โฮกกกกกก!
“เสียงร้องคำรามของมังกรยังคงดังไปทั่วทั้งวังมังกร!”
แต่เสียงคำรามนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความหมาย สาวกแห่งวังมังกรที่มีสายเลือดของมังกรย่อมเข้าใจความหมายของเสียงคำรามนี้ได้โดยตรง
“กรี๊ดดดด…อ๊าาา! ทำไมฉันถึงกลายเป็นแบบนี้? มันน่าเกลียดมากๆเลย แง!ฮือๆๆ…!”
ในสระน้ำมังกรเสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟางจ้องมองหน้ากันด้วยดวงตาของมังกรที่ดูน่ากลัวของพวกเธอพร้อมกับกรีดร้องออกมา
ดวงตาของเด็กสาวทั้งคู่ที่อยู่ในร่างของมังกรนั้นมีประกายแสงสีฟ้าอมม่วงและลูกตาดำนั้นคล้ายกับนัยน์ตาของงู
พวกเธอต่างจ้องมองดูร่างกายของอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมาสำรวจดูร่างกายของตัวเองด้วยความตื่นตระหนก
น้ำตาของเสี่ยวหยูไหลออกมาจนนองใบหน้าในทันที ด้วยใบหน้าของมังกรอสูรทมิฬที่ดูน่ากลัวและร่างกายอันทรงพลังของมัน แต่กลับร้องไห้จนน้ำตาหยดออกมาเป็นสายพร้อมกับเสียงร้องสะอึกสะอื้นอันน่าสังเวช มันจึงดูน่าตลกเล็กน้อย
ด้วยกระดูกที่ห่อหุ้มร่างกายทั้งหมดนั้นเป็นสีดำเข้มอันแวววาว มีเดือยกระดูกที่คล้ายกับหนามอันแหลมคมเชื่อมต่อสอดประสานกันทั่วทั้งตัว
ลำตัวยาวประมาณ 5 เมตร เกล็ดและกล้ามเนื้อบางส่วนนั้นคล้ายกับโลหะสีเข้ม
มีปีกสีน้ำตาลเข้มคล้ายกับปีกค้างคาวเป็นกระโดงแหลมอยู่ทางด้านหลัง ปีกแต่ละข้างนั้นมีความยาวเกือบ 2 เมตรเลยทีเดียว
กรงเล็บมังกรแต่ละข้างนั้นถูกห่อหุ้มไปด้วยกระดูกสีดำ มันดูแข็งแกร่งและทรงพลังเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่ามังกรอสูรทมิฬทั้ง 2 ตัวจะดูน่าหวาดกลัวมากก็ตาม แต่กลิ่นอายที่ออกมาจากมังกรกลายพันธุ์ทั้ง 2 ตัวก็ไม่ได้แสดงออกถึงความชั่วร้ายแต่อย่างใด ตรงกันข้ามมันมีกลิ่นอายของสายเลือดอันศักดิ์สิทธิ์ที่สูงส่ง
ความสง่างามและศักดิ์ศรีของมังกรทั้ง 2 ตัวนี้นั้นไม่แพ้มังกรชั้นสูงที่อยู่ในระดับชั้นมังกรศักดิ์สิทธิ์เลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามความสง่างามและความน่าเกรงขามนี้เป็นเพียงในมุมมองของทางด้านกลุ่มผู้ชายเท่านั้น แต่สำหรับเสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟางที่เป็นผู้หญิงและรักสวยรักงาม รูปลักษณ์แบบนี้มันเป็นรูปลักษณ์ที่น่าเกลียดมากและทำใจยอมรับแทบจะไม่ได้
“เสี่ยวหยู, ผู้อาวุโสฟาง!”
ในก่อนหน้านี้หวังเสียนที่อยู่ในห้องโถงราชามังกร ได้ยินเสียงร้องคำรามของมังกร เขาจึงรีบตรงมาที่สระน้ำมังกรในทันที
“นี่! … “
เมื่อหวังเสียนมาถึงที่สระน้ำมังกรเขารู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อมองไปที่เสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟาง
“แงๆๆ … พี่ชายฉันกลายเป็นสัตว์ประหลาด ฮือๆๆ! ฉันกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดไปแล้วล่ะ แงๆๆ!”
เสี่ยวหยูส่งเสียงร้องไห้ออกมาเสียงดังเมื่อเห็นหวังเสียน แต่ในตอนนี้เธอยังอยู่ในร่างของมังกรอสูรทมิฬ เสียงร้องไห้และอาการที่เธอแสดงออกมานั้นมันจึงดูน่ากลัวมากกว่าน่าสงสาร
หลังจากนั้นเธอก็บินตรงเข้าไปหาหวังเสียนหมายจะเข้าไปกอดเขาด้วยความเร็วที่น่ากลัว
ฮูมมมมม!
“หยุดๆ! น้องเข้ามาเร็วเกินไปแล้วเสี่ยวหยู!” หวังเสียนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเสี่ยวหยูพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็วเช่นนี้ เขาจึงรีบยกมือขึ้นเพื่อหยุดเสี่ยวหยูในทันที
ด้วยร่างกายที่ทรงพลังคล้ายกับถูกห่อหุ้มด้วยโลหะหนักๆ หากพุ่งเข้ามากระแทกเข้าที่ตัวเขาอย่างไม่ระวัง เขาอาจจะได้รับบาดเจ็บก็เป็นได้ เขาจึงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
หวังเสียนค่อยๆขยับแขนโอบกอดหัวอันใหญ่โตของเสี่ยวหยูด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว เขาไม่รู้ว่าสมควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ เพราะความรู้สึกในตอนนี้ของเขานั้นค่อนข้างจะซับซ้อน
ด้วยการที่เสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟางสามารถกลายร่างเป็นมังกรที่ทรงพลังมากขนาดนี้เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แต่อีกใจนึงก็รู้สึกสงสารน้องตัวเอง ที่สายเลือดมังกรของเธอนั้นดูน่ากลัวและทรงพลัง แทนที่จะสวยงามอย่างที่เธอได้จินตนาการเอาไว้ในตอนแรก
หวังเสียนจึงลูบหัวของเสี่ยวหยูที่ยังอยู่ในร่างของมังกรเบาๆพร้อมกับพูดจาปลอบใจเธอ
“เสี่ยวหยูน้องและผู้อาวุโสฟางสามารถกลายร่างเป็นมังกรกลายพันธุ์ที่ทรงพลังเช่นนี้ได้มันช่างยอดเยี่ยมมากเลยจริงๆนะรู้มั้ย!”
“เสี่ยวเสียนมังกรกลายพันธุ์คืออะไรอย่างงั้นเหรอ?”
ในขณะนั้น กวนชูชิง, หลานชิงเยว่และซุนหลิงซิ่ว ที่ออกมาจากห้องโถงราชามังกรตามหลังหวังเสียนมา ก็มองไปที่เสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟางพร้อมกับถามออกมา
“พี่ชายตอนนี้ฉันน่าเกลียดมากเลยใช่ไหม? ฉันควรจะทำอย่างไรดี ฮือๆๆ!”
เสี่ยวหยูยังคงร้องไห้คร่ำครวญอยู่กับหวังเสียน ด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร ถึงแม้ว่ามันจะดูค่อนข้างแปลกที่มังกรตัวหนึ่งร้องไห้ออกมาเหมือนกับเด็กหญิงตัวเล็กๆ ก็ตาม
“ฮึๆ! … เอ่อ! เสี่ยวหยูน้องไม่ต้องกังวลไปหรอก! น้องสามารถแปลงกายกลับไปสู่ร่างมนุษย์ได้ตลอดเวลา!”
หวังเสียนพูดจาปลอบโยนเสี่ยวหยู ในขณะที่เขาพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังหลุดเสียงหัวเราะออกมาเล็กน้อย
หลังจากนั้นหวังเสียนก็เห็นผู้อาวุโสฟาง ขยับปีกมังกรของเธอบินวนไปมารอบๆ
“นี่นับว่าเป็นสิ่งที่ดีอีกข้อหนึ่งของการเป็นมังกร อย่างน้อยๆพวกเธอก็สามารถบินได้ตามธรรมชาติโดยที่ไม่ต้องใช้พลังลมปราณ!” หวังเสียนพูดออกมาอย่างติดตลก
“การกลายเป็นมังกรที่น่ากลัวเช่นนี้คุณคิดว่าเป็นเรื่องดีๆสำหรับผู้หญิงหรือเปล่าล่ะ?” ผู้อาวุโสฟางจ้องมองไปที่หวังเสียนด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง
“แต่จากมุมมองของสายพันธุ์มังกรพวกเธอทั้งคู่นั้นเป็นมังกรกลายพันธุ์ที่ทรงพลังจริงๆ!”
หวังเสียนยิ้มออกมาก่อนจะพูดต่อไปอีกว่า “พี่รู้ว่าพวกเธอทั้งคู่นั้นไม่อยากจะกลายเป็นมังกรที่มีรูปลักษณ์น่ากลัวเช่นนี้ แต่ระดับความสามารถของมังกรกลายพันธุ์ของพวกเธอนั้นสูงกว่ามังกรทั่วไปเป็นอย่างมาก และการจะพัฒนาไปสู่มังกรระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์นั้นก็จะรวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย!”
“ในความคิดของพี่สายพันธุ์มังกรอสูรทมิฬของพวกเธอนั้น น่าจะแปรสภาพมาจากสายพันธุ์ดั้งเดิมของมังกรปีศาจและมังกรกระดูก ซึ่งข้อดีของทั้งสองเผ่าพันธุ์มังกรนั้นได้รวมกันอยู่ในสายเลือดมังกรอสูรทมิฬของพวกเธออย่างสมบูรณ์!”
“ตามหลักการโดยทั่วไปแล้วมังกรสายพันธุ์ดั้งเดิมจะมีเก้าคุณลักษณะ ได้แก่ ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ, ไม้, ทอง, แสง, ความมืดและสายฟ้า แต่ในประวัติศาสตร์ของมังกรนั้นก็ยังมีกลุ่มเผ่าพันธุ์มังกรอันทรงพลังที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์มังกรดั้งเดิม อย่างเช่นมังกรอสูรทมิฬที่พวกเธอเป็นอยู่ในตอนนี้!”
“แต่เงื่อนไขการกลายพันธุ์ของสายเลือดมังกรนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่ต่ำเป็นอย่างมาก ฉะนั้นนี่จึงนับได้ว่าเป็นโชคดีของพวกเธอได้เช่นเดียวกัน!”
“และสิ่งนี้น่าจะเกี่ยวพันกับพิษกระดูกดำที่อยู่ในร่างกายของพวกเธอทั้งสองคน และพี่เดาว่ายาพิษกระดูกดำชนิดนี้นั้นอาจจะไม่ใช่ยาพิษ แต่มันอาจจะเป็นสมบัติทางจิตวิญญาณชนิดหนึ่งก็ได้ เพียงแต่ว่าคนธรรมดานั้นไม่สามารถรองรับพลังอันแข็งแกร่งของมันได้ จึงทำให้เกิดอาการที่เป็นพิษต่อร่างกาย!”
หวังเสียนพูดออกมาพร้อมกับวิเคราะห์ถึงยาพิษกระดูกดำที่อยู่ในร่างกายของเสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟาง
เพราะจากความรู้ที่ส่งมาทางสายเลือดของมังกรศักดิ์สิทธิ์ หวังเสียนเข้าใจได้เป็นอย่างดีเลยว่าการกลายพันธุ์ของมังกรโดยธรรมชาตินั้นเรียกได้ว่ามีเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าหนึ่งในหมื่นเสียอีก หากว่าไม่เกิดจากการมีเงื่อนไขที่พิเศษมากๆ มันจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีมังกรกลายพันธุ์กำเนิดขึ้นมา
ในความคิดของหวังเสียนนี่จึงนับได้ว่าเป็นพรจากสวรรค์อันแท้จริงที่เสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟางสามารถกลายเป็นมังกรอสูรทมิฬที่ทรงพลังเช่นนี้ได้
“แงๆๆ ฮือๆๆ ม่ายเอาอ๊าาอ่ะพี่ชาย! ฉันไม่อยากกลายเป็นมังกรที่น่าเกลียดแบบนี้! ฉันอยากจะเป็นมังกรที่สวยงาม!”
เสี่ยวหยูส่ายหัวไปมาอย่างไม่เต็มใจ หัวมังกรขนาดใหญ่ที่ถูกห่อหุ้มด้วยกระดูกถูที่หน้าอกของหวังเสียนเหมือนเด็กน้อยที่กำลังงอแง
สิ่งนี้ทำให้หวังเสียนหัวเราะออกมาเบาๆขณะที่ลูบหัวอันใหญ่ใตของเสี่ยวหยูในร่างมังกร
ก่อนที่จะเข้าสู่สระน้ำมังกรเสี่ยวหยูเต็มไปด้วยความคาดหวัง เธอยังจินตนาการว่าเธอจะกลายเป็นมังกรที่สวยงามเหมือนกับในเทพนิยาย
แต่ในทันทีที่เธอออกจากสระน้ำมังกรและเห็นสภาพร่างกายของตัวเองก็รู้สึกช็อกเป็นอย่างมาก
“โดยปกติแล้วน้องสามารถอยู่ในร่างของมนุษย์ได้อย่างปกติโดยไม่มีปัญหาใดๆ ยกเว้นแต่ว่าจะเจอศัตรูที่แข็งแกร่งเกินกว่าร่างมนุษย์จะสามารถต่อสู้ได้น้องจึงค่อยกลายร่างกลับไปเป็นมังกร!
หวังเสียนยิ้มขณะที่พูดปลอบโยนเธอ
ดวงตาของเสี่ยวหยูยังคงแดงก่ำและเออไปด้วยหยดน้ำตา แต่ในขณะเดียวกันพลังจิตวิญญาณของเธอนั้นก็สั่งให้ร่างกายปรับเปลี่ยนกลับไปเป็นร่างของมนุษย์เช่นเดิม
หวังเสียนสะบัดมือออกมาเบาๆพลังแห่งธาตุน้ำแปรเปลี่ยนกลายเป็นชุดที่สวยงามตรงเข้าไปห่อหุ้มเสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟางที่เปลี่ยนร่างกลับไปเป็นร่างกายของมนุษย์ (ชุดเดิมขาดหมดแล้วตั้งแต่ตอนกลายร่างเป็นมังกร)
แต่ในขณะเดียวกันสายตาของเขานั้นก็แอบสแกนไปจนทั่วร่างกายอันสมบูรณ์แบบของผู้อาวุโสฟาง พร้อมกับแสดงรอยยิ้มที่มุมปากออกมาอย่างไม่ตั้งใจ
แต่พฤติกรรมทั้งหมดของหวังเสียน นั้นไม่สามารถรอดพ้นสายตาของกวนชูชิงและหลานชิงเยว่ไปได้
“เจ้าคนเลว!”
“เจ้าคนชั่วร้าย!”
เสียงของกวนชูชิงและหลานชิงเยว่ดังสอดประสานกันขึ้นมา พวกเธอเป็นคู่รีบเข้ามาบิดเอวด้านซ้ายและด้านขวาหวังเสียนอย่างแรงจนใบหน้าของหวังเสียนบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
ผู้อาวุโสฟางเม้มปากและก้มหน้าลงเล็กน้อย ใบหน้าของเธอนั้นแดงก่ำจนแทบจะกลายเป็นสีเลือดด้วยความเขินอาย
แต่หลังจากนั้นผู้อาวุโสฟางก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เพราะในตอนนี้มีทักษะเกี่ยวกับการฝึกฝนของมังกรอสูรทมิฬส่งผ่านเข้ามาสู่จิตวิญญาณของเธอโดยตรง….
แก๊รกกกกก!
เคร้งงงง!
มีเสียงคล้ายกับเสียงของโลหะกำลังเสียดสีกับกระดูกดังขึ้นมาจากร่างของผู้อาวุโสฟาง ในทันใดนั้นชุดเกราะชีวะภาพสีดำก็ปกคลุมไปทั่วร่างกายของเธอ
มันเป็นเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นชุดเกราะอันสวยงามที่เปล่งประกายสีดำแวววาวก็ห่อหุ้มตัวเธออย่างสมบูรณ์ โดยมีผมยาวสลวยอยู่ทางด้านหลังดูแล้วเหมือนกับนักฆ่าผู้เย็นชา
ด้วยหุ่นทรงอันร้อนแรงและหน้าอกขนาดใหญ่ของผู้อาวุโสฟาง ชุดเกราะสีดำที่สวมทับอยู่บนร่างกายของเธอนั้นจึงดูทรงเสน่ห์เป็นอย่างมาก
เสี่ยวหยูมองไปที่ชุดเกราะชีวะภาพของผู้อาวุโสฟาง หลังจากนั้นเธอก็หลับตาลงเล็กน้อย ในทันใดนั้นเกราะชีวะภาพที่คล้ายกับเกราะของผู้อาวุโสฟางก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของเสี่ยวหยูในทันที
เกราะสีดำที่อยู่บนร่างกายของพวกเธอนั้นถูกสร้างขึ้นมาจากกระดูกมังกรอสูรทมิฬด้วยความสามารถของพวกเธอโดยตรง ฉะนั้นการป้องกันของพวกเธอยามที่สวมชุดเกราะจึงเกือบจะมากพอๆกับตอนที่อยู่ในร่างของมังกรเลยทีเดียว
“โอ้ว! มันดูดีและสง่างามมากเลยทีเดียวเชียวล่ะเสี่ยวหยู!”
หวังเสียนรีบพูดชมเสี่ยวหยูหลังจากที่ละสายตาออกมาจากผู้อาวุโสฟาง ด้วยรอยยิ้มอันบิดเบี้ยวในขณะที่เอวของเขายังคงถูกบิดอย่างแรงจากกวนชูชิงและหลานชิงเยว่
เสี่ยวหยูก้มมองไปที่ชุดเกราะชีวะภาพสีดำแวววาวบนร่างกายของเธอเล็กน้อย แต่เธอก็ยังทำหน้ามุ่ยและแสดงความไม่พอใจออกมาเช่นเดิม
“ฮึ! ถึงแม้ว่าชุดเกราะนี้จะดูดีมากก็ตาม! แต่ร่างมังกรของฉันก็น่าเกลียดมากเกินไปจริงๆ!”
“แต่โดยปกติแล้วเราก็ยังอยู่ในร่างมนุษย์ตลอดเวลาไม่ใช่หรอกหรือ!”
ผู้อาวุโสฟางแสดงรอยยิ้มออกมาบางๆ ในขณะที่เธอหันไปพูดกับเสี่ยวหยู
และในขณะนี้ผู้อาวุโสฟางรู้สึกได้ว่าระดับการบ่มเพาะของเธอนั้นแข็งแกร่งกว่าระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสมบูรณ์แบบไปมาก
ระดับการบ่มเพาะของเธอในตอนนี้นั้นสมควรจะเป็นระดับขอบเขตครึ่งขั้นเม็ดยาเซียนแล้ว
“แสดงความแข็งแกร่งและระดับการบ่มเพาะของเธอให้พี่ดูหน่อย!”
หวังเสียนพูดกับเสี่ยวหยูด้วยรอยยิ้ม
“ในตอนนี้น้องได้ปรับเปลี่ยนสายเลือดกลายเป็นมังกรอย่างเต็มตัวแล้ว ฉะนั้นระดับความแข็งแกร่งของเธอก็น่าจะก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่เลยทีเดียว!”
ในขณะที่หวังเสียนพูดออกมานั้นเขากำลังคิดถึงพิษกระดูกดำที่สาวกของสำนักเซิ่งเหมินถูได้รับมาจากซากโบราณสถาน เขาไม่แน่ใจว่ายังมีพิษชนิดนี้หลงเหลืออยู่ที่สำนักเซิ่งเหมินถูอีกหรือไม่?
‘ถ้าข้ามีเวลาว่างคงจะต้องหาเวลาไปเยือนสำนักเซิ่งเหมินถูดูซักครั้ง!’
………
