ตอนที่ 378 นองเลือด!
.
ฟางฮัวซือ กำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ความรู้สึกของเขาในตอนนี้เหมือนกับว่าได้แก้แค้นหวังเสียนไปครึ่งหนึ่งแล้ว
เขาเคยมีอนาคตที่สดใส แต่ด้วยแขนที่ถูกทำให้พิการทั้งสองข้างอนาคตของเขาจึงได้จบสิ้นลง
เขาจึงอยู่ในช่วงเวลาแห่งความโกรธและเคียดแค้นเป็นเวลานาน หลังจากนั้นเขาก็ได้พบญาติเพียงคนเดียวของศัตรู เมื่อเขาสามารถสร้างความทุกข์ทรมานและโยนความสิ้นหวังให้กับเธอได้เช่นเดียวกับที่เขาเคยได้รับ ฟางฮัวซือ จึงรู้สึกดีใจมากเป็นพิเศษ
มันเป็นลักษณะของคนที่มีจิตใจบิดเบี้ยวคล้ายกับโรคจิตเภทชนิดหนึ่ง
“ฮึๆๆ! หมอเทวะฟาง แขนของท่านยังสามารถงอกออกมาใหม่ได้โดยใช้วิธีการพิเศษ แต่ร่างกายของเด็กสาวคนนั้นคงจะไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาได้อย่างแน่นอน ฮ่าๆๆ!”
นายน้อยแห่งสำนัก 9 ดอกบัว หัวเราะออกมาขณะที่เขาหันไปพูดคุยกับ ฟางฮัวซือ
“ฮ่าๆๆ! นายน้อยช่างพูดถูกใจข้านัก นี่คือราคาที่เจ้าหมอเทวะหวังสมควรจะต้องจ่าย!”
ฟางฮัวซือจ้องไปที่หวังเสียน แล้วหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
“นับว่าเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของข้าจริงๆ! ที่ข้าไม่ได้สังหารเจ้าในก่อนหน้านี้!” เสียงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“หมอเทวะที่ไร้สังกัดเช่นเจ้า กลับกล้าคิดจะสังหารคนจากสำนักเซิ่งเหมินถูเชียวหรือ? ช่างไม่รู้จักประมาณตน!” นายน้อยแห่งสำนัก 9 ดอกบัวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยัน เขาจ้องมองหวังเสียน ตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับพูดต่อไปว่า “ฮึ! หมอเทวะหวังที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกยุทธภพอย่างนั้นรึ? เมื่อได้พบตัวจริงแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีความพิเศษที่ตรงไหน!”
หลังจากนั้นเขาก็หันไปชำเลืองมองที่เสี่ยวหยูพร้อมกับพูดออกมาอย่างเยาะเย้ยว่า “แล้วความเย่อหยิ่งและอวดดีของเจ้าหายไปไหนซะแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ แม่เทพธิดาสวรรค์แห่งสำนักกระบี่พฤกษาขจี! ในตอนนี้แม้แต่จะเดินเจ้ายังไม่สามารถเดินได้ คงจะต้องพึ่งพารถเข็นไปตลอดชีวิตเสียแล้วล่ะเมื่อ ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“เจ้า!! … ” เมื่อได้ยินคำพูดของนายน้อยแห่งสำนัก 9 ดอกบัว เสี่ยวหยูก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธแต่เธอก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
“สำหรับผู้ที่ทำร้ายน้องสาวของข้ามันจะต้องตายอย่างไร้หลุมฝังศพ! รวมถึงคนของสำนัก 9 ดอกบัวทั้งหมด ข้าก็จะส่งตามเจ้าไปที่นรกในไม่ช้า!”
หวังเสียนปล่อยมือออกจากรถเข็นของเสี่ยวหยู เขาจ้องไปยังนายน้อยของสำนัก 9 ดอกบัวและหมอเทวะฟางฮัวซือด้วยสายตาอันเย็นชาขณะที่เดินเข้าไปหาคนทั้งคู่อย่างช้าๆ
“โอ้วน่ากลัวจัง! เจ้าจะสังหารพวกข้าทั้งหมดเลยอย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อนายน้อยแห่งสำนัก 9 ดอกบัวได้ยินคำพูดของหวังเสียน เขาก็หรี่ตาลงเล็กน้อยพร้อมกับยิ้มออกมาที่มุมปาก
“เป็นเพียงแค่หมอเทวะที่ไร้สังกัดและมีกลุ่มชาวยุทธในเมืองเจียงเฉิงเพียงแค่หยิบมือ กลับกล้าคิดท้าทายสำนักของข้าเชียวหรือ? เจ้าคิดว่าสำนัก 9 ดอกบัวของเราเป็นกองกำลังระดับชั้น 1 ธรรมดาทั่วๆไปอย่างนั้นสินะ!” นายน้อยแห่งสำนัก 9 ดอกบัวยิ้มเยาะออกขณะที่มองไปยังหวังเสียนเหมือนกับคนโง่เขลา
“คนกลุ่มนี้นั้นมาทำไรกันที่นี่?”
“นั่นมันหมอเทวะหวังจากเมืองเจียงเฉิงไม่ใช่หรือ? อย่าบอกนะว่าเขาตั้งใจมาแก้แค้นให้กับสาวน้อยคนที่นั่งอยู่บนรถเข็นคนนั้น!”
“ใช่แล้วล่ะ! ถึงแม้ว่าหมอเทวะวังคนนี้จะเป็นหมอเทวะที่ไร้สังกัด แต่ข้าก็เคยได้ยินว่าเขาสามารถขอความช่วยเหลือจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณได้ 3-4 คนเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็คงยังห่างไกลจากความแข็งแกร่งของสำนัก 9 ดอกบัวเป็นอย่างมาก มิหนำซ้ำในกลุ่มของสำนัก 9 ดอกบัวยังมีคนของสำนักเซิ่งเหมินถูอยู่อีกด้วย!”
“เขาคิดอะไรอยู่กันแน่ถึงได้กล้าเข้ามาสร้างปัญหาให้กับกองกำลังที่แข็งแกร่งถึง 2 กองกำลังเช่นนี้!”
“ข้าเคยได้ยินมาว่าเขาเคยกวาดล้างตระกูลระดับชั้นที่ 1 ยกตระกูลมาแล้ว เขาก็คงจะมีความหยิ่งผยองจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ครั้งนี้ก็เลยกล้าเข้ามาหาเรื่องสำนัก 9 ดอกบัวโดยตรง ช่างอวดดีและไม่รู้จักเจียมตัวเสียจริงๆ!
เหล่าชาวยุทธที่อยู่โดยรอบต่างพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันออกมาอย่างสนุกสนาน เมื่อเห็นว่ากลุ่มของหวังเสียนตั้งใจที่จะต่อสู้กับสำนัก 9 ดอกบัวและหมอเทวะฟางฮัวซือที่เป็นคนของสำนักเซิ่งเหมินถู
หมอเทวะที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด อาจจะน่ากลัวสำหรับกองกำลังระดับต่ำทั่วๆไป แต่เมื่อเทียบกับสำนัก 9 ดอกบัวและสำนักเซิ่งเหมินถู มันไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้เลยแม้แต่น้อย
นายน้อยแห่งสำนัก 9 ดอกบัวจ้องมองไปที่หวังเสียนอย่างดูถูก ต่อให้มีฝีมือทางการแพทย์มากขนาดไหนแต่เมื่อไม่มีคนหนุนหลัง ระดับความแข็งแกร่งก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับสำนักของเขาได้อย่างแน่นอน
การที่ประกาศออกมาว่าจะสังหารเขาและคนในสำนัก 9 ดอกบัวให้หมด! นับว่าเป็นเรื่องตลกอย่างแท้จริง!
ฟ้าวววว!
หมับบบ!
หวังเสียนยื่นมือออกไปอย่างช้าๆ โม่ชิงหลงที่อยู่ด้านหลังก็โยนดาบโบราณซานลู่เข้าไปในมือของหวังเสียนในทันที
“วันนี้คนของสำนัก 9 ดอกบัวทั้งหมดที่อยู่ที่นี่จะไม่มีใครสามารถรอดชีวิตออกไปได้!” หวังเสียนไม่ได้ให้ความสนใจกับคำพูดของเหล่าชาวยุทธกลุ่มอื่นๆ แต่เขาจ้องมองและพูดกับกลุ่มคนของสำนัก 9 ดอกบัวที่อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“หือ? นั่นหมอเทวะหวังเขากำลังทำอะไรอย่างนั้นรึ?”
“นั่นมันบ้าไปแล้ว! เขากำลังจะลงมือด้วยตัวเองจริงๆอย่างนั้นรึ!
“เขาเป็นแค่หมอเทวะที่ไม่มีฝีมือใดๆแต่กลับโง่เขลากล้าเข้าไปท้าทายปรมาจารย์หนุ่มแห่งสำนัก 9 ดอกบัวที่เป็นเทียนเจียวอันดับที่ 5 ในโลกยุทธภพ หัวของเขาถูกลาเตะมาหรือไร? นี่มันไม่ใช่การประลองฝีมือทักษะทางด้านการแพทย์เสียหน่อย!”
เหล่าชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบต่าง รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นหวังเสียนถือดาบยาวตรงเข้าไปหากลุ่มคนของสำนัก 9 ดอกบัว
หวังเสียนแสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว ในขณะที่เขามองไปยังปรมาจารย์หนุ่มแห่งสำนัก 9 ดอกบัว
“ฮ่าๆๆ! ในเมื่อเจ้าอยากตายมากนักก็เข้ามาเถอะ! ข้าจะสนองให้เจ้าเอง!”
นายน้อยแห่งสำนัก 9 ดอกบัวมองไปที่หวังเสียนอย่างเย้ยหยัน เขาหยิบถ้วยชาที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมาจิบ ก่อนที่จะโบกมือเบาๆให้กับสาวกของสำนัก 9 ดอกบัวที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากตัวเขา
“ขอรับนายน้อย!”
ชายวัยกลางคนพยักหน้าและขานรับออกมา เขาเดินไปข้างหน้าพร้อมกับพูดออกมาว่า “เจ้ามันเป็นเพียงแค่หมอที่อ่อนแอ แต่กลับกล้าบังอาจมายั่วยุนายน้อยของพวกเราช่างไม่รู้จักเจียมตัวเลยจริงๆ วันนี้ข้าจะตัดขาทั้งสองข้างของเจ้าเพื่อให้เจ้าได้นั่งรถเข็นคู่กับน้องสาวของเจ้าไปตลอดชีวิต!”
เมื่อชายวัยกลางคนพูดจบ หวังเสียนก็เคลื่อนไหวในทันที
ถึงแม้ว่าในตอนนี้เขานั้นจะยังคงมีอาการบาดเจ็บหลงเหลืออยู่ แต่เขาก็ยังสามารถต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับขอบเขตเม็ดยาเซียนได้อย่างสบาย
ความเร็วของหวังเสียนนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก เมื่อชายวัยกลางคนพูดจบประโยคเขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงเงาอันเลือนลางที่ปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าเขา
ชายวัยกลางคนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เขาพลิกฝ่ามือทั้งสองข้างของเขา ก่อนที่จะมีสายน้ำไหลเวียนไปรอบๆฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาพร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง “ตายซะ!”
เขาฟาดฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาไปตรงหน้าในทันที
ซ่าาา!
“ฮึ! เจ้าจะใช้น้ำมาล้างเท้าให้ข้าหรือไร?”
เสียงอันไร้อารมณ์ของหวังเสียนดังออกมาในขณะที่คลื่นกระแสน้ำจากฝ่ามือของชายวัยกลางคนกลายเป็นหยดน้ำเม็ดเล็กๆ ตกลงบนพื้นดินและหายไปอย่างรวดเร็ว
ชายวัยกลางคนรู้สึกตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก เมื่อเขาฟื้นคืนสติกลับมาหวังเสียน ก็ไม่ได้อยู่ตรงหน้าของเขาอีกต่อไป
เขารีบหันมองไปทางด้านหลังของเขาอย่างรวดเร็ว
หวังเสียนได้ยืนหันหลังให้กับเขา พร้อมกับถือดาบซานลู่ที่ชักออกมาจากฝักตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้
“แค่กๆๆ… เจ้า!…”
ชายวัยกลางคนเบิกกว้างด้วยความตกใจกลัว เขาพูดออกมาได้เพียงคำเดียวก่อนที่เลือดจากหน้าอกด้านซ้ายของเขาจะทะลักออกมาราวกับน้ำพุก่อนที่เขาจะล้มลงไปกับพื้นพร้อมกับลมหายใจสุดท้าย
หวังเสียนยิ้มออกมาบางๆ ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาและผิวที่ขาวเนียนเรียบราวกับผิวของสตรี หากไม่เห็นเขาถือดาบอยู่ในมือและมีศพของคนที่เพิ่งตายอยู่ทางด้านหลังของเขาคงจะไม่มีใครเชื่ออย่างแน่นอนเลยว่าชายหนุ่มหน้าตาบอบบางคนนี้จะกล้าสังหารผู้คนได้อย่างเลือดเย็นถึงเพียงนี้
หลังจากนั้นเขาก็มองไปยังนายน้อยแห่งสำนัก 9 ดอกบัวและหมอเทวะฟางฮัวซือ พร้อมกับค่อยๆเดินเข้าไปหาพวกเขาอย่างช้าๆ
“อะไรกัน?”
“ช่างเป็นวิชาดาบที่รวดเร็วจนน่าทึ่งมากเลยจริงๆ!”
“มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ชายกลางคนคนนั้นเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณของสำนัก 9 ดอกบัวไม่ใช่หรอกหรือ?!”
ด้วยเทคนิคการสังหารที่รวดเร็วของหวังเสียน เหล่าชาวยุทธที่กำลังดูเหตุการณ์อยู่รอบๆ ต่างรู้สึกตกใจกันเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับขยี้ตาตัวเองแล้วจ้องมองไปยังซากศพของชายวัยกลางคนที่นอนอยู่ตรงนั้นอีกครั้ง
นายน้อยแห่งสำนัก 9 ดอกบัวและหมอเทวะฟางฮัวซือ ต่างลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้พร้อมๆกันด้วยความตกตะลึง พวกเขาจ้องมองไปยังหวังเสียนด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
“เจ้ากล้าสังหารคนจากสำนัก 9 ดอกบัวของเราเชียวหรือ?”
เมื่อเหล่าสาวกของสำนัก 9 ดอกบัวเห็นชายวัยกลางคนถูกสังหารลงไป พวกเขาก็รีบพุ่งออกมาปิดล้อมหวังเสียนในทันที โดยไม่ต้องรอคำสั่งนายน้อยของพวกเขา
“ฆ่ามัน!” นายน้อยของสำนัก 9 ดอกบัวตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่โกรธแค้น
ฟุ๊บบบบ!
ในทันทีที่เสียงของนายน้อยแห่งสำนัก 9 ดอกบัวพูดจบ ร่างกายของหวังเสียนก็กระพริบหายไปเหลือแต่เพียงเงาลางๆเพียงเท่านั้น
การเคลื่อนไหวของหวังเสียนนั้นเรียบง่ายเป็นอย่างมาก แต่ชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบนั้นไม่มีใครสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้ทัน
ทุกคนนั้นเห็นเพียงแต่ว่ามีประกายแสงของดาบแวบไปมารอบๆร่างกายสาวกทั้งแปดคนของสำนัก 9 ดอกบัวเพียงเท่านั้น
“นี่!…ความเร็วระดับนี้มัน?!”
“บ้าไปแล้ว! หมอเทวะหวังคนนี้จะต้องอยู่ในระดับก่อกำเนิดลมปราณอย่างแน่นอน!”
เหล่าชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบต่างตกใจจนอ้าปากค้างกับความรวดเร็วของหวังเสียนที่พวกเขาไม่สามารถมองตามได้ทัน
หลังจากนั้นหวังเสียนก็กลับมาหยุดยืนหันหลังให้กับเหล่าสาวกทั้งแปดคนของสำนัก 9 ดอกบัว ก่อนที่เขาจะหันไปมองยังนายน้อยแห่งสำนัก 9 ดอกบัวและหมอเทวะฟางฮัวซือ
“อย่างที่ข้าได้เคยพูดเอาไว้ ข้าจะสังหารพวกเจ้าที่อยู่ที่นี่ให้หมด!”
ฉูดด! ฉูดด! ฉูดดด!
ในขณะที่หวังเสียนพูดจบ หัวของสาวกทั้งแปดคนของสำนัก 9 ดอกบัวก็หลุดออกมาจากบ่าพร้อมๆกัน เลือดสีแดงเข้มทะลักออกมาจนทั่วบริเวณกลายเป็นสีแดงฉาน
อึก!
เชี่ยยย!
เหล่าชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบกลืนน้ำลายและตะโกนกันออกมาอย่างลืมตัวด้วยความตกใจ
ใบหน้าของนายน้อยแห่งสำนัก 9 ดอกบัวซีดเซียวขึ้นมาในทันที เขากัดฟันและพูดกับหวังเสียนด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “ฮึ่ม! …. ข้าไม่คิดมากก่อนเลยว่า… เจ้าก็เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณเช่นเดียวกัน… ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงได้หยิ่งผยองมากถึงขนาดนี้!”
นายน้อยแห่งสำนัก 9 ดอกบัว รีบดึงถุงมือสีน้ำเงินออกมาสวมใส่ในมือทั้งสองข้างของเขาอย่างรวดเร็ว เขาจ้องมองไปยังหวังเสียนด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
ฟางฮัวซือ ที่ยืนอยู่ข้างๆก็จ้องมองไปที่หวังเสียนอย่างระมัดระวัง
หวังเสียนยิ้มออกมาบางๆ ขณะที่เขาถือดาบโบราณซานลู่ เดินเข้าไปหาคนทั้งคู่
……….
จบบท