บทที่ 120 ไม่มีทางที่จะกลับตัวขึ้นมาได้
เสี้ยวหงยิ้มขึ้นเล็กน้อย มองเห็นสีหน้ากลัวจนหัวหดที่สะท้อนขึ้นและผ่านไปอย่างรวดเร็วของฉืออี้เหิง จากนั้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “คุณฉือ ผมกลับมีข้อเสนออย่างหนึ่ง ช่วงนี้บริษัทการผลิตยาเทียนอีมีแพลนที่จะพัฒนาการวิจัยตัวยาที่แอฟริกา ผมเคยดูเรซูเม่ของคุณ หากรับหน้าที่ผู้รับผิดชอบแล้วล่ะก็ เทียนอีสามารถให้สวัสดิการที่ไม่เลวกับคุณได้ คุณว่าไงล่ะ?”
ฉืออี้เหิงชักสีหน้า “ตอนนี้ผมต้องการเพียงแค่การร่วมลงทุนจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป!ไม่อย่างงั้น ต่อให้ผมไม่มีความกล้าที่จะฆ่าเวินจิ้ง ผมก็จะทำลายเธอทิ้งอย่างไม่เสียดายอะไรทั้งสิ้น!”
ทำลายเธอทิ้ง!
อั๊ยเถียนที่แอบฟังอยู่ด้านนอกมาโดยตลอดแทบจะอดไม่ได้ที่จะพุ่งเข้าไป ผู้ช่วยของเสี้ยวหงรั้งเธอเอาไว้ แล้วส่ายศีรษะ
หลังจากที่ฉืออี้เหิงจากไป อั๊ยเถียนก็พุ่งตัวเข้าไปในทันที ตบโต๊ะอย่างแรงด้วยความโมโห “เสี้ยวหง ฉืออี้เหิงตอนนี้คือคนบ้าคนหนึ่ง!พวกคุณตรวจสอบหาตำแหน่งของเวินจิ้งไม่เจอ ก็รีบลงทุนซะ!”
เสี้ยวหงขมวดคิ้วขึ้น มองดูเวลาเล็กน้อย ผ่านไปสิบชั่วโมงแล้ว มู่วี่สิงคงจะพอที่จะกลับมาได้แล้ว
“เรื่องนี้คุณก็อย่าแทรกมือเข้ามาเลย มู่วี่สิงแก้ไขด้วยตัวเองได้”
“แก้ไขยังไงคะ? เวินจิ้งเกิดเรื่องนานขนาดนั้นแล้ว!เขากำลังทำอะไรอยู่!” ตอนนี้อั๊ยเถียนผิดหวังต่อมู่วี่สิงเป็นอย่างมาก เป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ การแต่งงานเฉพาะในนามนั้นต่างก็เชื่อถือไม่ได้!
เห็นอั๊ยเถียนจะวิ่งออกไป เสี้ยวหงก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ อั๊ยเถียนทรงตัวไม่อยู่ล้มไปในอ้อมแขนของเขาในทันที “ไม่ช้ามู่วี่สิงก็กลับมาแล้ว”
“ฉันไม่เชื่อใจเขาแล้ว!คิดไม่ถึงว่าแม้แต่เวินจิ้งเขาก็ไม่สนใจ!”
“อย่าโวยวาย อั๊ยเถียน ฉืออี้เหิงไม่กล้าลงมือกับเวินจิ้ง ตำแหน่งที่อยู่ของเธอ ไม่ช้าก็จะหาเจอแล้ว” เสี้ยวหงเอ่ยขึ้นอย่างรับประกัน
หลังจากนั้นสองชั่วโมง เครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งก็ลงจอดที่สนามบินเมืองหนานเฉิง มู่วี่สิงเดินออกมา เกาเชียนตามรายงานสถานการณ์ล่าสุดของการตรวจสอบไปตลอดทาง
“หนังสือแผนคนของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปดูแล้วหรือยัง?” มู่วี่สิงเอ่ยถาม
“ดูแล้วครับ แต่อุปสรรคอยู่ที่นิติบุคคลคือฉืออี้เหิง ไม่มีใครยอมตกลงที่จะร่วมลงทุน” เกาเชียนขมวดคิ้วขึ้น
“ตำแหน่งของคุณนายมู่มีเบาะแสหรือยัง?”
“ได้ล็อคเอาไว้แล้วครับอยู่ที่เขตหนานวาน”
มู่วี่สิงพยักหน้า กดไปบนตรงกลางระหว่างคิ้ว ความเหนื่อยล้าที่อยู่บนใบหน้าปิดเอาไว้ไม่อยู่
ในเวลานี้เอง เสียงริงโทนโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น คือสายโทรศัพท์เร่งด่วนจากหลี่ซาน
“คุณหมอมู่ เกิดเรื่องแล้วค่ะ”
“ว่ามาครับ”
“การผ่าตัดแม้ว่าจะสำเร็จ แต่ตอนนี้ผู้ป่วยปรากฏผลข้างเคียงที่รุนแรงมากออกมา ตอนนี้ฝั่งสาขาวิชาสมองตั้งข้อสงสัยว่าเป็นฝีมือการผ่าตัดของคุณที่เกิดปัญหา”
“ส่งอานจิ้งไปเฝ้าดูอาการ”
อานจิ้งคือหมอรักษาคนไข้ที่ติดตามมู่วี่สิงมาโดยตลอด
“ฉันจะแจ้งเขาเดี๋ยวนี้ค่ะ เพียงแต่คุณหมอมู่ ยังไงทางที่ดีที่สุดก็คือคุณเข้ามาดูสักหน่อย ญาติผู้ป่วยที่อยู่ทางนี้อาละวาดกันรุนแรงมาก”
“อืม” ตอบรับไปอย่างราบเรียบ มู่วี่สิงไปที่หมู่บ้านเล็กๆในถนนอันหนิงก่อน
สอบถามคนงานตกแต่งบ้านเก่าด้วยตัวเอง วันนั้นเวินจิ้งออกไปจากที่นี่ตอนสี่โมงเย็น อีกทั้งผู้ดูแลหมู่บ้านก็ไม่ได้เห็นเวินจิ้งออกไปจากที่นี่ เพียงแต่ กลับมีรถยนต์คันหนึ่งขับออกไปจากหมู่บ้านตอนประมาณสี่โมงถึงห้าโมงเย็น
เปิดกล้องวงจรปิดออกดู เป็นรถของฉืออี้เหิงจริงๆ
มู่วี่สิงส่งคลิปวิดีโอไปให้เกาเชียนตรวจสอบ ยืนยันว่าในรถมีคุณนายอยู่หรือไม่
เขามองดูตึกพักอาศัยที่อยู่ทั่วทั้งสี่ด้าน ดวงตาดำขลับหรี่ลง
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง มู่วี่สิงก็ไปที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป มองดูหนังสือแผนโครงการของฉืออี้เหิงที่กลุ่มนักลงทุนปฏิเสธกลับมา เปิดพลิกออกทีละหน้าๆ ต่างก็ลิสต์ความเสี่ยงที่อยู่ในนั้นออกมาอย่างละเอียด
เขาโทรศัพท์ไปหาเสี้ยวหง “ให้บริษัทเย่าเคอลงทุนห้าสิบล้าน”
บริษัทเย่าเคอเป็นบริษัทการลงทุนที่ถูกจัดอันดับอยู่ในสิบอันดับแรกของเมืองหนานเฉิง และก็เป็นบริษัทเอกชนเพียงบริษัทเดียวที่ไม่ได้เข้าไปในตลาดหุ้น ผู้ถืออำนาจที่อยู่เบื้องหลังลึกลับเป็นอย่างมากมาโดยตลอด
เสี้ยวหงกลับไม่ได้รู้สึกว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมาย “วี่สิง คราวนี้จริงจัง?”
“ฉันคราวไหนที่ไม่จริงจัง?”
“ฉันหมายถึงว่า ไม่คุ้ม ฉืออี้เหิงไอ้เจ้านั่นไม่กล้าทำอะไรหรอก พวกเราแจ้งความได้เลย” เสี้ยวหงกลับใจเย็นมาก
“ไม่ คราวนี้ ฉันจะทำให้มันไม่มีทางที่จะกลับตัวขึ้นมาได้อีกต่อไป” ความดุดันในดวงตาของมู่วี่สิงแผ่ขยายขึ้น