Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 210

ตอนที่ 210

บทที่210 คุณสำคัญกว่างาน

“เผด็จการ!”

เมื่อเดินออกจากออฟฟิศไป ลี่หนานเฉิงโดยนเอกสารทิ้งไป และกำลังโกรธมาก

“ช่างมันเถอะ ไม่ยุ่งกับนายแล้ว พวกเราจะไปกินข้าว”

“คุณลี่ ฉันกำลังรอให้มู่วี่สิงเลิกงานก่อน คุณไปกินคนเดียวเถอะ” เวินจิ้งก็เดินกลับไปออฟฟิศ

เธอรู้ตัวดีว่าเธอเป็นคนของใคร

แต่เมื่อเดินกลับเข้าไปในออฟฟิศ มุ่งหน้าเข้าไปก็ชนเข้ากับอ้อมกอดอย่างแรง ไหล่ของเธอเริ่มโค้งงอ ใบหน้าของเธอก็เริ่มซีดด้วยความปวด

“มู่วี่สิง” เธอบ่นและเงยหน้าขึ้น

ดวงตาที่ลึกล้ำและดำสนิทของผู้ชายคนนั้นยากเกินกว่าจะเปิดออกมาได้ โอบอุ้มเวินจิ้งไว้ ให้อยู่ในความครอบครอง

ลี่หนานเฉิงโกรธจนออกไปนานแล้ว ตอนนี้บนชั้นนี้มีเพียงออฟฟิศของมู่วี่สิง ที่ตอนนี้เงียบๆอยู่ลำพัง

ไหล่ของเวินจิ้งถูกบีบจนรู้สึกเจ็บ อดไม่ได้ที่จะผลักเขาออกไป

มู่วี่สิงผลักเธอไปที่กำแพง ร่างที่สูงใหญ่ของเขาได้ปรากฏขึ้น บีบมาที่คางของเธอและพูดด้วยเสียงที่ต่ำ “คุณนายมู่ ใครเป็นสามีของคุณ ฮื้ม”

“คุณไง” เวินจิ้งจะคิดหรือไม่ก็รีบตอบอย่างรวดเร็ว

“ลี่หนานเฉิงหละ” เขาถามอีก แต่ครั้งนี้น้ำเสียงของเขาเพิ่มความน่ากลัวเข้าไปมาก

หัวใจของเวินจิ้เต้นผิดจังหวะ ลี่หนานเฉิงเหรอ

เดิมแล้วเธอเป็นคนให้เขามาเป็นเพื่อนกับมู่วี่สิง ตอนหลังกลายมาเป็นเจ้านายของเธอ

ดังนั้นสำหรับลี่หนานเฉิงนั้น เธอเคารพและให้เกียรติเขา

“เขา………เจ้านาย” เวินจิ้งพูดช้าๆและเงียบๆ

สายตาของมู่วี่สิงนั้นลึกล้ำและน่ากลัว

“คราวหลังไม่ต้องไปสนใจเขา” มู่วี่สิงพูดด้วยเสียงลุ่มลึก

“เขาเป็นเพื่อนของคุณ แล้วก็เป็นห่วงคุณมากด้วย” เวินจิ้งอดจะพูดไม่ได้

ไม่อย่างนั้นวันนี้คงจะไม่รีบไปรับเธอมาที่นี่

“ผมต้องการความเป็นห่วงของคุณเท่านั้น” มู่วี่สิงพูดจบก็ก้มลงจูบบนปากของเวินจิ้ง

เวินจิ้งไม่ทันจะเรียกสติคืนมา ตอนนี้ริมฝีปากของเธอก็ค่อยๆเปิดรับลมหายใจที่คุ้นเคย มู่วี่สิงรู้สึกหงุดหงิดแต่ก็ทนไม่ได้ที่จะจูบเธอ

เมื่อคิดขึ้นได้ว่าที่นี่เป็นออฟฟิศ ก็ยิ่งทำให้เวินจิ้งรู้สึกต่อต้านมากขึ้น

แต่เธอผลักเขาไม่ออก ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของมู่วี่สิง ตอนนี้เธอเริ่มจ้องมองเขาอย่างหายใจไม่ออก

มู่วี่สิงเริ่มมีรอยยิ้มี่มุมปาก ครั้งนี้เขาถามเธอ”คุณหิวมั้ย”

เวินจิ้งพยักหน้า จริงๆเธอหิวตั้งนานแล้ว

ตอนนี้ เขาคงจะหายโมโหแล้วสินะ

เวินจิ้งเริ่มขยับไปจับแขนของมู่วี่สิง นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “พรุ่งนี้ฉันต้องไปบ้านของอั้ยเถียนแล้ว อีกสักสัปดาห์ถึงจะกลับ”

สีหน้าของมู่วี่สิงไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่เขายังตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

เวินจิ้งยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่เล็กน้อย ตอนนี้เธอยิ่งไม่เข้าใจความคิดของมู่วี่สิงเลย

เขาคนนี้ เป็นคนที่คาดเดาอะไรยากมาแต่ไหนแต่ไร

“ผมจะจัดบอดี้การ์ดไว้ปกป้องคุณ ต้องระวังตัวดีๆนะ ฮึ้ม” เขาเร่งเร้า

“รู้แล้ว”

“ฉันไม่วางใจ” มู่วี่สิงขมวดคิ้วแน่น

หลายครั้งแล้วที่เกิดเรื่องกับเวินจิ้ง โดยที่ไม่มีเขาอยู่ข้างกาย

เวินจิ้งก้มศีรษะลงด้วยความรำคาญ มู่วี่สิงคงต้องการไปด้วยกันกับเธอสินะ

บนการ์ดเชิญของอั้ยเถียนเขียนเชื่อของมู่วี่สิงไว้ด้วย

เพียงแต่ตระกูลอั้ย อยู่ที่ประเทศ B แถมยังเป็นพวกไฮโซมหาเศรษฐี ออกโรงจัดงานแต่งทั้งทีคนไม่น้อยแน่นอน ถ้าเธอและมู่วี่สิงไปปรากฏตัวด้วยกันที่นั่น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็อาจเปิดเผยได้

“ฉันดูแลตัวเองได้แน่นอน”

“คุณคือคุณนายมู่ คนดูแลคุณต้องเป็นผม” มู่วี่สิงหันหัวไปพูดด้วยน้ำเสียงต่ำลุ่มลึก

เวินจิ้งรู้สึกใจสั่นเล็กน้อย คำพูดนี้ที่ก้องอยู่ในหูของเธอ มันคล้ายจะเป็นคำบอกรัก

เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ ดวงตาของมู่วี่สิงตอนนี้มันเบิกโตทำให้เธอหลงใหลสิ้นดี

“จากนี้ไปผมจะอยู่ข้างกายคุณตลอด เข้าใจมั้ย”

เวินจิ้งนิ่งไปสักพัก ค่อยๆยกมือของเธอขึ้นอย่างตั้งใจ แล้วค่อยๆกอดมู่วี่สิง

ถ้าเขาเป็นยาพิษจริงๆ เธอก็ไม่คิดจะเลิกรา

“งั้น คุณไปกับฉันได้เหรอ” เวินจิ้งถาม

“อื้ม”

“ฉันกลัวมันจะไปรบกวนงานของคุณ” เวินจิ้งกัดริมฝีปากแล้วพูดไปอย่างลังเล

“คุณสำคัญกว่างาน”

คุณสำคัญกว่างาน

รับประทานอาหารเรียบร้อยก็กลับไปยังการ์เด้นมูเจียวาน ในหัวของเวินจิ้งตอนนี้คิดถึงคำพูดของมู่วี่สิง

ชื่อเรียกของเธอว่า คุณนายมู่ มันทำให้รู้สึกเคลิ้มอยู่ไม่น้อย

หรือว่า มู่วี่สิงจะทำแบบนี้กับทุกคน

ไม่สิ เขาไม่ได้ทำแบบนี้กับลู่หวั่น ……..

แต่ลู่หวั่นไม่ใช่ คุณนายมู่

ในขณะที่เก็บของ เวินจิ้งก็กำลังคุยกับอั้ยเถียนไปด้วย

“ถ้าให้ฉันเดานะ หมอมู่มากับเธอด้วยใช่มั้ย”

“เธอเดาถูกได้ยังไง ทีแรกฉันไม่ได้ให้เขาไปด้วยกันหรอก” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“อื้ม หมอมู่เขาไม่ยอมแยกห่างจากเธอหรอก เขาชอบเธอมากขนาดนั้น”

“เขาชอบฉันที่ไหน”

“ฉันรู้สึกได้ เขาชอบเธอ เชื่อสายตาฉันสิ ไม่มีทางดูผิดแน่” อั้ยเถียนมั่นใจในตัวเองมาก

ท่าทีของหมอมู่ที่มีต่อเธอนั้นแตกต่างกับท่าทีต่อคนอื่นราวฟ้ากับดิน

“เธอลองมองไปที่แววตาของผู้ชายคนนั้นสิ ฉันนี้ยังสงสัยในท่าทีของเขา”

“ฉันลองดูมาสองครั้งแล้ว เวินจิ้ง คนเรามันจะฝืนไปถึงครั้งที่สามไม่ได้หรอก!” อั้ยเถียนแย้งเธอ

“ฉันก็หวังเช่นนั้น แต่วันนี้ตอนฉันไปขอลาเสี้ยวหง พอเขารู้ว่าเธอจะแต่งงาน เขาฝากแสดงความยินดีมา”

อั้ยเถียนเงียบไปสักพัก แล้วพูดช้าๆ “ปล่อยผู้ชายเหี้ยๆไปเถอะ”

เวินจิ้งอุทานแล้วหัวเราะออกมา “ดูแล้วตอนนี้เธอมีสติมาก”

“แน่นอน ไม่ต้องพูดเรื่องฉันแล้ว เธอกับหมอมู่ตอนนี้ลงเอยกันรึยัง”

“ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราจะไปมีอะไรได้” ใบหน้าของเวินจิ้งเริ่มแดงเป็นประกาย

“ค่อยๆดูกันไป! พวกเธอสามัคคีในเรื่องนั้น ถูกมั้ย”

เวินจิ้ง ……..

“อย่าพูดเหลวไหล!”

เธอกับมู่วี่สิง ก็เป็นเรื่องปกติ ……..

ความต้องการของเขาในเรื่องนั้นมีมากมหาศาล ทุกครั้งเธออยากฝืนใจตัวเอง แต่ก็ถูกเขากินเรียบทุกที

ทำไมเธอถึงเชื่อฟังเขาอย่างง่ายดาย

เวินจิ้งขมวดคิ้วด้วยความอับอาย เธอรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของเธอกับมู่วี่สิงในตอนนี้ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ

“ฉันหละเป็นห่วงเธอจริงๆ ช่วงนี้ฉืออี้เหิงไม่ได้เป็นปีศาจร้ายใช่มั้ย เธอรับผิดชอบเรื่องของบริษัทโป๋ทงกรุ๊ป คงต้องรบกับเขาไม่น้อย”

“ระยะนี้ยอดขายของเหม่ยทง ไม่น่าพอใจมากๆ ตอนนี้บริษัทการผลิตยาเทียนอีเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญา” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“ยกเลิกสัญญาก็ดีแล้ว ไม่น่าไปร่วมมือกับบริษัทโป๋ทงกรุ๊ปตั้งแต่แรกแล้ว ไม่รู้เลยจริงๆว่าเสี้ยวหงคิดยังไง”

เมื่อพูดถึงบุคคลนี้ น้ำเสียงของอั้ยเถียนก็แปลกไป

เวินจิ้งฟังมันออก แต่ก็ไม่รู้จะปลอบใจเธออย่างไร

การแต่งงานที่รวดเร็วขนาดนี้ของอั้ยเถียน ต้องมีเหตุผลมาจากเสี้ยวหงแน่นอน ผู้ชายคนนั้น เป็นต้นเหตุที่ทำให้อั้ยเถียนต้องเจ็บปวดจนไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้

วันถัดมา เวินจิ้งเพิ่งจะรู้ว่าตั๋วเครื่องบินของเธอถูกยกเลิกไปแล้ว เลยต้องนั่งเครื่องบินส่วนตัวของมู่วี่สิง

หลังจากที่ได้นั่งมาแล้วครั้งก่อน เวินจิ้งเริ่มที่จะคุ้นกับมันแล้ว มู่วี่สิงกำลังทำงานของเขา ส่วนเวินจิ้งก็นั่งอ่านหนังสือของเธอ

เมื่อลงจากเครื่องบิน โทรศัพท์ของเวินจิ้งดังขึ้น เป็นสายที่ไม่รู้จัก

“เสี่ยวจิ้ง ฉันเองคุณนายฉี” เสียงอันอ่อนโยนของหลินเวยพูดขึ้นมา

“คุณนายฉี ตอนนี้ร่างกายคุณดีขึ้นบ้างหรือยัง” เวินจิ้งถามด้วยความกังวล

“วันนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ฉันคิดถึงเธอ”

เวินจิ้งยิ้ม “คุณนายฉี รอให้ฉันว่างเดี๋ยวฉันจะไปเยี่ยมคุณ”

“ช่วงนี้เธอยุ่งกับอะไรเหรอ” หลินเวยถาม

“วันนี้ฉันไปร่วมงานแต่งของเพื่อนที่ประเทศ B”

“ฉีเซินก็ไปประเทศB และก็ไปวันนี้เหมือนกัน”

ฉีเซิน ………

เวินจิ้งขมวดคิ้ว หรือว่าเขาจะมางานแต่งงานของอั้ยเถียนเหมือนกัน

เมื่อนึกถึงสถานะของตระกูลอั้ย ก็อาจจะมีความเป็นไปได้

เมื่อวางสายโทรศัพท์ เงยหน้าขึ้นเบาๆเผชิญหน้ากับดวงตาอันลึกล้ำของมู่วี่สิง เขาถามอย่างเฉยเมย “แม่ของเธอกับคุณนายฉีเป็นอะไรกัน”

“เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน รู้จักกันเมื่อหลายปีก่อน”

“ก่อนเธอเกิดเหรอ” มู่วี่สิงถามอีก

เวินจิ้งขมวดคิ้ว นี่คือ……….แม่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท