเพื่อยกระดับความสามารถของเหล่านักรบมังกรเข้าสู่ระดับก่อกำเนิดลมปราณได้อย่างรวดเร็ว แต่ในตอนนี้มันก็คงจะยากมากหากต้องการยกระดับพวกเขาเข้าสู่ระดับขอบเขตเม็ดยาเซียน เพราะในตอนนี้เขานั้นไม่มีสมุนไพรจิตวิญญาณระดับสูงสำหรับหลอมกลั่นกันและปรุงยา
ดังนั้นหากว่าเขาสามารถเพาะพันธุ์ต้นยาจิตวิญญาณหรือพืชสมุนไพรจิตวิญญาณระดับสูงได้ เขาก็น่าจะสามารถยกระดับความแข็งแกร่งของเหล่านักรบมังกรเข้าสู่ระดับขอบเขตเม็ดยาเซียนได้อย่างรวดเร็วหรือแม้แต่กระทั่งในระดับที่สูงกว่าได้
หวังเสียนพลิกดูเทคนิคการหลอมกลั่นและปรุงยาจากหนังสืออย่างช้าๆ ในขณะที่การจดจำของเขานั้นแม่นยำและทรงพลังเป็นอย่างมาก
[ติงง! ได้รับความสามารถและความเข้าใจในการหลอมกลั่นและการปรุงยาแล้ว]
หลังจากผ่านไปประมาณ 5 ชั่วโมง เสียงการแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในหัวของหวังเสียน รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาในทันที
…..
[ชื่อ:หวังเสียน]
[เผ่าพันธุ์: ราชันย์มังกรศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ (สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้)]
[ระดับ: 7]
[พลังงานมังกร: 1,963,421 / 10,000,000 ]
[พลังพิเศษ: -ปกครองสัตว์น้ำ (ความสามารถในการปกครองสัตว์น้ำทุกชนิดที่ต่ำกว่าระดับของตัวเอง)]
[กลืนกิน (วัตถุหรือสิ่งมีชีวิตที่มีพลังงานเพื่อสกัดเปลี่ยนเป็นพลังงานมังกร)]
[การควบคุมธาตุทั้งห้า]
[เทคนิคการหลอมกลั่นและการปรุงยา : ผู้ฝึกหัดการปรุงยา (สามารถปรับแต่งและปรุงยาได้ทุกชนิดในโลกโดยการใช้เปลวเพลิงต้นกำเนิด)]
[เทคนิคการบ่มเพาะ: ราชันย์มังกรศักดิ์สิทธิ์]
….
หวังเสียน มองไปที่คุณลักษณะและความสามารถของเขาผ่านระบบ เขาได้สังเกตเห็น ‘เทคนิคการหลอมกลั่นและการปรุงยา’ ซึ่งอยู่ในระดับ ‘ผู้ฝึกหัดการปรุงยา’ กลายเป็นหนึ่งในความสามารถติดตัวของเขาแล้วในตอนนี้
และที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากที่สุดนั่นก็คือ ‘สามารถปรับแต่งและปรุงยาได้ทุกชนิดในโลกโดยการใช้เปลวเพลิงต้นกำเนิด’ ข้อความเช่นนี้นั้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าหากเขาได้รับสูตรยาและมีวัตถุดิบที่เพียงพอเขาก็จะสามารถ ปรุงยาในระดับใดก็ได้อย่างนั้นใช่หรือไม่?
‘ฉันสงสัยว่าเทคนิคการหลอมกลั่นและการปรุงยาของฉันนั้นจะมีความแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้ฉันนั้นเป็นแค่ ผู้ฝึกหัดการปรุงยาเพียงเท่านั้น ฉันควรจะทดลองการปรุงยาดูก่อนดีหรือไม่?’
เม็ดยาจิตวิญญาณระดับ 3 นั้น ถือได้ว่าเป็นเม็ดยาระดับต่ำ มันจึงไม่จำเป็นจะต้องใช้เตากลั่นยาเพื่อปรุงยาขึ้นมา จะใช้ก็เพียงแค่สมบัติจิตวิญญาณแห่งธาตุไฟในการหลอมกลั่นเพียงเท่านั้น
‘น่าเสียดายที่ตอนนี้ฉันไม่มีต้นหญ้าจิตวิญญาณหรือต้นพืชสมุนไพรจิตวิญญาณใดๆมาทดลองดูได้! หลังจากนี้ฉันคงต้องหาเวลาเพื่อทดสอบการปรุงยาของฉันดูเสียหน่อยแล้ว!’ หวังเสียน คิดกับตัวเอง
หนังสือเทคนิคการหลอมกลั่นและการปรุงยาโบราณเล่มนี้ มีความหนาประมาณ 40 หน้ากระดาษ และ 3 หน้าแรกนั้นเป็นวิธีแนะนำเกี่ยวกับการหลอมกลั่นและขึ้นรูปเม็ดยา ส่วนหน้าที่เหลือนั้นเป็นสูตรเม็ดยาจิตวิญญาณทั้งหมด
สูตรเม็ดยาจิตวิญญาณมีความสำคัญมากสำหรับอาชีพนักปรุงยา หากไม่มีสูตรเม็ดยาจิตวิญญาณมันจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับการปรับแต่งและปรุงยาขึ้นมา พวกเขาจะต้องคิดค้นและทดลองส่วนประกอบของต้นหญ้าจิตวิญญาณและพืชสมุนไพรจิตวิญญาณอยู่หลายครั้งจนกว่าจะสามารถได้เม็ดยาจิตวิญญาณอย่างที่พวกเขาต้องการ
และการทดลองหลอมกลั่นและปรุงยาด้วยตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเม็ดยาจิตวิญญาณระดับสูง การทดลองหรือการผิดพลาดหลายๆครั้งจะทำให้เกิดความเสียหายที่มีมูลค่ามากมายมหาศาลเลยทีเดียว
เพราะส่วนประกอบที่สำคัญของเม็ดยาจิตวิญญาณระดับสูงนั่นก็คือต้นยาจิตวิญญาณและพืชสมุนไพรจิตวิญญาณระดับสูงนั่นเอง
หวังเสียน นั้นมีสมาธิและจดจ่ออย่างดีเยี่ยม ตลอดทั้งคืนเขาสามารถจดจำกระบวนการหลอมกลั่นการขึ้นรูปเม็ดยาและการปรุงยารวมถึงสูตรยาทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้ได้อย่างสมบูรณ์และแม่นยำ
“เป็นอย่างไรบ้าง? น้องชายหวังเสียน เจ้าเข้าใจเทคนิคการหลอมกลั่นและการปรุงยาหรือไม่?” ในเช้าวันรุ่งขึ้น ซุยหวางเดินเข้ามาหาหวังเสียนในถ้ำและถามเขาด้วยรอยยิ้มที่สดใส
“ในตอนนี้ข้าสามารถเข้าใจและจดจำตัวอักษรทุกตัวที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ได้จนหมดแล้ว! อีกไม่นานหลังจากนี้โลกจะให้กำเนิดนักปรุงยาอัจฉริยะขึ้นมาแล้ว ฮ่าๆๆ!” หวังเสียน ยิ้มแล้วตอบซุยหวาง อย่างล้อเล่น
“โอ้ว! ดูเหมือนว่าความสามารถของเจ้านั้นจะกลายเป็นผู้ปรุงยาที่ก้าวผ่านยุคสมัยและครองความยิ่งใหญ่เหนือกว่านักปรุงยาทุกๆคนแล้วล่ะ และต่อจากนั้นเจ้าก็จะครองโลกด้วยเทคนิคการปรุงยาอันทรงพลังของเจ้าใช่หรือไม่?” ซุยหวางแกล้งพูดออกมาอย่างประชดประชันเช่นเดียวกัน
“ฮึๆๆ!” หวังเสียน หัวเราะออกมาเบาๆและไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรออกไป ก่อนที่เขาจะส่งหนังสือคืนให้กับซุยหวาง “ตาเฒ่าซุยพวกเราจะกลับบ้านกันในวันนี้ ท่านจะกลับไปพร้อมกับพวกเราเลยหรือไม่?”
“คงจะไม่! ข้ามีธุระที่จะต้องจัดการเรื่องในตระกูลอยู่อีกเล็กน้อย! คงอีกสักประมาณ 2-3 วันข้าจะตามพวกเจ้ากลับไป!” ซุยหวางส่ายหัวแล้วตอบกลับหวังเสียน
หวังเสียน พยักหน้าอย่างเข้าใจ เพราะว่าซุยหวางนั้นเป็นถึงบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ เขานั้นก็ต้องมีธุระที่จะต้องจัดการอย่างมากมายเช่นเดียวกัน และอีกอย่างมันก็เป็นเวลานานมากแล้วที่ตัวเขานั้นไม่ได้กลับมาอยู่กับคนในครอบครัวของเขา มันเป็นธรรมดาที่เขาจะต้องใช้เวลาอยู่กับลูกหลานในตระกูลของเขาบ้าง!
….
“นายท่านขอรับ!”
ในขณะนั้นเองโม่ชิงหลง รีบเดินตรงเข้ามาหาหวังเสียน พร้อมกับมีเรื่องรายงานเขาอย่างเร่งด่วน “นายท่านขอรับ! มีข่าวบางอย่างส่งมาจากนักรบมังกรของพวกเราขอรับ!”
“หือ? มีอะไรอย่างนั้นรึ?”
หวังเสียน รีบถามขึ้นมาในทันที เขานั้นคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้นักรบมังกรทั้งสองคนของเขานั่นก็คือ อสูรที่ 23 และอสูรที่ 31 ต้องเสียชีวิตลงไป เพราะก่อนที่จะมายังเมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้เขาได้กำชับและสั่งงานโม่หยวนและเหล่านักรบมังกรที่เหลือให้ทำการสืบค้นหาต้นตอของผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้ เพื่อที่พวกเขานั้นจะได้ล้างแค้นในทันที
“นักรบมังกรคนหนึ่งของเราได้พบซากอารยธรรมโบราณแห่งหนึ่งในทะเล และซากอารยธรรมโบราณแห่งนี้นั้นมีพลังงานทางจิตวิญญาณที่สูงมากเลยทีเดียวขอรับ!” โม่ชิงหลงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นและกระตือรือร้น
“ซากอารยธรรมโบราณ? สถานที่ที่มีพลังงานทางจิตวิญญาณระดับสูงอย่างนั้นเหรอ?”
หวังเสียนตกใจและสับสนกับข้อมูลที่เขาเพิ่งได้รับในทันที
“อสูรที่ 15 นั้นได้พบกับเกาะกลางทะเล ที่มีพลังงานทางจิตวิญญาณระดับสูง จากการคาดเดาของเขา เขาคิดว่าน่าจะต้องมีสำนักโบราณก่อตั้งอยู่ที่นั่นอย่างแน่นอน และเขายังแจ้งมาอีกว่าน่าจะมีสมบัติจิตวิญญาณระดับสูงอยู่บนเกาะแห่งนี้อีกด้วยขอรับ!”
“แต่อย่างไรก็ตามสถานที่รอบๆเกาะแห่งนั้นถูกรายล้อมไปด้วยสัตว์อสูรทะเลที่มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากคอยปกป้องเกาะลึกลับแห่งนี้เอาไว้ และเขาก็ไม่ใช่คนเดียวที่ได้พบกับเกาะลึกลับแห่งนี้กองกำลังอื่นๆที่มีความแข็งแกร่งระดับสูงก็ตรวจพบเช่นเดียวกัน และในตอนนี้อสูรที่ 15 ได้แจ้งกระผมมาว่ากองกำลังเหล่านั้นกำลังรีบเร่งตรงไปยังเกาะลึกลับแห่งนั้นกันอย่างรวดเร็ว!”
“ซากอารยธรรมโบราณจากสำนักโบราณในยุคเก่าแก่อย่างนั้นเหรอ? หากเป็นเช่นนั้นจริงๆก็อาจจะมีต้นยาจิตวิญญาณและพืชสมุนไพรจิตวิญญาณระดับสูงอยู่ในนั้นก็เป็นได้! และก็อาจจะมีสมบัติจิตวิญญาณอยู่ที่นั่นเป็นจำนวนมากอีกด้วย!”
………
จบบท