ตอนที่ 355 การวิวัฒนาการของนาคาพิษทั้งเก้า!
.
หวังเสียนโผล่มาบนผิวน้ำทะเลขณะที่เขายืนอยู่บนหลังของเต่ายักษ์ด้วยท่าทางที่หนักใจ
หลังจากที่เขาออกสำรวจไปทั่วร่องหินลึกใต้ท้องทะเลกับเต่ายักษ์เกือบจะทั้งวัน เขาก็ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะสร้างวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขาไว้ที่ไหน
ในตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว ท้องฟ้าและผืนน้ำทะเลรอบด้านเต็มไปด้วยความมืดมิดเหมือนกับหลุมดำที่ไม่มีที่สิ้นสุด!
ภายใต้ท้องทะเลลึกที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีทุกพื้นที่ จะมีเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรที่ทรงพลังครอบครองอยู่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสามารถได้รับสถานที่เหล่านั้นมาง่ายๆ เว้นเสียแต่ว่าเขาต้องใช้กำลังเข้ายึดครองดินแดนโดยตรงเท่านั้น
ฉะนั้นเขาจึงต้องวางแผนให้ดีไม่เช่น สาวกวังมังกรของเขาคงจะต้องล้มตายมากมายอย่างแน่นอน
หวังเสียนยืนคิดอยู่บนหลังของเต่ายักษ์ สถานที่ที่เขาได้สำรวจมาทั้งหมดนั้นมีเพียงสถานที่เดียวที่เขารู้สึกพอใจ นั่นก็คือเทือกเขาใต้ทะเลที่เป็นอาณาเขตของฝูงแมงกะพรุนยักษ์ออโรร่า
แต่ในตอนนี้สาวกแห่งวังมังกรของเขานั้นอ่อนแอกว่าฝูงแมงกะพรุนยักษ์ออโรร่าเป็นอย่างมาก มันมีโอกาสน้อยมากที่เขาจะชนะศึกนี้!
นอกเหนือจากเขตเทือกเขาใต้ทะเลที่เป็นอาณาเขตของแมงกะพรุนยักษ์ออโรร่าแล้ว ยังมีพื้นที่แนวปะการังที่เป็นอาณาเขตของปลาหมึกยักษ์อยู่อีกด้วย อาณาเขตของปลาหมึกยักษ์เหล่านี้ถูกควบคุมด้วยปลาหมึกยักษ์ระดับ 12 และมีปลาหมึกยักษ์ระดับ 11 อยู่ 5 ตัว ส่วนปลาหมึกยักษ์ที่เหลือนั้นอยู่ในระหว่างระดับที่ 9 และระดับที่ 10
บริเวณแนวปะการังที่เป็นอาณาเขตของปลาหมึกยักษ์ ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ 2 ของหวังเสียน ในการที่จะเป็นสถานที่สร้างวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขา
นอกจากนี้ยังมีสถานที่อีกหนึ่งแห่งที่อยู่ในทะเลตะวันออก
มันเป็นร่องหินใต้ทะเลลึกอีกแห่งหนึ่ง รอยแยกหินแห่งนี้นั้นมีความยาวหลายสิบกิโลเมตร และอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร
แต่มันมีข้อบกพร่องตรงที่ว่าสถานที่แห่งนี้นั้นมีความกว้าง 1,000 เมตรเพียงเท่านั้น มันจึงไม่เหมาะที่จะเป็นสถานที่สำหรับการสร้างวังมังกรศักดิ์สิทธิ์
และสถานที่แห่งนี้นั้นยังเป็นอาณาเขตของสัตว์ทะเลที่มีลักษณะคล้ายกับค้างคาว และมันมีความดุร้ายเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้พวกมันได้เคยไล่ตามหวังเสียนและเต่ายักษ์ไปไกลหลายสิบกิโลเมตรเลยทีเดียว
‘ฉันควรจะกลับไปก่อนดีกว่า! หากคิดหาวิธีไม่ออกจริงๆก็คงต้องลองไปสำรวจน่านน้ำอื่นๆดู!’ หวังเสียนคิดกับตัวเอง
ในตอนนี้เขาไม่ต้องการที่จะตั้งฐานของวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขาในมหาสมุทรใหญ่ทั้ง 4 เพราะความสามารถของเขาและสาวกแห่งมังกรในตอนนี้ไม่สามารถเสี่ยงกับความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรในมหาสมุทรใหญ่ได้
หลังจากนั้นไม่นานหวังเสียนที่ยืนอยู่บนหลังของเต่ายักษ์ก็กลับไปถึงวิลล่าริมชายหาดที่เมืองเจียงเฉิงในเวลาเกือบจะ 5 ทุ่มแล้ว
เมื่อเขาเข้าไปในวิลล่า เสี่ยวหยูและคนอื่นๆก็หลับกันไปหมดแล้ว
เมื่อหวังเสียนใช้ความสามารถทางจิตวิญญาณของเขาตรวจดูภายในวิลล่า เขาก็รู้ว่าในตอนนี้ กวนชูชิง กำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอนบนชั้นสาม
ดวงตาของหวังเสียนเป็นประกายขึ้นมาในทันที รอยยิ้มอันชั่วร้ายของเขาก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก ก่อนที่เขาจะแอบเข้าไปในห้องนอนของเธออย่างเงียบๆ
เมื่อกวนชูชิงรู้สึกได้ถึงสายตาของนักฆ่าผู้หื่นกระหาย เธอก็ลืมตาขึ้นมาและเห็นหวังเสียนกำลังบุกเข้ามาประชิดตัวเธอ เธอก็มีอาการขัดขืนและดิ้นรนอยู่ครู่ใหญ่ๆ
หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงครวญครางของคนทั้งคู่กำลังแลกเปลี่ยนความรักต่อกัน ด้วยความร้อนแรงจนเสียงดังออกมานอกห้อง แต่ก็โชคดีที่คนอื่นๆในบ้านนั้นหลับสนิท เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยจากการฝึกซ้อมวิชายุทธ
ถึงแม้ว่าในตอนนี้กวนชูชิงจะอยู่ในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ และมีร่างกายที่ทรงพลังจากสายเลือดของฟีนิกซ์ซุซาคุ แต่เธอก็ไม่สามารถรองรับสมรรถภาพอันแข็งแกร่งและความต้องการที่ทรงพลังของหวังเสียนได้
ความต้องการและความแข็งแกร่งทางเพศของเขานั้นน่ากลัวมากเกินไป!
‘ดูเหมือนว่าฉันคงจะต้องรีบดึง ชิงเยว่ มาเข้าทีมโดยเร็วที่สุดเสียแล้วล่ะ!’ กวนชูชิงพูดพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนที่เธอจะหลับไปอย่างอ่อนแรงในขณะที่นอนหนุนอยู่บนแขนของหวังเสียน
….
ในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นท้องฟ้าค่อนข้างจะมืดครึ้ม มีการพยากรณ์อากาศของทางกรมอุตุวิทยาผ่านทางทีวี คาดว่าในช่วงอีก 2-3 วันข้างหน้า เมืองเจียงเฉิงจะมีลมพายุฝนในบางพื้นที่
ในขณะที่เสี่ยวหยูและกวนชูชิง ไปเรียนที่มหาวิทยาลัย หวังเสียนได้โทรศัพท์ไปตามหมายเลขที่ชายชราผู้ดูแลคลังสมบัติแห่งชาติได้ให้ไว้กับเขา
ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงชายวัยกลางคนสามคนก็มาถึงวิลล่าริมชายหาดของหวังเสียน
ทั้งสามคนไม่ได้พูดอะไรมาก พวกเขาเพียงแค่ส่งหินวิญญาณเพื่อซื้อเม็ดยาจิตวิญญาณตามที่หวังเสียนได้ตกลงราคาไว้กับชายชราผู้ดูแลคลังสมบัติแห่งชาติ
หลังจากนั้นในอีก 2-3 วันต่อมา ทรัพยากรที่หวังเสียนได้เคยติดต่อเอาไว้ก็เริ่มนำส่งมาให้เขาอย่างต่อเนื่อง
หวังเสียนอารมณ์ดีเป็นพิเศษเนื่องจากว่าเขาสามารถรวบรวมวัสดุและแร่ที่จำเป็นต่อการสร้างวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ได้เกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว
แต่ปัญหาที่เขายังไม่ได้รับการแก้ไขนั่นก็คือการเลือกสถานที่สำหรับการสร้างวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ใต้ทะเล
มันเป็นการยากที่จะสามารถหาสถานที่ใต้ท้องทะเลที่ดีๆได้จริงๆ เหล่าสาวกวังมังกรของเขาถือได้ว่ายังอ่อนแอเกินไปเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรทะเลเหล่านั้น
อย่างไรก็ตามในวันที่สามก็มีข่าวดีถึงสองข่าวเกิดขึ้นพร้อมๆกัน
[ติ้งงง! การรวบรวมวัสดุในการสร้างวังมังกรเสร็จสมบูรณ์ โฮสต์โปรดเลือกสถานที่สำหรับสร้างวังมังกร!]
ในที่สุดการรวบรวมวัสดุที่มีไว้สำหรับการสร้างวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของหวังเสียน ก็เสร็จสมบูรณ์ ข้อความของระบบดังขึ้นในหัวของเขาในทันที
และข่าวดีชิ้นที่ 2 นั้นมาจากนาคาพิษทั้ง 9 ตัว ซึ่งเขาสามารถรับรู้ได้ผ่านทางพันธะสัญญาจิตวิญญาณของพวกมัน
ในขณะนี้หวังเสียนยืนอยู่ที่ใต้ทะเล เขามองไปยังนาคาพิษทั้ง 9 ตัว ที่กำลังบิดม้วนร่างกายของพวกมันเพื่อลอกคราบและผลัดเปลี่ยนผิวหนังของพวกมันอย่างช้าๆ
ในขณะเดียวกันหงอนบนหัวของพวกมันก็แยกออกจากกันและค่อยๆเปลี่ยนกลายเป็นเขาทั้งสองข้าง
ในตอนนี้ลักษณะของพวกมันนั้นไม่เหมือนกับงูทะเลอีกต่อไป ใบหน้าของพวกมันเริ่มมีมิติเพิ่มมากขึ้นมีความซับซ้อนและดวงตาก็เปล่งประกายคมกล้าสง่างามมากขึ้นกว่าเดิม
พวกมันพลิกร่างกายกระแทกลงกับพื้นทะเลอยู่หลายครั้ง หลังจากนั้นบริเวณส่วนท้องของพวกมันก็เริ่มปรากฏลายเป็นปล้องๆขึ้นมา
“ในตอนนี้พวกมันกำลังพัฒนาและยกระดับไปสู่ระดับที่ 11 และกำลังเริ่มเปลี่ยนจากนาคากลายไปเป็นระดับครึ่งขั้นมังกรน้ำแล้ว!” หวังเสียนพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
นาคาพิษทั้ง 9 ตัวมีพลังแข็งแกร่งมากสุดในหมู่สมาชิกของวังมังกร เนื่องจากพวกมันมีสายเลือดอันบางเบาของมังกรศักดิ์สิทธิ์ธาตุวายุอยู่ในตัวอยู่แล้ว เมื่อพวกมันได้รับแก่นหยดเลือดจากหวังเสียน พวกมันจึงสามารถพัฒนาสายเลือดมังกรศักดิ์สิทธิ์ธาตุวายุของพวกมันให้แข็งแกร่งขึ้นอีกได้อย่างต่อเนื่อง
ในตอนที่ความสามารถของพวกมันยังอยู่ในระดับที่ 10 พวกมันสามารถสังหารสัตว์อสูรที่อยู่ในระดับ 11 ได้อย่างง่ายดาย
และในตอนนี้พวกมันอยู่ในระดับที่ 11 แล้ว ความแข็งแกร่งและความสามารถของพวกมันจึงมีความน่ากลัวเป็นอย่างมาก
“ความแข็งแกร่งของสาวกแห่งวังมังกรก่อนหน้านี้นั้นยังไม่เพียงพอที่จะออกไปก่อสงครามแย่งชิงดินแดน แต่หลังจากนาคาพิษทั้ง 9 ตัวได้รับการพัฒนายกระดับขึ้นมาเป็นระดับที่ 11 ความสามารถในการต่อสู้ของสาวกแห่งมังกรก็สูงขึ้นกว่าเดิม 2-3 เท่าตัวเลยทีเดียว!” หวังเสียนพูดพึมพำออกมาอย่างพึงพอใจ
ในตอนนี้นาคาพิเศษทั้ง 9 ตัวมีความยาวมากกว่า 10 เมตรและมีขนาดตัวเท่ากับถังน้ำ ความเร็วของพวกมันไม่ว่าจะอยู่ในน้ำหรือบนบกก็มากกว่าเดิมเกือบ 3 เท่าตัวเลยทีเดียว
“ในเมื่อนาคาพิษทั้ง 9 ตัวได้พัฒนาไปถึงระดับที่ 11 แล้ว และความสามารถโดยรวมทั้งหมดของสาวกแห่งมังกรก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม มันคงถึงเวลาที่จะยึดอาณาเขตของแมงกะพรุนยักษ์ออโรร่าพวกนั้นแล้ว!” หวังเสียน พูดออกมาด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
ถึงแม้ว่าจะมีแมงกะพรุนยักษ์ระดับ 11 มากถึง 20 ตัว และมีจ่าฝูงระดับ 12 อีก 1 ตัว แต่เขาก็คิดว่าตัวเขาและกลุ่มสาวกแห่งวังมังกรนั้นคงจะสามารถเอาชนะได้อย่างไม่ลำบากมากนัก
ในตอนนี้สาวกแห่งมังกรที่อยู่ในระดับ 11 มีทั้งหมด 12 ตัว นั่นก็คือเต่ายักษ์, อ๋าวฉีเทียน, อ๋าวเยี่ยฉ๋า และนาคาพิษทั้ง 9
ส่วนจ่าฝูงแมงกะพรุนยักษ์ออโรร่าระดับที่ 12 ตัวเขาก็คงจะสามารถจัดการมันได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าไหร่
“ระหว่างนี้พวกเจ้าทั้งหมดจงไปเตรียมการไว้ให้พร้อมพวกเราจะทำสงครามยึดครองดินแดนกันหลังจากนี้!” หวังเสียนสั่งนาคาพิษทั้ง 9 ด้วยความฮึกเฮิม ก่อนที่เขาจะขึ้นมาจากทะเลและกลับเข้าไปในวิลล่า
ณ ตอนนี้คนงานก่อสร้างที่เข้ามาตามคำสั่งของโม่ชิงหลงและโม่หยวนได้เริ่มทำการปรับปรุงพื้นที่ของเกาะลอยน้ำ เพื่อทำการก่อสร้างตามแบบแปลนของหวังเสียนแล้ว คาดว่าอีกไม่นานหลังจากนี้การก่อสร้างบนเกาะลอยน้ำก็คงจะเสร็จสมบูรณ์
หลังจากที่หวังเสียนเดินเข้ามาในวิลล่าของเขา เขาก็เห็นกลุ่มเด็กสาวๆกำลังนั่งพูดคุยกันอยู่อย่างสนุกสนาน เขาจึงยิ้มกว้างออกมาและรีบเดินตรงเข้าไปร่วมกลุ่มด้วยในทันที
“ชิงเยว่ คุณจัดการเรื่องบริษัทเรียบร้อยแล้วอย่างงั้นเหรอ?” หวังเสียนถามออกมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะเบียดตัวแทรกนั่งลงระหว่างกลางของกวนชูชิงและหลานชิงเยว่ อย่างไร้ยางอาย
“ใช่! ทุกอย่างในบริษัทตอนนี้ค่อนข้างที่จะเรียบร้อยลงตัวดีแล้วล่ะ!” หลานชิงเยว่ตอบด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่เธอเอนตัวไปพิงไหล่ของหวังเสียนด้วยความคิดถึง
“และในตอนนี้ฉันก็สามารถลาพักผ่อนได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง!” เธอพูดออกมาอีกประโยคด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเบา
“ดีเลย! ถ้าอย่างนั้นในวันพรุ่งนี้พวกคุณตามผมไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง รับรองว่าพวกคุณต้องชอบอย่างแน่นอน!” หวังเสียนพูดชวนทั้งสองสาวด้วยรอยยิ้ม
เขาวางแผนจะพาพวกเธอลงไปใต้ทะเล หลังจากที่สามารถยึดครองดินแดนของแมงกะพรุนยักษ์ออโรร่าได้แล้ว
และเขาจะบอกพวกเธอเกี่ยวกับวังมังกรศักดิ์สิทธิ์รวมถึงสาวกแห่งวังมังกรที่เป็นสัตว์อสูรทะเลของเขาให้พวกเธอได้รู้
เรื่องบางสิ่งบางอย่างคงจะไม่สามารถเก็บไว้เป็นความลับได้อีกต่อไป เพราะพวกเธอนั้นคือผู้หญิงของเขา
เขาได้เตรียมคำอธิบายเอาไว้แล้วว่าตัวเขานั้นได้รับมรดกสายเลือดมังกรศักดิ์สิทธิ์ จึงสามารถแปลงร่างเป็นมังกรและสามารถสร้างวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่ความลับเกี่ยวกับระบบในร่างกายของเขา เขาคงจะไม่สามารถบอกกับใครได้แม้ว่าจะเป็นเสี่ยวหยูน้องสาวของเขาก็ตาม
อย่างน้อยในประวัติศาสตร์และตำนานของโลกใบนี้ก็มีผู้ที่บ่มเพาะสายเลือดแห่งสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ เช่นสายเลือดของสิงโตทอง, สายเลือดของกิเลนไฟ รวมถึงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆอีกมากมายที่มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
ดังนั้นการได้รับมรดกสายเลือดแห่งมังกรศักดิ์สิทธิ์ของหวังเสียน อาจจะน่าตกใจ แต่มันก็ถือได้ว่าไม่ผิดปกติมากจนเกินไป
“พวกเรามีเรียนในวันพรุ่งนี้! และไม่น่าจะว่างไปกับคุณได้!” หลานชิงเยว่และกวนชูชิงส่ายหัวปฏิเสธพร้อมๆกัน
“ไม่ได้ในครั้งนี้พวกคุณจะต้องไปกับผม! ผมมีเรื่องบางอย่างจะพูดคุยกับพวกคุณจริงๆ รวมถึงเสี่ยวหยูด้วย!” หวังเสียน รีบชิงพูดปิดกั้นการปฏิเสธของกลุ่มสาวๆออกมาในทันที พร้อมกับแสดงท่าทีกึ่งบังคับพวกเธออีกด้วย
“พี่ชาย! ในวันพรุ่งนี้ฉันไม่สามารถไปกับพี่ได้จริงๆ ฉันมีธุระต้องกลับไปที่สำนักกระบี่พฤกษาขจีกับท่านอาจารย์ การแข่งขันประลองฝีมือประจำปีกำลังจะเริ่มขึ้นในเร็วๆนี้ และฉันต้องลงประลองกับเขาด้วย!” เสี่ยวหยู ปฏิเสธด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมกับอธิบายอย่างมีเหตุผล
หวังเสียน ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะยิ้มและพยักหน้ายอมรับกับเหตุผลของน้องสาวเขา!
………
จบบท