Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 97

ตอนที่ 97

บทที่ 97 คุณชอบเวินจิ้ง ไม่ใช่หรือ

“อาการของพี่ฉันในตอนนี้เป็นอย่างไร?”

“สำหรับเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ยังจำเป็นต้องหาแบคทีเรียและการเลือกใช้ยาปฏิชีวนะให้เหมาะสม แต่สาเหตุของคุณฉินนั้นซับซ้อนและการทำงานของร่างกายของเธอลดลง ในปัจจุบันดูจากอาการแล้วยังไม่สามารถหายได้อย่างสมบูรณ์”

“คุณไม่ใช่หมอที่เชื่อถือได้ใช่ไหม? พี่สาวของฉันป่วยมาหลายปีแล้ว ทำไมยังรักษาไม่หายอีก” ฉินเฟยจ้องมองไปยังดวงตาของมู่วี่สิงด้วยความเคลือบแคลง

แม้เธอจะรู้ว่าเขามีความสามารถมาก แต่เธอก็ไม่ได้มองเขาในแง่ดีนัก

“การรักษาไม่เคยมีความแน่นอน 100% ฉันสามารถพูดได้ว่าจะทำให้ดีที่สุด”

“อะไรกัน คุณไม่ใช่หมอชั้นแนวหน้าหรือไง? ฉันเริ่มไม่แน่ใจที่ให้คุณมาคอยรักษา?” น้ำเสียงฉินเฟยหนักแน่นขึ้น

เมื่อได้ยินแบบนั้น ดวงตาของมู่วี่สิงก็เย็นชา เขาเงยหน้าขึ้นมองฉินเฟย “ในเมื่อคุณฉินเฟยต้องการหมอที่มีความมั่นใจ 100% ที่จะรับช่วงต่อ ฉันจะให้คณบดีจัดแพทย์คนอื่นให้”

เมื่อพูดจบ ก็จากไปอย่างไม่สนใจใดๆ

เขาไม่เคยเจอใครตั้งคำถามเช่นนี้

ฉินเฟยรู้สึกโกรธ ท่าทางเช่นนั้นของมู่วี่สิงคืออะไร?

เธอถามไปไม่เพียงกี่คำถาม แล้วเขาก็เป็นเช่นนั้น?

“ไม่รับรักษาก็ไม่ต้องรับ!” ฉินเฟยกล่าว และไปพบคณบดีด้วยตัวเอง

ครอบครัวฉินเป็นขุนนางในช่วงต้นปีของหนานเฉิง คณบดีจะไว้หน้าเธอ แต่ … มู่วี่สิงได้เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้และเขาจะไม่รับรักษา

แพทย์คนอื่น ๆ ได้แสดงทัศนคติของพวกเขาแล้วสถานการณ์ของฉินซินนั้นไม่ดีนักและเขาก็ไม่แน่ใจ

“อะไรนะ? ไม่มีหมอเหรอ? นี่เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในหนานเฉิงงั้นเหรอ? คุณบอกว่าไม่รับรักษา หรือเพราะว่านอกจากมู่วี่สิงก็ไม่มีใครรักษาได้แล้ว?”

คณบดีขมวดคิ้วและพูดอย่างสิ้นหวังว่า “หากดูจากตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้น”

แม้แต่มู่วี่สิงก็ไม่รับรักษา แล้วใครจะกล้า?

และเขาเข้าใจอารมณ์ของมู่วี่สิงโดยไม่พูดอะไรเลย แม้ว่าคณบดีของเขาจะเกลี้ยกล่อม แต่ถ้าเขาไม่เต็มใจก็ไม่มีใครบังคับเขาได้

“โรงพยาบาลอะไรกันของพวกคุณ! ฉันจะฟ้องร้อง แล้วพี่ฉันตอนนี้จะเป็นอย่างไร? เราย้ายเธอจากประเทศ B และคุณบอกว่าไม่รับรักษาในตอนนี้งั้นสิ? โรงพยาบาลของคุณไม่มีความรับผิดชอบจริงๆ!”

เมื่อฉืออี้เหิงมาถึง ฉินเฟยก็ยังไม่ออกจากห้องทำงานของคณบดี

เธอต้องไปหาหมอรักษาให้พี่สาวของเธอ

“เราย้ายโรงพยาบาลกันเถอะ” ฉืออี้เหิงกล่าว

เมื่อพูดเสร็จ จึงเริ่มติดต่อโรงพยาบาลอื่น ๆ แต่โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่สุดของหนานเฉิงเกือบทั้งหมดแนะนำให้ไปหามู่วี่สิง

เมื่อฉินเจิ้งรู้เรื่องนี้เข้าเขาได้ดุด่าว่าฉินเฟย “ไปหามู่วี่สิงเดี๋ยวนี้ ฉันต้องการให้เขารักษาลูกสาวฉัน!”

“พ่อ เขาไม่น่าเชื่อถือ….” ฉินเฟยไม่โอเค

“เขาไม่น่าเชื่อถือ แล้วแกเชื่อถือได้หรือไง นั่นมันชีวิตพี่สาวแกนะ!” ฉินเจิ้งกล่าวด้วยความโกรธ

ฉินเฟยไม่สามารถทำอะไรได้ ฉืออี้เหิงได้เข้ามาพูดคุยกับเธอ จากนั้นเขาก็ได้เข้าไปหามู่วี่สิงพร้อมกับฉินเฟย

บ่ายวันนั้น เวินจิ้งมาที่ห้องปฏิบัติการเพื่อพบกับมู่วี่สิง ในเวลานี้เขาเกือบจะวินิจฉัยเสร็จแล้ว

แต่เมื่อเดินออกมาจากลิฟต์เธอมองเห็นฉืออี้เหิงและฉินเฟยได้เดินเข้าไปในห้องทำงานของมู่วี่สิง

“หมอมู่ เรื่องครั้งที่แล้วฉันต้องขอโทษด้วย ฉันหวังว่าคุณจะรับรักษาพี่สาวฉัน” ฉินเฟยมองลงไปข้างหน้าน้ำเสียงก็พอฟังได้

มู่วี่สิงมองไปที่ใบรักษานี้ หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาเงยหน้าขึ้นมองอย่างเฉยเมย “ในแง่ของสถานการณ์ของคุณฉินซินขณะนี้ไม่มียาที่พัฒนาทางการแพทย์ที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ 100%”

“มู่วี่สิง อย่าหาศัตรูใส่ตัว สถานการณ์ของฉินซินนั้นอันตรายมาก ฉันต้องการคุณ คุณต้องรักษาเธอ!” ฉืออี้เหิงกล่าวด้วยใบหน้าที่ยากคาดเดา

ใบหน้าของมู่วี่สิงยังคงเฉยเมย “หาศัตรูใส่ตัว? ศัตรูระหว่างฉันกับคุณฉืออี้เหิงคืออะไร?”

ฉืออี้เหิงนิ่งงัน “คุณชอบเวินจิ้ง ไม่ใช่หรือไง?”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท