Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 209

ตอนที่ 209

บทที่209 มีแค่เธอที่ทำได้

ช่วงบ่าย เวินจิ้งกลับไปบริษัทการผลิตยาเทียนอี เธอต้องการที่จะไปส่งใบลากับเสี้ยวหงด้วยตนเอง

เสี้ยวหงกำลังจะเซ็นชื่อ เมื่อเห็นบันทึกเหตุผลการลาของเวินจิ้ง ว่าไปร่วมงานแต่งของเพื่อน

“เพื่อนคนไหน” เขาถามอย่างพล่อยๆ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว “อั้ยเถียน”

แน่นอนว่าใบหน้าของเสี้ยวหงดูเย็นชาขึ้นมา เซ็นชื่อเรียบร้อย แล้วพูดว่า “ยินดีกับเขาด้วย”

ใบหน้าของเวินจิ้งไม่มีการแสดงออกใดๆ หลังจากออกไปลี่หนานเฉิงก็ขึ้นมาพอดี

“เวินจิ้ง เธอไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปกับฉันหน่อย” ลี่หนานเฉิงแสดงออกราวกับได้พบผู้ช่วยชีวิต เมื่อได้พบกับเวินจิ้ง

เวินจิ้งเงียบไปสักพัก ก็ถูกลี่หนานเฉิงลากขึ้นลิฟท์ไปเรียบร้อย

“คุณลี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น” เวินจิ้งขมวดคิ้ว ลี่หนานเฉิงแม้ว่าจะเป็นพวกชอบเยาะเย้ยถากถางสังคม แต่ท่าทางเคร่งขรึมแบบนี้ ไม่ค่อยได้เห็นเขาแสดงออกมา

“คุณทะเลาะกับมู่วี่สิงใช่ไหม” ลี่หนานเฉิงไม่ตอบคำถาม มีแต่ถามย้อนกลับไป

เวินจิ้งหยุดนิ่งไปชั่วครู่ นึกขึ้นมาได้ถึงสีหน้าที่ไม่พอใจของมู่วี่สิงเมื่อเช้านี้ น่าจะเป็นเพราะเขาโกรธแน่ๆ ……

เมื่อเห็นสีหน้าของเวินจิ้ง ลี่หนานเฉิงก็เข้าใจทันที

เขาขมวดคิ้วอย่างไม่สบายใจ ผู้หญิงคนเดียวมามีอิทธิพลต่ออารมณ์ของมู่วี่สิงตั้งแต่เมื่อไรกัน

“ไม่น่าจะมีนะ” เวินจิ้งส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว

แต่ไหนแต่ไรมามู่วี่สิงไม่มีทางจะทะเลาะกับเธอ

“ฉันไม่เชื่อ วันนี้เขามาที่บริษัทหน้าตาเยือกเย็นอย่างกับมัจจุราช ฉันก็ไม่เข้าใจเลย ทุกคนในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็เป็นกังวลกันทั้งนั้น”

“ขนาดคุณยังทำอะไรไม่ได้ ฉันนี่ก็ยิ่งแย่ไปอีก” เวินจิ้งย่นใบหน้าของเธอ

“ไม่ มีแต่เธอเท่านั้นที่ทำได้” ลี่หนานเฉิงพูดอย่างหนักแน่น

“ฉันยังไม่เลิกงาน …….” เวินจิ้งไม่คิดจะไปพบมู่วี่สิง

ลี่หนานเฉิงนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วลากเวินจิ้งเข้าไปยังออฟฟิศของซีอีโอ แล้วพูดกับเสี้ยวหงว่า “ ฉันขอยืมตัวเวินจิ้งครึ่งวัน!”

เสี้ยวหงไม่รู้จะเขียนว่าอะไร ได้แต่พยักหน้า

เธอถูกลี่หนานเฉิงผลักเข้าไปในรถ ความเร็วดั่งพายุไต้ฝุ่นทำให้เวินจิ้งหน้าซีด

“คุณลี่ ช้าหน่อยก็ได้ ……” เวินจิ้งพูดอย่างซีเรียส

ลี่หนานเฉิงหันมาสบตาเธอ “ช้าไม่ได้หรอก”

ใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาที ในที่สุดก็มาถึงประตูทางเข้าของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เวินจิ้งรีบผลักประตูลงจากรถทันที แบบนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

“มู่วี่สิงทำอะไรกับพวกคุณ” เวินจิ้งถามอย่างเคร่งขรึม

ลี่หนานเฉิงจำเป็นต้องรีบขนาดนี้เลยหรือ

“ผู้บริหารระดับสูงสองคนถูกไล่ออก วันทั้งวันเขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ ยิ่งไปกว่านั้นสัญญาอะไรเขาก็ปฏิเสธไปทั้งหมด เป็นแบบนี้ เธอคิดว่าบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปกำลังจะต้องพบหายนะไหมหละ”

เวินจิ้งขยับปาก “นี่มันเป็นเรื่องภายในของพวกคุณ”

“ไม่ วันนี้เขาดูไม่ปกติเลย” ลี่หนานเฉิงและมู่วี่สิงรู้จักกันมาหลายปี นิสัยของมู่วี่สิงนั้นเขารู้จักเป็นอย่างดี

แม้ว่าเขาจะเป็นคนซีเรียสเรื่องงาน แต่เขาก็ไม่เคยแสดงความรุนแรง

เว้นแต่เขาจะมีเรื่องไม่ดีในใจ

“คุณลี่ ฉันคิดว่าการที่คุณพาฉันมาที่นี่ น่าจะยิ่งเพิ่มความทุกข์ยากให้มู่วี่สิง” เวินจิ้งรู้สึกลำบากใจ

เธอกับมู่วี่สิงเพิ่งจะมีเรื่องไม่ค่อยดีกันเมื่อเช้านี้ ดังนั้นถ้ามู่วี่สิงเห็นเธอเข้าจะยิ่งเป็นการกระตุ้นเขามากขึ้นกว่าเก่า

“สถานการณ์แย่แล้วก็ต้องพลิกกลับมาได้ เข้าใจไหม” ลี่หนานเฉิงอดไม่ได้ที่ต้องพูดและพาเวินจิ้งขึ้นไป

เมื่ออยู่ข้างลี่หนานเฉิง ตลอดทางที่เดินไป เวินจิ้งกลายเป็นที่สนใจของคน

เธอเดินก้มศีรษะไป ในหัวก็เต็มไปด้วยเรื่องความเครียดของมู่วี่สิงเมื่อเช้านี้

เขาโกรธเพราะอะไรกันแน่

เพียงเพราะเธอไม่ได้ชวนเขาไปงานแต่งงานของอั้ยเถียนงั้นเหรอ

เวินจิ้งไม่เข้าใจเหตุผล

ตรงไปยังชั้นบนสุด ตรงข้ามของออฟฟิศผู้บริหาร มีผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งกำลังเดินคอตกออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคงไม่เล่นด้วย

เมื่อเขาได้พบกับคุณลี่ สีหน้าก็เกือบจะร้องไห้ออกมา “คุณลี่ วันนี่คุณอย่าเข้าไปพบคุณมู่เลย วันนี้เขา …….”

“ผมรู้แล้ว ผมรู้แล้ว นี่งัยผมพาผู้ที่จะช่วยชีวิตพวกเรามาแล้ว” ลี่หนานเฉิงกล่าว

เวินจิ้งค่อยๆเดินทีละก้าวๆอย่างเงียบๆ มู่วี่สิงกำลังโกรธอยู่ เธอไม่กล้าที่จะไปรบกวนเขา

แต่ลี่หนานเฉิงผลักเธอเข้าไปในห้องแล้ว แล้วตะโกนเข้าไป “เฮ้พวก ภรรยานายมีเรื่องจะคุยกับนาย”

เวินจิ้ง ………

ประตูด้านหลังของเธอถูกปิดไปแล้ว ห่างไปแค่ไม่กี่เมตร มู่วี่สิงกำลังขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้นมองเวินจิ้งอย่างไม่สนใจใยดี

เขาแต่งกายด้วยชุดสีดำ กางเกงสีดำ ดูแล้วเต็มไปด้วยออร่าที่เยือกเย็นมาก

เวินจิ้งมองเขาด้วยความใจเย็น และยังไม่พูดอะไรออกไป

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง มู่วี่สิงวางเอกสารที่อยู่ในมือลง เดินเข้ามา “หนานเฉิงพาคุณมาที่นี่เหรอ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ไม่ได้ตอบอะไร แล้วถามเขากลับไป “คุณโกรธเรื่องเมื่อเช้านี้หรือเปล่า”

“เธอคิดว่าฉันจะโกรธมั้ยหละ” ความเยือกเย็นของมู่วี่สิงแผ่กระจายไปทั่ว

“ฉันจะไปรู้เหรอ” เวินจิ้งพึมพำ

เขาจับคางของเธอเงยหน้าขึ้นมา เธอต้องเห็นภาพของมู่วี่สิงที่ลึกล้ำและยากที่จะคาดเดา

“เป็นห่วงผมเหรอ” เขาถามเธอ

“ไม่สักหน่อย” เวินจิ้งหันกลับ

สีหน้าของมู่วี่สิงยิ่งดูเยือกเย็นขึ้น ทำให้ใครได้เห็นความเย็นชานี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“เธอไปได้แล้ว” มู่วี่สิงปล่อยเธอไป แล้วหันกลับไปอย่างเย็นชา

ปกติแล้วมู่วี่สิงไม่เคยปฏิบัติกับเธอแบบนี้เลย มันทำให้ใจที่เคยสงบของเธอไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก

จะร้ายจะดีเธอก็มาที่นี่แล้ว อีกทั้งยังใกล้จะเลิกงานแล้วด้วย จะกินข้าวกันสองคนไม่ได้หรืออย่างไร

เธอคิดแบบนี้ตลอดทางที่เดินมา แต่ด้วยมู่วี่สิงอารมณ์ไม่ค่อยดี หากเธอเกลี้ยกล่อมเขาน่าจะทำได้

“ฉันไม่ไป” เวินจิ้งก็เริ่มจะมีอารมณ์โกรธ สีหน้าอันเยือกเย็นค่อยๆปรากฏออกมา

มู่วี่สิงไม่สนใจเธอ และจัดการอยู่กับงานอย่างแข็งขัน ราวกับว่าไม่มีเธออยู่ที่นั่น

เกาเชียนเข้าๆออกๆ รายงานเรื่องงานตลอด แต่น้ำเสียงของมู่วี่สิงนั้นอ่อนโยนไม่น้อย

ลี่หนานเฉิงได้ยินคำพูดของเกาเชียน เขาถามทันที “ไม่หัวร้อนแล้วเหรอ”

“น่าจะเป็นเพราะภรรยาท่านอยู่ด้วย ตอนนี้ปกติแล้ว” เกาเชียนถอนหายใจอย่าง

โล่งอก

ลี่หนานเฉิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในมือของเขามีโครงการใหญ่ที่ต้องการให้มู่วี่สิงลงนาม แต่ถูกเขายั้งไว้เมื่อเช้านี้ ตอนนี้ก็คงจะไม่มีปัญหาแล้วหรือเปล่า

เมื่อคิดได้ดังนี้ เขาจึงรีบเดินไปยังออฟฟิศ “เพื่อน โครงการนี้กำลังจะเริ่มแล้ว ลงชื่อให้ฉันหน่อย”

มู่วี่สิงขมวดคิ้วแล้วกวาดสายตามา ตอบลี่หนานเฉิง “โครงการนี้ฉันไม่เห็นด้วย”

“อะไร มีปัญหาอะไรเหรอ” ลี่หนานเฉิงเริ่มก้มหน้า

โครงการนี้เขาเคยคุยกับมู่วี่สิงมาก่อนแล้ว เขาบอกว่าทำได้เหลือแต่เขาไปปฏิบัติเท่านั้น

“ช่วงนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาและเรื่องของการนำเข้ายา ปีหน้าค่อยมาคุยกันใหม่” สีหน้าของมู่วี่สิงตอนนี้ยากที่จะคัดค้านเขา

“ตอนนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไม่ได้ขาดทุนอะไร ฉันคิดว่าไม่น่ามีปัญหา” ลี่หนานเฉิงยืนยันทัศนะของเขา

ยาเหล่านี้ล้วนแต่ได้รับการตอบรับอย่างดีในต่างประเทศ ตอนนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็มีส่วนแบ่งทางการตลาดในเมืองหนานเฉิงอยู่ไม่มาก เขาคิดว่าไม่สามารถจะดำเนินการแบบนี้ได้

“ตำแหน่งของฉันสูงกว่านาย นายทำได้แค่ฟังคำสั่งของฉันเท่านั้น”

ลี่หนานเฉิงสำลัก เม้มปากแน่น ถ้าไม่ได้อยู่ในบริษัทเขาคงจะระเบิดออกไปแล้ว

ขณะเดียวกันนั้นเวินจิ้งนิ่งสงบ ไม่ได้สนใจฟังเรื่องที่สองคนนี้คุยกัน เธอเพียงแต่เล่นโทรศัพท์และอ่านข้อมูลบนโทรศัพท์เธอเท่านั้น

“ปีหน้าก็ปีหน้า!” ลี่หนานเฉิงรีบเดินออกไป

แต่ก่อนจะออกไป ได้เดินไปหาเวินจิ้ง “หิวรึเปล่า”

เสียงจากด้านข้างที่ดังเข้ามานั้นทำให้เธอรู้สึกตัวและส่ายหน้ากลับไป

“หิวแล้วแหละ ฉันมีเรื่อจะคุยกับเธอ” ลี่หนานเฉิงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ขอเพียงให้เวินจิ้งออกไปกับเขา

“คุณลี่…….” ตอนนี้เวินจิ้งขมวดคิ้ว ทั้งๆที่เธออารมณ์ดี

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท