Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 246

ตอนที่ 246

บทที่ 246 ต้องแต่งงานกับผมเท่านั้น

“หากว่าเกี่ยวพันกับมู่วี่สิง ฉันเองก็ทำอะไรไม่ได้ ตระกูลมู่เป็นครอบครัวที่ดูลึกลับ”

“เรื่องของตระกูลมู่ เธอพอจะบอกฉันหน่อยได้ไหม?” เวินจิ้งถาม

เธออยากรู้ ว่าผู้ชายตัวเองแต่งงานด้วยนั้นเป็นคนอย่างไร

“ที่ฉันรู้ก็ไม่ได้มากอะไร ทั้งหมดเป็นสิ่งที่หนานเฉิงบอกฉันมาอีกที ตระกูลมู่เป็นตระกูลที่ก้าวหน้ามาจากประเทศC เกือบจะเป็นผู้ผูกขาดทรัพยากรทั้งประเทศ แต่กลับไม่ค่อยหวือหวาประกาศให้คนรู้สักเท่าไหร่ ฉันได้ยินหนานเฉิงพูดว่า ครั้งแรกที่เขาเจอมู่วี่สิง ตอนนั้นเขากำลังชกต่อยกับคนอื่นอยู่”

“ชกต่อย?”

เวินจิ้งรู้สึกตะลึง จินตนาการไม่ออกว่าคุณหมอมู่ที่ดูอ่อนโยนเพียบพร้อม จะผ่านประสบการณ์ลักษณะเช่นนี้มาได้

ซูยีนพยักหน้า “ตอนนั้นมู่วี่สิงเพิ่งจะอายุ 12 ขวบ เขาอยู่ในโรงแรมกำลังชกต่อยกับบิดาบังเกิดเกล้าของเขาเอง ตอนนั้นหนานเฉิงก็อยู่ในโรงแรมด้วย พวกเขารู้จักกัน ในความทรงจำของพวกเรา มู่วี่สิงเป็นคนที่ดุร้ายเย็นชามาโดยตลอด จนกระทั่งฉันกลับมาเห็นเขา ก็พบว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว สถานการณ์ที่ซูยีนบรรยายมา เธอเองก็ไม่กล้าคิด ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย……

อาจจะกำลังผิดหวัง

“ที่ฉันรู้นั้นมันน้อยมากเลย ไว้มีเวลาฉันจะไปเมาส์กับหนานเฉิงอีก แต่ว่า……ดูเหมือนจะไม่มีโอกาสแล้วหล่ะ” ซูยีนถอนหายใจ

พอพูดถึงลี่หนานเฉิงผู้ชายคนนี้ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนมาดูเหมือนสนใจ

แต่เวลานี้ เธอกลับรู้สึกผิดหวัง

“ซูยีน ถ้าเขายอมบอกฉัน ฉันจะยอมรับเขาทั้งหมด ขอแค่ เขายอม” เวินจิ้งตอบเสียงต่ำ

เมื่อไหร่ ที่เขาจะสามารถเปิดใจกับเธอได้?

ตอนนี้ ด้านนอกห้างก็มีบอดี้การ์ดสิบคนกำลังกรูเข้ามา ซูยีนมองจากชั้นบนลงไป สีหน้าอันตื่นตระหนกที่ปิดไม่มิด

คนของคุณปู่มาได้อย่างไรกัน……

“เวินจิ้ง พวกเราเดินไปทางนั้นเถอะ” ซูยีนลากเวินจิ้งวิ่งออกไป

เวินจิ้งมองเห็นคนที่กำลังตามเข้ามา ตกใจมาก

วิ่งผ่านชั้นบนไปกับซูยีน ฝั่งตรงข้ามเป็นห้างสรรพสินค้าที่แห่งหนึ่ง

แต่ว่า ไม่ทันแล้ว

บอดี้การ์ดเคลื่อนตัวว่องไวมาก ถึงบนชั้นดาดฟ้า ซูยีนและเวินจิ้งถูกล้อมไว้

“คุณหนู ท่านนายต้องการให้ท่านรีบกลับไปทันที”

ซูยีน กัดริมฝีปากแน่น ยังคิดอยู่ว่าจะวิ่งหนีไปทางไหนดี

แต่ว่า มีหนทางเดียวก็คือต้องกระโดดลงไป

เธอเองก็ไม่กล้า

“ซูยีน คนเหล่านี้คือใครกัน?” เวินจิ้งถามอย่างกังวล

“เป็นคุณปู่ฉันเอง ผู้กุมอำนาจของตระกูลลี่ เธอช่วยฉันแจ้งหนานเฉิงทีนะ”

เธอรู้แล้วว่า ไม่มีหนทางหนีแล้ว

มองเห็นซูยีน ถูกพาตัวกลับไป เวินจิ้งเปิดโทรศัพท์ออก ถึงพบว่าเธอไม่มีเบอร์มือถือของลี่หนานเฉิง

จึงได้แต่ติดต่อมู่วี่สิงดูก่อน……

พวกเขาไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้ว มือเวินจิ้งสั่นเทา

แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของซูยีน เธอไม่อาจลังเลได้

เมื่อกดโทรออก เสียงของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น

“คุณนายมู่” เสียงของเขาที่ปิดไม่มิดถึงความเหนื่อยล้าที่มี

ใจของเวินจิ้งที่รู้สึกเจ็บปวด

เธอรู้ว่ามู่วี่สิงเวลาทำงานนั้นเต็มที่มากมายขนาดไหน

แล้วก็ไม่รู้ว่าตอนเธอไม่อยู่ข้างกายเขา เขาได้พักผ่อนบ้างหรือไม่

“ฉัน……ฉันมีเรื่องจะถามคุณหน่อย”

“อืม” เขาเดาใจถูกแต่แรกแล้ว ไม่งั้นเวินจิ้งคงไม่เป็นฝ่ายโทรหาเขาก่อนเป็นแน่

“ฉันต้องการหาทางติดต่อประธานลี่ ซูยีนถูกพาตัวกลับไปแล้ว”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว “เรื่องนี้ผมจะแจ้งเขาให้เอง”

“ค่ะ”

“ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?” เขาถาม

“ไม่มีแล้วหล่ะ”

“อยู่ข้างนอกหรอ?” มู่วี่สิงได้ยินเสียงอึกทึกภายนอก

“อืม”

“สัปดาห์หน้าผมก็กลับแล้ว”

“อ๋อ”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เธอไม่มีอะไรจะพูดกับเขาแล้วหรือ?

“ฉันวางสายแล้วนะ” บรรยากาศอันเก้อเขินแผ่กระจาย เวินจิ้งรีบวางสาย

……

สนามบิน

ณ ที่ไม่ไกลออกไปมีเครื่องบินส่วนตัวหรูหราลำหนึ่งจอดอยู่ สัญลักษณ์ของตระกูลลี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน

ซูยีนถูกล็อคที่ไหล่ไว้ เธอดิ้นรนมาตลอดทาง

“ปล่อยฉัน ฉันเดินเองได้! อย่ามาโดนตัวฉัน!”

แต่บอดี้การ์ดทำเหมือนหูหนวก ตามองเห็นว่ากำลังจะถูกพาขึ้นเครื่องบินแล้ว ซูยีนขณะที่อยู่บนบันไดก็ยกเท้าขึ้น แล้วเตะบอดี้การ์ดร่วงลงไป

อาศัยช่วงเวลาที่เขาปล่อยมือ เธอรีบวิ่งหนีทันใด

บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังรีบวิ่งตามขึ้นมา

จากที่ไม่ไกลนัก เงาของลี่หนานเฉิงก็ได้ค่อยๆปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน

เบ้าตาซูยีน ร้อนขึ้น ใช้แรงทั้งหมดที่มีวิ่งเข้าไปหาเขา

ตาที่มองเห็นบอดี้การ์ดกำลังวิ่งตามมา ลี่หนานเฉิงโอบเธอไว้แน่น

“ฉันคิดว่าคุณจะไม่สนใจฉันแล้ว” น้ำตาของ ซูยีนในที่สุดก็ไหลออกมา

ลี่หนานเฉิงยิ้มออกมา จับที่ด้านหลังศีรษะของเธอไว้ “ผมทนปล่อยคุณไปไม่ได้หรอก”

พูดจบ สายตาอันคมของเขามองไปยังบอดี้การ์ดที่รายล้อมอยู่ สีหน้าเคร่งขรึมชั่วขณะ

“พวกเรากลับไปด้วยกัน ดีไหม?” เขาถาม

“คุณปู่จัดการเรื่องแต่งงานให้ฉันแล้ว หลังจากกลับไป ยังเป็นไปได้อีกหรือ?” สีหน้าแห่งความสิ้นหวังของซูยีนแผ่กระจายออกมา

“ผมจะไม่ให้คุณแต่งงานหรอก ถ้าจะแต่งงาน ก็ต้องแต่งงานกับผมเท่านั้น”

“คุณยังไม่เคยขอแต่งงานเลย ฉันก็ไม่รับปากหรอก” ซูยีนตอบอย่างโมโห

ลี่หนานเฉิงนวดที่จมูกเรียวเล็กของเธอเป็นการเอาใจ “ผมเข้าใจแล้ว จะรีบจัดการนะ”

“คุณนาย ท่านนายกำชับไว้ว่าให้พาแค่คุณหนูกลับไปเท่านั้นครับ” บอดี้การ์ดตอบอย่างลำบากใจ

“ข้าจะไม่ยอมให้พาเธอกลับไปคนเดียวหรอก”

“แต่ว่า……”

“ข้าไม่ได้เจอคุณปู่นานแล้ว ท่านคงจะคิดถึงข้ามาก” ลี่หนานเฉิงยิ้มเยาะ

คำพูดนี้เตือนต่อซูยีน เธอดึงลี่หนานเฉิง “ฉันกลับไปคนเดียวก็พอแล้วหล่ะหนานเฉิง คุณอยู่ที่นี่เถอะนะ”

เมื่อกลับไปที่ตระกูลลี่ แล้ว ทั้งหมดก็เป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดา

หากเขาอยู่ที่เมืองหนานเฉิง อย่างน้อยยังมีอิสระ

“คุณคิดว่าผมจะรับปากหรือ?” ลี่หนานเฉิงหรี่ตาขึ้นอย่างดูเหน็บหนาว

เขาจับมือเธอเดินเข้าไปในเครื่องบินเอง

บอดี้การ์ดรีบรายงานไปยังตระกูลลี่ เครื่องบินเริ่มออกบิน

……

ตกดึก เวินจิ้งรู้สึกไม่วางใจ จึงโทรหาซูยีน

แต่ไม่มีคนรับสาย จนถึงดึกดื่นซูยีนถึงจะโทรกลับ

“เวินจิ้ง เธอสบายใจได้ ฉันไม่เป็นไร”

“เธออยู่ที่ไหนหรอ?”

“ฉันอยู่ที่เมืองเป่ยเฉิง”

“เธอไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”

“หนานเฉิงกลับมาเป็นเพื่อนฉันแล้ว แต่พวกเราไม่สามารถเจอหน้ากันได้ ดังนั้นจริงแล้วมันก็ไม่ค่อยดีนัก” ซูยีนเดินออกไปที่ระเบียง วิธีของคุณปู่เธอนั้นเข้าใจดี

พอกลับมาก็กักตัวเธอไว้ เธอออกไปไหนไม่ได้

ส่วนลี่หนานเฉิงก็เช่นเดียวกัน

“มีอะไรที่ฉันสามารถช่วยได้ไหม?” เวินจิ้งถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย

ซูยีนหัวเราะ “เรื่องนี้ ก็มีเพียงแต่ฉันกับเขาที่สามารถแก้ไขได้”

“เวินจิ้ง ขอบคุณเธอนะ ฉันเองก็ควรกลับมาที่ตระกูลลี่ตั้งนานแล้ว เป็นเพราะฉันเองที่เสียเวลาคิดมากเกินไป”

ชีวิตของเธอเป็นของตระกูลลี่ ดังนั้น แต่ไหนแต่ไรมาเธอเองก็ไม่อยากต่อต้านอะไร

แต่ตอนนี้ เธอก็อยากจะลองดู

ชอบคนหนึ่งไม่ง่าย แต่เธอก็ยอมเป็นแมลงเม่าบินเขากองไฟ

“ฉันอิจฉาเธอกับมู่วี่สิงจริงๆนะ เวินจิ้ง ที่สามารถได้อยู่กับคนที่ตัวเองชอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ฉันเองก็ไม่กล้าแม้แต่จะคิดเลย”

เวินจิ้งจับที่มือถือของเธอแน่น เวลานี้รู้สึกถึงความสิ้นหวังของซูยีนได้อย่างชัดเจน

หลังจากวางโทรศัพท์ เวินจิ้งเดินออกไปที่ระเบียง ห้องแต่งงานที่มู่วี่สิงซื้อไว้นั้นอยู่ที่ชั้นบนสุดของการ์เด้นมู่เจียวาน แทบจะสามารถมองเห็นได้รอบเมือง วิสัยทัศน์ดีเยี่ยม

แต่ว่ามีเพียงแต่เธอคนเดียว วิวทิวทัศน์งามแค่ไหน ก็ไร้ซึ่งความรู้สึกสักนิด

คำพูดของซูยีนที่ยังคงดังก้องที่ข้างหู คนที่ชอบ……

ความสัมพันธ์ของเธอและมู่วี่สิง แต่ไหนแต่ไรมาก็ยังคงเช่นเดิม แต่ในสายตาคนอื่นแล้ว พวกเขาดูเหมือนเป็นคู่สามีภรรยาที่ดูรักสามัคคีกันดี

แม้แต่เธอเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะสร้างภาพจินตนาการเช่นนั้นขึ้นมา……

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท