Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 190

ตอนที่ 190

บทที่ 190 เธอเชื่อใจมู่วี่สิง

มหาวิทยาลัยหนานเฉิง

เวินจิ้งมองดูประตูมหาวิทยาลัยที่คุ้นเคย เป็นเวลาเข้าเรียนพอดี ในเวลานี้เงียบเป็นอย่างมาก

“ฉันเข้าไปเองก็พอแล้วค่ะ” ในขณะที่เวินจิ้งพูด ก็ผลักประตูเดินลงจากรถไป

มู่วี่สิงนั่งอยู่ในรถ มองดูแผ่นหลังของเวินจิ้ง คิ้วและดวงตาที่ล้ำลึกค่อยๆขมวดเข้าหากันแน่นขึ้นมา

มาถึงฝ่ายวิชาการ เวินจิ้งหาอาจารย์ที่ปรึกษาเจอ ตอนนี้เขาได้เป็นหัวหน้าฝ่ายวิชาการแล้ว พอเห็นเวินจิ้ง สีหน้าของเขาก็บึ้งตึงลงมา

“รู้ว่าใบปริญญาสำคัญ ตอนนั้นยังกล้าปลอมแปลงวิทยานิพนธ์!” อาจารย์ที่ปรึกษาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

“อาจารย์คะ ในปีนั้นหนูกล้ารับประกัน วิทยานิพนธ์ของหนูไม่ได้ทำการคัดลอกมาอย่างแน่นอน”

“ผมได้ฟังคำรับประกันมามากมายแล้ว เรื่องของคุณในปีนั้นผมจำได้อย่างชัดเจนมาก ชื่อเสียงของเอกเราถูกคุณทำลายไปหมดแล้ว ตอนนี้คุณยังมีหน้ามาถามหาเอาใบปริญญาจากผม? คุณธรรมกับศีลธรรมของคุณไม่ผ่านเกณฑ์ ใบปริญญานั้นไม่สามารถที่จะมอบให้ได้” อาจารย์ที่ปรึกษาใบหน้าบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลา

“หากหนูสามารถหาหลักฐานได้ล่ะคะ ในปีนั้นวิทยานิพนธ์ของหนูเป็นหนูที่เขียนเองจริงๆ ไม่มีการคัดลอกและการเทียบเคียงใดๆ”

“คุณยังคิดจะเล่นลิ้นอยู่อีก!มีหลักฐานค่อยว่ากัน ผมก็ไม่อยากเข้าใจนักเรียนของผมผิด แต่เวินจิ้ง คุณยังคิดที่จะตรวจสอบยังไง?” อาจารย์ที่ปรึกษาขมวดคิ้วขึ้น

ในปีนั้นคะแนนของเวินจิ้งมีชื่อเป็นอันดับต้นๆในชั้นเรียน เขาก็มีความหวังที่สูงมากต่อเธอเช่นเดียวกัน เพียงแต่คิดยังไงก็คิดไม่ถึงเลยว่าตอนที่จบการศึกษาจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้

“หนูอยากจะเอาวิทยานิพนธ์ที่ยื่นส่งให้ปีนั้นกลับคืนมา หนูสงสัยว่าวิทยานิพนธ์ของหนูจะถูกสับเปลี่ยนในตอนที่ยื่นส่ง!” เวินจิ้งเอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น

นี่เป็นเรื่องที่ในปีนั้นเธอก็เคยคิดเอาไว้ เพียงแต่ตอนนั้นเรื่องราวได้สร้างปัญหาจนใหญ่มาก คำอธิบายทั้งหมดของเธอต่างก็ถูกคิดว่าเป็นการปิดบังความจริง ไม่มีใครยอมที่จะเปิดประตูบานนี้ให้กับเธอ

“เป็นไปไม่ได้ วิทยานิพนธ์ถูกล็อคเอาไว้ที่ห้องสมุดตั้งนานแล้ว ผมก็ไม่มีทางที่จะหาออกมาได้” อาจารย์ที่ปรึกษาส่ายศีรษะ

สีหน้าของเวินจิ้งซีดเผือด

“อาจารย์คะ เรื่องนี้หนูเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆ ปีนี้หนูจะสอบปริญญาโท ใบปริญญาฉบับนี้สำคัญมาก”

“สอบปริญญาโท? เวินจิ้ง แฟ้มประวัติของเธอมีจุดด่างพร้อยมาตั้งนานแล้ว สอบปริญญาโทเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ยอมแพ้ซะเถอะ”

เวินจิ้งไม่รู้ว่าตัวเองเดินออกมาจากมหาวิทยาลัยได้ยังไง ในสมองเต็มไปด้วยคำพูดของอาจารย์ที่ปรึกษา :ยอมแพ้ซะเถอะ

สามปีก่อนเธอก็เคยยอมแพ้แล้ว ตอนนี้ยังต้องยอมแพ้อีกหรอ?

ด้านนอกประตู มู่วี่สิงรอเธออยู่ มองดูสีหน้าที่สิ้นหวังของเวินจิ้ง เขาก็ยกขาเดินเข้าไป

“สามารถเอาวิทยานิพนธ์ออกมาได้ไหม?” เขาเอ่ยถาม

เวินจิ้งส่ายศีรษะ นั่งเข้ามาในรถ เธอมองออกไปยังนอกหน้าต่างอย่างเงียบงัน เดิมทีนึกว่าผ่านไปสามปีแล้ว เรื่องนี้จะเปลี่ยนเป็นง่ายขึ้นหน่อน แต่เปล่า

คนที่ไม่เชื่อเธอ ก็ยังคงไม่เช่ือเธอ

“ต้องการให้ผมช่วยเหลือไหม?” มู่วี่สิงถามขึ้นอย่างกะทันหัน

เรื่องของเธอต่างก็ไม่เคยพูดกับเขามาก่อน ในใจของเขาท้ายที่สุดก็ไม่ค่อยจะสบายนัก

เธอไม่พึ่งพาเขา

มู่วี่สิงบีบคางของเธอเอาไว้ เวินจิ้งจำเป็นต้องประสานเข้ากับสายตาที่เยือกเย็นของเขา

“ไม่ต้องแล้วค่ะ คุณก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้สักหน่อย” เวินจิ้งส่ายศีรษะ

“เวินจิ้ง ผมคือสามีของคุณ คุณขอความช่วยเหลือจากผมได้” มู่วี่สิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

เวินจิ้งประสานเข้ากับดวงตาดำขลับที่ล้ำลึกของเขา ผ่านไปเป็นเวลานาน ไม่มีเสียงอะไรออกมา

“คุณสามารถช่วยอะไรฉันได้คะ?” เธอถามขึ้นอย่างจิตใจกระสับกระส่าย

“คุณจะพิสูจน์ว่าวิทยานิพนธ์ของตนเองไม่ได้ทำการคัดลอก วิทยานิพนธ์ที่คุณยื่นส่งในปีนั้นได้เคยมีการตรวจสอบอัตราการซ้ำ มีบันทึกเอาไว้อย่างแน่นอน”

“แต่ว่า ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว…” เธอไม่มีความหวังตั้งนานแล้ว

“ขอเพียงแค่คุณอยากตรวจสอบ ขอเพียงแค่ คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม” มู่วี่สิงโน้มสายตาลงต่ำ ประชิดเข้ามาใกล้เธอ

เวินจิ้งใจเต้นไม่เป็นจังหวะเล็กน้อย เธอกลับไม่อยากให้มู่วี่สิงแทรกมือ นี่คือเรื่องของเธอเอง

เพียงแต่ ในเวลานี้กลับดันหวั่นไหวแล้ว

สำหรับผู้ชายคนนี้ เธอรู้ว่าอำนาจของเขาทะลุฟ้า เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่คุณหมอคนนึง และก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่ประธานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เบื้องหลังของเขา บางทีอาจจะเป็นความลับที่ซับซ้อนมากกว่านี้

“มู่วี่สิง คุณเชื่อฉัน?” เวินจิ้งเอ่ยถามเขา

ทำไมเขาถึงไม่สงสัยเลยว่า บางทีเธออาจจะคัดลอกจริงๆ?

“คุณคือคุณนายมู่ ผมเชื่อคุณนายมู่” มู่วี่สิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

ความผิดหวังค่อยๆปรากฏขึ้นภายในจิตใจของเวินจิ้ง เพียงแค่เพราะว่าเธอคือคุณนายมู่

ไม่ใช่เพราะว่า เธอคือเวินจิ้ง

เธอรู้ ว่าคนที่มู่วี่สิงแคร์มาโดยตลอดคือคุณนายมู่ และไม่ว่าคนที่อยู่ในตำแหน่งนี้จะเป็นใคร

“เรื่องนี้ส่งมอบให้กับผม” มู่วี่สิงได้ช่วยเธอทำการตัดสินใจ

“ขอบคุณค่ะ” เวินจิ้งเอ่ยขึ้นอย่างจริงจังหนักแน่น

สีหน้าของมู่วี่สิงบึ้งตึงลงมา “ผมไม่ต้องการคำขอบคุณ คุณต้องจำสถานะของตนเองเอาไว้ หลายๆเรื่องไม่จำเป็นต้องให้คุณออกหน้าด้วยตัวเอง”

เวินจิ้งกลับไม่ได้ฟังเข้าไปข้างใน เพียงแต่ในเวลานี้ กลับวางใจลงไปไม่น้อย

เธอเชื่อใจมู่วี่สิง

วันต่อมา เวินจิ้งกลับไปทำงานที่บริษัทการผลิตยาเทียนอี เพราะว่าอั้ยเถียนลาออกไปแล้ว งานที่อยู่ในมือของเธอได้โอนมาให้กับเวินจิ้งทั้งหมด ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ทุกร้านของเหม่ยทงต่างก็มีเธอเป็นผู้รับผิดชอบและติดตาม

พลังคำพูดที่มู่วี่สิงเอ่ยขึ้นต่อหน้านักข่าวเมื่อวานได้กอบกู้ชื่อเสียงของเหม่ยทงให้กลับคืนมา ตอนนี้มีร้านค้าปลีกจะมาร่วมธุรกิจกับบริษัทการผลิตยาเทียนอีอย่างไม่ขาดสาย เวินจิ้งยุ่งมาตลอดจนถึงตอนเย็น แต่เรื่องนี้ก็ยังคงเยอะมากจนจัดการได้ไม่หมด

อีกทั้งตามกำหนดการของแต่ละวัน อีกสองวันเธอจะต้องไปเจรจาความร่วมมืออีกขั้นหนึ่งกับบริษัทโป๋ทงกรุ๊ป เป็นการออกไปทำงานนอกสถานที่อีกหนึ่งสัปดาห์

ในออฟฟิศ เรื่องเกี่ยวกับการลาออกอย่างกะทันหันของอั้ยเถียนได้กลายเป็นเรื่องซุบซิบยามพักผ่อนดื่มชาของเพื่อนร่วมงานทั้งหลายอย่างขาดไม่ได้ เวินจิ้งสนิทกับเธอ ตอนที่อยู่ภายในห้องน้ำชาก็ถูกซักถามขึ้น

“เวินจิ้ง อั้ยเถียนลาออกกะทันหันขนาดนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณเสี้ยงใช่หรือเปล่า?”

เวินจิ้งขมวดคิ้วขึ้น “ฉันไม่แน่ใจ”

“จะเป็นไปได้ยังไง ฉันว่าก็เพราะในวันนั้นมีคนพูดในกลุ่มว่าคุณเสี้ยงมีคู่หมั้นแล้ว อั้ยเถียนคงเสียใจแล้วล่ะมั้ง!”

“ไม่ต้องพูดมั่วๆแล้ว อั้ยเถียนเพียงแค่กลับบ้านก็เท่านั้นเอง” เวินจิ้งอธิบาย

เพียงแต่ ไม่มีใครเชื่อ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสองวันนี้เสี้ยวหงก็ไม่อยู่ ยิ่งดึงดูดให้คนคาดเดาเข้าไปกันใหญ่

ไม่มีอั้ยเถียนอยู่ข้างกายแล้ว งานของเวินจิ้งก็ไม่ราบรื่น อีกทั้งเธอต่างก็ทำงานที่เป็นหน้าที่ทั่วไปมาโดยตลอด ตอนนี้อยู่ๆจะให้เธอรับผิดชอบงานที่เป็นแกนหลักของฝ่ายขาย ความกดดันต่างๆทยอยมาอย่างไม่ขาดสาย

จนถึงสี่ทุ่ม เวินจิ้งมองดูสัญญาที่อยู่บนคอมพิวเตอร์ อีเมล์ยังเขียนไม่เสร็จก็มือพลาดกดส่งออกไป

เธอขมวดใบหน้าเล็กๆเข้าหากันอย่างอารมณ์เสีย กล่องอีเมล์ของบริษัทก็ดันไม่มีฟังก์ชั่นเรียกกลับคืนมา พรุ่งนี้ก็ต้องถูกฝ่ายกฎหมายทางนั้นตำหนิอีกแล้ว

เวินจิ้งพิงไปบนพนักเก้าอี้ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเปิดเบอร์ของอั้ยเถียน ในเวลานี้อยากพูดคุยกับเธอมาก

ดูเหมือนจะใจตรงกัน สายเรียกเข้าจากอั้ยเถียนดังขึ้น!

เวินจิ้งรีบกดรับสายขึ้นมาในทันที “ในที่สุดเธอก็ติดต่อกับฉันแล้ว”

“ขอโทษ หลายวันก่อนฉันไปทำจิตใจให้สบายที่ต่างประเทศ ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ” อั้ยเถียนเอ่ยขอโทษ

“ฉันเข้าใจ แต่ว่าเธอไปอย่างรีบร้อนขนาดนั้น ไม่ได้บอกลาฉันสักคำ”

“ฉันก็แค่กลัวว่าบอกลาจะน้ำตาไหล จิ้งจิ้ง ฉันไม่คิดที่จะกลับไปแล้ว”

หลายวันมานี้เธอคิดเยอะมาก ออกมาจากเมืองหนานเฉิง ก็ไม่ใช่เพียงแค่เพราะจะออกมาให้ไกลจากเสี้ยวหง ยังมีเหตุผลของทางบ้าน

หลายปีมานี้เธอแทบจะไม่เคยกลับบ้าน แต่ที่บ้านก็เร่งว่าจะจัดงานหมั้นให้กับเธอตั้งนานแล้ว

เธอควรจะยอมอ่อนข้อได้แล้วล่ะมั้ง

อั้ยเถียนหัวเราะเล็กน้อยอย่างขื่นขม “ไม่แน่พวกเราพบกับคราวหน้า ฉันก็อาจจะเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วก็ได้”

เวินจิ้งไม่ได้พูดอะไรออกไป ในเวลานี้ฟังความปวดใจและความจำใจในคำพูดของอั้ยเถียนออกอย่างชัดเจน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท