Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 188

ตอนที่ 188

บทที่ 188 อย่ามารบกวนชีวิตของเธออีก

เวินจิ้งเบิกตาโพลง แต่ก็ดันผลักมู่วี่สิงไม่ออกอีก จูบของเขารุนแรงและเผด็จการมาโดยตลอด เวินจิ้งแทบจะยืนได้ไม่มั่นคง ทั้งร่างกายแทบจะอ่อนไปในอ้อมแขนของเขาอยู่แล้ว

เขากอดเธอเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ริมฝีปากบางตกลงไปบนลำคอของเธอ อาลัยอาวรณ์ทั้งยังอ่อนโยน เสียงที่เบาและแหบพร่าเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ต้องกลัว”

ไม่มีคำอนุญาตจากเขา จะมีใครกล้าตีพิมพ์ข่าวของเขาอีก

เวินจิ้งกลับไม่มีทางที่จะสงบลงมาได้ มองดูซ้ายขวา มั่นใจแล้วว่าไม่มีคนถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เธอผลักมู่วี่สิงออกอย่างโมโหเล็กน้อย “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันคะ”

เธอไม่เห็นเขามาตั้งแต่เช้า ยังนึกว่าเขาจะไม่มาแล้วซะอีก

“ไม่อยู่ที่นี่ ไม่ใช่ว่าจะพลาดละครสนุกๆเมื่อสักครู่นี้ไปแล้วหรอ?” มู่วี่สิงเลิกคิ้วขึ้นอย่างนิ่งๆ ความเยือกเย็นภายในดวงตาพาดผ่านไปอย่างรวดเร็ว

“คุณรู้มานานแล้วว่าจะมีผู้ป่วยมาก่อกวนหรอคะ?” เวินจิ้งมองดูเขา

มู่วี่สิงเม้มริมฝีปาก ไม่ได้ตอบกลับ

มองดูในสายตาของเวินจิ้งก็คือยอมรับโดยปริยาย

เธออดไม่ได้ที่จะโกรธเล็กน้อย งั้นก็หมายความว่า เสี้ยวหงก็รู้เรื่องนี้แล้ว?

“เป็นฉีเซินที่จัดการหรือเปล่าคะ?”

มู่วี่สิงยังคงไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแต่โอบเธอไว้พาเธอออกไปจากโรงแรม

ท้องของเวินจิ้งเต็มไปด้วยคำถาม ตอนนี้ผู้สื่อข่าวต่างก็ไปที่โรงพยาบาลรอฟังข่าว หากผู้ป่วยถูกยืนยันว่าเป็นเพราะใช้ยาเหม่ยทงถึงได้เกิดความผิดปกติทางร่างกายออกมาจริงๆ เหม่ยทงยาตัวนี้ก็จำเป็นจะต้องถอนแล้วจริงๆ

มู่วี่สิงกลับสงบเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง รถยนต์ขับไปทางโรงพยาบาล คราวก่อนที่เวินจิ้งมา ยังคงเป็นตอนที่มาเป็นผู้บันทึกการทดลองอยู่ข้างกายของมู่วี่สิง ช่วงเวลาพริบตาเดียวก็ผ่านไปสามเดือนแล้ว

หน้าประตูโรงพยาบาลรวมตัวไปด้วยนักข่าวจำนวนไม่น้อย รถของมู่วี่สิงขับมาถึงประตูด้านข้าง เพิ่งจะลงจากรถ โทรศัพท์ของเสี้ยวหงก็โทรเข้ามา

“จับหนอนบ่อนไส้ในโรงพยาบาลได้แล้ว แต่วันนี้รายงานผลออกมาไม่ได้” เสี้ยวหงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

ในเวลานี้ ล่าช้าไปหนึ่งนาทีก็มากพอที่จะให้นักข่าวเหล่านั้นใจร้อนจนไม่สามารถที่จะควบคุมได้เขียนข่าวมั่วๆออกไป

มู่วี่สิงหรี่ตาลง “ฉันจะไปถึงเดี๋ยวนี้”

“คุณกลับไปที่การ์เด้นมูเจียวานก่อน คืนนี้ผมไม่แน่ว่าจะสามารถกลับมาได้” เวินจิ้งกำลังจะตามลงจากรถไป กลับถูกมู่วี่สิงห้ามเอาไว้ก่อน

“ไม่ได้ คุณจะไปทำธุระอะไรคะ?” เวินจิ้งดึงเขาเอาไว้

เธอตอนนี้น่ะไม่มีทางที่จะสามารถสบายใจลงได้ จะสามารถกลับไปคนเดียวได้ที่ไหนกัน

“ผู้เชี่ยวชาญในการชันสูตรตัวยาถูกซื้อตัวไปแล้ว ผมจำเป็นต้องออกหน้าด้วยตัวเอง” มู่วี่สิงเอ่ยขึ้นอย่างคำพูดกระชับแต่ใจความครอบคลุม

“ฉันสามารถช่วยด้วยได้ไหมคะ?” เวินจิ้งยังไงก็ไม่ยอมปล่อยมือ สีหน้ายังไงฉันก็จะต้องอยู่ต่อให้ได้

มู่วี่สิงขมวดคิ้วขึ้น สุดท้ายก็พยักหน้า

ทั้งสองคนขึ้นไปที่ห้องปฏิบัติการทดสอบทางการแพทย์ การตรวจทั้งหมดของผู้ป่วยได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว มู่วี่สิงสวมเสื้อกาวน์สีขาว ใบหน้าสวมผ้าปิดปาก เดินเข้าไปด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมและจริงจัง

เวินจิ้งมองดูแผ่นหลังของชายหนุ่ม มู่วี่สิงในเวลานี้ แพรวพราวจนทำให้คนละสายตาจากไปไม่ได้

เขามักจะมีความสามารถเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่วุ่นวายมากแค่ไหน มีเขาอยู่ ก็มากพอที่จะทำให้คนสบายใจได้

ไม่ได้เข้าไปในห้องปฏิบัติการทดสอบทางการแพทย์ เวินจิ้งหาห้องพักฟื้นของผู้ป่วยเจอ เสี้ยวหงยืนอยู่ที่ด้านนอก สิ้นสุดระเบียงทางเดินได้กองก้นบุหรี่เอาไว้ไม่น้อย

ตอนนี้ผู้ป่วยและญาติได้ถูกปลอบใจลงมาชั่วคราว นักข่าวไม่มีทางที่จะเข้ามาได้ เวินจิ้งมองดูกลุ่มคนดำทะมึนที่อยู่ด้านนอก ทั้งยังเลื่อนดูข่าวอีกครั้ง มั่นใจแล้วว่าไม่มีข่าวที่เป็นอันตรายต่อบริษัทการผลิตยาเทียนอีใดๆถึงได้วางใจลง

กดเปิดบันทึกการโทรเข้าออก อั้ยเถียนยังคงไม่ได้โทรศัพท์กลับมาหาเธอ

เวินจิ้งมองดูเสี้ยวหงที่อยู่ไม่ไกลนัก เดินเข้าไป

เสี้ยวหงดับก้นบุหรี่ ความเยือกเย็นที่อยู่บนใบหน้าเก็บกลับเข้าไปเล็กน้อย

“ยังคงไม่มีข่าวของอั้ยเถียนใช่ไหมคะ?” เวินจิ้งเอ่ยถาม

โดยจิตใต้สำนึกแล้ว เธอรู้สึกว่าเสี้ยวหงนั้นรู้

“เที่ยวบินเมื่อสองชั่วโมงก่อนของเธอบินไปที่ประเทศC ก่อนหน้านี้นั้น เธอได้ยื่นใบลาออกให้กับผม” เสียงของเสี้ยวหงนิ่งมาก

เพียงแต่ตรงกลางระหว่างคิ้วขมวดเอาไว้แน่นอยู่ตลอดเวลา

“ลาออก? คุณยินยอมแล้ว?” เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความตกใจ เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างแม้กระทั่งเธอยังรู้สึกอยู่นอกเหนือความคาดหมาย

เธอนึกว่า อั้ยเถียนเพียงแค่ขาดการติดต่อไปชั่วคราวเท่านั้น แต่เธอทำแบบนี้ ก็คงจะเป็นเพียงเพราะเธอไม่ยินยอมที่จะอยู่ต่อแล้วจริงๆ

“เธอไม่ได้ให้โอกาสที่จะไม่ยินยอมกับผม” เสี้ยวหงอดไม่ได้ที่จะ จุดบุหรี่ขึ้นอีกครั้ง

สองชั่วโมงก่อนเธอโทรศัพท์หาเขาเป็นครั้งสุดท้าย

มีเพียงแค่ห้าคำ:ไม่ต้องเจอกันอีก

มากพอที่จะอธิบายได้ว่าเธอผิดหวังกับเขามากแค่ไหน สิ้นหวังกับเขามากแค่ไหน

เดิมทีนึกว่าเป็นเพียงแค่แม้ว่าจะได้รับสิ่งเย้ายวนจากข้างกายมาแต่ไม่เคยที่จะได้รับผลกระทบก็เท่านั้นเอง แต่กลับดูเหมือนจะใส่ใจขึ้นมาแล้ว นี่ถึงจะเป็นที่ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตมากที่สุด

สีหน้าของเวินจิ้งซีดเผือดลงมา มองดูเสี้ยวหง อยากจะตะคอก อยากจะตำหนิ แต่สุดท้ายก็ยังคงไม่ได้ทำอะไร

ประเทศCคือสถานที่ของบ้านตระกูลอั้ย เธอกลับไม่เป็นกังวล อั้ยเถียนออกไปจากที่นี่ บางทีก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน

“หวังว่าต่อไปคุณอย่ามารบกวนชีวิตของเธออีก”

ห้าโมงเย็น ในที่สุดในตอนที่ความอดทนของนักข่าวกำลังจะหายไปจนหมดนั้น รายงานผลการทดสอบทางการแพทย์ของผู้ป่วยก็ออกมา มีผู้ป่วยทั้งหมดหกรายที่ทดลองใช้ตัวยาของเหม่ยทง แต่ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน ยังใช้ตัวยาอีกสองชนิด และในนั้นก็มีตัวยาหนึ่งชนิดที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ใช่ตัวยาที่ใช้ในการรักษาอาการบาดเจ็บเสียหายทางเส้นประสาท

ยาตัวนี้เป็นยาที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ แต่ยังคงไม่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ ตอนนี้ผลลัพธ์ของมันกับผลข้างเคียงต่างก็ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ

มู่วี่สิงประกาศผลลัพธ์ออกมาแล้วถึงได้ปิดปากของทุกคนไปได้อย่างช้าๆ ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจของแผนกศัลยกรรมระบบประสาท ทุกคำพูดทุกการเคลื่อนไหวของมู่วี่สิงต่างก็เต็มไปด้วยพลังที่น่าเชื่อถือเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับการปรากฏตัวออกมาอย่างกะทันหันของมู่วี่สิงนั้น เห็นได้ชัดว่านักข่าวทั้งหลายต่างก็กล่าวขวัญกันเป็นอย่างมาก ขวางเขาเอาไว้คิดอยากจะสัมภาษณ์ มู่วี่สิงเพียงแค่เอ่ยขึ้นไม่กี่ประโยคอย่างราบเรียบ “เหม่ยทงยาตัวนี้ก็เป็นตัวยาที่ผมเข้าร่วมการทดลองวิจัยและพัฒนาออกมา ผลการรักษาของมันได้ถูกทำการตรวจสอบแล้ว ผมหวังว่าทุกคนจะไม่ปล่อยข่าวที่เป็นข่าวลือใดๆว่าเหม่ยทงคือยาปลอมอีก”

คำพูดของมู่วี่สิงเป็นยาฉีดที่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของหัวใจให้กับทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย ที่เมืองหนานเฉิง มู่วี่สิงก็คือผู้มีอำนาจของแผนกศัลยกรรมระบบประสาท ชื่อเสียงของเขาวางแผ่เอาไว้อยู่ที่นี่ ไม่อนุญาตให้เกิดข้อสงสัยได้

ไม่ไกลนัก รถยนต์สีขาวคันหนึ่งออกเคลื่อนไหวไปอย่างช้าๆ

ฉีเซินถูกคั่นเอาไว้ด้วยหน้าต่างกระจกรถ ในสายตาคือใบหน้าที่ราบเรียบนิ่งสงบของมู่วี่สิง ความร้ายกาจภายในดวงตาปรากฏขึ้น

เย็นวันนั้น เหม่ยทงฟื้นคืนการจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบของข่าวยาปลอมในก่อนหน้านี้ ช่องทางการจำหน่ายจำนวนมากต่างก็ยกเลิกสัญญาแล้ว แต่ในวันนี้ยอดขายของเหม่ยทงไต่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

และราคาหุ้นของบริษัทการผลิตยาเทียนอีที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวในก่อนหน้านี้นั้นก็กลับขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน สถานการณ์ที่ผู้คนอกสั่นขวัญแขวนไปทั่วทั้งอาคารใหญ่ของบริษัทการผลิตยาเทียนอีถึงได้ผ่อนคลายลงมาในที่สุด

มู่วี่สิงถอดเสื้อกาวน์ออก กำลังจะออกไปจากที่นี่ หลี่ซานที่เดินหันหน้ามาทางนี้ขวางเขาเอาไว้ซะก่อน

“คิดไม่ถึงว่าจะยังสามารถพบกับคุณหมอมู่ที่นี่ได้อีก” หลี่ซานเผยให้เห็นรอยยิ้มออกมา

ตั้งแต่หลังจากที่มู่วี่สิงลาออกจากตำแหน่งเธอก็ได้เลื่อนตำแหน่งกลายเป็นหัวหน้าพยาบาล เพียงแต่ต่อให้ในโรงพยาบาลไม่มีเงาของมู่วี่สิงแล้ว แต่เขาก็ยังคงเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลของโรงพยาบาลนี้อยู่ สิ่งที่ทุกคนพูดถึงต่างก็เป็นความเลื่อมใสศรัทธา

“ตำแหน่งหัวหน้าพยาบาลยังปรับตัวได้อยู่หรือเปล่า?” ท่าทีของมู่วี่สิงราบเรียบ

หลี่ซานคือพยาบาลที่ตามเขามานานหลายปี ก่อนที่จะลาออกจากตำแหน่งนั้นมู่วี่สิงได้จัดการอนาคตทุกอย่างเอาไว้ให้กับเธอเรียบร้อยแล้ว

“ปรับตัวได้ค่ะ เพียงแต่อยู่ๆไม่ได้ยุ่งขนาดนั้นแล้ว ก็จะรู้สึกว่าไม่ค่อยจะถูกสักเท่าไร”

“ให้เวลากับตัวเองมากขึ้นหน่อย งานไม่ใช่สิ่งเดียวในชีวิต”

พูดจบ มู่วี่สิงก็เดินออกจากที่นี่ไป

หลี่ซานมองดูแผ่นหลังของเขา ความหลงใหลที่อยู่ภายในสายตาค่อยๆเติมเต็มขึ้นมาอย่างช้าๆ แต่กลับคิดไม่ออกว่า ยังมีวิธีอะไรที่จะสามารถใกล้ชิดกับมู่วี่สิงได้อีก

“คุณหมอมู่!” เธอเรียกเขาเอาไว้

“ต่อไปคุณจะไม่เป็นหมอแล้วจริงๆหรอคะ?” หลี่ซานเอ่ยถามเขา

มู่วี่สิงหยุดชะงักไปชั่วขณะ คิ้วขมวดเข้าหากันแน่นขึ้นมา “ไม่อาจจะบอกอะไรได้”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท