Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 156

ตอนที่ 156

บทที่ 156 อาหารหมาเขาไม่กิน

วันต่อมา แสแดดสาดส่องเข้ามา เวินจิ้งพลิกตัว พื้นที่ข้างๆนั้นว่างแล้ว

เมื่อคืนมู่วี่สิงกลับมาพร้อมกลิ่นเหล้าแล้วยังทำเธอไร้เรี่ยวแรง….แต่เธอก็ไม่เคยขัดเขาได้

หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จจึงเดินออกไป ใบหน้าเวินจิ้งไม่พอใจ แต่เพียงเห็นบางคนอยู่ในชุดสูทกำลังเตรียมอาหารให้เธออยู่ในครัว ความโกรธของเธอก็ลดลงไปไม่น้อย

อุณหภูมิตอนเช้าลดต่ำ เวินจิ้งจามออกมา มู่วี่สิงหันหน้ากลับมาแววตาฉายแววเป็นห่วง

เวินจิ้งสวมเพียงชุดนอนบางๆเดินออกมา ตั้งใจจะทานอาหารเช้าก่อน

มู่วี่สิงทำก๋วยเตี๋ยวน้ำใส น้ำซุปรสชาติกำลังดี กลิ่นไก่แพร่กระจาย หอมอบอวล

ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่หน้าตาดี….ฝีมือการทำอาหารก็ยังดีสุดๆ

“เมื่อคืนคุณไปดื่มเหล้ากับใคร” เวินจิ้งคิดเรื่องนี้อยู่ตลอด

แม้จะรู้ว่าเป็นเรื่องงาน แต่เมื่อคืนทั้งคู่ก็เหมือนทำสงครามเย็น มู่วี่สิงไม่ได้บอกอะไรเธอเลย

มู่วี่สิงนั่งลงข้างๆเธอ คนก๋วยเดี๋ยวให้เข้ากันแล้วค่อยยื่นมาตรงหน้าเธอ

เขาหยุดไปพักหนึ่ง เข้าไปหยิบเสื้อคลุมมาคลุมให้เธอ

“ขอบคุณค่ะ” เธอเอ่ยเบาๆ

“ตำแหน่งสูงของมู่ซื่อกร๊ปไม่กี่คน พวกเขาเป็นเพื่อนผม” มู่วี่สิงเอ่ยตอบเธอ

“ฉันยังคิดว่าเป็นเรื่องงานพวกคุณเลยต้องประชุมหน่อย?” เวินจิ้งมองเขา

ช่วงนี้เธอใส่ใจเรื่องราวของมู่วี่สิงมากยิ่งขึ้น บางทียังมีปฏิกิริยาแบบผู้หญิง

เธอรู้ว่าไม่ควรใส่ใจ แต่มันควบคุมได้ที่ไหนกัน

“อืม คุณอยากเจอพวกเขาหรอ ต่อไปถ้ามีนัดทานข้าวผมจะมารับคุณด้วย” มู่วี่สิงเอ่ยอย่างอ่อนโยน

เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น รู้สึกแปลกใจ

แต่ก่อนมู่วี่สิงทำงานที่โรงพยาบาลยุ่งจนแทบหาตัวไม่เจอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องสังคม เธอก็ยังไม่เคยได้เจอเพื่อนๆรอบตัวของเขา นอกจากเสี้ยงหง

แล้วตอนนี้ มู่วี่สิงพูดแบบนี้ หมายถึงให้เธอได้สัมผัสสังคมของเขาใช่ไหม?

“ไม่ต้องหรอก เมื่อคืนฉันแค่เป็นห่วงคุณ” เวินจิ้งส่ายหน้า

มู่วี่สิงหรี่ตาลง ความโกรธผ่านเข้ามาในแววตา เชยหน้าเวินจิ้งขึ้นมา

ความอ้างว้างในสายตาเธอถูกเขาจับได้

“คุณนายมู่ คุณกำลังหนีอะไรอยู่? หืม?” สายตาฉลาดแหลมคมของมู่วี่สิงจับจ้อง

เวินจิ้งจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเขา แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

มู่วี่สิงไม่ได้ทานข้าวเช้า รีบร้อนออกไป

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ค่อยๆทานก๋วยเตี๋ยวจนหมด รสชาติเข้มข้นในแบบที่เธอชอบ เธอพบว่า จริงๆแล้วมู่วี่สิงเข้าใจเธอมากกว่าที่เธอคิด

ช่วงนี้เพียงแค่เขาอยู่บ้าน ก็จะลงมือทำอาหารให้เธอ ทำแต่เมนูที่เธอชอบ

ผู้ชายอบอุ่นแบบนี้ เวินจิ้งจะปฏิเสธได้ยังไง

แบกรับความรู้สึกในใจ เธอไปทำงานที่บริษัทผลิตยาเทียนอี ที่นี่ห่างจากบริษัทใกล้มาก เธอเดินไปก็ถึง

ตอนเช้าเป็นการประชุมปกติ ตอนนี้เวินจิ้งถูกจัดให้เป็นเลขาของฝ่ายการตลาด และอั้ยเถียนเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด ตอนนี้เป็นหัวหน้าของเธอ

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังเหมือนเดิม ไม่ได้มีฐานะเจ้านายและลูกน้องมาสร้างระยะห่าง

เช้านี้ การประชุมยังมีชายแปลกหน้ามาเข้าร่วมด้วย เขานั่งอยู่ท้ายแถว เพียงเวินจิ้งเดินเข้ามา สายตาเย้ายวนของเขาก็มองมายังร่างเล็กของเวินจิ้ง

เวินจิ้งรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง หันหลังให้เขา เธอรู้สึกราวกับถูกจับจ้องอยู่ตลอดเวลา

“จิ้งจิ้ง ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? เทียนอีมีพนักงานที่หล่อขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” อั้ยเถียนอดไม่ได้หันกลับไปมองลี่หนานเฉิงอีกครั้ง ตอนนี้ คนที่หล่อที่สุดในบริษัทผลิตยาเทียนอีคือเสี้ยงหง

แต่ตอนนี้ผู้ชายคนนี้หล่อในระดับเดียวกันกับเสี้ยงหง

“ไม่รู้ ไม่เคยเห็น” เวินจิ้งเอ่ยเสียงเรียบ

“แต่ว่า……..เขามองเธออยู่ตลอดเวลาเลยนะ” อั้ยเถียนจับแขนเสื้อเธอเอไว้แน่น อดไม่ได้หันกลับไปมองอีก

จนกระทั่งเสี้ยงหงเรียกเธอให้วิเคราะห์รายงานผล อั้ยเถียนแอบหงุดหงิด เมื่อสักครู่เธอก็สนใจอย่างอื่น ใครจะรู้ล่ะว่าเขาพูดอะไร

“อั้ยเถียน รายงานที่คุณทำเองคุณยังไม่รู้? หรือว่า คุณไม่ได้ทำเอง?” สายตาเสี้ยงหงแหลมคม

อั้ยเถียนกัดริมฝีปาก ช่วงนี้เธอทำรายงานตั้งเยอะ ไม่รู้ว่าเขาพูดถึงอันไหน…..

“เลิกประชุมก่อน อั้ยเถียนอยู่ก่อน” เสี้ยงหงโกรธแล้ว

ตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งในบริษัทมาเขาไม่เคยโกรธเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาโกรธ

อั้ยเถียนก้มหน้านิ่งอย่างอึดอัดใจ ค่อยเห็นว่าเวินจิ้งได้บื่นรายงานให้เธอตั้งนานแล้ว แต่เธอไม่ทันได้สังเกต

“จิ้งจิ้ง เธอออกไปก่อนเถอะ” อั้ยเถียนน่าสงสาร

เวินจิ้งจนปัญญา รีบเก็บของแล้วเดินออกจากห้องประชุมไป จนมีร่างสูงเดินมาขวางหน้าเธอ

เป็นผู้ชายเย้ายวนคนนั้น

“คุณคือคุณนายมู่?” ลี่หนานเฉิงหรี่ตาอันตราย

เวินจิ้งตกใจ คนที่รู้ฐานะของเธอนั้นน้อยมาก เขาเป็นใคร?

เวินจิ้งมองเขาอย่างหวาดระแวง

ลี่หนานเฉิงยิ้ม “ผมเป็นเพื่อนของมู่วี่สิง และเป็นรองประธานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป”

เวินจิ้งผ่อนลมหายใจ ใบหน้ายิ้มบางๆ “สวัสดีค่ะ ฉันคือเวินจิ้ง”

“เขาชอบคุณที่ตรงไหน? พิจารณาเสน่ห์และหน้าตาเทียบหลี่ซานไม่ได้ ความเฉลียวฉลาดเห็นได้ชัดว่าเทียบลู่หวั่นไม่ได้”

รอยยิ้มบนใบหน้าเวินจิ้งนิ่งค้าง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้ความสัมพันธ์ที่แท้จริงของเธอกับมู่วี่สิง

“ฉันเป็นแค่คนธรรมดา สำหรับคำตอบที่คุณต้องการ คงต้องถามมู่วี่สิงถึงจะรู้” เวินจิ้งไม่ได้อยู่ต่อ

แน่นอนว่าไม่ว่าจะด้านไหนๆเธอก็เทียบคนที่อยู่รอบตัวเขาไม่ได้ ดังนั้นเธอคิดว่า จะต้องมีสักวัน มู่วี่สิงจะเจอคนที่เหมาะสมกับเขา

ลี่หนานเฉิงลูบปลายคาง นิสัยของผู้หญิงคนนี้มองภายนอกแล้วดูอ่อนโยน แต่จริงๆแล้วในคำพูดนั้นมีหนาม?

เขากำลังจะไปคุยกับเสี้ยงหงในห้องประชุม แต่พบว่าเสี้ยงหงกักลูกน้องคนนั้นชิดผนัง?

ในช่วงที่เขาไม่อยู่นี้ มีเพียงเขาที่ยังโสดเป็นหมาคนเดียว?

หมุนตัวกลับอย่างโมโห เขากลับไปที่มู่ซื่อกรุ๊ป อาหารสุนัขเขาไม่กิน!

บริษัทมู่ซท่อกรุ๊ป

ในตอนที่ลี่หนานเฉิงกลับมา ลู่หวั่นก็กำลังจะกลับไปพอดี

วันนี้เธอเข้ามาทำงาน ในตำแหน่งเลขาท่านประธาน

“น้องลู่หวั่น” ลี่หนานเฉิงทักทาย

ลู่หวั่นยิ้มมีมารยาท เดินเข้าไปในห้องทำงานท่านประธานพร้อมกัน แต่ถูกปฏิเสธที่หน้าประตู

เกาเชียนเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “วันนี้ท่านประธานไม่รับแขกครับ”

“พวกเราไม่ใช่แขก” ลี่หนานเฉิงไม่สนใจ

แต่เกาเชียนรั้งพวกเขาไว้อย่างสุดความสามารถ “ต้องขออภัยครับ คุณลี่ คุณลู่ วันนี้ท่านประทานอารมณ์ไม่ดี เดี๋ยวพวกคุณค่อยมาใหม่จะดีกว่า”

ตลอดทั้งเช้าวันนี้เกาเชียนต้องรองรับอารมณ์ร้ายของมู่วี่สิง แต่ก่อนเขาแยกแยะชัดเจน ไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาปนกับงาน แต่วันนี้ ราวกับไม่ใช่มู่วี่สิงคนเดิมแล้ว……….

ยิ่งทำให้ลี่หนานเฉิงแปลกใจเข้าไปใหญ่ ลู่หวั่นยิ่งเป็นห่วงขึ้นไปอีก เอ่ยปากถาม “วี่สิงเป็นอะไรคะ?”

เกาเชียนส่ายหน้า เขาไม่กล้านินทาเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย

ลี่หนานเฉิงเคาะประตู รีบเดินเข้าไป

สิ่งที่ต้อนรับเขาก็คือแฟ้มเอกสารที่ลอยมา “เกาเชียน เอกสารชุดนี้ใครรับผิดชอบ ไม่มีจุดสำคัญเลย เรียกคนเข้ามา”

ยังดีที่ลี่หนานเฉิงมือไว รับแฟ้มเอกสารนั้นไว้ได้ เดินเข้ามาถาม “จุ๊ ใครแหย่คุณล่ะ?”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท