Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 321

ตอนที่ 321

ตอนที่ 321 (ตอนฟรี) มอบของขวัญ!

.

หลังจากที่เห็นว่าโอรสสวรรค์นั้นไม่ค่อยมีความสุขมากนัก เหล่าสาวกที่รายล้อมอยู่รอบๆตัวเขาก็เงียบเสียงลงในทันที สาวกหญิงสาวบางคนมองไปที่ ถังหยินซวง จากทางด้านหลังด้วยความอิจฉา

เด็กสาวที่ไม่มีภูมิหลังที่โดดเด่นอะไรมากนัก แต่กลับได้รับความสนใจและโปรดปรานจากว่าที่เจ้าสำนักคนต่อไปได้อย่างไร?

แต่ในขณะนี้ถังหยินซวงเพียงแค่รีบเดินไปที่ร้านอาหารของโรงแรมในทันที เธอเพียงแค่อยากจะรู้ว่าหวังเสียนนั้นได้เตรียมของขวัญอะไรไว้ให้กับเธอ และเธอก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับเหล่าสาวกที่เหลือของสำนักเสียงสวรรค์ที่กำลังกล่าวพาดพิงและดูหมิ่นเธอเลยแม้แต่น้อย

เพราะหากพูดกันตามตรงแล้วเธอนั้นแทบจะไม่มีเพื่อนอยู่ในสำนักเลย ในก่อนหน้านี้นั้นเธอไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของสำนักเสียงสวรรค์โดยตรง

เธอถูกค้นพบความสามารถโดยผู้อาวุโสระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณคนหนึ่งของสำนักเสียงสวรรค์ และถูกนำตัวเข้ามาเป็นศิษย์ในช่วงเวลานั้นเอง

และด้วยความสามารถของตัวเอง เธอได้ก้าวเข้ามากลายเป็นศิษย์หลักโดยใช้เวลาเพียงแค่ 10 ปีเพียงเท่านั้น

และถึงแม้ในตอนนี้เธอนั้นจะมีความสามารถในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังไม่มั่นใจผลการคัดเลือกในวันพรุ่งนี้

เพราะตัวเธอไม่มีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งในสำนักเลยแม้แต่คนเดียว ผู้อาวุโสที่นำเธอเข้ามาในสำนักก็เป็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับล่างของสำนักเพียงแค่นั้น เขาแทบจะไม่มีสิทธิ์มีเสียงใดๆในสำนักเสียงสวรรค์เลยแม้แต่น้อย

และโดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกสาวของรองเจ้าสำนักเสียงสวรรค์ยังเป็นคู่แข่งกับเธอในครั้งนี้อีกด้วย เธอและอาจารย์ของเธอจึงมีความหวังเล็กน้อยเพียงเท่านั้นสำหรับตำแหน่งธิดาสวรรค์และว่าที่เจ้าสำนักคนต่อไปของสำนักเสียงสวรรค์

เธอยอมรับได้หากคู่แข่งนั้นมีความสามารถที่เหนือกว่าเธอและต่อสู้กันอย่างเท่าเทียม แต่คู่แข่งของเธอกลับใช้อำนาจของการเป็นลูกสาวรองเจ้าสำนักกีดกันและลิดรอนทรัพยากรในการฝึกฝนส่วนของเธอที่สมควรจะได้รับนำไปเป็นของตัวเอง สิ่งนี้ทำให้เธอไม่สามารถยอมรับได้

“เขาอยู่ที่ตรงไหนกันนะ?” ถังหยินซวง พูดขึ้นมากับตัวเองเบาๆ ในขณะที่เธอเดินมาถึงร้านอาหารของโรงแรมพร้อมกับกวาดสายตามองเข้าไปข้างใน

เมื่อเดินเข้าไป ถังหยินซวง มองเห็นเขานั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะด้านหนึ่งในร้านอาหาร

ในขณะที่อีกสองคนที่เธอเคยเห็นในก่อนหน้านี้นั้นนั่งอยู่อีกโต๊ะหนึ่งที่ไม่ไกลจากเขามากนัก

“ถังหยินซวง! ผมไม่คิดว่าคุณจะมาถึงที่นี่เร็วขนาดนี้!” หวังเสียน โบกมือแล้วทักทายถังหยินซวงด้วยรอยยิ้ม

หวังเสียนสั่งอาหารเอาไว้เพื่อรอเธออยู่แล้ว ที่บนโต๊ะมีดาบล้ำค่าและกล่องใส่พิณวางไว้อยู่ที่ด้านหนึ่ง

ถังหยินซวง มองไปที่หวังเสียน และถามขึ้นมาว่า “คุณชายหวัง! ฉันขอทราบจุดประสงค์ที่คุณเข้ามาพบฉันได้ไหม?”

หวังเสียน ยิ้มออกมาบางๆ เสน่ห์และความหล่อเหลาของเขานั้นมากกว่าชายหนุ่มที่เป็นโอรสสวรรค์ของสำนักเสียงสวรรค์อย่างเทียบกันไม่ติด

แต่อย่างไรก็ตาม ถังหยินซวง รู้ดีกว่า ชายหนุ่มคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอนี้ น่าจะต้องเป็นหัวหน้าของกลุ่มองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬที่น่ากลัวกลุ่มนั้นอย่างแน่นอน

“พอดีผมมีธุระที่เมืองนี้นิดหน่อย! แล้วรู้ว่าคุณนั้นอยู่ที่เมืองนี้จึงตั้งใจจะมาขอโทษสำหรับเรื่องพิณของคุณในก่อนหน้านี้!” หวังเสียน ตอบออกมาด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ และเขายังสังเกตเห็นได้ว่า ถังหยินซวง ไม่ได้สะพายพิณใดๆไว้ที่ด้านหลังของเธอเหมือนตอนเจอกันในครั้งก่อน น่าจะเป็นเพราะเธอยังไม่พบพิณคันที่เหมาะสมกับเธออย่างแน่นอน

“คุณไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้! เพราะว่าในครั้งก่อนนั้นมันเป็นเหตุที่สุดวิสัยจริงๆ ฉันและคุณก็รู้ดีว่าในตอนนั้นพวกเราเสี่ยงความตายกันมากขนาดไหน!” ถังหยินซวง พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะประชดประชัน เธอคงยังยืนอยู่และยังไม่ได้นั่งลงตามคำเชิญของหวังเสียน

หลังจากที่หวังเสียน จัดการกับมือสังหารเหล่านั้น เธอจึงรู้ถึงระดับความแข็งแกร่งของเขา แต่เขากลับไม่ทำอะไรเลยในก่อนหน้า จนทำให้พิณของเธอต้องพังลงไป เธอจึงยังคงรู้สึกโกรธเคืองเขาอยู่เล็กน้อย

หวังเสียนส่ายหัวเมื่อเห็นใบหน้าที่ดูหม่นหมองเล็กน้อยของเธอ “ผมตั้งใจนำพิณคันนี้มามอบให้กับคุณด้วยความตั้งใจจริง!” หวังเสียน ยิ้มและพูดออกมาอีกครั้งด้วยความจริงใจ

และในขณะที่เขาพูดเขาก็ดึงพิณห่าวจงออกมา วางไว้ตรงหน้า ถังหยินซวง

“นั่งลงเถอะ! ผมคิดว่ามันคงจะไม่ดีที่เราจะยืนคุยกันเช่นนี้ แล้วอีกอย่างหนึ่งแม้ว่าครั้งนั้นจะเต็มไปด้วยเหตุสุดวิสัย แต่หากพูดตามตรงแล้วมันเกิดจากความประมาทของผมที่ทำให้คุณนั้นต้องสูญเสียพิณของคุณไป!” หวังเสียนพูดเสริมออกมา

ถังหยินซวง ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะนั่งตรงข้าม หวังเสียน และพยักหน้า “ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ของคุณไม่ได้ และในครั้งก่อนนั้นคุณก็ได้ช่วยยกระดับการบ่มเพาะของฉันจนถึงระดับครึ่งก่อกำเนิดลมปราณแล้ว สิ่งนั้นถือได้ว่าคุณได้ชดเชยความผิดของคุณให้กับฉันแล้ว!” เธอยังคงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สงบ

“อืมมม…” หวังเสียน ส่งเสียงออกมาเล็กน้อยในขณะที่เขาเอนหลังพิงเก้าอี้พร้อมกับพูดขึ้นมาอีกว่า “รับมันไปเถอะ! เพราะคุณก็ได้จ่ายค่าจ้างมากถึงสองพันล้านหยวนให้กับพวกเราในฐานะผู้คุ้มกันแล้วเราก็ไม่ได้คุ้มครองคุณนานถึง 2 เดือนตามข้อตกลง ฉะนั้นจึงถือว่าพวกเรานั้นยังคงติดคุณอยู่!” หวังเสียน พยายามพูดเกลี้ยกล่อม

ถังหยินซวง ก็ไม่ใช่เป็นคนพูดยากอะไรเมื่อเธอเห็นอีกฝ่ายตั้งใจจริงจะมอบของขวัญให้กับเธอ “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอขอบคุณคุณมาก!”

หลังจากนั้นหวังเสียน ก็พูดชวนเธอทานอาหารบนโต๊ะร่วมกัน “มาเถอะทานอาหารมื้อนี้ด้วยกัน! วันนี้ผมขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงคุณเอง!” เขาพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

ถังหยินซวง เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้าตอบ “ขอบคุณค่ะ!”

เธอหยิบจะเข้ขึ้นมาและวางไว้ข้างตัวก่อนจะหยิบช้อนและส้อมขึ้นมาแล้วเริ่มทานอาหาร

ทั้งถังหยินซวงและหวังเสียน ก็ไม่ได้พูดอะไรกันออกมาอีกเลย พวกเขาต่างนั่งทานอาหารกันอย่างเงียบๆ!

มันเป็นความรู้สึกสำนึกเสียใจของเขาและรู้สึกชื่นชมในความสามารถทางด้านดนตรีของเขาที่มีต่อเธอเพียงเท่านั้น หวังเสียนไม่ได้มีแรงจูงใจแอบแฝงอื่นใดเลยแม้แต่น้อย

และเนื่องจาก ถังหยินซวง เป็นคนกินช้ามาก ในขณะที่หวังเสียนนั้นกินเสร็จแล้ว เขาจึงนำโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาเล่นเกม และไม่ได้ชวนเธอคุยอะไรออกมาอีก

มันเป็นภาพที่ค่อนข้างน่าประหลาดและหายาก ชายหนุ่มรูปงามและสาวสวยนั่งอยู่ด้วยกันที่มุมหนึ่งรับประทานอาหารด้วยกัน แต่ไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่โรแมนติกต่อกันเช่นนี้

“ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องขอตัวกลับไปก่อน!” ถังหยินซวง พูดกับ หวังเสียน เมื่อทานอาหารเสร็จ

“ตกลงครับ! นี่มันก็สิบโมงแล้ว ได้เวลาที่ผมจะต้องไปเช่นเดียวกัน!” หวังเสียน ตอบและยิ้มให้เธออีกครั้ง

ถังหยินซวง มองไปที่เขาด้วยความสงสัยในคำพูดของเขา ก่อนจะหยิบพิณที่ด้านข้างของเธอ สะพายขึ้นบนหลังแล้วก็เดินมุ่งหน้าไปยังทางออกของห้องอาหาร

หวังเสียน เดินคู่มากับ ถังหยินซวง ในขณะที่เขาถือดาบยาวของเขา เป็นอีกครั้งที่ไม่มีการพูดคุยใดๆระหว่างพวกเขา

เมื่อพวกเขาทั้งคู่เพิ่งก้าวออกจากร้านอาหารก็ได้ยินเสียงคนตะโกนพูดออกมาในทันที

“อ้าว! นั่นมันศิษย์น้องถังไม่ใช่หรอกหรือ?” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งพูดออกมา

“ใช่จริงๆด้วย นั่นศิษย์น้องถังจริงๆ! ไหนว่าเจ้านั้นบอกว่าติดธุระที่สำคัญไม่ใช่รึ?”

ถังหยินซวง รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้เห็นเหล่าสาวกของสำนักเสียงสวรรค์เดินเข้ามาพูดกับเธอ

หวังเสียน ที่ยืนอยู่ข้างๆเธอก็จ้องมองไปที่พวกเขาด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง

“มีชายหนุ่มหน้าหล่อยืนอยู่กับเธอด้วยแหละ! แล้วดูที่ด้านหลังของเธอสินั่นน่าจะเป็นพิณคันใหม่ของเธออย่างนั้นเหรอ?” เสียงของสาวกหญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา

“ชายหนุ่มคนนั้นเป็นใครกัน?” อีกคนถาม

เหล่าสาวกของสำนักเสียงสวรรค์จ้องมองไปที่ ถังหยินซวง และหวังเสียนที่ยืนอยู่ใกล้ๆกัน ด้วยความแปลกใจ

ในก่อนหน้านี้ถังหยินซวงออกจากงานเลี้ยงฉลองการรับตำแหน่งของโอรสสวรรค์ ด้วยความรีบร้อน แต่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะได้เห็นเธอออกมาจากร้านอาหารกับชายหนุ่มหน้าหล่อพร้อมๆกัน

กลุ่มเหล่าสาวกของสำนักเสียงสวรรค์ต่างคิดไปในทางเดียวกัน นั่นก็คือต้องมีอะไรมากกว่าที่ตาเห็นอย่างแน่นอน!

ยิ่งได้เห็นท่าทางที่ค่อนข้างจะตกใจของ ถังหยินซวง พวกเขาก็ยิ่งแน่ใจ

ในไม่ช้าชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินออกมาจากกลุ่มของเหล่าสาวก

เขามองไปที่ หวังเสียน ก่อนที่จะหันไปหาถังหยินซวงและถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ศิษย์น้องหยินซวง! เจ้าบอกว่าต้องออกไปทำธุระไม่ใช่หรอกหรือ!”

“ถูกต้องแล้วล่ะศิษย์พี่เฉินจื่อ! เพื่อนของข้านั้นได้นำพิณคันนี้มามอบให้กับข้าเพื่อเป็นของขวัญ ฉะนั้นข้าจึงต้องรีบออกมาเพื่อพบกับเขา!” ถังหยินซวง ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่สงบและไม่ได้พยายามจะอธิบายอะไรเพิ่มเติม

“โอ้! พิณอย่างนั้นรึ? ข้าก็อยากจะรู้ว่าพิณคันนี้นั้นวิเศษอย่างไรเจ้าถึงได้ปฏิเสธพิณเทียนโม่ของข้า แล้วรีบมารับพิณคันนี้จากเขา!” เฉินจื่อพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะไม่พอใจ

หลังจากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่หวังเสียน ตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับมีรอยยิ้มดูถูกที่มุมปากและพูดออกมาว่า “ข้าไม่ทราบว่าเพื่อนของศิษย์น้องหยินซวง นั้นเป็นใคร ไม่ทราบว่าข้าโอรสสวรรค์แห่งสำนักเสียงสวรรค์จะได้รับเกียรติรู้จักนามของท่านได้หรือไม่?” เขาพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

“ข้านั้นเป็นบุคคลที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงสักเท่าไหร่คงไม่เหมาะที่จะทำความรู้จักกับโอรสสวรรค์แห่งสำนักเสียงสวรรค์ และในครั้งนี้ข้ามาเพื่อมอบของขวัญให้กับเพื่อนของข้าก็เท่านั้น!” หวังเสียน ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

“ฮ่าๆๆ! ไม่อยากเอ่ยชื่ออย่างนั้นเหรอ? ต่อให้พูดออกมาข้าว่าพวกข้าก็คงไม่รู้จักอยู่ดี ฮ่าๆๆ!” ชายหนุ่มที่เป็นลิ่วล้อของโอรสสวรรค์เฉินจื่อพูดออกมาพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง

“ศิษย์น้อง วันพรุ่งนี้เป็นการคัดเลือกที่สำคัญสำหรับเจ้า ข้าว่าเจ้าทิ้งพิณคันนี้ไปเสียเถอะ แล้วรับพิณเทียนโม่ของข้าไป ไม่เช่นนั้นการคัดเลือกธิดาสวรรค์ในวันพรุ่งนี้เจ้าคงจะต้องแพ้อย่างแน่นอน!” ชายหนุ่มพูดเสนอแนะออกมา

ถังหยินซวง ไม่ได้สนใจคำพูดของชายหนุ่มเท่าใดนัก เธอยังรู้สึกรำคาญเสียด้วยซ้ำ

แต่เธอเป็นกังวลกับคำพูดของเขากลัวว่าหวังเสียนนั้นจะไม่พอใจ เธอจึงหันไปเพื่อสังเกตดูสีหน้าของหวังเสียน

‘ศิษย์พี่ผู้โง่เขลาคนนี้ ช่างรนหาที่ตายเสียจริงๆ หากเขารู้ว่าหวังเสียน นั้นเป็นผู้นำขององค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬเขาจะกล้าพูดเช่นนี้อยู่อีกหรือไม่!’ ถังหยินซวง คิดกับตัวเองอยู่อย่างเงียบๆขณะที่เธอแอบสังเกตปฏิกิริยาของหวังเสียน

ตอนนี้เธอกลัวว่าเขาจะโมโหและสังหารศิษย์พี่ของเธอคนนี้ นั่นก็เท่ากับว่าเขานั้นจะต้องเป็นศัตรูกับสำนักเสียงสวรรค์อย่างแน่นอน เธอไม่อยากให้สำนักของเธอต้องเป็นศัตรูกับคนที่น่ากลัวเช่นนี้

“ขอบคุณศิษย์พี่! แต่ข้าได้บอกไปแล้วว่าข้าไม่ต้องการพิณเทียนโม่ ของศิษย์พี่จริงๆ ส่วนการคัดเลือกในวันพรุ่งนี้นั้นจะเป็นอย่างไรก็คงต้องแล้วแต่โชคชะตาเถอะ!” ถังหยินซวง พูดตอบเขาออกมา

“ศิษย์น้องถัง! เจ้านั้นไม่มีเครื่องดนตรีวิญญาณที่ดีมากพอ แล้วเจ้าจะสามารถลงชื่อเข้าคัดเลือกได้อย่างไร ข้าว่าเจ้าไม่ควรจะปฏิเสธความหวังดีของศิษย์พี่เฉินจื่อเลย ศิษย์พี่เฉินจื่อนั้นหวังดีกับเจ้าเจ้าไม่รู้สึกว่าเจ้านั้นทำมากเกินไปหน่อยหรือ!” สาวกหญิงคนหนึ่งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ และแสดงความรู้สึกที่อิจฉาออกมาเล็กน้อย

“ถูกต้องแล้วล่ะ! เครื่องดนตรีวิญญาณที่ศิษย์พี่ เฉินจื่อ จะมอบให้กับเจ้ายืมนั้นเป็นสุดยอดเครื่องดนตรีวิญญาณระดับสูง เจ้าคิดว่าพิณห่วยๆคันนั้นจะสามารถเทียบได้กับพิณเทียนโม่ได้อย่างนั้นหรือ?” สาวกหนุ่มคนหนึ่งพูดเสริมออกมา

……….

จบบท

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท