Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 240

ตอนที่ 240

บทที่ 240 เธอเท่านั้น ที่จะเป็นคุณหญิงมู่

“ฉันไม่อยากอยู่ด้วยกันกับคุณ คุณกลับไปเถอะ” เวินจิ้งพูดเสียงเย็นชา

สิ้นสุดเสียง เธอมองไปที่ฉีเซิน

ฉีเซินดึงเธอมาไว้ข้างกาย พูดเสียงเงียบ “มู่วี่สิง ได้ยินเวินจิ้งพูดแล้ว?”

“เธอเป็นภรรยาของฉัน ไม่ต้องให้นายมาพูด” ดวงตาของเขาหรี่ลงอย่างรุนแรง

ฉีเซินหัวเราะเบาๆ “เหรอ? อย่างน้อยฉันก็ให้เกียรติเธอ คุณล่ะ?”

“มู่วี่สิง คุณให้ฉันใจเย็นลงก่อน หลังจากช่วงนี้ แล้วฉันจะกลับไป”

รอให้เธอตรวจสอบชัดเจนก่อน ค่อยกลับมาคิดความสัมพันธ์กับมู่วี่สิงใหม่ เธอจะพูดกับเขาให้เข้าใจ

แต่ไม่ใช่ตอนนี้

“กลับบ้านกับฉัน ฉันจะให้พื้นที่ว่างกับเธอ” น้ำเสียงของมู่วี่สิงอ่อนลงบ้างเล็กน้อย

เมื่อครู่อารมณ์ของเขาไม่คงที่ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเวินจิ้ง การควบคุมของเขาเกือบจะเป็นศูนย์

“ฉันพักที่นี่ คุณวางใจได้”

“คุณหญิงมู่ เธอตัวคนเดียว ฉันไม่สามารถวางใจได้”

“ฉันปกป้องเธอได้ มู่วี่สิง ตอนนี้เวินจิ้งไม่อยากเจอนาย” ฉีเซินที่อยู่ข้างกายพูด

สายตาที่เย็นชาของมู่วี่สิงจ้องมองไป ฉีเซินมองกลับอย่างไม่เกรงกลัว ริมฝีปากเรียวยิ้มอย่างแอบแฝง

ฉากนี้ เขามีความสุขที่ได้เห็นความสำเร็จ

ไม่ได้สนใจทั้งสองคน เวินจิ้งกลับไปบ้านเก่าตัวคนเดียว ล็อคประตูไว้

ด้านนอก มู่วี่เซินเผชิญหน้ากับฉีเซิน

“นายรู้ตัวตนของเธอ ก็ควรชัดเจนดี ว่าตอนนี้เวินจิ้งเป็นคนในครอบครัวของฉัน ฉันไม่มีทางให้นายทำร้ายเธอ” ใบหน้าของฉีเซินนิ่งเงียบ

“นาย? นายไม่คู่ควร?” มู่วี่สิงพูดเยาะเย้ย

“ตอนนี้เธอไม่เชื่อนาย มู่วี่สิง ฉันจะทำให้พวกนายหย่ากัน” ฉีเซินพูด

มู่วี่เซินหรี่สายตาขึ้นมา ความเย็นชากระจายไปทั่วตา

มองไปยังประตูที่ปิดสนิท เขายืนอยู่หน้าประตู ไม่ไปไหน

เป็นเวลานาน เขาโทรหาเกาเชียน

“อำเภออันหนิง หมายเลข15 402 ซื้อให้ฉันเดี๋ยวนี้ทันที!”

เกาเชียงงุนงง กำลังจะถามเหตุผล เกาเชียนนึกขึ้นได้ทันทีว่าที่อยู่นี้อยู่ตรงข้ามบ้านของเวินจิ้ง”

“ฉันรู้แล้วค่ะ”

เวินจิ้งออกมาจากการ์เด้นมู่เจียวานหยิบแค่หนังสือกี่เล่มมา ในบ้านไม่ได้ขาดแคลนอะไร แต่ก็ว่างเปล่า เคยชินกับการอยู่กับมู่วี่สิง

คุณแม่ไปอย่างรีบเร่ง ของในห้องไม่ได้เอาอะไรไป เวินจิ้งเดินไป

มีรูปที่เธอถ่ายกับเจี่ยนอีเมื่อสามปีก่อนแขวนอยู่บนกำแพง อันที่จริงไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่พบว่าเธอไม่มีอะไรที่เหมือนกันกับเจี่ยนอีเลย แต่ไม่เคยคิดว่าเธอกับเธอจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด

เวินจิ้งหยิบรูปถ่ายขึ้นมา นิ้วมือหยุดไว้ที่ใบหน้าที่มีรอยยิ้มสดใสของเจี่ยนอี เธอยิ้ม ตอนนั้น ดีจังเลย

แม้ว่าเจี่ยนอีจะขี้บ่นไปบ้าง แต่ความใส่ใจของเธอนั้นพิถีพิถันมาโดยตลอด

“แม่ ฉันคิดถึงคุณ” เวินจิ้งนั่งลงมา ดวงตาเผยความเสียใจ

เธอคิดถึงเธอมาก

แต่เธอก็เข้าใจ เธอไม่ควรไปรบกวนความสุขของเจี่ยนอี

วันถัดไป เวินจิ้งออกไปตลาดเพื่อซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน

ฉีเซินอยู่ชั้นล่าง เห็นได้ชัดว่ากำลังรอเธอ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว “นายมาได้ยังไง?”

“มาส่งอาหารเช้าให้เธอ”

สิ้นเสียง ฉีเซินยื่นโจ๊กให้เธอหนึ่งชุด

เวินจิ้งงุนงง เธอหิวจริงๆ ในบ้านไม่มีอะไรเลย

“ขอบใจ ฉันจะไปซื้อของ นายไปทำงานเถอะ และไม่ต้องมาอีก”

“ฉันไปด้วย”

“ไม่จำเป็น” เวินจิ้งตอบ และเดินไปอีกทาง

ฉีเซินเดินตามไป เวินจิ้งสะบัดเขาไม่ออก

เธอขมวดคิ้ว “ฉีเซิน ไม่ว่านายจะเป็นคนในครอบครัว แต่ว่าฉันชินกับการอยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว นายไม่ต้องมาสนใจฉัน”

“นี่เป็นคำสั่งของแม่”

เวินจิ้งงุนงง หลินเวย?

“เธอรอเธอมาตลอด” ฉีเซินมองเธอ

“ฉันรู้แล้ว” เวินจิ้งหัวเราะเบาๆ

ฉีเซินได้เห็นรอยยิ้มที่แสนยากของเธอ ดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย

ยังคงหลงใหล

เขาหลบสายตา

ฉีเซินเดินตามตลอด เวินจิ้งก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เดินรอบตลาดแล้วไปจ่ายเงิน

บัตรที่เธอใช้เป็นของมู่วี่สิง เวินจิ้งงุนงง ไม่ได้ยื่นไป

เมื่อสติกลับมา ฉีเซินได้ช่วยเธอจ่ายเงินแล้ว

“แล้วฉันจะจ่ายคืนให้”

“ไม่ต้องเกรงใจ” ฉีเซินพูดอย่างไม่พอใจ ช่วยเธอถือของอย่างเอาแต่ใจ

“ยังอยากไปเดินที่ไหนอีกไหม?” ฉีเซินถามอย่างสุภาพ

เวินจิ้งส่ายหัว เธอควรกลับไปทบทวนแล้ว

เมื่อกลับถึงชั้นล่างในชุมชน สายตากระทบเข้ากับรถยนต์คันหนึ่งที่คุ้นเคย

เป็นมู่วี่สิง

เวินจิ้งหยุดฝีเท้า และไม่ได้เห็นร่างของเขา

“ฉันจะกลับแล้ว วันนี้ขอบใจ” เวินจิ้งพูดขอบคุณ

ฉีเซินยังไม่ไปไหน จ้องมองไปที่รถยนต์ สายตาเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ

กลับถึงบ้าน เวินจิ้งก็ไม่ได้เห็นร่างของมู่วี่สิง แต่เมื่อมองลงไปจากระเบียง รถของมู่วี่สิงยังคงอยู่

ไม่คิดมาก เธอจึงทบทวนอย่างตั้งใจ

จนระทั่งกลางคืน รู้สึกหิว เธอกำลังจะต้มอะไรกิน มีเสียงเคาะประตูจากด้านนอก

ฉีเซิน?

เวินจิ้งมองออกไปจากช่องตาแมว เห็นมู่วี่สิง สีหน้านิ่งลงมา

เธอเปิดประตู “ฉันไม่อยากเจอคุณ”

“ฉันรู้ แต่ให้ฉันได้มองเธอทานข้าว หืม?” มู่วี่สิงพูด และได้จับข้อมือของเธอ แล้วพาเธอไปประตูถัดไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

เวินจิ้งเบิกตากว้าง เห็นมู่วี่สิงเดินไปบ้านตรงข้าม

อย่างตกตะลึง

เขา…พักที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?

อาหารได้เสริฟ์ไว้บนโต๊ะแล้ว กลิ่นหอมโชยเข้าจมูก

“มู่วี่สิง คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” เวินจิ้งมองเขา

“ตอนนี้ที่นี่เป็นบ้านของฉัน เธอไม่กลับไป ฉันก็จะอยู่ที่นี่กับเธอ”

เวินจิ้ง: …

เธอไม่ได้นั่งลงมา ยังคงป้องกันตัวเองจากมู่วี่สิง

“คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้”

“เธออยากรู้อะไร ฉันตอบเธอทั้งหมด” มู่วี่สิงกุมมือของเธอไว้ ไม่ให้เธอหลบหนี

เวินจิ้งหัวเราะเยาะ เธออยากรู้อะไร?

เธออยากรู้อะไร มู่วี่สิงจะบอกเธอได้เหรอ?

เธอเคยถามถึงเรื่องของฉินเฟยแล้วหนึ่งครั้ง แต่เขาไม่ตอบ เธอก็จะไม่ถามอีก

ความสัมพันธ์ระหว่างเขาสองคนมีเพียงแค่ใบทะเบียนสมรสที่ผูกไว้

เพราะเธอคาดหวังไว้มากเกินไป

เธอควรแก้ไขอารมณ์ของตัวเอง หรือว่า ใช้โอกาสยุติความสัมพันธ์โดยเร็วที่สุด

“มู่วี่สิง คุณแต่งงานกับฉัน เป็นเพียงแค่ความกดดันจากทางบ้าน ใช่ไหม?” เป็นเวลานาน เวินจิ้งถึงจะเอ่ยปาก

มู่วี่สิงพยักหน้า

“คนๆนั้น ไม่ใช่ฉัน ก็อาจจะเป็นคนอื่น ใช่ไหม?”

ดวงตาสีดำออบซิเดียนของมู่วี่สิงจ้องมองเธอ ดวงตาลอยอารมณ์ความรู้สึกที่คาดเดาได้ยาก

“เธอเท่านั้น ที่จะเป็นคุณหญิงมู่” มือของเขาโอบกอดเธอแน่น น้ำเสียงลงต่ำและลึกมาก

หลังจากฟังอย่างระมัดระวังแล้ว ในน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย

แต่ว่า เวินจิ้งฟังไม่ออก

เธอยิ้มอย่างเย็นชา “มู่วี่สิง ทำไมต้องเป็นฉัน? เดิมทีฉันกับคุณไม่เคยรู้จักกัน ไม่ใช่เหรอ?”

“ต้องเป็นเธอเท่านั้น คนอื่นไม่ได้” มู่วี่สิงพูดอย่างเงียบๆ

เวินจิ้งตกใจกับน้ำเสียงของเขา เธอยังได้ยินเสียงหวาดระแวงเล็กน้อย

หัวใจของเธอวุ่นวายและชา “แต่ว่า ถ้าหากฉันไม่อยากล่ะ?”

“ไม่อยาก?” แววตาโกรธของมู่วี่สิงเผยออกมา ผลัก เวินจิ้งนั่งลงไปที่โซฟาอย่างรุนแรง

ท่าทางที่น่ากลัวของเขาทำให้เวินจิ้งอยากหนีไป

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท