Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 54

ตอนที่ 54

ตอนที่ 54 แหวนแต่งงานที่อาจจะมาช้าไปสักนิด

ด้วยความที่ตอนเช้าบรรดาแฟนคลับพากันเข้ามารุมล้อมมู่วี่สิง เธอเลยเลือกที่จะใช้ประตูที่ไม่เป็นที่สังเกตเพื่อเข้าไปข้างใน เพราะเธอกลัว

เย่กวนกวนที่พึ่งจะตรวจเสร็จเห็นเวินจิ้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เลยรีบถอดแว่นกันแดดออกแล้วเดินเข้าไปหา

“เวินจิ้ง มาหาหมอมู่เหรอ” เย่กวนกวนมอง

“ฉันจะทำอะไรก็ไม่จำเป็นจะต้องรายงานให้คุณเย่รู้นี่คะ เพราะเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น” เวินจิ้งพูดโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ แล้วเดินผ่านเย่กวนกวนไป

เย่กวนกวนโกรธ กล้าดียังไงถึงมาพูดกับเธอแบบนี้!

“แต่ดูเหมือนว่าช่วงนี้หมอมู่จะมาที่บ้านฉันทุกอาทิตย์เลยนะ” เย่กวนกวนรีบพูด

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ไม่หยุดที่จะเดินไปต่อ

“เวินจิ้ง ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ ว่ามู่วี่สิงเนี่ย ฉันจอง!”

เสียงของเย่กวนกวนลอยมาในขณะที่เวินจิ้งก้าวเข้าไปในลิฟต์ เวินจิ้งมองเย่กวนกวน จนค่อยๆถูกคนตัวสูงในลิฟต์ล้อมรอบ พวกเขานั้นสูงมากพอที่จะทำให้เธอไม่เห็นเย่กวนกวนอีก

เสียงของเย่กวนกวนยังคงดังก้องอยู่ในหูของเธอ

ใช่แล้ว เย่กวนกวนมีคุณสมบัติเหมาะสมกับมู่วี่สิงทุกอย่าง

ลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้นของแผนกประสาทวิทยา เวินจิ้งไม่ก้าวเท้าออกไป เธอเลือกที่จะกลับบ้านแต่เพียงลำพัง

พอเจี่ยนอีเห็นเวินจิ้ง ก็รู้สึกประหลาดใจ

“มู่วี่สิงล่ะ”

“เขาต้องทำงานค่ะ”

“เขาลาไม่ได้เหรอ ถึงไม่ได้มาพร้อมกับลูกน่ะ” เจี่ยนอีถอนหายใจอย่างขัดใจเล็กน้อย

เวินจิ้งยิ้มและเข้าไปช่วยจัดการภายในครัว : “เขาก็ยุ่งเป็นปกติแหละค่ะ ไม่เป็นไรหรอก ยังไงหนูก็มาหาแม่บ่อยๆอยู่แล้วนี่เนอะ”

“แต่แม่เห็นลูกมา25ปีจนแม่เบื่อแล้วนะ” เจี่ยนอีพูดเสียงดัง

เวินจิ่งทำปากย่น รู้สึกเหมือนโดนแม่ทอดทิ้งยังไงยังงั้น

“ไว้เขาว่างแล้วหนูจะพาเขามาหาเองนะ แม่ทนเห็นลูกคนนี้ต่อไปก่อนแล้วกัน”

“งั้นก็ให้เขามาเย็นนี้เลยแล้วกัน! แม่อุตส่าห์ไปซื้อปลาสดๆที่ตลาดมาเลยนะ! รู้ไหมว่าแม่น่ะทอดปลาอร่อยที่สุดในโลกเลย” เจี่ยนอีพูดอย่างภูมิใจและเอาแต่พูดถึงหมอมู่ไม่หยุด

เวินจิ้งฟังแล้วก็ปวดหัว เธอไม่อยากจะเจอเขาในตอนนี้เลยจริงๆ

ในขณะที่เวินจิ้งกำลังคิดๆอยู่ ก็มีเสียงกดกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น เธอขมวดคิ้ว คิดว่าอาจจะเป็นพัสดุมาส่งหรือเปล่า

แต่พอเปิดประตูออกไปดู กลับพบว่าคนที่กดกริ่งเป็นผู้ชายที่เธอไม่อยากเจอในตอนนี้มากที่สุด

“นายมาได้ไง” เวินจิ้งถามอึกอัก

“คุณผู้หญิงมู่จะกลับมาบ้านโดยที่ไม่บอกกันเลยงั้นหรอ” มู่วี่สิงเลิกคิ้ว เหมือนจะโกรธนิดๆ

“ก็ฉันเห็นว่านายกำลังติดประชุมอยู่นี่ และอีกอย่างร่างกายนายก็ยังไม่หายดีด้วย” เวินจิ้งอ้างพลางมองเขา

“ฉันประชุมเสร็จไปตั้งนานแล้ว ส่วนร่างกายของฉัน เธอก็น่าจะรู้ดีไม่ใช่หรอว่ามันดีหรือไม่ดีขึ้น จากเมื่อคืนน่ะ” มู่วี่สิงพูดด้วยกลิ่นอายของความซุกซน

ทำเอาเวินจิ้งหน้าแดง

“อ้าว หมอมู่มาแล้วเหรอ! รีบเข้ามาเร็ว! เวินจิ้ง ลูกไปเปิดทีวีให้เขานั่งดูไปพลางๆก่อนสิ แล้วอย่าลืมรินชาให้เขาด้วยล่ะ” พอเจี่ยนอีที่ออกมาดู เห็นว่าคนที่มาเป็นมู่วี่สิง ก็รีบทำการต้อนรับขับสู้อย่างเต็มที่

มู่วี่สิงหอบกล่องของขวัญสองกล่องมาให้เจี่ยนอีเพื่อเป็นการทักทาย : “คุณแม่ครับ นี่ครับ”

“โอ้ หมอมู่ช่างมีน้ำใจอะไรอย่างนี้! แล้วยังเรียก ’แม่’ อีกด้วย ไม่เสียแรงเลยที่รอมา20กว่าปี!”

เวินจิ้งเงียบไม่พูดอะไร : “… “

พอเห็นว่าแม่ของเธอดี๊ด๊าปลาบปลื้มจนน้ำตาแทบไหล เธอก็รีบดึงแม่ของเธอเข้าไปในห้องครัว : “แม่คะ ทำอาหารเสร็จแล้วค่อยออกมาก็ได้ค่ะ หมอมู่ของแม่ไม่หายไปไหนหรอก”

พอมู่วี่สิงเห็นก็ยิ้มออกมา บ้านนี้ถึงแม้จะเป็นบ้านเล็กๆแต่ก็อบอวลไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น อยู่แล้วรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

“เอาพรมไหม โซฟามันแข็งน่ะ ไม่น่าจะนั่งสบายเท่าไหร่หรอก” เวินจิ้งถาม

มู่วี่สิงส่ายหน้า : “มานั่งนี่มา เปิดทีวีให้ดูด้วยนะ”

มู่วี่สิงดึงเธอมานั่งบนตัก แต่เธอก็ไม่ได้ผลักออกแต่อย่างใด เพราะแม่เธออาจจะกำลังดูอยู่

“แล้วเมื่อกี้นายพูดอะไรน่ะ” เวินจิ้งถาม

“พูดอะไร”

“ก็ที่เรียกแม่ฉันว่า ‘แม่’ ไง” เวินจิ้งพูดเสียงต่ำ

พอมู่วี่สิงเรียกเจี่ยนอีว่า ‘แม่’ เท่านั้นแหละ เจี่ยนอีก็ดีใจใหญ่

“แล้วมันไม่ใช่เรื่องปกติที่เขาทำกันหรือไง อีกอย่างพวกเราก็แต่งงานกันมาเดือนนึงแล้วนะ อย่าลืม” มู่วี่สิงพูด พลางกุมมือเวินจิ้งเอาไว้

เวินจิ้งประหลาดใจ นี่หนึ่งเดือนแล้วหรอที่พวกเขาแต่งงานกัน

แต่ไม่ว่านานแค่ไหนมันก็คงไม่สำคัญ เพราะพวกเธอไม่ใช่สามีภรรยากันจริงๆซะหน่อย

“แต่… “

“คนที่เธอรัก ก็คือคนที่ฉันรัก”

เวินจิ้งมองลึกเข้าไปในตาของเขา ถ้าใครได้เป็นผู้หญิงของมู่วี่สิงคงจะโชคดีสุดๆไปเลยล่ะ

พอเธอคิดอย่างนั้นก็เศร้าขึ้นมา

เจี่ยนอีออกมา เห็นว่าทั้งสองคนนั่งกุมมือกันดูทีวีก็รู้สึกสบายใจ

พออาหารพร้อม มู่วี่สิงก็จัดการรินชา ตักข้าว โดยที่มีเวินจิ้งคอยพยายามห้ามเขาอยู่

“เวินจิ้ง ลูกนี่ไม่ทำให้แม่ผิดหวังจริงๆ พวกลูกดูรักกันมาก แล้วนี่ขนาดหมอมู่เขายุ่งๆเขายังไม่ละเลยลูกเลย” เวินจิ้งพูดตาเป็นประกาย

ก่อนหน้านี้ก็มีผู้ชายอีกคนที่ทำแบบนี้ แต่สุดท้ายก็ทิ้งลูกสาวของเธอไป

“จิ้งจิ้งเป็นภรรยาผม ผมจะละเลยเธอได้ยังไงล่ะครับ” มู่วี่สิงพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

เขาและเจี่ยนอีเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยซะจริง

พอทานข้าวเสร็จ มู่วี่สิงก็จัดการล้างถ้วยชาม พอเวินจิ้งเห็น เธอก็ตาโตแล้วรีบเข้ามาห้าม

“อย่านะมู่วี่สิง! หยุด! ฉันไม่อยากให้นายมาทำถ้วยชามที่บ้านฉันแตกหรอกนะ!”

มู่วี่สิงยิ้ม พลางกดน้ำยาล้างจานออกมาเตรียมล้างมีดที่อยู่บนมือทั้งสอง เวินจิ้งเจ็บใจที่ห้ามเขาไม่ได้!

เธอเลยบอกกับมู่วี่สิงว่า : “งั้นให้ฉันช่วยนายแล้วกัน”

“เธอไปพักเถอะ” มู่วี่สิงพูด

“ไม่”

“ต้อง”

“ฟังกันบ้างสิ”

เจี่ยนอีที่อยู่ด้านนอก พอเห็นทั้งสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่ในห้องครัว ก็ยิ้มกว้างออกมา

สุดท้ายพวกเขาสองคนก็ช่วยกันล้างถ้วยชาม

“แม่คะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าหนูมาหาแม่อีกทีนะคะ”

“ถ้ามากับหมอมู่ก็โอเค แต่ถ้ามาคนเดียวไม่ต้องมานะ” เจี่ยนอีบอก

“คุณแม่ครับ เดี๋ยวผมจะมาด้วยครับ” มู่วี่สิงพูดแทรกขึ้น

เวินจิ้งมองเขา พลางคิดว่าเขาจะมาได้จริงๆงั้นเหรอ เห็นยุ่งทุกวันเลยนี่!

“ดีดีดี!”

รถปอร์เช่ของมู่วี่สิงจอดอยู่หน้าบ้าน

พอเวินจิ้งเปิดประตูรถออก เธอก็ต้องตกตะลึง เมื่อเห็นดอกกุหลาบช่อใหญ่วางอยู่บนที่นั่งคนขับ

เธอมองมู่วี่สิงด้วยตาที่เป็นประกาย เขาเข้าไปนั่งฝั่งคนขับ พร้อมกับยื่นดอกกุหลาบช่อนั้นให้เวินจิ้ง

“คุณผู้หญิงมู่ ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด 1 เดือนเต็มนะ”

เวินจิ้งอึ้ง นี่คือดอกกุหลาบช่อแรกในชีวิตเธอเลยนะ

ก่อนหน้าที่เธอคบกับฉืออี้เหิง เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้ให้เธอเลย

ทั้งๆที่… เธอชอบแบบนี้แท้ๆ

“มู่วี่สิง ฉัน… ขอบคุณนะ” พอเวินจิ้งเห็นว่าคนแถวๆบ้านพากันมองมายังพวกเขา เธอก็เลยรีบขึ้นไปนั่งบนรถทันที

เธอมองช่อดอกกุหลาบที่อยู่ในมือ ในช่อดอกกุหลาบนั้นมีแหวนวงนึงเกี่ยวไว้อยู่

เธอตกใจ นี่มันเหมือนกับการขอแต่งงานเลย

แต่… พวกเขาก็แต่งงานกันแล้วนี่นา

เธอมองมู่วี่สิงด้วยความประหลาดใจ เขาเอื้อมมือมาจับมือของเธอขึ้น

“คุณผู้หญิงมู่ นี่คือแหวนแต่งงานที่อาจจะมาช้าไปสักนิดนะ”

หลังจากสวมแหวนให้เธอเสร็จ เขาก็จูบเธอเบาๆที่หน้าผาก

เวินจิ้งนิ่งไปชั่วขณะ

หัวใจเต้นรัว พร้อมกับใบหน้าที่เริ่มร้อนผ่าว ผู้ชายที่อยู่ข้างๆเธอ คือมู่วี่สิง มู่วี่สิงจริงๆ

ทั้งๆที่เขาทั้งสองคนต่างก็ไม่ได้ยินดีเรื่องที่จะต้องมาตกลงแต่งงานกันอยู่แล้วแท้ๆ

“ฉะ… ฉัน…” เธอมองแหวนที่อยู่บนนิ้วนางของเธอ ไซส์ของแหวนนั้นพอดีกับนิ้วของเธอเลย ไม่คับไม่หลวมจนเกินไป ส่วนแบบของแหวนนั้นก็เป็นแบบที่เรียบง่ายแต่ดูดี

ถึงแม้ว่าเพชรบนแหวนจะไม่ได้ใหญ่อะไรมาก แต่รอบๆแหวนนั้นล้วนถูกฝังด้วยเพชรเม็ดเล็กๆจำนวนนับไม่ถ้วน ทำให้ดูเรียบหรู ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป

“มันจำเป็นสำหรับเรางั้นหรอ” สุดท้ายเวินจิ้งก็สรรหาคำพูดขึ้นมาพูดกับเขาได้

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท