Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 414 เตาปรุงยา!

ตอนที่ 414 เตาปรุงยา!

เพี๊ยะ!~~

“ไอ้เด็กบัดซบเวรตะไลนี่! เล่าจื๊อยังคงคิดที่จะสร้างสัมพันธ์อันดีกับหมอเทวะหวังเพื่อจะสร้างอนาคตที่ดีให้กับแก แต่แกมันกลับชั่วช้าสาระเลวอวดดีจนไปสร้างความขุ่นเคืองให้กับหมอเทวะหวัง แกนี่มันช่างเป็นเด็กที่เหี้ยบัดซบเสียจริงๆ!”

ผู้นำตระกูลซุนทุบตีบุตรชายของเขาพร้อมกับตะโกนด่าอย่างไม่ไว้หน้า ในขณะเดียวกันเขาก็แอบชำเลืองมองหวังเสียนด้วยความวิตกกังวล

แต่ทุกคนในงานเลี้ยงต่างรู้ดีว่าสิ่งที่ผู้นำตระกูลซุนกำลังทำอยู่นี้นั่นเป็นการช่วยชีวิตบุตรชายของเขาโดยการผ่อนหนักให้เป็นเบา หากว่าเขาไม่ทำเช่นนี้บุตรชายของเขาอาจจะถูกหมอเทวะหวังฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยมก็เป็นได้

หวังเสียนเองก็สามารถรู้จุดประสงค์ในการกระทำของผู้นำตระกูลซุนในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเพียงแค่ยิ้มออกมาบางๆเท่านั้น

หลังจากนั้นหวังเสียนก็หันไปมองซุนหลงเซวียนที่ยังคงมีสีหน้าที่สับสนและมึนงงอยู่

“ข้านั้นมีชื่อว่าหวังเสียน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วคนอื่นๆ มักจะรู้จักข้าในนามหมอเทวะหวังแห่งเมืองเจียงเฉิง ฉะนั้นเจ้าคงคิดออกแล้วกระมังว่าทำไมทุกคนในที่นี้จึงไม่มีใครกล้าที่จะเข้าร่วมสำนักของเจ้า!”

คลืนนนน!

การที่หวังเสียนประกาศชื่อและตัวตนของเขาออกมา ทำให้อากาศโดยรอบนั้นเกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นมาในทันที ทั้งๆที่ตัวของเขานั้นไม่ได้กระจายหรือแผ่คลื่นพลังใดๆออกมาจากตัวเลยแม้แต่น้อย

แต่ทุกๆคนที่อยู่ในห้องโถงของงานเลี้ยงรู้สึกคล้ายกับว่าพวกเขานั้นตกอยู่ในภาพมายาและเกิดแรงบีบบังคับอันทรงพลัง พวกเขารู้เพียงแต่ว่าพวกเขานั้นต้องการคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อคำนับและแสดงความเคารพต่อหวังเสียน อย่างไม่อาจฝืนความรู้สึกของตัวเองได้

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจจะเป็นเพราะออร่าแห่งจอมราชันย์ที่มีอยู่ในตัวของหวังเสียน ซึ่งเป็นเรื่องปกติโดยทั่วไปของกลุ่มสายเลือดระดับสูงในจักรวาล เมื่อราชาแห่งวังมังกรศักดิ์สิทธิ์เช่นเขาประกาศตัวตนของพวกเขาออกมาในเขตแดนของตัวเอง สิ่งมีชีวิตทุกตัวตนย่อมต้องยอมศิโรราบให้แก่ผู้เป็นราชาเจ้าของเขตแดนตามปกติวิสัยอยู่แล้ว

แต่หลังจากนั้นไม่นานออร่าและแรงบีบบังคับอันน่าแปลกประหลาด ก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว ทุกๆคนที่อยู่ในงานเลี้ยงจึงรู้สึกเหมือนกับว่าได้ตื่นออกมาจากภาพมายา พวกเขาต่างถอนหายใจกันออกมาด้วยความโล่งอกอย่างเงียบๆ

นี่อาจจะเป็นเพราะว่าหวังเสียนสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นได้ เขาจึงรีบระงับและปิดกั้นกลิ่นอายของตัวเขาลงในทันที เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้ทุกสิ่งมันวุ่นวายมากไปกว่านี้

และเมื่อซุนหลงเซวียนหายจากความสับสนและมึนงง เขาจึงสามารถรับรู้ได้ในทันทีเลยว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าของเขาคนนี้นั้นมีระดับความแข็งแกร่งที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

แต่เนื่องด้วยตัวเขานั้นพึ่งกลับมาจากต่างประเทศ เขาจึงไม่รู้จักหวังเสียนหรือหมอเทวะหวังแห่งเมืองเจียงเฉิงว่าคือใคร

แต่สิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้นั่นก็คือบิดาของเขาโค้งคำนับชายหนุ่มพร้อมกับกล่าวคำขอโทษอยู่ตลอดเวลา มิหนำซ้ำยังทุบตีเขาและตะโกนด่าเขาเพื่อชายหนุ่มคนนี้อีกด้วย

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่เขาเคยเห็นบิดาของเขาแสดงความหวาดกลัวและความเคารพอย่างสูงสุดต่อหน้าบุคคลคนหนึ่ง และนี่ยังเป็นเพียงแค่ชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขาเสียอีก

อึก!..

เขากลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆด้วยความยากลำบาก หัวใจของเขาในตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสยดสยองอย่างแท้จริง

“ไอ้เด็กสาระเลว! รีบคุกเข่ากราบขอโทษท่านหมอเทวะหวังประเดี๋ยวนี้!”

ชายวัยกลางคนร่างท้วมซึ่งเป็นผู้นำตระกูลซุน มองดูบุตรชายของเขาที่ยังคงยืนมึนงงอยู่ด้วยความขัดเคืองใจ เขาจึงตะคอกเสียงใส่บุตรชายของเขาออกมาด้วยความโกรธ

“ท่านพ่อ!… ข้า! …ข้า…”

แต่ในขณะที่ซุนหลงเซวียนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เขาก็เห็นชายหนุ่มสองคนเดินมาทางด้านหน้าพร้อมกับโค้งตัวลงคารวะให้กับหวังเสียนด้วยความเคารพอย่างนอบน้อม

“พวกเราสองพี่น้องต้องขออภัยหมอเทวะหวังมากจริงๆที่ได้เสียมารยาทไปในก่อนหน้านี้! และในตอนนี้พวกเราทั้งสองคนไม่มีธุระอยู่ที่นี่อีกต่อไปฉะนั้นพวกเราคงจะต้องขอตัวออกไปก่อน!”

ซุนหลงเซวียนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเมื่อเขาเห็นว่าชายหนุ่มทั้งสองคนจากตระกูลผู้ฝึกตนที่ซ่อนเร้นกล่าวคำขอโทษและแสดงความเคารพอย่างนอบน้อมต่อหวังเสียน

ชายหนุ่มทั้งสองคนนี้เป็นลูกชายและทายาทสายตรงของตระกูลที่ซ่อนเร้นที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับกองกำลังระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียว แต่ในตอนนี้คนทั้งคู่กลับเข้ามาคารวะและขออภัยชายหนุ่มตรงหน้าอย่างนอบน้อม และดูเหมือนว่าพวกเขาพยายามจะขอตัวถอยออกไปด้วยความหวาดกลัว

‘เป็นไปได้ไหมว่าแม้แต่คนของตระกูลระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ก็ยังต้องเกรงกลัวเขา!’ ดวงตาของซุนหลงเซวียนเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อได้เห็นการกระทำของชายหนุ่มทั้งสองคน

“หมอเทวะหวังแห่งเมืองเจียงเฉิงคือใครอย่างนั้นเหรอ?”

ซุนหลงเซวียนยังคงสับสนอยู่เป็นอย่างมาก เขาไม่เข้าใจว่าจะมีชายหนุ่มที่สร้างความหวาดกลัวให้แก่บิดาของเขาและคนของตระกูลระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมณฑลทางตอนใต้นี้ได้อย่างไร เขาจึงถามออกมาอย่างลืมตัว

ป๊าบบบบ!

ผู้นำตระกูลซุนมองดูบุตรชายของเขาด้วยความเหนื่อยหน่ายหัวใจ ในขณะเดียวกันเขาก็ยกมือขึ้นตบกบาลของซุนหลงเซวียนจนเสียงดังสนั่น

ซุนหลงเซวียนก้มหน้าลงและไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก แม้ว่าในตอนนี้เขาจะแข็งแกร่งมาก และบิดาของเขาก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้น

แต่เขานั้นรู้ดีว่าบิดาของเขานั้นรักเขามากขนาดไหน ด้วยศักดิ์ศรีของผู้ที่เป็นผู้ให้กำเนิด ต่อให้เขามีความแข็งแกร่งระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณเขาก็ไม่กล้าที่จะตอบโต้บิดาของเขา

“หมอเทวะหวัง ข้า…ข้าขออภัย… ข้าต้องขออภัยที่ได้ล่วงเกินท่าน!”

“ไม่เป็นไร! มันยังไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากนัก! แต่หากว่าเมื่อครู่นี้เจ้าคิดจะลงมือแล้วล่ะก็….”

หวังเสียนเพียงแค่ยิ้มและไม่ได้พูดอะไรต่อ

“ใช่ๆๆ! ขอขอบคุณท่านหมอเทวะหวังเป็นอย่างมากที่ไม่ได้ถือสาเด็กสาระเลวที่ไร้มารยาทคนนี้ เขาพึ่งจะกลับมาจากเมืองนอกจึงไม่ค่อยรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของพวกเรามากสักเท่าไหร่ ฉะนั้นข้าต้องขอขอบคุณท่านหมอเทวะหวังมากจริงๆ ที่ยอมให้อภัยเด็กสาระเลวผู้นี้!”

ผู้นำตระกูลซุนรีบยกมือคารวะและผงกหัวขอบคุณหวังเสียนอยู่หลายครั้ง ด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม

หวังเสียนพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อแสดงว่าเขานั้นยอมรับคำขอโทษของผู้นำตระกูลซุนและบุตรชาย เพราะเขาเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นในก่อนหน้านี้มากนัก

เขามองมันเป็นแค่เรื่องสนุกเพียงเท่านั้น!

แค่ผู้ฝึกตนระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณที่เย่อหยิ่งคนหนึ่ง หากไม่ก่อความรำคาญให้เขามากจนเกินไปเขาก็คร้านเกินกว่าที่จะนำมันมาใส่ใจ

“ฮ่าฮ่า! ท่านหมอเทวะหวังสมกับเป็นวีรบุรุษแห่งมณฑลทางตอนใต้ของเราจริงๆ ช่างสงางามและใจคอกว้างขวางยิ่งนัก ข้านับถือท่านหมอเทวะหวังมานานมากแล้วและมีใจคิดอยากจะได้พบเจอมาโดยตลอด ข้าจึงได้เตรียมของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้ให้แก่ท่าน หวังว่าท่านจะยอมรับของขวัญของข้าเอาไว้!”

เมื่อเห็นว่าหวังเสียนไม่ได้สนใจจะเอาเรื่องเอาความอะไรอีกต่อไป ชายวัยกลางคนร่างท้วมผู้นำตระกูลซุน ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกพร้อมกับรีบเปลี่ยนเรื่องและพูดคุยประจบเอาใจหวังเสียนอย่างรวดเร็ว

“ถ้าอย่างนั้นข้าคงต้องขอรบกวนท่านผู้นำตระกูลซุนแล้วล่ะ! และอีกสาเหตุหนึ่งที่ข้ามาร่วมในงานเลี้ยงวันนี้ก็เพราะอยากจะรู้ว่ามีสิ่งใดดีๆ ที่พอจะสามารถแลกเปลี่ยนกันได้บ้างหรือไม่ ข้ารับรองว่าจะไม่เอาเปรียบท่านอย่างแน่นอน!”

หวังเสียนยิ้มและพูดกับผู้นำตระกูลซุน

“ท่านหมอเทวะหวัง! ได้โปรดตามข้ามาเถอะ สถานที่สำหรับการแลกเปลี่ยนสินค้านั้นอยู่ที่ห้อง VIP ทางด้านหลัง!”

ผู้นำตระกูลซุนโค้งตัวและเชื้อเชิญหวังเสียนให้เดินตามเขาไปด้วยความเคารพ

หวังเสียนพยักหน้าและเดินตามเขาไปพร้อมกับหลานชิงเยว่

เมื่อเห็นว่าบิดาของเขาเดินนำทางเด็กหนุ่มหน้าหล่อคนนั้นไปด้วยความเคารพเหมือนกับว่าเขานั้นเป็นข้ารับใช้ตัวน้อยผู้ซื่อสัตย์ สีหน้าของซุนหลงเซวียนก็เต็มไปด้วยอับอาย

เขาหันไปมองดูชายหนุ่มสองคนที่อยู่ข้างๆ ก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆและถามออกมาด้วยเสียงที่ค่อนข้างเบา “พี่ชายทั้งสองคน ชายหนุ่มคนนี้นั้นคือใครอย่างนั้นหรือ ช่วยอธิบายให้ข้าได้ทราบหน่อยจะได้หรือไม่!”

ชายหนุ่มทั้งสองคนที่เป็นทายาทของตระกูลผู้ฝึกตนที่ซ่อนเร้น มองไปที่ซุนหลงเซวียนและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ชายหนุ่มคนนั้นคือหวังเสียนหรือหมอเทวะหวังราชาแห่งเมืองเจียงเฉิง เขามีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากเลยทีเดียวและยังเป็นเทียนเจียวอันดับ 1 ของยอดยุทธรุ่นเยาว์แห่งโลกยุทธภพอีกด้วย!”

“อะไรนะ? เทียนเจียวอันดับหนึ่ง!!”

ซุนหลงเซวียนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากถึงกับตะโกนออกมาอย่างลืมตัวเลยทีเดียว

โดยธรรมชาติแล้วซุนหลงเซวียนนั้นรู้ว่าตำแหน่งเทียนเจียวคืออะไร และโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในสิบอันดับแรกนั้นมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน

กลุ่มยอดยุทธรุ่นเยาว์แห่งโลกยุทธภพที่มีอายุไม่เกิน 35 ปีนั้นจะถูกจัดอันดับตามระดับความแข็งแกร่ง และผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในอันดับเทียนเจียวอันดับต้นๆนั้นไม่มีใครเลยที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าระดับก่อกำเนิดลมปราณ

“และสาเหตุที่เขาถูกเรียกว่าหมอเทวะหวังนั้นเขายังมีความสามารถทางด้านการแพทย์ในระดับอัจฉริยะและยังถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 9 ของหมอเทวะศักดิ์สิทธิ์แห่งโลกยุทธภพ ในก่อนหน้านี้ตัวเขาและกลุ่มคนของเขาได้เคยมีเรื่องขัดแย้งกับสำนักวังเปลวไฟที่พึ่งเลื่อนระดับชั้นขึ้นเป็นสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ หลังจากนั้นไม่นานสำนักวังเปลวไฟก็ถูกกวาดล้างจนย่อยยับโดยไม่ทราบสาเหตุ!”

“และในไม่นานมานี้ตัวเขาเองก็เพิ่งจะสร้างข่าวที่สั่นสะเทือนโลกยุทธภพจนเกิดความโกลาหลไปทั่ว สาเหตุก็เนื่องมาจากเขาเพิ่งจะตัดหัวผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสมบูรณ์แบบได้อย่างง่ายดายถึงสี่คนที่หุบเขาเทียมเมฆ ยังมีคลิปวีดีโออยู่ในเว็บไซต์แห่งโลกยุทธภพเพื่อยืนยันเรื่องนี้อีกด้วย!”

ชายหนุ่มทั้งสองคนพูดคุยกับซุนหลงเซวียนด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมและจริงจัง

“คนที่ร้ายกาจเช่นหมอเทวะหวังผู้นี้ ไม่สามารถจะคาดเดาอารมณ์ของเขาได้ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้นับว่าพวกเรานั้นโชคดีเป็นอย่างมากที่เขาไม่ได้สนใจเสียงเล็กๆของมดแมลงเช่นพวกเรา ฉะนั้นทางที่ดีต่อไปน้องชายซุนอย่าได้คิดไปยั่วยุหมอเทวะหวังผู้นี้อีกเป็นอันขาด!”

ด้วยสามัญสำนึกของชายหนุ่มทั้งสองคนพวกเขาย่อมรู้ดีว่าบุคคลที่กล้าสังหารผู้อาวุโสของสำนักเซิ่งเหมินถูที่เป็นถึงสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์นั้นมีความกล้าและบ้าคลั่งมากเพียงใด

และที่สำคัญที่สุดหมอเทวะหวังราชาแห่งเมืองเจียงเฉิงยังอยู่อย่างสุขสบายดี โดยที่สำนักเซิ่งเหมินถูไม่คิดแม้แต่จะกล้าเข้ามาขอคำอธิบายเรื่องที่หมอเทวะหวังสังหารผู้อาวุโสในสำนักของพวกเขา

ชายหนุ่มทั้งสองคนรู้ดีว่าต่อให้พวกเขานั้นเป็นทายาทของตระกูลระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ที่ซ่อนเร้น หากพวกเขาถูกสังหารโดยหมอเทวะหวัง ตระกูลของพวกเขาคงจะไม่กล้าเผชิญหน้ากับหมอเทวะหวังโดยตรงอย่างแน่นอน

อึก!…

ซุนหลงซวนกลืนน้ำลายลงคอด้วยสีหน้าที่สยดสยอง แม้ว่าเขาจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองนอก แต่เขาก็รู้ดีว่าสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์แห่งโลกยุทธภพในประเทศจีนนั้นมีความแข็งแกร่งมากเพียงใด

ชายหนุ่มคนนั้นพึ่งจะตัดหัวผู้อาวุโสของสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์เมื่อไม่นานนี้เอง!!

“ถ้าอย่างนั้นความน่ากลัวของเขาก็คงจะไม่ต่างจากจอมมารร้ายเลยทีเดียว!!”

เหงื่อเย็น ๆ ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของซุนหลงเซวียน

“ในครั้งที่เขาไปร่วมงานชุมนุมของงานพิธีแสวงบุญของสำนักวังเปลวไฟ ผู้ติดตามของเขา 4-5 คนทุกคนล้วนแล้วแต่อยู่ในระดับก่อกำเนิดลมปราณกันทั้งสิ้น และจากข่าวที่ได้รับมากลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณเหล่านั้นปฏิบัติตัวกับเขาราวกับว่าเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชาที่ซื่อสัตย์ สิ่งนี้จึงสามารถยืนยันระดับความแข็งแกร่งและเบื้องหลังของเขาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว!” ชายหนุ่มทั้งสองคนอธิบายเพิ่มเติม

ฉะนั้นนี่จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สีหน้าและการแสดงออกของชายหนุ่มทั้งสองคนที่เป็นทายาทของตระกูลผู้ฝึกตนที่ซ่อนเร้นทั้งสองคนนั้นจะเปลี่ยนไปในทันทีเมื่อได้ยินชื่อของหวังเสียน

“ในตอนนี้ข้านั้นไม่นึกสงสัยการแสดงออกของท่านพ่อของข้าอีกต่อไปแล้วล่ะ!”

โดยปกติแล้วบิดาของซุนหลงเซวียนนั้นจะเป็นคนที่หยิ่งจองหองเป็นอย่างมาก การที่บิดาของเขาสามารถแสดงอาการประจบเอาใจต่อคนผู้หนึ่งได้เช่นนี้นั้นแสดงว่าคนผู้นั้นจะต้องมีความน่าเกรงขามเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ในทุกวันนี้บิดาของเขาซึ่งเป็นคนที่ร่ำรวยมากที่สุดของมณฑลทางตอนใต้พยายามจะสร้างสัมพันธไมตรีกับเหล่ายอดยุทธที่มีความแข็งแรงในเขตพื้นที่โดยรอบ เพื่อที่จะเริ่มสร้างฐานอำนาจให้แก่ตัวเอง

ซุนหลงเซวียนรู้ดีว่าผู้คุ้มกันที่อยู่รอบๆตัวบิดาของเขานั้นทุกคนต่างอยู่ในระดับขั้นก่อกำเนิดลมปราณกันทั้งสิ้น หากแต่ว่าการแสดงออกของบิดาเขาที่แสดงต่อหมอเทวะหวังอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนมากถึงขนาดนี้ แสดงว่าหมอเทวะหวังผู้นี้นั้นเป็นจุดสุดยอดของเขตมณฑลทางตอนใต้อย่างแท้จริง

“ท่านหมอเทวะหวัง! การแลกเปลี่ยนสมบัติของวันนี้จะเริ่มขึ้นในทันที ข้านำสมบัติที่ข้าได้สะสมเอาไว้มาแสดงให้หมอเทวะหวังได้ชมดูก่อน เดิมทีสิ่งของเหล่านี้ส่วนมากข้าได้จัดเตรียมไว้ให้แก่หลงเซวียนในการก่อตั้งสำนักของเขา แต่ข้าคิดว่าในตอนนี้คงจะไม่จำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากวุฒิภาวะของเขายังไม่มีความสามารถมากพอจะก่อตั้งสำนักได้!”

ผู้นำตระกูลซุนเดินพาหวังเสียนไปยังห้อง VIP ที่อยู่ทางด้านใน พร้อมกับอธิบายสิ่งต่างๆกับเขาด้วยรอยยิ้ม

มีโต๊ะขนาดใหญ่วางสิ่งของอยู่ตรงกลางของห้อง และสิ่งของที่วางอยู่บนโต๊ะเหล่านั้นมีค่อนข้างหลากหลายสิ่งเลยทีเดียว

“ที่ทางด้านนี้นั้นส่วนมากจะเป็นต้นสมุนไพรจิตวิญญาณระดับ 3 และระดับ 4 ส่วนทางด้านนั้นจะเป็นอาวุธจิตวิญญาณที่ข้าได้รับมาโดยการประมูล โอ้วว! แล้วเจ้าสิ่งนั้นคือกระถางธูปโบราณขนาดเล็ก แต่ข้าไม่แน่ใจว่ามันมาจากยุคใดกันแน่!”

ผู้นำตระกูลซุนเดินแนะนำสิ่งของต่างๆให้แก่หวังเสียน เมื่อเขาเดินไปถึงโต๊ะตัวหนึ่งเขาก็ชี้ไปที่กระถางธูปโบราณชิ้นหนึ่งพร้อมกับอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของชิ้นนั้นเล็กน้อย เพราะตัวเขาเองก็ไม่ค่อยทราบเกี่ยวกับมันมากนัก

“อืมม!” หวังเสียนพยักหน้าขณะกวาดสายตามองไปยังสิ่งของต่างๆที่อยู่ในห้อง

“หืมมม?” แต่ในขณะนั้นเองเมื่อสายตาของหวังเสียนจับจ้องไปยังกระถางธูปโบราณขนาดเล็ก ที่มีส่วนสูงประมาณครึ่งเมตร เขาก็แสดงความตื่นเต้นและประหลาดใจออกมาในทันที

[เตากลั่นและปรุงยาโบราณ: ระดับ 5 ]

‘เตาปรุงยาระดับ 5! นี่คือเตาปรุงยาโบราณที่อยู่ในระดับ 5 อย่างนั้นหรือ?’

หวังเสียนจ้องมองไปที่เตาปรุงยาขนาดเล็กในขณะที่เขาได้รับข้อมูลมาจากระบบโดยตรง

เตาสำหรับหลอมกลั่นและปรุงยาที่สามารถปรุงยาระดับ 4 ขึ้นไปเขานั้นค้นหามันมาเป็นเวลานานแล้ว แม้แต่ในในคลังสมบัติแห่งชาติเขาก็ไม่สามารถหาได้ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเตาปรุงยาระดับสูงเช่นนี้จะเป็นเพียงแค่ของสะสมที่ใช้แทนกระถางธูปของผู้นำตระกูลซุน!

…………

จบบท

** คุยเล่นท้ายบท **

A: ตอนหน้าสามผู้นำแห่งตระกูลซุนออกโรงมา หวังเสียนมันจะต้องถูกบดขยี้จนเละเป็นโจ๊กแน่ๆ

B: เฮ้ย จริงดิ! น่ากลัวขนาดนั้นเชียวเหรอวะ?

A: เออดิ! หวังเสียนมันเทียบไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บเลยล่ะ!

B: ใครวะ? แอบสปอยให้หน่อยดิ!

A: ซุนโกคู ซุนโกฮัง ซุนโกเท็น …

B: ไอ้เหี้ยยยย เอ! ถ้ายังงั้นมึงก็ไปตายซ้าาา! …พลังงงง~~…คลื่นนน~~…เต่าสะท้านฟ้าาาา…ย๊าาาา!~~~

A: นั่น! รับมุกกูด้วย ….

 

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท