Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 154

ตอนที่ 154

บทที่ 154 หาเรื่องใส่ตัว

ฉีเซินเดินไปที่ห้องเมื่อสักครู่ ถีบประตูเปิด ฉืออี้เหิงถูกมัดอยู่บนเกก้าอี้ สองฝั่งมีการ์ดเฝ้าอยู่

“จุ๊จุ๊ ฉืออี้เหิง คุณว่าทำไมคุณถึงได้มาอยู่จุดนี้ในวันนี้ ข่มขู่ผู้หญิงไปทั่วเพื่อมาช่วยตัวคุณเอง น่าดูถูกจริงๆ” ฉีเซินนั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้าม กลิ่นไออันตรายลอยออกมาจากตัว

“ถ้าไม่ใช่เพราะเวินจิ้งกับมู่วี่สิงทำร้ายผม ผมไม่มีทางตกต่ำมาจนถึงจุดนี้หรอก” ฉืออี้เหิงกัดฟันพูด

“ถ้าคุณไปไม่หาเรื่องพวกเขาก่อน พวกเขาก็ไม่ทำกับคุณแบบนี้ ฉืออี้เหิง คุณนี่มันหาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น”

ฉืออี้เหิงเม้นปากแน่น สีหน้าไม่ยอมแพ้

“ในเมื่อคุณไม่ช่วยผม ตอนนี้จะกักตัวผมไว้ทำไมอีก” ฉืออี้เหิงเอ่ยอย่างไม่พอใจ

“คุณทำร้ายว่าที่ภรรยาของผม คุณคิดว่าผมจะปล่อยคุณไปแบบนี้?” ฉีเซินขยับเข้าใกล้ คอเสื้อของเขาเอาไว้แน่น

“คุณก็ไม่ได้ชอบฉินเฟยอยู่แล้ว คุณชอบเวินจิ้ง ไม่คิดว่าผู้หญิงมือสองที่ผมไม่เอาจะมีคนอยากได้เยอะขนาดนี้…..”

อยากพูดไม่ทันจบ เท้าของฉีเซินก็กระแทกไปที่ฉืออี้เหิงเต็มแรงจนล้มลงไปกองที่พื้น ความโกรธถูกส่งออกมาจากดวงตาคม

“ฉืออี้เหิง แกมันสมควรตาย” น้ำเสียงโกรธจัดของฉีเซินเอ่ยออกมา

“ตอนนี้ผมก็มีอยู่ชีวิตเดียว ผมกับคุณฉีเราไม่ได้มีความแค้นต่อกัน แต่ผมรู้ว่า คุณมีความแค้นต่อมู่วี่สิงมาก”

ฉีเซินหรี่ตาจ้องมองเขา อีกครั้งที่เท้าเตะลงไปด้วยความโกรธ “เกี่ยวอะไรกับคุณ”

“แค่คุณช่วยผม ผมก็ช่วยคุณได้” ฉืออี้เหิงเอ่ยเสียงเรียบ

ฉีเซินขมวดคิ้ว หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอย่างไม่เป็นสุข ควันสีขาวลอยคละคลุ้งบดบังสีหน้าของเขา

เขามองฉืออี้เหิง มุมปากค่อยๆยกสูง

…………

เวินจิ้งอยู่ต่ออีกไม่นานก็กลับไป หลิวเวยออกไปส่งเธอด้วยตัวเอง

“เวินจิ้ง ฝากถามข่าวคราวแม่เธอด้วยนะ กลับดีๆล่ะ”

เวินจิ้งยิ้มบางๆ “วันนี้ต้องขอบคุณการดูแลจากคุณนายฉีนะคะ คุณก็รักษาสุขถาพด้วย”

เพียงหมุนตัว เธอก็เห็นมู่วี่สิงยืนพิงประตูรถอยู่ วันนี้เขาสวมเชิ้ตขาวคู่กับกางเกงแบบตะวันตก ท่าทางสง่างาม แต่ก็น่าเกรงขาม

เวินจิ้งเดินเข้าไปหา มู่วี่สิงโอบเอวเล็กอย่างเป็นธรรมชาติ เปิดประตูรถให้เธอ

หลินเวยมองมู่วี่สิงอยู่ไกลๆ ใบหน้าค่อยๆเคร่งขรึม

“มู่วี่สิง คุณมานานแล้วหรอ?” เวินจิ้งเอ่ยถามเขา

ถ้าเขามาถึงแล้วโทรหาเธอ เธอคงจะออกมาเร็วกว่านี้

“สิบนาทีก่อน” มู่วี่สิงเอ่ยตอบ สายตามองลงไปยังลำคอของเวินจิ้ง มีรอยบางๆอยู่บนนั้น ชัดเจนว่าเป็นรอยมือคนบีบ

ดวงตาเขาเข้มขึ้นทันที “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

เวินจิ้งกัดริมฝีปาก ไม่เอ่ยปากอยู่สักพัก

จริงๆเรื่องมันผ่านไปแล้ว เธอไม่คิดจะบอกมู่วี่สิง

เห็นเธอไม่พูด ใบหน้ามู่วี่สิงตึงขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธ “คุณไม่พูด ผมก็สืบเองได้”

“ไม่มีอะไร….” เวินจิ้งคว้ามือของเขาเอาไว้ “ไม่รู้ฉืออี้เหิงเข้ามาได้ยังไง ฉันถูกเขาจับเอาไว้ แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้ว”

ยิ่งเธอตั้งใจไม่เอ่ยถึงฉีเซิน มู่วี่สิงก็ยิ่งโกรธ

“มู่วี่สิง” เห็นใบหน้าเคร่งขรึมของมู่วี่สิง ในใจของเวินจิ้งก็ไม่สงบ

“ต่อไปถ้าเกิดเรื่อง รีบบอกผม คุณนายมู่ต้องจำไว้ ผมเป็นสามีของคุณ” สายตาแวววาวของมู่วี่สิงมองมายังเธอ น้ำเสียงปิดบังความโกรธเอาไว้ไม่มิด

เวินจิ้งพยักหน้าตอบอย่างว่าง่าย ตลอดทาง มู่วี่สิงไม่เอ่ยอะไรออกมาอีก

พอมาถึงการ์เด้นมู่เจียวานก็อยู่แต่ในห้อง ไม่ออกมาอีก

ถึงตอนเย็น แม่บ้านมาทำอาหารตรงเวลา เวินจิ้งให้เธอรีบกลับไป เธอลงมือทำอาหารเอง

ทำอาหารตะวันตกที่มู่วี่สิงชอบทั้งนั้น แต่ฝีมือทำอาหารของเธอนั้นธรรมดา ยิ่งเป็นอาหารตะวันตกด้วย ยิ่งวุ่นวายเข้าไปใหม่

มองดูนาฬิกาสองทุ่มแล้ว ทำสเต๊กเนื้อมาหลายครั้งแล้วไม่เคยสำเร็จเลย เวินจิ้งถอนหายใจอย่างยอมแพ้ หรือว่าจะต้องสั่งซื้อ?

ไม่นานมู่วี่สิงก็ออกมา บนโต๊ะยกสปาเก็ตตี้ออกมาแล้ว แต่นอกจากนี้ก็ไม่มีอาหารอย่างอื่น

อีกทั้งในห้องครัวยังดูวุ่นวาย กลิ่นไหม้ลอยออกมาอยู่ตลอด

“มู่วี่สิง….คุณจะออกไปข้างนอกหรอ?” เวินจิ้งเชยตาขึ้น เห็นผู้ชายตรงหน้าแต่งตัวพิถีพิถัน เปลี่ยนชุดและรองเท้าแล้ว ราวกับจะออกไปข้างนอก

“อืม คืนนี้ไม่ต้องรอผม” น้ำเสียงเย็นชาของมู่วี่สิงเอ่ยตอบ แล้วรีบออกไป

เวินจิ้งยืนนิ่ง สัมผัสได้ถึงความเย็นชาที่มู่วี่สิงมีต่อเธอ ความผิดหวังในใจหลังไหลเข้ามาดั่งทะเล

เธอนั่งลงบนโต๊ะอาหาร เคี้ยวสาปาเก็ตตี้ที่ตัวเองทำอย่างไร้รสชาติ เทียบกับฝีมือทำอาหารของมู่วี่สิงแล้ว เธอห่างจากเขาลิบลิ้วเลย

เธอถอนหายใจอย่างพ่ายแพ้ คิดถึงใบหน้าเย็นชาของมู่วี่สิง ดังนั้น เธอต้องง้อเขาหรอ?

เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้มันเป็นอุบัติเหตุ เขาจะโกรธก็ไม่แปลกไปหน่อยหรอ

เวลานี้ บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

ตอนนี้ดึกแล้ว มู่วี่สิงเดินเข้ามาในห้องทำงาน นอกจากเกาเชียน ก็ยังมีลู่หวั่นที่อยู่ที่นี่

มู่วี่สิงมองเธออย่างแปลกใจ “ไม่ใช่พึ่งกลับมาหรอ? มาทำอะไรที่นี่?”

“เลขาเกาบอกว่าคืนนี้คุณจะมาประชุม ฉันไม่มีอะไรทำเลยแวะมาดู ทำไม ไม่ต้อนรับหรอ?” ลู่หวั่นขมวดคิ้ว

“คุณก็รู้ว่าผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น” ใบหน้าเคร่งขรึมของมู่วี่สิงอ่อนโยนขึ้น

ลู่หวั่นเดินเข้ามา เอ่ยถามอย่างสงสัย “ทำไมคุณถึงกลับมาทำงานที่บริษัทมู่ซื่อล่ะ? เป็นคุณหมอมู่ดีๆไม่เป็น หรือว่า คุณชอบเงินมากกว่า?”

“ลู่หวั่น” สายตาคมเข้มขึ้น

ลู่หวั่นรู้จักนิสัยเขาดี รีบสงบปากสงบคำ มู่วี่สิงไม่ชอบให้ใครถามเจาะลึกความคิดของเขา

“โอเค ฉันก็แค่แวะมาดูบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ยังไงต่อไป ฉันก็ต้องมาทำงานที่นี่”

ได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงจึงขมวดคิ้ว ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาทางประตู ดวงตาสวยมีแววหยอกล้อ

“เป็นไงบ้าง พึงพอใจกับการตัดสินใจของฉันไหม?” ลี่หนานเฉิงเดินเข้ามานั่งลงบนโซฟา โบกมือทักทายลู่หวั่น

เพียงแต่สายตาของลู่หวั่นนั้นมองมู่วี่สิงมาโดยตลอด

“ลู่หวั่น คุณกลับไปก่อน” มู่วี่สิงเอ่ยเสียงเรียบ

ห้องทำงานเหลือเพียงชายหนุ่มสองคน มู่วี่สิงนั่งลงตรงหน้าลี่หนานเฉิง ดวงตาทะมึน

“คุณจะทำอะไร?”

มู่หนานเฉิงยกยิ้มมุมปาก “คุณก็ทิ้งคนไว้มาหลายปีแล้ว วี่สิง พอเถอะ”

“ผมแต่งงานแล้ว” มู่วี่สิงบอกชัดเจน

“อะไรนะ?” ลี่หนานเฉิงรีบร้อนเด้งตัวขึ้นมา เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมเขาถึงไม่รู้?

แม้ว่าเขาจะไม่อยู่หนานเฉิงมานาน แต่เขากับมู่วี่สิงนั้นเป็นพี่น้องที่สนิทกันมาก เรื่องนี้มันเกินไปหน่อยไหม

“ตั้งแต่เมื่อไหร่” ลี่หนานเฉิงนั่งลงข้างมู่วี่สิง แววตาตัดพ้อ

“ครึ่งปีก่อน”

“นี่ พี่ชาย นี่มันเกินไปไหม แต่งงานเรื่องใหญ่ขนาดนี้ก็ไม่บอกผม ผมยังรีบร้อนแทนพี่อยู่เลย” ลี่หนานเฉิงโมโห

มู่วี่สิงยังคงนิ่ง น้ำเสียงคม “คุณรีบร้อนแทนผม? จะดีกว่าไปถ้าจะรีบร้อนแทนตัวเอง ยังอยากอยู่กับมู่ซื่อกร๊ปตลอดไป?”

ลี่หนานเฉิงใบหน่าเคร่งขรึม “หลายปีมานี้ผมช่วยคุณกำจัดสิ่งชั่วร้ายในมู่ซื่อกรุ๊ปแล้ว ทำไม ผมขัดหูขัดตาหรอ?

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท