Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 174

ตอนที่ 174

ทที่ 174 ดึงให้คุณมาอยู่ข้างกายผม

เวินจิ้งไหนเลยจะกล้าพูดออกไป ถึงแม้ว่าจะเป็นความคิดที่อยู่ในใจของเธอ แต่จะให้เธอออกปากพูด นั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย!

เธอหลับตาลง ไม่กล้าแม้แต่มองหน้ามู่วี่สิง

“มู่วี่สิง ฉันผิดไปแล้ว คุณรีบไปทำงานเถอะ” เธอรู้สึกว่าคืนนี้อาจจะถูกทำให้ทรมานเป็นแน่……

ความเจ้าเล่ห์ของมู่วี่สิงบังเกิด เขาเริ่มกัดที่ใบหูของเธอ เธอไม่อาจหลบหนีเขาได้อีก “สายไปแล้วหล่ะ แต่เป็นเพราะคุณเองที่เป็นคนจุดไฟในตัวผมน่ะ คุณนายมู่……”

……

มองดูหญิงสาวที่นอนหลับใหลอยู่ในอ้อมอกเขา มู่วี่สิงจูบลงที่คิ้วของเธอ หันหลังเดินออกไปที่ห้องหนังสือ

เขาโทรหาเกาเชียน “เช็คได้เรื่องถึงไหนแล้ว?”

“ประธานมู่ คุณลู่หวั่นเป็นคนสั่งให้บริกรของโรงแรมล็อคสองประตูทางออกฉุกเฉินครับ”

สีหน้าของมู่วี่สิงเริ่มครุ่นคิด “อานฉิงทางนั้นนายจัดการเป็นอย่างไรบ้าง?”

“หลังจากนี้สามวันคุณลู่หวั่นจะเดินทางไปประเทศBเพียงลำพัง ตอนนี้อานฉิงได้กลับไปแล้วครับ”

“อืม”

วันต่อมา เวินจิ้งต้องออกเดินทางไปทำงานนอกสถานที่ ตื่นนอนก็รีบร้อนเตรียมเสื้อผ้าเข้ากระเป๋า มู่วี่สิงเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ เห็นท่าทีของเธอ ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาก็เริ่มขุ่นมัวขึ้น

“จะไปไหนหรือ?” น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำลงฟังแล้วน่ากลัว

“เดินทางไปทำงานนอกสถานที่ค่ะ อาจจะต้องไปหนึ่งสัปดาห์นะ” เวินจิ้งตอบกลับ เธอเงยหน้าสบสายตาอันแข็งกร้าวของมู่วี่สิง

ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เธอจะไม่ได้บอกเขาก่อน……

“ดูไปแล้วคุณนายมู่ยังไม่รู้สึกตัวเองนะ?” เขาเดินเข้ามาใกล้ขึ้น ช่วงบนของเขายังไม่ได้สวมเสื้อ เผยให้เห็นหน้าอกอันกำยำงดงามของเขา ช่างน่าดึงดูดยิ่งนัก

สายตาของเวินจิ้งหยุดลงที่หน้าอกของเขา ใบหน้าเธอเริ่มแดงขึ้น

“ฉันเองก็เพิ่งรู้เมื่อวันก่อนนี้เองค่ะ คุณคงจะไม่โกรธที่ฉันเพิ่งมาบอกคุณตอนนี้ใช่ไหม?” เวินจิ้งถามเขา

มู่วี่สิงฮึมเสียง แน่หล่ะ

เขาก็ควรจะโกรธอย่างมาก

เขามักจะเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องของเวินจิ้ง

เขากดที่คิ้วตัวเอง พร้อมกับเก็บกลั้นอารมณ์โกรธที่จะระเบิดออกจากอก

“คุณว่า ผมจะดึงให้คุณมาอยู่ข้างกายผมดีไหม?” น้ำเสียงที่ดูเป็นคำบอกเล่า แต่กลับแฝงไปด้วยคำสั่ง

เวินจิ้งมือเริ่มสั่น ตอนนี้เธออยู่ที่บริษัทการผลิตยาเทียนอีก็ดีอยู่แล้ว หากว่าต้องมาอยู่ข้างกายมู่วี่สิง……

ถึงแม้ว่าจะไม่รู้สึกปฏิเสธ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เหมือนในอดีตที่ได้ทำงานพัฒนายาร่วมกันกับมู่วี่สิงแบบนั้นในห้องแล็บอีก

“ตอนนี้ฉันก็ทำอยู่ดีแล้ว คุณอย่าเปลี่ยนแปลงให้วุ่นวายเลย” เวินจิ้งเตือนเขา

มู่วี่สิงหรี่ตาลง ริมฝีปากอันเรียวบางฉีกยิ้มเล็กน้อย

อาหารเช้ามู่วี่สิงเป็นคนทำเสร็จแต่เช้า ตอนนี้เขาจะตื่นนอนก่อนเวินจิ้งหนึ่งชั่วโมง มาออกกำลังกาย ทำอาหารเช้า การดำเนินชีวิตที่เป็นระเบียบ อีกทั้งหลังจากที่เวินจิ้งตื่นนอกขึ้นมาก็จะสามารถทานอาหารเช้าได้พอดี

จังหวะการใช้ชีวิตแบบนี้ พอดีเป็นสิ่งที่เธอรู้สึกชอบ

พอมาคิดว่าอีกหนึ่งสัปดาห์จะไม่เห็นหน้ามู่วี่สิง ไม่รู้เพราะอะไร ในใจรู้สึกไม่เป็นสุข

มองดูชายหนุ่มรูปงาม เวินจิ้งจ้องมองที่เขาจนเผลอไป

“เดี๋ยวจะไปสนามบินใช่มั้ย?” มู่วี่สิงมองขึ้น

เวินจิ้งเรียกสติคืน พร้อมส่ายหน้า “จะไปสถานีรถไฟความเร็วสูง เดินทางไปเมืองB เร็วมากเลยหล่ะ”

เมื่อมู่วี่สิงขับรถมาส่งเธอที่สถานีรถไฟความเร็วสูง ก็เห็นว่าอั้ยเถียนมาถึงแล้ว

มองเห็นมู่วี่สิงมาส่งเวินจิ้งถึงในสถานีด้วยตัวเอง น้ำเสียงอั้ยเถียนก็เย้าแหย่ “แหมๆ ความรักมันอบอวลไปหมดแล้วเนี่ยะ!”

เวินจิ้งได้แต่อมยิ้ม กั้นมู่วี่สิงไว้ “ส่งฉันแค่ตรงนี้ก็พอแล้วหล่ะ ขอบคุณคุณมากนะ”

“คุณนายมู่ ผมไม่อนุญาตให้คุณพูดขอบคุณกับผม” สีหน้าของมู่วี่สิงเข้มขึ้น เขาไม่ชอบให้เวินจิ้งรู้สึกเกรงใจเขา

เวินจิ้งแลบลิ้นของเธอออกมา จากนั้นมองผู้คนเข้าๆออกๆที่อยู่รอบกาย แล้วกอดที่มู่วี่สิง เธอเขย่งปลายเท้าขึ้นพร้อมกับจุ๊บที่ริมฝีปากของเขาเบาๆ

ในตามู่วี่สิงเกิดรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้น ได้โอบที่หลังศีรษะเธอไว้ บรรจงจูบลงที่เธออย่างลึกซึ้ง

ไปจนถึงเวลาเสียงเตือนให้เข้าประตูด้านในดังขึ้น มู่วี่สิงถึงจะปล่อยเธอ

“นี่คุณ……เกินไปแล้วนะ! ในนี้คนเยอะมาก……” น้ำเสียงของเวินจิ้งแสดงความเขินอายออกมา

ผู้ชายคนนี้ทุกครั้งที่จูบเธอมักจะทำให้เธอหายใจไม่ออก

“อืม? ยังไม่พอหล่ะสิ” มู่วี่สิงพูดไป ตาก็มองเหมือนจะจูบต่อ เวินจิ้งรีบผลักเขาออก

“มู่วี่สิง ฉันจะต้องไปแล้วจริงๆนะ” เวินจิ้งแจ้งเตือนเขาอีกครั้ง

มู่วี่สิงถึงยอมปล่อยมือเธอ เวินจิ้งไม่อยากจะหันหลังจากเขา ฝีเท้าก้าวเดินออกไปอย่างช้าๆ

ยังคงเป็นอั้ยเถียนที่คอยลากเธอเข้ารถไฟฟ้าความเร็วสูง เวินจิ้งก้มศีรษะลง ในใจค่อยๆเริ่มรู้สึกปั่นป่วน

ยิ่งบอกตัวเองไม่ให้ถลำลึก ยิ่งกลายเป็นทำให้ตัวเองถลำลึกลงกว่าเดิม

“ดูเธอสิ สรุปแล้วว่าชอบคุณหมอมู่มากขนาดไหนเนี่ยะ! ยังมาบอกฉันว่าไม่มีทางแต่งก่อนแล้วมารักกันทีหลังได้ แล้วนี่ไม่เรียกว่าหลงรักเขาแล้วหรอ?” อั้ยเถียนมองไปยังเธอพร้อมกับกระเซ้าเย้าแหย่

แก้มของเวินจิ้งเริ่มแดง “แต่เมื่อคืนวานเธอก็เห็น ผู้หญิงที่สามารถอยู่ข้างกายเขา น่าจะเป็นลู่หวั่น ไม่ใช่หรอ?”

“เมื่อวานฉันได้ยินว่ามู่วี่สิงจะให้หล่อนแต่งงานกับผู้นำของประเทศB เกรงว่าต่อไปก็จะไม่กลับมาที่เมืองหนานเฉิงอีก”

“เอ๋?” เวินจิ้งรู้สึกประหลาดใจ ในงานเลี้ยงเมื่อวานเกิดเรื่องอะไรขึ้นเธอก็ยังไม่รู้ การที่มู่วี่สิงพาลู่หวั่นออกงานเลี้ยง เธอกลับคิดเองว่ามู่วี่สิงจะเปิดตัวลู่หวั่น

“ฉันเองก็คิดไม่ถึง ก็ได้ยินจากที่เสี้ยงหงพูด ลู่หวั่นแต่เล็กก็หมั้นไว้แล้วกับอานฉิงผู้นำของประเทศB เมื่อคืนวานมู่วี่สิงก็เชิญเขามา เพื่อจับคู่เขากับลู่หวั่น อีกไม่นานพวกเขาก็จะแต่งงานกันแล้ว”

เวินจิ้งรู้สึกตะลึง ที่แท้การที่มู่วี่สิงพาลู่หวั่นออกงานสาเหตุก็เพราะแบบนี้เองหรือ?

เมื่อคืนเป็นเพราะเรื่องนี้เธอจึงโกรธเขา กลับเข้าใจผิดมู่วี่สิงเสียแล้วหรือ?

……

เดินทางมาถึงเมืองB ก็กลางวันแล้ว เสี้ยงหงเตรียมคนมารับพวกเธอ เหม่ยทงเป็นยาตัวใหม่ที่บริษัทการผลิตยาเทียนอีได้คิดค้นหลักขึ้นมาในปีนี้ ต้องเริ่มออกจำหน่ายภายในเดือนนี้ อั้ยเถียนเป็นผู้จัดการแผนกการตลาด จำเป็นจะต้องจำหน่ายให้ได้ตามยอดที่กำหนดไว้

พอตกบ่ายก็ได้พบเจอผู้ค้าปลีกหลายคน เดิมทีพอตกเย็นทั้งสองคนก็น่าจะได้พักผ่อนแล้ว แต่ก็มีการประชุมวิจัยเรื่องยาเข้ามากะทันหัน อั้ยเถียนยังต้องเตรียมงานของวันพรุ่งนี้ เวินจิ้งจึงไปก่อนคนเดียว

ห้องจัดประชุมคือลานจัดแสดงที่อยู่ใกล้กับโรงแรม พอเธอเริ่มนั่งลงเสียงมือถือก็ดังขึ้น มู่วี่สิงโทรเข้ามา

มุมปากเธองุ้มขึ้น “ฉันยังประชุมอยู่ค่ะ”

“วันนี้ยุ่งอะไรบ้างหรอ?” เสียงของมู่วี่สิงทั้งอบอุ่นและทุ้มต่ำ

“วิ่งเข้าหลายบริษัทเลยกับอั้ยเถียน เข้าไปแนะนำยาตัวใหม่ของบริษัทการผลิตยาเทียนอี ตอนนี้ก็ได้คุยกับผู้จัดจำหน่ายอยู่หลายเจ้าค่ะ” เวินจิ้งรายงานความคืบหน้าต่อมู่วี่สิงราวกับรายงานผู้บังคับบัญชา

มู่วี่สิงหลังพิงกับพนักเก้าอี้ สายตากำลังมองไปที่แสงดาวด้านนอกหน้าต่าง ในหัวกลับมีแต่ใบหน้าของเวินจิ้งปรากฏ

“ดูไปแล้วคุณนายมู่หลังจากเปลี่ยนตำแหน่งก็นับว่าปรับตัวได้แล้ว?” มู่วี่สิงยิ้มเบา

“ก็ยังดีกว่าที่ทำงานแบบขั้นแบบตอนในอดีตน่ะ แต่ว่าปีหน้าฉันวางแผนว่าจะสอบเรียนปริญญาโท ถ้าหากว่างานยุ่งมาก ฉันคงจะพิจารณาลาออกหน่ะ”

“ต้องการให้ผมช่วยก็บอกน่ะ รู้มั้ย?”

“รู้แล้วค่ะ คุณมู่”

หลังวางสายไป เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น มีสายตาคู่หนึ่งไม่ไกลกำลังจ้องมองมาที่เธอ

เธอขมวดคิ้ว เห็นสายตาของฉีเซิน ก็รีบหลบตา

“เวินจิ้งของคุณอยู่ตรงนั้น” ฉินเฟยปล่อยมือที่จับมือของฉีเซินไว้

บนหน้าฉีเซินไม่ได้แสดงอาการอะไร กลับเดินตรงไปที่เธอ แล้วนั่งลงด้านข้างเวินจิ้ง

เวินจิ้งมีสีหน้าไม่พอใจในทันที “ประธานฉี ที่นั่งของคุณน่าจะอยู่ที่แถวหนึ่งนะคะ”

“ไม่เป็นไรหรอก ผมนั่งตรงไหนก็ได้” ฉีเซินงุ้มริมฝีปากของเขา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท