Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 37

ตอนที่ 37

บทที่ 37 เธอเริ่มแคร์เขาแล้ว

เธอรีบเบนสายตาหนี เอ่ยเสียงแข็ง “แต่ว่าความสัมพันธ์ของเราสองคนแพร่งพรายออกไปไม่ได้!”

“คุณนายมู่ คุณทำใจไว้บ้างเถอะ หลายๆเรื่องไม่ใช่สิ่งที่คุณควบคุมมันได้” ดวงตามู่วี่สิงมืดลง

เวินจิ้งไม่พอใจ ใช้แรงผลักเขาออก

ตอนนี้เองที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น คนที่เข้ามาคือหลี่ซาน

“คุณหมอมู่คะ ผู้อำนวยการเรียกคุณเข้าประชุมค่ะ”

มู่วี่สิงทำท่าเชิงรับรู้ก่อนจะมองเวินจิ้ง “รอผมมารับคุณ”

เวินจิ้งนั่งอยู่ในห้องทำงานเพียงลำพัง กล่องถุงยางที่วางอยู่ด้านของเห็นได้ถนัดตา เธอรีบเอามันใส่กระเป๋า ลากซิปปิดจากนั้นก็โทร.หาอั้ยเถียน

“เถียนเถียน เธอ…เธอซื้อของนั่นมาทำไม!” เวินจิ้งพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“โอ๊ะโอ เธอเห็นแล้วเหรอ? ใช้ไปหรือยัง?” อั้ยเถียนถามอย่างสอดรู้

“ใช้กับผีน่ะสิ จากนี้ไปห้ามทำอย่างนี้นะ ไม่รู้ว่ามู่วี่สิงคิดกับฉันยังไงแล้ว!” เวินจิ้งย่นคิ้ว

คิดถึงที่มู่วี่สิงมองเธอเมื่อครู่ ทำไมถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างคลุมเครือก็ไม่รู้…

“เอ๋ นี่เธอแคร์ด้วยเหรอว่าคุณหมอมู่คิดกับตัวเองยังไงน่ะ ไม่เลวๆ นี่แสดงว่าเธอเริ่มสนใจเขาแล้ว”

เวินจิ้งเป็นใบ้ไปชั่วขณะ อย่างนี้ไม่ได้นะ!

เธอก็แค่…ก็แค่อายเท่านั้นแหล่ะ!

ยังเสียของแบบนี้ตอนแรกที่เธออยู่กับฉืออี้เหิงก็ไม่เคยใช้มาตั้งแต่แรก

แต่พอมู่วี่สิงถือมันอยู่ต่อหน้าเธอ ถ้าเกิดเขาคิดจะทำอะไรขึ้นมา…

วินาทีนั้นสมองของเวินจิ้งก็ปรากฏภาพน่าอับอายของคนพวกนั้นขึ้นมาเต็มไปหมด สวรรค์ นี่เธอเป็นอะไรไปแล้ว!

หน้าร้อนชะมัด แม้แต่ร่างกายยังมีความรู้สึกแล้ว…

“จิ้งจิ้ง เสน่ห์ของคุณหมอมู่ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะต้านทานได้นะ เธอเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น”

เวินจิ้งวางสายไปเสียเฉยๆ พูดบ้าอะไรอยู่ได้!

เธอกุมใบหน้าของตัวเอง สลัดเรื่องวุ่นวายไว้ด้านหลัง

เธอต้องหาอะไรสักอย่าทำ ห้ามมานั่งคิดอะไรเพ้อเจ้อคนเดียวอีก!

พอออกจากห้องทำงาน เวินจิ้งก็ลงไปที่ชั้นหนึ่งของอาคารใหญ่ เวลานี้ ผู้หณิงท้องซึ่งมีใบหน้าเจ็บปวดคนหนึ่งก็ล้มลงกับพื้น เวินจิ้งย่นคิ้ว ช่วยพยุงเธอขึ้นมาอย่างกังวล

“ขอบคุณค่ะ รบกวนคุณช่วยพาฉันไปแผนกสูติหน่อยได้มั้ยคะ?” ผู้หญิงคนนั้นบอกด้วยสีหน้าขาวซีด

เวินจิ้งย่อมไม่ปฏิเสธ พอมาถึงแผนกสูตินารีก็มีพยาบาลเข้ามารับช่วงต่อ เธอหมุนกายทำท่าจะจากไป ลิฟต์ที่อยู่ตรงหน้าก็ปรากฏสองร่างคุ้นตาเดินออกมา

ทั้งที่เมืองหนานก็ไม่ใช่เล็กๆ แต่เธอกลับเจอสองคนนี้อยู่ร่ำไป

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ตั้งใจจะทำเป็นไม่เห็น

แต่ว่าคำพูดของฉินเฟยทำให้เท้าของเธอแข็งค้าง “อาเหิง รู้สึกเหมือนลูกจะเตะฉันอีกแล้วล่ะ”

ที่แท้ฉินเฟยก็ท้องแล้วที่เอง

ใบหน้าเวินจิ้งไร้ความรู้สึก ทว่าก็ไม่อาจทำละเลยต่อความเจ็บแปลบที่อยู่ใต้ก้นบึ้งหัวได้

“เฟยเฟย เดี๋ยวผมไปลงทะเบียนให้คุณก่อน คุณนั่งอยู่นี่แหล่ะ ลูกรัก เด็กดี อย่าเตะหม่ามี๊นะ” คนสองคนแนบชิดอิงแอบ ช่างเป็นภาพที่อบอุ่นเสียนี่กระไร

ฉืออี้เหิงหันหน้ามาก็พบเข้ากับสายตาของเวินจิ้ง

สังเกตเห็นสายตาของฉืออี้เหิง ฉินเฟยก็เบี่ยงหน้าไปดู พอเห็นเวินจิ้งในสายตาของเธอมีความเย็นชาผ่านไปแวบหนึ่ง

ทว่าครู่เดียวเธอยกยิ้ม “เวินจิ้งเองเหรอ”

เวินจิ้งไม่สนใจเธอ เบนหน้าหนีทำท่าจากไป

ฉืออี้เหิงย่นคิ้ว ตัดสินใจตามเธอไป ฉินเฟยเองก็ตามไปด้วยเช่นกัน

“เวินจิ้ง จะดีร้ายยังไงก็เพื่อนสมัยเรียน จะไม่อวยพรฉันหน่อยเหรอ?” ฉินเฟยยืนอยู่หน้าเวินจิ้ง น้ำเสียงแฝงความโอหัง

เวินจิ้งหลุบตาลง สีหน้าขาวซีดอยู่สักหน่อย ร่างกายสะท้านแผ่วเบา

“อวยพร? ชั่วชีวิตนี้ก็ไม่มีวันเสียล่ะ” ครู่ใหญ่เวินจิ้งถึงได้พ่นคำพูดนั้นออกมานิ่งๆ

ฉินเฟยย่นคิ้ว จังหวะก้าวเดินโซเซอยู่สักหน่อย ฉืออี้เหิงรีบพยุงเธอทันที

“เสี่ยวจิ้ง อย่าทำอะไรที่ไปกระตุ้นเฟยเฟย”

“อย่างนั้นพวกคุณก็อย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก” เวินจิ้งทิ้งคำพูดไว้ ตอนที่ลิฟต์เปิดออกก็สาวเท้าเข้าไปในนั้นทันที

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท