“ไล่พวกมันไปให้พ้นจากอาณาเขตของพวกเราซะ!”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและอารมณ์ที่หงุดหงิด ดังขึ้นมาอีกครั้งจากชายหนุ่มที่ถือดาบ ในขณะที่เขาหันไปจ้องมองเรือยอร์ชที่กำลังแล่นเข้ามาใกล้เรือของพวกเขา
‘ฮึ! คนกลุ่มนี้คงจะมีสันดานที่คล้ายกันทั้งหมดเลยสินะ!’
หวังเสียนหรี่ตาลงเล็กน้อยและพูดพึมพำออกมาเมื่อเขาได้ยินคำพูดของชายหนุ่มคนนั้น
ถึงแม้ว่าเรือยอร์ชของหวังเสียนนั้นจะอยู่ห่างไกลจากเรือของชายหนุ่มคนนั้นค่อนข้างมากก็ตาม แต่ด้วยระดับความแข็งแกร่งและประสาทสัมผัสอันเยี่ยมยอดของสายเลือดมังกรศักดิ์สิทธิ์ หวังเสียนจึงสามารถได้ยินคำพูดของชายหนุ่มคนนั้นได้อย่างชัดเจน
“ออกไปให้พ้นจากที่นี่ซะถ้าไม่อยากตาย! บริเวณนี้คืออาณาเขตทางทะเลของพวกเรา!” ลูกศิษย์หนุ่มคนหนึ่งใช้เครื่องขยายเสียง แจ้งเตือนไปทางเรือยอร์ชของหวังเสียน
‘ไม่ว่าจะในทะเลในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่หรือแม้กระทั่งในแม่น้ำสายเล็กๆ ตราบใดที่พื้นที่เหล่านั้นมีแหล่งน้ำอยู่ สถานที่เหล่านั้นย่อมเป็นอาณาเขตของเผ่าพันธุ์ในตระกูลมังกรทั้งหมด!’
ในทันใดนั้นเสียงอันหยิ่งผยองของสายเลือดแห่งมังกรศักดิ์สิทธิ์ที่ถือได้ว่าอยู่ในระดับชั้นบนสุดแห่งมหาจักรวาล ดังผ่านห้วงมโนสำนึกในทะเลจิตวิญญาณของหวังเสียน ขึ้นมาในทันที
เสียงนี้เป็นเหมือนเสียงที่บ่งบอกถึงศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของราชามังกรศักดิ์สิทธิ์ที่ส่งผ่านไปยังทายาทของพวกมัน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ใดก็ตาม หากสถานที่เหล่านั้นเป็นแหล่งน้ำย่อมถือได้ว่ามันเป็นอาณาเขตและดินแดนของเผ่าพันธุ์มังกร
และด้วยศักดิ์ศรีในสายเลือดของเผ่าพันธุ์มังกรอันยิ่งใหญ่ มันจะไม่ยินยอมให้เผ่าพันธุ์อื่นๆมาหยิ่งผยองในอาณาเขตของพวกมันอย่างเด็ดขาด!
ดวงตาของหวังเสียนเป็นประกายออกมาอย่างน่ากลัว
มีรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขารู้สึกว่าเลือดของเขานั้นเดือดพล่านขึ้นมาในทันที ความกระหายเลือดและเจตนาฆ่าอันรุนแรงของเขานั้นพลุกพล่านขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล จนเขาต้องรีบหลับตาลงและพยายามระงับเจตนาฆ่าของเขาให้สงบลงโดยเร็วที่สุด
เขาไม่ต้องการเป็นคนกระหายเลือดและบ้าคลั่งที่สังหารผู้อื่นโดยไร้เหตุผล หากอีกฝ่ายไม่มายั่วยุเขาก่อน …
หวังเสียนรู้ดีว่าใต้มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ส่วนมากจะถูกครอบครองโดยสัตว์อสูรทะเลเผ่าพันธุ์อื่นๆ ที่มีความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงกลัว และบนผิวน้ำตามเกาะขนาดใหญ่ต่างๆ ก็ยังถูกครอบครองโดยกลุ่มกองกำลังของผู้ฝึกตนที่ทรงพลัง
และในอนาคตหากเขาต้องการครอบครองมหาสมุทรทั้งหมดในโลกนี้ ดูเหมือนว่าเขาคงจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับเหล่าสัตว์อสูรทะเลและกลุ่มกองกำลังเหล่านั้นไปได้
และนี่ก็เป็นหนึ่งในความตั้งใจเดิมของหวังเสียนอยู่แล้ว เขาไม่ต้องการให้มีเรือวิ่งผ่านไปมาบนหัวของเขาขณะที่เขาอยู่ในวังมังกร
และโดยเฉพาะอาจจะมีบางคนที่ฉี่ลงในน้ำทะเลในขณะที่กำลังล่องเรืออยู่เหนือวังมังกรของเขาก็เป็นได้…
เรือยอทช์ของเขายังคงเดินหน้าต่อไป และตอนนี้เขาก็มีเวลาว่างมากพอจะเล่นกับคนพวกนี้อย่างช้าๆ
“หือ? ดูเหมือนจะมีคนกำลังมองหาความตายอย่างนั้นสินะ!”
เมื่อเห็นว่าเรือยอร์ชลำนั้นไม่ได้ลดความเร็วลงหรือหันกลับไป ชายวัยกลางคนและชายหนุ่มที่ถือดาบอยู่ทางด้านข้าง ก็หันไปจ้องมองเรือยอร์ชของหวังเสียนด้วยสายตาที่เย็นชา
ในตอนนี้อารมณ์ของพวกเขานั้นไม่ค่อยจะดีอยู่แล้ว เมื่อต้องมาเจอกับเรือยอร์ชที่ดูเหมือนจะเป็นเรือของนักท่องเที่ยวแล่นผ่านเข้ามาโดยไม่สนใจคำเตือนของพวกเขา พวกเขาก็รู้สึกหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น
เรือยอร์ชจะรบกวนฝูงปลาวิญญาณที่ก้นทะเล พวกเขาไม่ได้เจอปลาวิญญาณมา 2 วันแล้ว แล้วในตอนนี้ด้วยเครื่องยนต์ที่ส่งเสียงดังของเรือยอร์ชมันจึงมีส่วนทำให้พวกเขารู้สึกว่าการจะหาปลาวิญญาณนั้นยากขึ้นไปอีก
กลุ่มคนพวกนี้นั้นเป็นสาวกของสำนักดาบทะเลซึ่งเป็นสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นถือได้ว่าเป็นกองกำลังระดับต้นๆในโลกยุทธภพเลยทีเดียว
เมื่อเห็นว่าเรือยอร์ชนั้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหรือหลบไปทางอื่น ชายวัยกลางคนและชายหนุ่มก็ค่อยๆชักดาบในมือของพวกเขาออกมา
สาวกคนอื่นๆที่อยู่บนเรือทั้งสองลำก็หันไปจ้องมองที่เรือยอร์ชด้วยสายตาที่เย็นชาเช่นเดียวกันกับหัวหน้าของพวกเขา
“ถึงกับกล้าขัดคำสั่งของสำนักดาบทะเลศักดิ์สิทธิ์อย่างงั้นเชียวรึ? ช่างรนหาที่ตายนัก!”
เรือยอทช์ของหวังเสียนอยู่ห่างจากพวกเขาประมาณสองกิโลเมตร แต่เสียงของชายหนุ่มคนที่ถือดาบ ก็สามารถดังแทรกผ่านอากาศจนไปถึงหูของทุกคนบนเรือยอร์ชได้อย่างชัดเจน นี่แสดงถึงระดับการบ่มเพาะของชายหนุ่มคนที่ถือดาบนั้นค่อนข้างจะแข็งแกร่งมากเลยทีเดียว
“ขับตรงเข้าไปไม่ต้องสนใจอะไรทั้งสิ้น!” หวังเสียนหันไปพูดกับโม่ชิงหลง
“ขอรับนายท่าน!”
เรือยอทช์ยังคงขับตรงเข้าไปด้วยความเร็วตามปกติ
“ดูเหมือนว่ากลุ่มคนพวกนี้อยากจะตายมากอย่างนั้นสินะ! ถึงได้ไม่เห็นสำนักดาบทะเลศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราอยู่ในสายตาเช่นนี้!”
“หากพวกมันก้าวเข้ามาในระยะโจมตีก็สังหารพวกมันเสียให้หมด ให้ท้องทะเลกลายเป็นหลุมฝังศพของพวกมัน!”
ชายวัยกลางคนและชายหนุ่มพูดออกมาอย่างเย็นชา
ในมหาสมุทรจะมีอาณาเขตของแต่กองกำลังแบ่งเอาไว้อย่างชัดเจน กองกำลังอื่นๆนั้นสามารถข้ามผ่านไปได้แต่ไม่สามารถสร้างความเดือดร้อนหรือเข้ามาจับสัตว์อสูรทะเลและปลาวิญญาณในเขตของกองกำลังอื่นๆได้
นี่คือกฎอันเข้มงวดที่เหล่าคนเดินเรือและกองกำลังต่างๆในมหาสมุทรต่างรับรู้และยึดถือปฏิบัติกันมาอย่างเคร่งครัด
และยิ่งกองกำลังมีระดับความแข็งแกร่งมากเท่าใด อาณาเขตพื้นที่ก็จะยิ่งกว้างขึ้นและมีทรัพยากรมากขึ้น
และเมื่อพบเจอกับเรือที่ข้ามมายังเขตของพวกเขาโดยไม่สนใจคำเตือน พวกเขาในนามสำนักดาบทะเลจึงไม่จำเป็นจะต้องแสดงความเมตตาใดๆอีกต่อไป
นี่คืออาณาเขตของพวกเขา ดินแดนของพวกเขา ผู้ที่เข้ามาต้องเชื่อฟังคำสั่งของพวกเขาและปฏิบัติตามกฎของผู้แข็งแกร่งและผู้อ่อนแอ
บรืนนนน! ซ่าาาา!
เสียงเครื่องยนต์และเสียงท้องเรือที่กระแทกกับคลื่นในทะเลของเรือยอร์ช ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณเมื่อเรือยอร์ชลำนั้นเข้ามาใกล้เรือของพวกเขาในระยะ 50 เมตร
เมื่อชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างชายวัยกลางคนเห็นเรือยอร์ชแล่นเข้ามาใกล้เขาก็ชักดาบออกมาจากฝักพร้อมกับยกปลายดาบชี้ไปที่เรือยอร์ชลำนั้น
ในทันใดนั้น น้ำทะเลรอบๆตัวเขาก็เปลี่ยนกลายไปเป็นดาบที่แหลมคมอย่างรวดเร็ว
ดาบขนาดใหญ่สิบเล่มที่ก่อตัวขึ้นมาจากน้ำทะเลก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าชายหนุ่มคนนั้น
ชายวัยกลางคนที่อยู่ทางด้านข้างของเขาก็ยกแขนของเขาขึ้นเช่นเดียวกัน น้ำทะเลที่อยู่รอบๆตัวเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นดาบคล้ายกับของชายหนุ่มแต่มันมีขนาดใหญ่และน่ากลัวกว่าของชายหนุ่มคนนั้นเป็นอย่างมาก
“ข้ามอาณาเขตของผู้อื่นและไม่สนใจที่จะปฏิบัติตามกฎและคำเตือน นั่นก็เท่ากับว่าพวกเจ้าเลือกหนทางที่จะตายแล้วอย่างนั้นใช่หรือไม่?”
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา ก่อนจะปลดปล่อยคมดาบที่ก่อตัวขึ้นจากน้ำทะเลเข้าไปโจมตีเรือยอร์ชด้วยความเร็วที่น่ากลัว
“กล้าฝ่าฝืนคำสั่งและสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนในสำนักดาบทะเลในอาณาเขตของพวกเรา พวกเจ้าคงอยากตายกลายเป็นผีเร่ร่อนกลางท้องทะเลกันมากสินะ!”
เมื่อเหล่าสาวกของสำนักดาบทะเลบนเรือทั้งสองลำเห็นศิษย์ผู้พี่ของเขากับปรมาจารย์หยุ่น กำลังโจมตีไปที่เรือยอร์ช พวกเขาต่างจ้องมองไปที่กลุ่มคนที่อยู่บนเรือลำนั้นพร้อมกับแสยะยิ้มออกมา
ในโลกนี้ไม่ว่าในสถานที่ใดๆผู้แข็งแกร่งก็ย่อมต้องกลืนกินผู้อ่อนแอตามธรรมชาติ
การสังหารกลุ่มคนบนเรือยอร์ช 6-7 คน นับได้ว่าเป็นเรื่องสนุกของพวกเขาเพียงเท่านั้น
“ฮึๆๆ! น่าสนใจดี!” เมื่อหวังเสียนเห็นพวกเขาลงมือ มุมปากของเขาก็ยกยิ้มขึ้นมาในทันที
“เข้าไปดูกันเถอะ! เข้าไปดูว่าคนพวกนั้นคิดจะทำอะไรกับพวกเรา ฮึๆๆ!”
หลังจากที่พูดจบเขายกมือของเขาขึ้นแล้วโบกออกไปเบาๆ น้ำทะเลที่อยู่ด้านหน้าของเรือยอร์ชก็พุ่งขึ้นสูงกลายเป็นกำแพงม่านน้ำต้านรับดาบที่กำลังพุ่งเข้ามาโจมตีเรือ จนดาบที่ก่อตัวจากน้ำทะเลนั้นสูญสลายหายไปจนหมด
ด้วยการกระแทกเท้าเบาๆ เขาทะยานขึ้นไปบนฟ้าและหยุดยืนอยู่บนอากาศเหนือเรือทั้งสองลำของสำนักดาบทะเล
เสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟางก็มีความคึกคักและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากระดับการบ่มเพาะของพวกเธอนั้นเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดพวกเธอจึงมีความกระตือรือร้นที่อยากจะทดสอบความแข็งแกร่งของพวกเธอ
พวกเธอจึงรีบบินขึ้นไปในอากาศและไปหยุดอยู่ข้างๆหวังเสียนด้วยรอยยิ้มขณะที่จ้องมองไปยังคนที่อยู่บนเรือทั้งสองลำคล้ายกับกำลังจ้องมองเหยื่อที่มีไว้สำหรับทดสอบความแข็งแกร่งของพวกเธอ
หลังจากนั้นกวนชูชิงและหลานชิงเยว่ก็พุ่งทะยานลอยตัวไปหยุดยืนอยู่ข้างๆหวังเสียนกลางอากาศเช่นเดียวกัน
ถึงแม้ว่าในตอนนี้กวนชูชิงจะมีระดับการบ่มเพาะอยู่ในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ แต่ด้วยสายเลือดอันแข็งแกร่งของสายเลือดฟีนิกซ์ซุซากุ จึงไม่มีปัญหาใดๆกับการลอยตัวอยู่ในอากาศเช่นนี้
“นี่!!… พวกเขาลอยตัวอยู่ในอากาศได้?”
“มีเพียงระดับก่อกำเนิดลมปราณขึ้นไปเท่านั้นถึงจะสามารถลอยตัวอยู่ในอากาศได้!”
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาไม่สนใจคำเตือนของพวกเรา!”
เสียงของเหล่าสาวกที่อยู่ในเรือทั้งสองลำต่างพูดออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าหวังเสียน, เสี่ยวหยู, กวนชูชิง, หลานชิงเยว่และผู้อาวุโสฟางนั้นลอยตัวอยู่ในอากาศ
“เด็กหนุ่มรูปหล่อคนนั้นยังดูเด็กมาก แต่ทำไมเขาถึงมีความแข็งแกร่งในระดับก่อกำเนิดลมปราณได้?”
“สี่สาวงามที่อยู่ทางด้านหลังของเขานั้นก็น่าจะอยู่ในระดับก่อกำเนิดลมปราณด้วย! ระดับก่อกำเนิดลมปราณห้าคน!”
“พวกนี้!… คนพวกนี้เป็นสาวกของสำนักใดกัน? ทำไมสำนักของพวกเขาถึงได้มีกลุ่มเด็กรุ่นเยาว์ที่มีความแข็งแกร่งในระดับก่อกำเนิดลมปราณมากมายเช่นนี้?”
เมื่อเห็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ 5 คนลอยตัวอยู่ในอากาศเหนือเรือของพวกเขา ชายวัยกลางคนและชายหนุ่มวัยรุ่นที่โจมตีเรือยอร์ชของหวังเสียนก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาในทันที
“พวกเราคือคนของสำนักดาบทะเลศักดิ์สิทธิ์! และพื้นที่บริเวณนี้เป็นอาณาเขตในสำนักของพวกเรา ฉะนั้นพวกเราจึงอยากทราบว่าพวกท่านเข้ามาในเขตพื้นที่ของพวกเราด้วยเหตุอันใด?”
ท่าทีและน้ำเสียงของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไปในทันที แต่คำพูดของเขาก็ยังสื่อความหมายว่ากลุ่มของหวังเสียนนั้นบุกรุกเข้ามาในดินแดนในสำนักของพวกเขา
ฟ้าวว! ตึกกๆๆๆๆ!
หวังเสียนและเด็กสาวทั้งสี่คนค่อยๆทิ้งตัวลงมาหยุดยืนบนเรือของชายวัยกลางคนและชายหนุ่มด้วยท่วงท่าที่สง่างาม
เหล่าสาวกของสำนักดาบทะเลที่อยู่บนเรือจ้องมองไปยังกลุ่มของหวังเสียนด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้ง 5 คนตรงหน้าพวกเขานั้น จะดูหล่อเหลาและสวยงาม แต่แรงกดดันอันทรงพลังที่แผ่ออกมาจากตัวของพวกเขานั้นก็น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
หวังเสียนกวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนของสำนักดาบทะเลบนเรือทั้งหมดด้วยรอยยิ้มอันเย็นชาก่อนที่จะเอ่ยปากออกมา
“ข้าอยากให้พวกเจ้าอธิบายเกี่ยวกับพื้นที่ทั้งหมดในมหาสมุทรให้ข้าฟังอย่างละเอียดว่ามีอาณาเขตของกองกำลังใดอยู่บ้าง?”
หวังเสียนจ้องมองไปที่ชายวัยกลางคนและชายหนุ่มพร้อมกับส่งแรงบีบบังคับอันทรงพลังไปที่พวกเขาโดยตรงในขณะที่ถามด้วยน้ำเสียงที่คล้ายกับออกคำสั่ง
ตูมมม!
อึก!
“เจ้า!!…” ชายวัยกลางคนและชายหนุ่มใบหน้าเปลี่ยนสีไปในทันที พวกเขาทั้งคู่รู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาในตอนนี้นั้นเหมือนมีภูเขาขนาดใหญ่กดทับลงมาเหนือศีรษะของพวกเขาจนแทบจะขยับตัวไม่ได้
“รีบพูดมา!” หวังเสียนจ้องมองไปยังคนทั้งสองด้วยสายตาที่เย็นชา
เขาไม่ได้มีความรู้สึกดีกับกลุ่มคนของสำนักดาบทะเลเลยแม้แต่น้อย เพราะทั้งสองครั้งที่หวังเสียนได้เจอกับคนของสำนักดาบทะเลพวกเขาก็โจมตีหวังเสียนก่อนโดยไม่มีเหตุผลทั้งสองครั้ง (พวกมันก็เตือนก่อนแล้วไม่ใช่เหรอครับพี่ ลูกพี่ก็แมร่งโครตอันธพาลเลยอ่ะ …(-_-;) …)
หากพวกเจ้าปฏิบัติต่อข้าด้วยทัศนคติที่เลวร้าย ข้าก็จะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างเลวร้ายกลับคืนไปอย่างเท่าทวี นี่คือหลักการของหวังเสียนตั้งแต่ที่เขาและเสี่ยวหยูกลายเป็นเด็กกำพร้า
“พวกเราคือสาวกของสำนักดาบทะเลศักดิ์สิทธิ์ และที่นี่คือดินแดนของพวกเรา และพวกเจ้าก็กำลังบุกรุกอาณาเขตของพวกเราอยู่!”
ชายหนุ่มกำหมัดแน่นและกัดฟันพยายามพูดอย่างใจเย็น
เขาพยายามเน้นย้ำพูดถึงสำนักดาบทะเลศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา เพื่อเป็นการเตือนและข่มขู่หวังเสียน
“ดินแดนของพวกเจ้าอย่างนั้นเหรอ? ช่างน่าขันยิ่งนัก! แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าชะตากรรมของกลุ่มคนที่โจมตีพวกเราก่อนนั้นจะเป็นเช่นไร?”
หวังเสียนแสยะยิ้มออกมา พร้อมกับยกมือของเขาขึ้นช้าๆ
ตูมมมม!
น้ำทะเลที่อยู่ด้านหลังของหวังเสียน รวมตัวกันกลายเป็นงูทะเลขนาดใหญ่พุ่งเข้าไปโจมตีชายหนุ่มคนนั้นโดยตรง
“หากเจ้าไม่หยุดมือ พวกเจ้าทั้งหมดจะกลายเป็นศัตรูของสำนักดาบทะเลศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราในทันที!”
ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างของชายหนุ่ม ตะโกนออกมาเสียงดังเมื่อเห็นว่าหวังเสียนกำลังโจมตีคนในสำนักของเขา
“ฮึๆๆ!” หวังเสียนหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา งูทะเลที่ถูกสร้างโดยหวังเสียน เริ่มโจมตีชายหนุ่มคนนั้นในทันที
แววตาของชายหนุ่มคนนั้นแสดงความหวาดกลัวออกมาจนเห็นได้อย่างชัดเจน แต่เขาก็พยายามกัดฟันยกดาบยาวในมือของเขาที่มีแสงสีน้ำเงินเข้มฟันไปที่งูทะเลที่กำลังเข้ามาโจมตีเขาอย่างเต็มแรง!
……….
จบบท