Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 229

ตอนที่ 229

บทที่ 229 จะไม่ชอบผู้หญิงคนอื่น

“ตอนนี้ประธานลี่จะทำอย่างไรต่อไป” เวินจิ้งถามด้วยความกังวล

เธอทำงานที่บริษัทการผลิตยาเทียนอีมาห้าปีแล้ว เธอไม่ต้องการให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น

แต่ทางธุรกิจมันโหดเหี้ยม ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทการผลิตยาเทียนอีสู้ที่ผ่านมาไม่ได้เลย

“ฉันจะตรวจสอบเรื่องนี้ แต่บริษัทการผลิตยาเทียนอี เป็นไปได้ที่จะล้ม” มู่วี่สิงเสียงกังวล

เวินจิ้งประหลาดใจ มองสีหน้ากังวลของมู่วี่สิง รู้ว่าเขาได้ตัดสินใจแล้ว

“ยาเหล่านั้น คุณก็เคยเห็นแล้ว”

มู่วี่สิงสั่งชียนนำยาเหล่านั้นมา “อืม ในนี้มีส่วนผสมที่ทำลายประสาทและหัวใจ สำหรับผู้ป่วยหัวใจล้มเหลว ถ้าใช้งานระยะยาวอาจถึงแก่ชีวิตได้”

ได้ยินมาว่า หน้าเวินจิ้งซีดลง

รับยามาด้วยมือที่สั่น ตอนแรกเธอก็แค่สงสัย ไม่คาดคิดว่ายาตัวนี้จะมีปัญหาจริงๆ

“จะเป็นใคร”

เวินจิ้งพำพึง

“ฉันจะไปโรงพยาบาลก่อน คุณนายฉีทานยาต่อไม่ได้แล้ว” พูดจบ เวินจิ้งหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไป

มู่วี่สิงจับข้อมือเธอไว้ ดึงเธอมาในอ้อมกอด เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงไม่พอใจ “เวินจิ้ง คุณต้องการเข้าไปแทรกแซงเรื่องของตระกูลฉี”

“ใช่” เวินจิ้งพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “มู่วี่สิง ตอนนี้มันเกี่ยวกับชีวิตคน”

มู่วี่สิงหรี่ตา จ้องมองที่เวินจิ้งทันที กระแสความมืดของดวงตากำลังปั่นป่วน

เวินจิ้งเดาอารมณ์ของเขาไม่ออก แต่ความเย็นชาของเขาทำให้เธอจิตใจห่อเหี่ยว

เธอผลักเขาออก “วันนี้ฉันกลับดึกหน่อยนะ”

พูดจบ ออกไปอย่างรวดเร็ว

มู่วี่สิงมองด้านหลังของเธอ เงาของดวงตาค่อย ๆ แพร่กระจาย

ตอนเกาเชียนเข้ามา กลิ่นควันในห้องทำให้เขารู้สึกไม่สบาย

มู่วี่สิงไม่ค่อยสูบบุหรี่ นอกจากมีเรื่องไม่สบายใจมาก

เขาจะคอยสังเกตอยู่เสมอ เวลานี้ boss อารมณืไม่ดี

เขาแค่หน้าด้านเข้าไป “ประธานมู่ เรื่องหลินเวยแท้งบุตรเมื่อยี่สิบห้าปีก่อน มีข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว”

รับเอกสารมา มู่วี่สิงดูรายละเอียดในบันทึก สีหน้าของเขาเย็นลงทีละเล็ก

ในขณะที่ เอกสารในมือถูกทำลายอย่างสมบูรณ์

“เรื่องนี้มีใครรู้บ้าง”

“คนที่ดูแลในโรงพยาบาลไม่ได้อยู่ในหนานเฉิงแล้ว นอกจากคู่กรณี”

คู่กรณี…… หลินเย่นเจี่ยนอี

“ประธานมู่ฉีเซินก็กำลังตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย” เกาเชียนพูด

“คุณรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร อย่าปล่อยให้เขาหาร่องรอยได้แม้แต่นิดเดียว” มู่วี่สิงสั่ง

โรงพยาบาล

เวินจิ้งเดินอย่างช้าๆ เรื่องยา เธอไม่รู้จะอธิบายกับหลินเวยอย่างไรดี

หรือว่า เธอควรจะบอกเรื่องนี้กับฉีเซินก่อน ให้เขาตรวจสอบให้แน่ใจ

ถึงหน้าห้องผู้ป่วย ในนั้นไม่มีคนแม้แต่คนเดียว เวินจิ้งถามพยาบาลที่ผ่านมา ถึงรู้ว่าหลินเวยออกจากโรงพยาบาลตอนบ่ายนี้แล้ว

ขมวดคิ้ว เธอโทรหาฉีเซิน

“ฉันคือเวินจิ้ง”

“อืม นี่เป็นครั้งแรกที่คุณโทรหาฉัน” ฉีเซินพูดกระแนะกระแหน

เวินจิ้งเม้มปาก ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้

“เกี่ยวกับเรื่องของคุณนายฉี ฉันอยากคุณกับคุณ”

อีกครึ่งชั่วโมง ทั้งสองนัดเจอกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง

เวินจิ้งใจลอยมองที่นอกหน้าต่าง คิดถึงสีหน้าเย็นชาของมู่วี่สิง เห็นได้ชัดว่าเขาจะไม่ช่วยเธอตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นกับหลินเวย

เมื่อสัมผัสตระกูลฉีแล้ว อารมณ์ของมู่วี่สิงนั้นเย็นชาอย่างน่ากลัว

ครั้งนี้ที่ช่วยเธอตรวจสอบเรื่องยา เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากแล้ว

ฉีเซินมาสายมาก นั่งตรงข้ามเวินจิ้ง มองไปที่ใบหน้าของสงบนิ่งของเวินจิ้ง อารมณ์ร้อนค่อยๆสงบลง

ความร้อนในดวงตาผ่านไป ฉีเซินซ่อนมันไว้

“คุณนายฉีทำไมถึงออกโรงพยาบาลเร็วขนาดนี้” เวินจิ้งถาม

“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว ฉันควรจะดีใจ เพราะคุณแม่ของฉัน คุณไม่ได้ผลักไสฉันอย่างนั้นอีกแล้ว” ฉีเซินยกริมฝีปากบางขึ้น

“ฉันขอพบคุณ เพราะอยากคุยอาการของคุณนายฉี” เวินจิ้งหลบสายตาเขา

เอารายงานของยายื่นให้เขา เวินจิ้งค่อยๆพูด “เมื่อคืนฉันนำยาของคุณนายฉีไปทดสอบ ไม่ใช่ยาที่จ่ายให้ตั้งแต่แรก ฉันคิดว่าคงจะถูกคนเปลี่ยนยาให้”

สายตาของฉีเซินเย็นลง เปิดดูรายงาน ค่อยๆกำหมัดแน่น

เขาเงยหน้าขึ้น สีหน้าบูดบึ้ง

“คุณรู้ได้อย่างไร”

“ตอนแรกฉันก็แค่สงสัย แต่รู้สึกว่าอาการของคุณนายฉีดูไม่ปกติเหมือนทั่วไป กรณีของเธอมีข้อบกพร่อง ฉันก็เลยลองตรวจสอบ คิดไม่ถึง…..” เวินจิ้งพูดด้วยความกังวล

“เวินจิ้ง ครั้งนี้ต้องขอบคุณ คุณมากๆ เรื่องนี้ฉันจะตรวจสอบให้ละเอียด”

“ยาเหล่านี้ มู่วี่สิงช่วยคุณตรวจใช่ไหม” ฉีเซินถามอย่างกระตือรือร้น

เวินจิ้งพยักหน้า “เขาเป็นคนช่วย”

ฉีเซินยิ้มอย่างเย็นชา “ฉันรู้แล้ว”

“ดึกมากแล้ว ฉันส่งคุณกลับไปนะ”

เวินจิ้งส่ายหน้า “คนขับรถรอฉันด้านนอก ไม่รบกวนดีกว่า”

ฉีเซินมองด้านหลังเธอ สายตาค่อยๆหรี่ลง

กลับถึงตระกูลฉี ฉีเซินขึ้นไปบนห้องของคุณแม่

“ฉันเพิ่งไปเจอเวินจิ้งมา” ฉีเซินพยุงคุณแม่ลุกขึ้นนั่ง

“เธอไม่รู้ว่าฉันออกจากโรงพยาบาลแล้วใช่ไหม ทำให้เธอไปเสียเที่ยวเลย”

“เธอเป็นห่วงแม่มาก เมื่อคืนเธอนำยาของแม่ไปตรวจ แม่ ยานี้มีปัญหา”

หลินเวยเงยหน้า มือสั่น

“คนตระกูลมู่กำลังจะลงมือแล้ว” เธอพำพึง ไม่น่าแปลกใจ

คิ้วที่ยาวของฉีเซินขมวดขึ้น “ช่วงนี้บริษัทการผลิตยาเทียนอีถูกเล่นงาน แต่จะจัดการบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ตอนนี้ฉันยังหาจังหวะลงมือไม่ได้”

เป้าหมายของเขาคือบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมาโดยตลอด แต่มู่วี่สิงทำงานไม่มีช่องโหว่ เขาถึงได้เริ่มลงมือจากบริษัทการผลิตยาเทียนอี

“ฉีเซิน จะทำให้รากฐานของตระกูลมู่สั่นคลอนไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถทำได้อย่างง่ายดาย บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปในตอนนี้มู่วี่สิงเป็นคนรับช่วงต่อ เรายิ่งต้องวางแผนดีๆ” หลินเวยกล่าวอย่างกังวล

“แต่ตอนนี้ คนของตระกูลมู่รอไม่ได้แล้ว” ฉีเซินพูดอย่างเย็นชา

“จุดอ่อนของมู่วี่สิง คือเวินจิ้ง”

“อย่าแตะต้องเธอ” หลินเวยขัดทันที

“แม่ ความสัมพันธ์ของเธอกับแม่คืออะไร” ฉีเซินถามอย่างเย็นชา

สำหรับหลายครั้งที่หลิวเวยคอยปกป้องเวินจิ้ง ฉีเซินดูออกมานานแล้ว

“เธอไม่จำเป็นต้องยุ่ง ฉันชอบเด็กคนนั้นมาก ห้ามทำร้ายเธอ”

“ฉันก็ชอบเธอเหมือนกัน ยังอยากจะแย่งเธอมาเป็นลูกสะใภ้แม่” ฉีเซินยิ้ม

ใบหน้าของหลินเวยตื่นตระหนก เธอดูออกความรู้สึกที่ฉีเซินมีให้เวินจิ้ง แต่ว่า ไม่ได้เด็ดขาด

“อาทิตย์หน้าฉันนัดลูกสาวตระกูลเย่มาเจอเธอ เวินจิ้ง ไม่เหมาะสมกับเธอ”

“เพราะอะไร แม่ชอบเธอ ฉันก็ชอบเธอ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดหรือ” ฉีเซินยักคิ้ว

“ภูมิหลังของเธอไม่สามารถช่วยธุรกิจของคุณได้ ตอนนี้ศัตรูที่ต้องเผชิญคือตระกูลมู่ที่มีอำนาจมาก ภรรยาของคุณ ต้องอยู่ในระดับเดียวกันกับตระกูลฉีอย่างพวกเรา”

“แม่ ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ ฉันก็ไม่ชอบผู้หญิงคนอื่น” ฉีเซินขมวดคิ้ว

เมื่อเจอเวินจิ้ง ความรู้สึกของเขาไม่สามารถควบคุมได้ ต้องการเธอคนเดียว

ต้องเป็นเธอเท่านั้น

หลินเวยมองแววตาของลูกชาย มีความตื่นตระหนก

อยากจะพูดอะไร สุดท้ายก็ไม่พูดออกไป

เธอรู้นิสัยของฉีเซินดี ยิ่งไม่ให้ก็ยิ่งอยากได้

เขาแข็งแกร่งมาตั้งแต่เด็ก

“สรุปว่า เรื่องเวินจิ้งเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ต้องพูดอีก”

ฉีเซินใบหน้าเศร้า ออกไปด้วยความโกรธ แต่ก่อนปิดประตู ยังบอกว่า “ยาทานยาอีกนะ พรุ่งนี้ฉันพาไปหาหมอเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท