Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 214

ตอนที่ 214

บทที่ 214 เพื่อเขา ไม่คุ้ม

“มู่วี่สิง คุณต้องมีวิธีหาเสี้ยวหงเจอใช่ไหม” เวินจิ้งมองผู้ชายที่อยู่ข้างๆ

เขากับเสี้ยวหงเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก เขาต้องรู้ว่าเขาไปไหนแน่นอน

มู่วี่สิงเหลือบมอง สีหน้ายังคงเฉยเมยเหมือนเดิม

เรื่องของเสี้ยวหง น้อยครั้งที่เขาจะเข้าไปยุ่ง

“มู่วี่สิง” เห็นเขานิ่งเฉย เวินจิ้งยิ่งร้อนใจกว่าเดิม

ผู้ชายขมวดคิ้ว กอดเอวบางของเธอพูดเสียงต่ำว่า “ถ้าอั้ยเถียนไม่ยอมไป เสี้ยวหงไม่บังคับเธอหรอก”

“ใครจะไปรู้ เสี้ยวหงเลวขนาดนั้น เรื่องอะไรเขาก็ทำได้ลงคอหมด!” เวินจิ้งขุ่นเคืองมาก

ไม่แคร์เลยว่าเสี้ยวหงเป็นเจ้านายของเธอ

“คุณนายมู่ คุณใจเย็นๆ”

“ฉันจะใจเย็นได้ไง มู่วี่สิง คุณช่วยฉันหาอั้ยเถียนเถอะนะ ฉันไม่ยอมให้เสี้ยวหงทำร้ายเธออีกแล้ว…” เวินจิ้งพูดอย่างอ้างว้าง

จากการที่เธอเห็น เสี้ยวหงก็คือคนหลอกความรักคนหนึ่ง ทั้งๆ ที่ตัวเองมีคู่หมั้นอยู่แล้ว แต่ก็ยังจะเข้าไปยุ่งกับอั้ยเถียนไม่เลิกอีก

เขาเล่นได้ แต่อั้ยเถียนเล่นไม่ได้

อั้ยเถียนเป็นเพื่อนสนิทกับเธอมาตั้งหลายปีแล้ว เธอไม่อยากให้เธอต้องเจ็บอีกครั้งหนึ่ง

“เสี่ยวจิ้ง มีข่าวของเถียนเถียนหรือยัง” คุณแม่อั้ยเดินมาอย่างเร่งรีบ ฝั่งผู้ชายตรงนั้นมาเร่งหลายครั้งแล้ว ดูออกได้ว่าจะทนรอไม่ได้แล้ว

เวินจิ้งเงียบไว้ อดไม่ได้ที่จะบีบแขนของมู่วี่สิง

มู่วี่สิงพูดเสียงเรียบ “คุณนายอั้ย เราขอลงไปก่อนนะครับ”

คุณแม่อั้ยมองผู้ชายที่สง่าสูงส่งอยู่ข้างหน้าตัวเองตะลึงไปสักพัก

เธอเห็นเขากับเวินจิ้งท่าทางสนิทกันตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว แต่ช่วงนี้มัวแต่ยุ่งเรื่องงานแต่งของอั้ยเถียน ไม่ว่างไปห่วงใยเวินจิ้ง

เห็นคุณแม่อั้ยมองดูมู่วี่สิง เวินจิ้งก็แนะนำให้ “คุณนายอั้ย คนนี้คือแฟนของหนูค่ะ มู่วี่สิง”

มู่วี่สิงขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ เขาไม่ชอบเวินจิ้งคิดว่าเขาเป็นแค่แฟน

คุณแม่อั้ยพยักหน้าให้ ตอนนี้ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว ทำได้แค่หวังว่าอั้ยเถียนยังไม่ได้จากไปเท่านั้น

ในสวนดอกไม้ข้างหลัง ดอกไม้สดล้อมรอบ ดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์กองเป็นเวทีอันสวยงามโรแมนติค บาทหลวงมาถึงแล้ว ส่วนสุดทางของระเบียงทางเดินยาว เจ้าบ่าวที่ทั้งตัวเป็นสูทสีดำกำลังรอคอยอั้ยเถียนอยู่

หน้าตาของผู้ชายไม่ถือว่าโดดเด่นมาก แต่เสน่ห์สุภาพเรียบร้อย น่าจะได้รับการสั่งสอนที่ดีมากตั้งแต่ยังเด็กแล้ว

เวินจิ้งกวาดสายตามองดูรอบๆ แขกทุกท่านต่างนั่งลงเรียบร้อยแล้ว งานแต่งงานนี้ไม่ถือว่ายิ่งใหญ่มาก แต่คู่ที่แต่งงานกันเป็นครอบครัวตระกูลอั้ยและครอบครัวตระกูลเฉิน ซึ่งเป็นครอบครัวที่มีชื่อเสียงและมีฐานะทั้งคู่ ทำให้เกิดกระแสไม่น้อยเลยทีเดียว

เห็นเวินจิ้งใส่ชุดเพื่อนเจ้าสาวออกมาคนเดียว เฉินเซียวขมวดคิ้วขึ้นมา ไม่เห็นอั้ยเถียนเลย

แขกทุกคนต่างมองไปที่เวินจิ้ง เธอควรจะออกมากับอั้ยเถียนด้วยกัน แต่ตอนนี้กลับเหลือแค่เธอคนเดียว

เสียงเพลง Wedding March ดังขึ้นอย่างไพเราะ มีแขกบางคนเริ่มสังเกตได้แล้วว่าผิดปกติ ล้วนพูดคุยสนทนากันขึ้นมา

เวินจิ้งมองลงไปข้างล่าง ความอ้างว้างเริ่มกระจายออกมา เธอเคารพการตัดสินใจของอั้ยเถียน แต่สิ่งที่เธอกังวลอยู่ก็คือเธอไม่ได้เต็มใจ

ทันใดนั้น เสียงรองเท้าส้นสูงที่เร่งรีบเริ่มดังมาจากไกลถึงใกล้ อั้ยเถียนทั้งตัวชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์วิ่งเข้ามาจากประตู

เครื่องสำอางบนใบหน้าของเธอละลายไปไม่น้อย ดวงตาก็แดงๆ อยู่ แต่เสน่ห์ของตัวเธอโดดเด่นมาก หน้าตาเฉิดฉันอย่างกับราชินี ทำให้คนอิจฉามาก

เธอกลับมาแล้ว

เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เดินมาควงแขนอั้ยเถียนไว้

สองคนสบตาและยิ้มให้กัน

“เถียนเถียน” แต่ว่า เธอยังคงกังวลอยู่

“ฉันไม่เป็นไร” อั้ยเถียนยิ้มและถือช่อดอกไม้ขึ้นมา ควงแขนของคุณพ่อไว้

สีหน้าอันมืดมนของคุณพ่ออั้ยจึงจะดีขึ้นตอนนี้ พิธีแต่งงาน เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

เวินจิ้งทำภารกิจสำเร็จเรียบร้อย กลับไปนั่งลงที่ของตัวเอง

นึกถึงคำพูดของมู่วี่สิงเมื่อกี้ เขาไม่เคยกังวลเลย เหมือนแน่ใจแล้วว่าอั้ยเถียนต้องกลับมา

“มู่วี่สิง คุณยังมีเรื่องอะไรที่ไม่ได้บอกฉันใช่ไหม” เวินจิ้งมองเขา

ผู้ชายหันหน้ามา แววตาลึกซึ้ง “สัญญาหมั้นของเสี้ยวหงยกเลิกไม่ได้ ถ้าอั้ยเถียนเป็นผู้หญิงที่ฉลาดพอ ก็จะรู้ว่าควรทำยังไง”

“ยกเลิกไม่ได้? ถ้ารักคนคนหนึ่งจริงๆ ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำไม่ได้หรอก” เวินจิ้งพูดอย่างโกรธเคือง

“สถานการณ์ของครอบครัวตระกูลเสี้ยงซับซ้อนมาก” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ไม่ได้เล่าให้อย่างละเอียด

งานแต่งเสร็จสิ้นลง ต่อมาเป็นงานเลี้ยงกลางคืน เนื่องจากเวินจิ้งเป็นเพื่อนเจ้าสาว ดังนั้นต้องอยู่ข้างๆอั้ยเถียน

กลับไปถึงห้องแต่งหน้า เวินจิ้งจึงมีโอกาสถามอั้ยเถียน

อั้ยเถียนสีหน้าเฉยเมย “ฉันไปเจอเสี้ยวหงแล้วจริง แต่ไม่เคยคิดว่าจะไปกับเขา เขาก็ไม่มีทางพาฉันไปเหมือนกัน”

“ไม่ต้องห่วงนะ เรื่องหนีการแต่งงานแบบนี้ฉันไม่ทำหรอก เพื่อเขา ไม่คุ้ม” อั้ยเถียนปลอบเวินจิ้งที่กำลังกังวลอยู่

เวินจิ้งถึงแม้จะโล่งใจได้เล็กน้อย แต่เรื่องวันนี้ก็ยังทำให้เธอวุ่นวายอยู่ดี

“อั้ยเถียน ฉันอยากให้เธอมีความสุขนะ” เธอกอดเธอไว้

อั้ยเถียนมองลงไปข้างล่าง เมื่อเวินจิ้งอยู่เคียงข้าง อารมณ์อ่อนแอของเธอจึงจะสามารถระบายออกมาได้

เธอสูบจมูกและพูดว่า “ฉันจะมีความสุข”

เวินจิ้งกับมู่วี่สิงกลับไปโรงแรมเมื่องานเลี้ยงกลางคืนใกล้เสร็จสิ้นลง

เวินจิ้งเงียบสนิทตลอดทาง

มู่วี่สิงกำลังจัดการเรื่องงานอยู่ เวินจิ้งฟังเสียงจริงจังของเขากลับรู้สึกง่วงนอนขึ้นมา

สงสัยวันนี้จะเหนื่อยจริงๆ แล้ว

เมื่อตื่นขึ้นมาก็กลับมาถึงโรงแรมแล้ว ลืมตาขึ้น สิ่งที่อยู่ต่อหน้าคือผู้ชายหล่อเหลาที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขาใส่เสื้อคลุมอาบน้ำสีขาว กล้ามเนื้อที่เด่นชัดโผล่ออกมาครึ่งหนึ่ง ยังมีหยดน้ำอยู่บนนั้นอีกด้วย เซ็กซี่และยั่วคนมาก

เวินจิ้งหาวสองที ยังไม่ได้พลิกตัวกลับก็ถูกมู่วี่สิงกอดเข้ามาในอ้อมกอด เธอพยายามถอนออกมาสุดแรงเพราะไม่อยากให้เขากอด

“โกรธหรอ” มู่วี่สิงหรี่ตาลง

เวินจิ้งไม่พูดไม่จา ในมุมมองของเธอ วันนี้ที่มู่วี่สิงทำก็คือช่วยเสี้ยวหงพาอั้ยเถียนไปโดยทางอ้อม

ถึงแม้ว่าสุดท้ายอั้ยเถียนก็ได้กลับมาแล้วก็ตาม แต่เธอยังคงกังวลอยู่ตลอด

“คุณนายมู่ หันหน้ามา” เขาพลิกตัวของเธอมาอย่างอ่อนโยน

เวินจิ้งกระพริบตาอย่างน่าเอ็นดู ยังคงนิ่งเงียบเหมือนเดิม

มู่วี่สิงมองลงไป จูบอันเร่าร้อนก็ทับลงมา เวินจิ้งไม่ได้หลบ แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบกลับ

“เสี้ยวหงคือเพื่อนของผม ผมมีมุมมองของผมเองคุณนายมู่ เรื่องความรักนอกจากเจ้าตัวเองแล้ว คนอื่นไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้” มู่วี่สิงพูดด้วยเสียงต่ำ

เวินจิ้งกัดฟัน เธอเข้าใจมู่วี่สิงได้

อั้ยเถียนเป็นเพื่อนของเธอ ดังนั้นเธอยืนอยู่ฝั่งอั้ยเถียน

เสี้ยวหงเป็นเพื่อนของมู่วี่สิง เขายืนอยู่ฝั่งเสี้ยวหงตรงนั้น

แต่ยังไงในใจลึกๆ แล้วก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี

“ฉันรู้” เธอพูดพึมพำ

“อย่าไปคิดมากนะ ไปอาบน้ำ พักผ่อนเช้าๆ หน่อย” มู่วี่สิงจูบลงไประหว่างคิ้วของเธอ

เวินจิ้งเกาหัวและเงยหน้าขึ้น ใบหน้าอันหล่อเหลาที่ซูมใหญ่ขึ้นของมู่วี่สิงเพอร์เฟคจนทำให้คนหายใจไม่ออก

เธอกอดคอของเขาไว้ “คุณอาบน้ำให้ฉัน?”

เมื่อคำพูดนี้ออกจากปาก เวินจิ้งเองยังอึ้งมากเลย

เธอเหนื่อยเกินไปแล้ว ไม่มีเรี่ยวมีแรงเลยสักนิด อยากจะพึ่งพาแต่มู่วี่สิง

แก้มแดงขึ้นทันที เวินจิ้งก้มหัวลงด้วยความรวดเร็ว

เสียงหัวเราะเข้มๆ ออกมาจากต้นคอของมู่วี่สิง อุ้มเวินจิ้งขึ้นมาและใช้ริมฝีปากบางกัดหูเธอ “ยินดีมากครับ”

โรงพยาบาล

ฉินเฟยดูการรายงานข่าวในหนังสือพิมพ์ งานแต่งงานของอั้ยเถียนเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อคืนพื้นที่รายงานข่าวของเธอครอบครองพาดหัวข่าวทั้งคืนเต็มๆ เลย

เธอกับอั้ยเถียนเป็นเพื่อนร่วมชั้น แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมีเบื้องหลังที่รุ่งเรืองขนาดนี้ แต่งงานกับบ้านตระกูลเฉินก็เหมาะสมกันมากเลยทีเดียว

เธอฉีกหนังสือพิมพ์ทิ้งอย่างโกรธเคือง ความร้ายกาจในตาลอยขึ้นมา

เธอเกลียดทุกคนที่อยู่ใกล้กับเวินจิ้ง

เมื่อฉีเซินมาถึง หนังสือพิมพ์ที่อั้ยเถียนโยนทิ้งตกอยู่ตรงขาของเขา เขาเดินเข้ามาด้วยสีหน้านิ่งเฉย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท