Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 184

ตอนที่ 184

บทที่ 184 ผู้หญิงที่ปากไม่ตรงกับใจไม่น่ารัก

อั้ยเถียนก็ตะลึงงันไปเช่นเดียวกัน ความสัมพันธ์ของเธอกับเสี้ยวหงเป็นความลับมาโดยตลอด แม้ว่าในบริษัทจะมีข่าวลือเกี่ยวกับทั้งสองคนมานานแล้ว แต่ถึงสุดท้ายก็ไม่ได้มีหลักฐานยืนยัน

“คุณออกไปก่อนเถอะ” เสี้ยวหงสั่ง

ในเวลานี้ เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธแล้ว

อั้ยเถียนขมวดคิ้วขึ้น หยิบเอกสารออกไป เดินออกจากห้องทำงาน อานหน้ากำลังดูโทรศัพท์มือถืออยู่ อั้ยเถียนเดินไปถึงด้านหน้าของเธอ

“อะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด คุณรู้นะคะ” อั้ยเถียนเตือนขึ้น

อานหน้าพยักหน้าติดต่อกัน เพียงแต่สายตากลับเยือกเย็นลงมาเล็กน้อย

ช่วงเย็น เวินจิ้งเก็บข้าวของเตรียมตัวเลิกงาน อั้ยเถียนกลับยุ่งเป็นอย่างมาก หลังจากที่ลงมาจากห้องท่านประธานก็ดูเอกสารหลากหลายอย่างอยู่ตลอด

อีกทั้งต่างก็ไม่ใช่งานที่แต่เดิมเธอจะต้องรับผิดชอบ

“เย็นนี้เธอจะต้องทำโอที?” เวินจิ้งเอ่ยถามเธอ

อั้ยเถียนพยักหน้า

“ทำโอทีให้กับคุณเสี้ยงอย่างไม่มีเงื่อนไข?” เวินจิ้งเข้าใจอย่างรวดเร็ว

“ไม่มีเงื่อนไขที่ไหนกัน เอาค่าโอทีนะ!” อั้ยเถียนเอ่ยอย่างฟึดฟัด

เวินจิ้งหัวเราะออกมาเล็กน้อย “อย่ายุ่งจนดึกมากเกินไปล่ะ วันนี้เธอนั่งเครื่องบินก็เหนื่อยมากแล้ว”

“รู้แล้วน่า เธอรีบไปรับมู่วี่สิงเถอะ”

เวินจิ้งมองดูข้อความที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ เป็นข้อความที่สามชั่วโมงก่อนมู่วี่สิงส่งให้กับเธอ

เครื่องบินของเขาหนึ่งทุ่มก็ถึงที่สนามบินหนานเฉิง

“ใครบอกว่าฉันจะไปรับเขา” แก้มทั้งสองข้างของเวินจิ้งแดงระเรื่อ

“อยากไปก็ไปเถอะ จิ้งจิ้ง เธอต่างก็แต่งงานกับมู่วี่สิงเกือบจะหนึ่งปีแล้ว ทำไมยังปลดปล่อยไม่ได้ขนาดนี้อยู่อีก” อั้ยเถียนส่ายศีรษะอย่างจนปัญญา

นิสัยของเวินจิ้งนิ่งเฉยเชื่องช้ามาโดยตลอด ในด้านความรู้สึกก็ยิ่งเป็นแบบนั้น ตอนที่คบกับฉืออี้เหิงในปีนั้น ก็รักษาอยู่ในสถานะของผู้ถูกกระทำมาโดยตลอด

ด้วยเหตุนี้ฉืออี้เหิงก็เลยถูกฉินเฟยลากขึ้นเตียงไปอย่างง่ายดาย อย่างไรเสียในเวลานั้น เวินจิ้งก็ยังคงปฏิเสธพฤติกรรมที่สนิทสนมมากเกินไปกับเขาอยู่ตลอด

“เถียนเถียน สำหรับมู่วี่สิงแล้ว ฉันปลดปล่อยตัวเองในระดับที่สูงที่สุดมาโดยตลอด” เวินจิ้งเอ่ยขึ้นเบาๆ

ตอนที่เผชิญหน้ากับมู่วี่สิง เธอถึงขั้นราวกับสูญเสียความสามารถในการคิดวิเคราะห์ไป เขาอยากได้ เธอก็ให้ ต่อต้านไม่ไหวเลยแม้แต่น้อย

“โอ้โห ดูเหมือนก็ยังคงเป็นคุณหมอมู่ของพวกเราที่มีเสน่ห์ไม่มีที่สิ้นสุด” อั้ยเถียนกระพริบตาปริบๆอย่างคลุมเครือส่งมาให้กับเธอ

แก้มทั้งสองข้างของเวินจิ้งยิ่งแดงเข้าไปกันใหญ่ คิดถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นตั้งแต่แต่งงานกับมู่วี่สิง เธอถูกเขาครอบครองสิทธิ์ในการริเริ่มมาโดยตลอด

“อืม จริงด้วย โดยเฉพาะเสน่ห์บางอย่าง” เวินจิ้งโน้มตัวลงเอ่ยขึ้นที่ข้างใบหูของอั้ยเถียน

“อ๊าย!จิ้งจิ้งเธอเสียคนแล้ว!” อั้ยเถียนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงหัวเราะเบาๆออกมา คิดไม่ถึงว่าในชาตินี้ก็จะสามารถได้ยินคำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของเวินจิ้งได้!

เวินจิ้งยักคิ้วขึ้น เห็นเวลาพอสมควรแล้ว เธอรีบไปที่สนามบิน

บางทีในความสัมพันธ์นี้ เธอก็ควรจะยิ่งริเริ่มด้วยตนเองขึ้นมาหน่อยแล้ว

เรื่องของอนาคตใครก็ไม่สามารถคาดเดาได้ งั้นก็ทะนุถนอมตอนนี้ก่อนเถอะ

สนามบิน คนเดินผ่านไปผ่านมา

ตอนที่เวินจิ้งไปถึงถึงได้รู้ว่าเที่ยวบินที่มู่วี่สิงโดยสารมานั้นดีเลย์แล้ว เธอหาที่นั่งลงในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เตรียมจะอ่านนิยายเพื่อฆ่าเวลา

ในเวลานี้ ในกลุ่มพนักงานบริษัทมีคนกำลังพูดคุยกันถึงชีวิตด้านความสัมพันธ์ของคุณเสี้ยง มีบุคคลนิรนามออกมาเปิดเผยว่าเสี้ยวหงกับอั้ยเถียนคบกันมาตั้งนานแล้ว

เวินจิ้งอ่านข้อความไล่ลงไปทีละบรรทัด ในกลุ่มนี้อั้ยเถียนก็อยู่ เธอก็ถูก@ออกมาแล้ว

เพียงแต่ไม่ได้มีการตอบกลับ

เพื่อนร่วมงานที่อยู่ในกลุ่มปกติต่างก็สนใจข่าวซุบซิบกันไม่ใช่น้อย ไม่ช้าก็มีคนเอ่ยขึ้นมาอีกว่า “คุณเสี้ยงน่ะมีว่าที่ภรรยาแล้วนะ สามปีก่อนก็หมั้นกันอยู่ที่ประเทศAแล้ว จะต้องไม่ได้คบกับอั้ยเถียนอย่างแน่นอน!”

“ที่แท้คุณเสี้ยงมีคู่หมั้นแล้ว? ฉันเห็นว่าก่อนหน้านี้ช่วงใหญ่ๆเขามีข่าวลือซุบซิบเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวเยอะมาก ยังนึกว่าโสดอยู่เลยนะ!”

“คงจะเป็นเพียงแค่มีโอกาสก็เล่นสนุกเป็นบางครั้งบางคราวล่ะมั้ง คู่หมั้นคนนั้นของเขาก็ไม่ได้อยู่ที่เมืองหนานเฉิง อยากจะคุมก็คุมไม่ได้”

“คู่หมั้นของคุณเสี้ยงคือใครอ่ะ?”

เวินจิ้งกลับสงสัยขึ้นมาแล้วเช่นเดียวกันว่า หากเสี้ยวหงมีคู่หมั้นแล้ว คิดไม่ถึงว่ายังจะมาแหย่อั้ยเถียน?

เพียงแต่เธอไม่ค่อยยินยอมที่จะให้อั้ยเถียนรู้เรื่องนี้ จึงตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า

“เรื่องส่วนตัวของเจ้านายพวกคุณก็ยังกล้าซุบซิบ?” เวินจิ้งส่งอิโมติคอนโกรธมากเข้าไป

“เจ้านายก็ไม่ได้อยู่ในนี้สักหน่อย อีกทั้งพวกเราก็แค่เอาใจใส่คุณเสี้ยง!”

เวินจิ้งตอบกลับอย่างรวดเร็ว “นี่น่ะเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเสี้ยง พวกคุณเอาใจใส่จนเกินขอบเขตไปแล้ว”

ในเวลานี้ อั้ยเถียนที่นั่งอ่านอยู่ตลอดเวลาในที่สุดก็ตอบกลับมา “ความสัมพันธ์ของฉันกับคุณเสี้ยงเป็นเพียงแค่เจ้านายกับลูกน้องธรรมดาก็เท่านั้นเอง เลิกซุบซิบมั่วซั่วกันได้แล้ว”

เวินจิ้งหยุดชะงักลง ค่อนข้างเป็นห่วงอั้ยเถียน จึงได้โทรศัพท์ไปหาเธอ เพียงแต่อั้ยเถียนไม่ได้รับสาย

ข้อความที่อยู่ในกลุ่มเธอยังคงจับตาดูอยู่ เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าคู่หมั้นของเสี้ยวหงเป็นใครกันแน่ แต่มีคนหาภาพที่เสี้ยวหงหมั้นเมื่อสามปีก่อนเจอ ผู้หญิงสวมชุดแต่งงานสีขาวที่อยู่บนรูปสวยจนน่าตกตะลึง

หลังจากนั้นสองชั่วโมง เที่ยวบินของมู่วี่สิงก็ร่อนลงสู่พื้นดินอย่างราบรื่น

เวินจิ้งเดินเข้าไปถึงโซนผู้เดินทางมาถึง ยังไม่ทันได้เห็นมู่วี่สิง กลับเห็นฉีเซินกับฉินเฟยคล้องแขนกันเดินออกมาก่อน

ฉินเฟยหรี่ตาลง มือที่คล้องฉีเซินเอาไว้รัดแน่นขึ้น

“ไม่เข้าไปทักทายหน่อยหรอคะ?” เธอเอ่ยถามขึ้นอย่างเยือกเย็น

ฉีเซินยกมุมริมฝีปากบางขึ้น ถอดแว่นกันแดดออก ดวงตาดำขลับหรี่ลงอย่างมืดหม่นและเยือกเย็น

เมื่อครู่นี้เขาก็เห็นมู่วี่สิงอยู่ที่ชั้นเฟิร์สคลาสแล้ว แน่นอนว่าเขารู้ว่าเวินจิ้งกำลังรอมู่วี่สิงอยู่

“คุณจะหึงเอาได้” เสียงในลำคอของฉีเซินทุ้มต่ำลงเล็กน้อย

“ฉันกล้าที่ไหนกันคะ”

“ผู้หญิงที่ปากไม่ตรงกับใจไม่น่ารัก” ฉีเซินยิ้มออกมา

สุดท้ายฝีเท้าก็หยุดอยู่ที่ด้านหน้าของเวินจิ้ง

“มู่วี่สิงถูกแฟนคลับปิดล้อมเอาไว้แล้วบนเครื่องบิน ผมว่าในชั่วครู่ชั่วยามคงจะออกมาไม่ได้”

เวินจิ้งขมวดคิ้วขึ้น อดไม่ได้ที่จะหันไปทางฉีเซิน

“ฉันทราบแล้วค่ะ ขอบคุณคุณฉีที่เตือน”

ฉีเซินจากไปอย่างรวดเร็ว ในหางตา สายตาเยือกเย็นมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

“เวินจิ้งได้ตรวจสอบพบแล้วว่าข่าวยาปลอมคือฉันที่เป็นคนปล่อยออกมา ผู้หญิงที่คุณชอบกำลังจะทำฉันให้ตาย” นั่งเข้ามาในรถ ฉินเฟยเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจนัก

ฉีเซินพิงไปบนพนักเก้าอี้ ยืดขายาวๆออกอย่างขี้เกียจ เอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบว่า “คุณถูกทำให้ตายง่ายขนาดนี้เลยหรอ? ผมเห็นคุณแข็งแกร่งอยู่นะ”

“ฉันกำลังพูดเรื่องจริงจังกับคุณนะคะ!ในมือของเธอมีหลักฐาน” ฉินเฟยเป็นกังวลมาโดยตลอด

แม้ฉีเซินบอกว่าจะปกป้องคุ้มครองเธอ แต่ในใจของเขาแคร์เวินจิ้งขนาดนั้น จะตลบหลังเธอหรือเปล่าก็ยังไม่แน่

“หลักฐานที่สามารถค้นหาได้ในตอนนี้ต่างก็ไม่สามารถข่มขู่อะไรคุณได้”

“จริงหรอคะ?” นัยน์ตาของฉินเฟยเปล่งประกายขึ้น

“อืม งานแถลงข่าวของบริษัทการผลิตยาเทียนอีในวันพรุ่งนี้ รอดูละครสนุกๆก็พอแล้ว” ฉีเซินปรากฏรอยยิ้มที่ลึกซึ้งออกมา

ฉินเฟยขนพองสยองเกล้าขึ้นมาในทันที ผู้ชายคนนี้ ไม่ธรรมดาอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ

ในที่สุด หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เวินจิ้งก็มองเห็นเงาร่างสูงโปร่งที่ถูกรายล้อมอยู่ในกลุ่มคน

มู่วี่สิงสวมเสื้อคลุมกันลมแบบยาวสีดำ ลำตัวตั้งตรง ใบหน้าหล่อเหลา รัศมีเยือกเย็นแต่ไม่อาจที่จะละเลยได้

ดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงสายตาของเวินจิ้ง สายตาของเขาผ่านกลุ่มผู้คน ประสานเข้ากับสายตาของเธอ

เพียงแต่ สีหน้าเยือกเย็นเป็นอย่างมาก

เวินจิ้งเดินมาถึงข้างกายของเขา เห็นด้านหลังของเขายังมีแฟนคลับหลายคนตามอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า “ไม่รู้เลยนะคะว่าคุณอาศัยฝีมือทางการแพทย์หรืออาศัยหน้าตาโด่งดังขึ้นมา”

ที่แฟนคลับเหล่านี้ถืออยู่ต่างก็คือรูปภาพของมู่วี่สิง ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนก็หล่ออย่างไม่มีมุมตาย ตามมู่วี่สิงเหมือนกับเห็นเป็นดารา

“ทำไมครับ อิจฉาผม?” มู่วี่สิงเดินเข้ามาใกล้ เอ่ยขึ้นอย่างเย็นๆ

“เปล่าสักหน่อยค่ะ”

“งั้นคือหึง?” มู่วี่สิงโอบเอวบางของเธอเอาไว้อย่างกะทันหัน ใบหน้าอันหล่อเหลาห่างกันใกล้มาก

หัวใจของเวินจิ้งเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมาอีกครั้ง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท