Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 181

ตอนที่ 181

บทที่ 181 ตาบอดขนาดนี้แล้ว

เวินจิ้งใจเต้นไม่เป็นจังหวะเล็กน้อย มือถูกมู่วี่สิงหยุดยั้งเอาไว้ ผลักเขาออกไปไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

ผ่านไปเป็นเวลานาน เวินจิ้งรู้สึกว่าแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว ผู้ชายคนนี้ถึงได้ปล่อยเธอ

“มู่วี่สิง คุณเกินไปแล้วนะคะ!” เวินจิ้งโกรธมากยิ่งขึ้นไปอีก หันหลังให้กับมู่วี่สิง ท่าทีเหมือนไม่อยากเห็นเขายังไงอย่างงั้น

มู่วี่สิงกลับช้อนตัวอุ้มเธอขึ้นมาอย่างกะทันหัน เวินจิ้งถูกเขาอุ้มมาถึงบนโซฟาที่อยู่ด้านนอก เบื้องหน้า อาหารที่เย้ายวนใจราวกับกำลังส่งคำเชื้อเชิญมาให้เธอ

เธอกลืนน้ำลายเล็กน้อย ท้องส่งเสียง “จ๊อกๆ” ออกมา

“คุณนายมู่ คุณโกรธผม แต่อย่าทำไม่ดีต่อร่างกายเลยนะครับ หืม?” มู่วี่สิงนำไก่ทอดยื่นไปที่ด้านหน้าของเธอ

เวินจิ้งโน้มสายตาลง อ้าปากกัดเข้าไปในทันที รสชาติที่หอมกรอบวนเวียนอยู่ในช่องปากของเธอ ตอบสนองความพึงพอใจให้กับเธอได้ดีเป็นอย่างยิ่ง

หิวเหลือเกิน เวินจิ้งแทบจะทำให้อาหารส่วนใหญ่ที่อยู่บนโต๊ะหายวับไป มู่วี่สิงกลับทานไปน้อยมาก เพียงแค่เสต็กเนื้อไม่กี่คำ ไวน์ที่อยู่ด้านข้างส่งกลิ่นที่เข้มข้นออกมา

“มู่วี่สิง คุณทานอันนี้ให้หมด” เวินจิ้งเห็นเขาทานไปเพียงไม่เท่าไร ก็เลยหั่นเสต็กชิ้นนึงให้กับเขา

มู่วี่สิงที่กำลังดูเอกสารที่อยู่ในมือ ได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้น ส่งสัญญาณให้เวินจิ้งป้อนเขา

เวินจิ้งก้มศีรษะลง มือสั่นขึ้นมาเล็กน้อย

เดิมทีทั้งสองคนก็นั่งอยู่บนโซฟา ระยะก็ไม่ได้ห่างกันมากอยู่แล้ว ชายหนุ่มในเวลานี้สวมเสื้อเชิ้ตสีดำสนิท กระดุมปลดออกสองเม็ด เผยกล้ามอกที่กำยำสมบูรณ์แบบออกมาให้เห็น เลื่อนขึ้นไปด้านบน ใบหน้าอันหล่อเหลาแฝงไปด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ มีเสน่ห์เย้ายวนมากมายเหลือเกิน

สายตาของเวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะหยุดค้างเอาไว้ สีหน้าแดงระเรื่อขึ้นมา วางมีดส้อมลง

“คุณจะทานก็ทาน ไม่ทานก็ไม่ต้องทานค่ะ” พูดจบ เธอก็หมุนตัวเตรียมกลับไปที่ห้องนอน

แต่พอเพิ่งจะลุกขึ้นมา มือก็ถูกมู่วี่สิงคว้าเอาไว้อย่างกะทันหัน เธอยืนได้ไม่มั่นคง ทั้งตัวล้มลงไปในอ้อมแขนของเขาอย่างโซซัดโซเซในทันที

ทันใดนั้น กลิ่นหอมอ่อนๆที่อยู่บนร่างกายของเขาก็ปะทะเข้ามา เวินจิ้งเบิกตาโพลงขึ้น

“คุณนายมู่ คุณกำลังให้ท่าผม?” มู่วี่สิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“ฉันเปล่า”

“เมื่อครู่นี้คุณมองผมอยู่ตลอด ผมคิดมากได้” เสียงในลำคอของมู่วี่สิงเคลือบไปด้วยความแหบพร่า

เวินจิ้งอึดอัดใจเล็กน้อย เป็นเพราะเสน่ห์ของมู่วี่สิงไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ…

มือของเขากำลังโอบเอวบางของเธอเอาไว้ เธอพาดไปบนร่างกายของเขา ในเวลานี้ชุดนอนที่อยู่บนเรือนร่างเปิดกว้างออกมา ทัศนียภาพทั้งหมดฉายสะท้อนกลับเข้าไปในสายตาของชายหนุ่ม

ความเร่าร้อนที่อยู่ภายในดวงตาของเขายิ่งไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ

เวินจิ้งรู้สึกได้อย่างชัดเจน แทบจะลุกนั่งขึ้นมาในทันที “คุณรีบทานข้าวเถอะค่ะ ทานเสร็จรีบพักผ่อน”

พูดจบ เธอก็แทบจะวิ่งกลับไปที่ห้องนอน

มู่วี่สิงโน้มสายตาลง กลิ่นหอมอ่อนๆของเวินจิ้งเมื่อสักครู่นี้ลอยวนขึ้นมา ไม่สลายหายไปอยู่นาน

ลิ้มลองรสชาติของเสต็กเนื้อที่เวินจิ้งหั่นเอาไว้ให้เสร็จเมื่อสักครู่นี้ นัยน์ตาของชายหหนุ่มก็ปรากฏรอยยิ้มบางๆขึ้น

โรงแรมเหิงสิ้น

ฉินเฟยกับหลินน่าเดินช้อปปิ้งเสร็จ เธอซื้อของต่างๆมาไม่น้อย อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก

เพิ่งจะเดินขึ้นไปบนห้อง กลับมองเห็นเงาร่างที่คุ้นตายืนอยู่ที่หน้าประตู

เธอสั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย ความอ่อนแอภายในสายตาพาดผ่านไปอย่างรวดเร็ว

“ฉืออี้เหิง มีธุระ?”

“มี” ฉืออี้เหิงควบคุมอารมณ์โกรธของตนเองเอาไว้

“ฉะนั้น คุณจะเข้ามาไหมคะ?” ฉินเฟยเปิดประตูห้องออก ลักษณะท่าทางเชื้อเชิญ

ฉืออี้เหิงหรี่ตาลง ก้าวขายาวๆเข้าไป

“คุณรู้ไหมว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่!” พอเข้าประตูมา ฉืออี้เหิงก็ตะคอกขึ้นด้วยความโมโห

ฉินเฟยท่าทีไม่รู้เรื่องอิโหน่อิเหน่ มองเขาด้วยสายตาแบ่งแยกถูกผิดออกมาอย่างชัดเจน “ฉันทำอะไรให้คุณโกรธขนาดนี้คะ?”

“คุณอยู่ข้างนอกใส่ร้ายเหม่ยทงว่าคือยาปลอม คุณคิดว่าคนของบริษัทการผลิตยาเทียนอีจะตรวจสอบออกมาไม่ได้อย่างงั้นหรอ?” เสียงในลำคอของฉืออี้เหิงเยือกเย็นจนถึงขีดสุด

ฉินเฟยหัวเราะออกมาเล็กน้อย นั่งลงบนโซฟาอย่างไม่แยแส “ตรวจสอบพบ แล้วจะยังไงคะ?”

“พวกเขาไม่ปล่อยคุณเอาไว้แน่” ฉืออี้เหิงสีหน้าบึ้งตึงลงมา

“คุณคงจะไม่ได้…กำลังเป็นห่วงฉันอยู่หรอกนะคะ?” ฉินเฟยเลิกคิ้วขึ้น รอยยิ้มที่อยู่ตรงมุมริมฝีปากลึกซึ้งมายิ่งขึ้น

“ใช่ ผมเป็นห่วงคุณ” ฉืออี้เหิงไม่ได้ปฏิเสธ

“คุณทำอย่างนี้ทำไม? ฉีเซินก็รู้เรื่องด้วย?”

“ฉีเซิน?” ฉินเฟยขมวดคิ้วขึ้น ดูเหมือนจะไม่ค่อยอยากได้ยินชื่อนี้สักเท่าไร “เกี่ยวอะไรกับเขา”

ฉืออี้เหิงควบคุมอารมณ์ของตนเอง นั่งลงที่ด้านข้างของฉินเฟย ยื่นมือออกมาโอบรอบตัวเธอเอาไว้ “เฟยเฟย ก่อนที่คุณจะทำเรื่องอะไรก็แล้วแต่ บอกผมก่อนไม่ได้เลยหรอ?”

“บอกคุณ? ทำไมคะ ระหว่างเราเป็นอะไรกัน?” ฉินเฟยหรี่ตาลง ในสายตาปรากฏความเย็นชาออกมาเล็กน้อย

“ระหว่างเรา…คุณรู้ดี”

พูดจบ ฉืออี้เหิงก็กดฉินเฟยลงบนโซฟา จากนั้นจูบอันร้อนแรงก็กดทับลงไป

มือของเขากำลังเลื่อนลงมา คุ้นเคยกับร่างกายเธอดีเหลือเกิน ไม่ช้าฉินเฟยก็อ่อนปวกเปียกไปทั่วทั้งตัว

ฉินเฟยเชิดลำคอขึ้น ดันไปบนแผ่นอกของเขา มือกระทุ้งออกไปอย่างกะทันหัน เป็นตรงนั้นของฉืออี้เหิงพอดี

เห็นท่าทีที่ทรมานของเขา ฉินเฟยก็ส่งเสียงหัวเราะ “ฮ่าๆ” ออกมา

“ฉืออี้เหิง คุณคิดว่าตัวเองยังเป็นว่าที่สามีของฉันอยู่จริงๆหรอคะ? คุณน่ะคุณสมบัติไม่เพียงพอ” ฉินเฟยจัดการเสื้อผ้าของตนเองให้เรียบร้อย นั่งดีๆอย่างนิ่งสงบ

ฉืออี้เหิงสูดหายใจเข้าเต็มปอด ควบคุมความปรารถนาอันสวยงามที่แผ่ขยายไม่หยุดเอาไว้

“ผมหวังดีกับคุณ ฉินเฟย อย่าไปยุ่งกับบริษัทการผลิตยาเทียนอี ผมรู้ว่าคุณอยากจะแก้แค้นเวินจิ้ง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา” ฉืออี้เหิงขมวดคิ้วขึ้น

“ตอนนี้ไม่ใช่เวลา งั้นตอนไหนถึงจะใช่คะ?”

“อนาคตยังอีกยาวไกล เฟยเฟย พวกเราจัดวางดีๆ” ในขณะที่ฉืออี้เหิงพูด ก็จะเข้ามาโอบฉินเฟยเอาไว้

กลับถูกเธอผลักออกอย่างไม่ไว้หน้า

ฉินเฟยยิ้มเยาะอย่างเยือกเย็น “ตอนนี้ฉันคิดเพียงแค่จัดการกับเวินจิ้งให้เร็วหน่อย ตอนนี้มันกำลังเตรียมตัวสอบปริญญาโทแล้ว คุณว่าหากให้มันตรวจสอบเรื่องในปีนั้นพบ งั้นคุณก็คงจะอันตรายแล้วล่ะ”

ได้ยินดังนั้น ฉืออี้เหิงก็สั่นไปทั้งตัว ความลนลานที่อยู่บนใบหน้าพาดผ่านไปอย่างรวดเร็ว

“เธอจะสอบปริญญาโท? เธอไม่มีคุณสมบัตินี้หรอก” เสียงในลำคอของฉืออี้เหิงกำลังสั่น

“มันไม่มีจริงๆ แต่คุณอย่าลืมไปว่าคนที่อยู่ข้างกายของมันคือมู่วี่สิง ก่อนหน้านี้ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าเขายังจะเป็นผู้สืบทอดของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เวินจิ้งทำให้ฉันต้องขยี้ตามองใหม่แล้วจริงๆ” น้ำเสียงของฉินเฟยทั้งโมโหทั้งริษยา

คิดไม่ถึงว่ามันมีสิทธิ์อะไรถึงสามารถแต่งงานกับผู้ชายที่สถานะเรืองอำนาจเช่นนี้ได้ มันก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่ไม่รู้จะธรรมดายังไงคนหนึ่ง กลับเหนือกว่าเธอไปซะทุกด้าน

ฉืออี้เหิงโน้มสายตาลงต่ำ แอบกำหมัดแน่นอย่างเงียบๆ

“เรื่องนี้ผมจะไม่ยอมให้เธอตรวจสอบพบแน่” ฉืออี้เหิงเอ่ยขึ้นอย่างรับประกัน

“ทางที่ดีที่สุดคือเป็นแบบนี้ ไม่เช่นนั้นพวกเราสองคนคงจะจบเห่กันหมดแน่ คุณยังคิดว่า พวกเรารอได้อยู่อีกหรอ?” ฉินเฟยมองไปทางฉืออี้เหิง

เธอตอนนี้ก็คือแม้แต่วินาทีเดียวก็ไม่สามารถรอได้ คิดเพียงแค่อยากจะกำจัดเวินจิ้งไปซะเดี๋ยวนี้

“ตอนนี้ทางสำนักงานตรวจสอบอาหารและยาได้กำลังตรวจสอบแล้ว ไม่ช้าก็จะประกาศเหม่ยทงยาตัวใหม่นี้ออกไป ถึงเวลาร้านค้าปลีกก็ไม่ได้หวั่นเกรง ต่างก็จะลงนามในสัญญากับบริษัทการผลิตยาเทียนอี”

“สิ่งที่ฉันต้องการก็เพียงแค่ทำลายชื่อเสียงของบริษัทการผลิตยาเทียนอี ผู้บริโภคน่ะนะล้วนมีแนวคิดเชื่อและยอมรับในสิ่งที่ได้ยินได้เห็นมาก่อน ตอนนี้ต่อให้รู้ว่าเหม่ยทงไม่ใช่ยาปลอม แต่ก็ไม่มีคนกล้าที่จะซื้อ หลังจากนั้นฉันจะแพร่กระจายข่าวอื่นๆออกไปอีก บริษัทการผลิตยาเทียนอีจะทำอะไร ฉันก็จะไม่ให้มันทำได้อย่างราบรื่น” ความโหดร้ายภายในดวงตาของฉินเฟยปรากฏขึ้น

“ผมจะช่วยคุณ แต่เรื่องนี้ ฉีเซินรู้หรือเปล่า?” ฉืออี้เหิงเอ่ยถาม

“เขา? พวกเราไม่สนใจเขา”

พอคิดขึ้นมาว่าฉีเซินกลับก็ชอบเวินจิ้งเช่นเดียวกัน เธอก็โมโหขึ้นมา

ผู้ชายคนสองคนนี้ต่างก็ตาบอดกันขนาดนี้แล้วหรอ!

“เฟยเฟย คุณระวังหน่อย ฉีเซินเป็นคนน้ำนิ่งไหลลึก เรื่องที่คุณทำ เขาอาจจะรู้หมดก็ได้” ฉืออี้เหิงเอ่ยเตือนขึ้น

“เขาไม่มาใส่ใจฉันหรอก ความมุ่งมั่นภายในจิตใจของเขาน่ะนะ ก็อยู่ที่เวินจิ้งเช่นเดียวกัน” ฉินเฟยเอ่ยขึ้นอย่างเยือกเย็น

สายตาของฉืออี้เหิงลึกซึ้งลงมา เขายังไม่ลืมตอนที่จะบีบบังคับเวินจิ้งในตอนแรก ฉีเซินก็กังวลเป็นอย่างมากจริงๆ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท