Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 265

ตอนที่ 265

บทที่ 265 คุณอยากอยู่กับเขาขนาดนั้นเลยหรอ

“เธอพูดมั่ว คือเธอนั่นแหละไม่พอใจที่ฉันกับวี่สิงทำการทดลองด้วยกัน เธออิจฉาฉัน”

มู่วี่สิงขมวดคิ้วเข้ม ประคองลู่หวั่นขึ้นมา นัยน์ตานิ่งเงียบ

“ลู่หวั่น คุณไปโรงพยาบาลก่อน”

มู่วี่สิงเห็นผิวกายตรงน่องเล็กของเธอที่ถูกกัดกร่อนอย่างรวดเร็วแล้ว นัยน์ตาวาวดำลึกซึ้งมาก

“วี่สิง ขอโทษนะ แต่คุณก็รู้ ฉันแต่งงานแล้วก็จะไม่คิดอย่างอื่นกับคุณอีกแล้ว แล้วเป็นไปได้ไงที่จะไปทำร้ายเวินจิ้งอีกล่ะ” เธอพูดอย่างอ่อนแอ

มู่วี่สิงไม่ได้มองเธอ ห่างกันระยะทางสองเมตร สายตาของเขาตกอยู่ที่เวินจิ้ง

บนพื้นมีของเหลวอันตรายเต็มเลย ถ้าเวินจิ้งจะออกมาก็ต้องเหยียบอยู่บนนั้น

แต่มันอันตรายแน่นอน เธอได้แต่ยืนอยู่ที่เดิม

ส่วนลู่หวั่นยังคงจับมือมู่วี่สิงไว้แน่นๆ เหมือนเดิม

“ลู่หวั่น ปล่อยมือ” สีหน้าของมู่วี่สิงลึกซึ้งมาก

ลู่หวั่นสะเทือนใจ ปล่อยมือออก เงาร่างสูงใหญ่ที่อยู่ด้านหลังก็กอดเธอไว้

อานฉิงมาแล้ว

เห็นแผลสีดำบนน่องขาของเธอ นัยน์ตาของเขาเยือกเย็นขึ้นมา

อุ้มลู่หวั่นขึ้นมา น้ำเสียงอันเย็นชาของเขาดังขึ้น “มู่วี่สิง ถ้าเธอเกิดอะไรขึ้นมา ฉันจะหาเรื่องจนถึงที่สุด”

ก็ไม่รู้ว่ามู่วี่สิงได้ฟังไหม จุดสนใจอยู่ที่เวินจิ้งตลอดเวลา สวมถุงคลุมรองเท้าขึ้น เขาเดินมาทีละก้าวๆ

เมื่อมือของเขาจะสัมผัสเธอ เวินจิ้งผละออกไปแล้ว

จนวินาทีนี้ถึงสังเกตได้ว่าเธอสั่นทั้งตัว เธอกลัวมาก

มู่วี่สิงนั่งชันเข่าลงมา ถุงคลุมรองเท้าอยู่ในมือของเขา เขายกขาของเธอขึ้นมาช้าๆ

เวินจิ้งเม้มปากไว้ ดูใบหน้าที่อยู่ใกล้มากใบนี้ จึงจะค่อยๆ ใจเย็นลงมา

“ไม่เป็นไรแล้วนะคุณหญิงมู่” ฝ่ามืออันอบอุ่นของเขากุมมือเล็กของเธอไว้

ความกังวลในตามิอาจปิดบังไว้ได้ เขาประคองหน้าของเธอไว้ ปลอบใจเธอด้วยการจูบหน้าผากของเธอ

“คุณเชื่อฉันไหม” เวินจิ้งถาม

“คุณหญิงมู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรผมก็เชื่อใจคุณ” มู่วี่สิงมองลงไปข้างล่าง ใบหน้าหล่อแนบกับใบหน้าของเธอ เขาก็ตัวสั่นเหมือนกัน

บนรถ สายตาของมู่วี่สิงอยู่ที่หน้าเวินจิ้งตลอดเวลา

เขามองเวินจิ้งจนเธอรู้สึกแปลกๆ

“คุณ…อย่าจ้องฉันแบบนี้” เวินจิ้งแก้มแดงขึ้นเล็กน้อย

นึกถึงคำพูดของลู่หวั่นในเมื่อกี้ เธอถามเขาว่า “ถ้าฉันถูกเสียโฉมแล้วจริงๆ คุณจะรังเกียจฉันไหม”

“ไม่ คุณไม่มีทางเสียโฉมแน่นอนคุณหญิงมู่ ห้ามพูดแบบนี้” สายตาของมู่วี่สิงลึกซึ้งมาก

“เมื่อกี้ลู่หวั่นบอกว่า คุณจะรังเกียจฉัน คุณกับเธอสนิทกันขนาดนี้ เธอน่าจะรู้จักคุณดี” เวินจิ้งพูดแบบหึงเล็กน้อย

มู่วี่สิงประคองหน้าเธอไว้ กดลงมา เขากักเธอจนหนีไม่พ้น

เขาพูดด้วยเสียงต่ำว่า “คนที่รู้จักกับผมอย่างลึกซึ้ง มีแค่คุณเท่านั้น”

เวินจิ้งนิ่งงันสักพัก ทำไมอยู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องพวกนั้นแล้วล่ะ

ยังไม่ทันตั้งสติ จูบของมู่วี่สิงก็กดทับลงมาแล้ว ครอบงำ เผด็จการ ทำให้เธอได้แต่หลงระเริง

โรงพยาบาล

ผิวกายที่ข้อศอกของเวินจิ้งถูกสารละลายเผาเปรี้ยงเป็นเวลานานมากแล้ว ถึงแม้จะทำการรักษาแล้วก็ตาม แต่คุณหมอบอกแล้วว่า อาจจะมีแผลเป็นก็ได้

บริเวณนี้ถึงแม้จะไม่ค่อยเห็นได้ชัด แต่ทุกครั้งที่ยกมือก็จะเห็นอยู่ดี

มู่วี่สิงให้เกาเชียนไปซื้อครีมกำจัดรอยแผลเป็นแล้ว พูดเสียงต่ำว่า “ผมไม่ให้คุณมีรอยแผลเป็นหรอก ไม่ต้องห่วงนะ”

เวินจิ้งยิ้มๆ เธอก็เฉยๆ ไม่ค่อยอะไรมาก

แค่นึกถึงลู่หวั่นจงใจทำร้ายเธอ ก็รู้สึกโกรธมากจริงๆ

ตอนกลางคืนกลับไปถึงการ์เด้นมูเจียวาน ค่ำคืนนี้เวินจิ้งกังวลและตกใจมาก มู่วี่สิงนอนเป็นเพื่อนเธอได้สักพัก ในที่สุดจึงนอนหลับได้สักที

แต่มือของเธอกำชุดนอนของเขาไว้แน่นๆ ตลอดเวลา ถึงจะนอนหลับแล้วก็ไม่สงบสักที

มู่วี่สิงลุกขึ้นมาโทรหาเกาเชียน

“ให้แผนกกฎหมายจัดทำสัญญาการเลิกร่วมงานชุดหนึ่ง บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะหยุดร่วมงานกับบริษัทการผลิตยาหลินเหอ”

บริษัทการผลิตยาหลินเหอ ก็คือบริษัทใหม่ของลู่หวั่นในตอนนี้

วางสายลงได้ไม่นาน อานฉิงก็โทรมา

มู่วี่สิงสีหน้าเคร่งเครียด

“ประธานมู่ อาการของหวั่นหวั่นไม่เบาเลยนะ ซึ่งคุณหญิงมู่เป็นคนลงมือทำเอง” น้ำเสียงของอานฉิงเต็มไปด้วยการติเตียนโดยไม่มีการปกปิดเลย

“ถ้าฉันจะบอกว่าคุณหญิงมู่ไม่ผิดล่ะ” มู่วี่สิงพูดด้วยเสียงเย็นชา

“ปกติหวั่นหวั่นรักสวยรักงามจะตาย เธอไม่มีทางทำร้ายตัวเองหรอก เธอบอกให้ฉันแล้ว คือคุณหญิงมู่นั่นแหละที่ไม่ปล่อยเธอไป”

“อานฉิง ฉันเอาสารละลายนั้นไปสืบมาแล้ว ของแบบนี้ไม่ได้หาซื้อที่ตลาดทั่วไปง่ายๆ หรอกนะ ลองหาดูสิว่าเป็นของของบ้านตระกูลอานของนายใช่หรือไม่”

อานฉิงเงียบกริบ กำหมัดไว้แน่น

“หวั่นหวั่นคือน้องสาวของนายนะ นายไม่เชื่อเธอหรอ”

“ฉันเชื่อภรรยาของผม อานฉิง ลู่หวั่นก่อเรื่องขึ้น ฉันจะไม่ร่วมงานกับหลินเหออีกต่อไป และจะไม่ให้เธอกลับมาที่หนานเฉิงอีกด้วย”

โรงพยาบาล

อานฉิงฟังเสียงสายไม่ว่างในมือถือ สีหน้าเคร่งเครียด

เขาผลักประตูเข้าไป ลู่หวั่นกำลังกอดอกอย่างกังวลอยู่ น้ำตาคลอเบ้า

“อานฉิง ขาของฉันจะมีรอยแผลเป็นแล้วใช่ไหม…” ลู่หวั่นร้องไห้อยู่

“ผมจะไปหาหมอที่ดีที่สุดมาให้คุณนะ เรากลับไปประเทศB คุณไม่ต้องห่วงนะ”

ลู่หวั่นพูดอย่างอ้างหวังว่า “ไม่มีผลหรอก สารละลายกัดกร่อนผิวหนังแล้ว…”

อานฉิงสวมกอดเธอไว้แน่นๆ “หวั่นหวั่น ผมจะไม่ให้คุณเป็นอะไรหรอกนะ”

“มู่วี่สิง…เขาไม่เชื่อฉันใช่ไหม” ลู่หวั่นถามไปด้วยตัวสั่นไปด้วย

อานฉิงนิ่งเงียบ

วันถัดมา ลู่หวั่นได้รับสัญญาการเลิกร่วมงาน

มือของเธอสั่น จากนั้นก็ฉีกทิ้งทันที

ตอนอานฉิงเข้ามา สีหน้าโกรธเคืองของลู่หวั่นส่องเข้ามาในตาหมด

เขาขมวดคิ้วเข้ม ดูสัญญาที่หล่นลงบนพื้น เก็บขึ้นมา

“ฉันจะไม่ยอมยกเลิกสัญญา”

“มู่วี่สิงก็แค่แจ้งคุณแค่นั้น โครงการหยุดลงแล้ว” อานฉิงบอก

“ดังนั้น ฉันต้องกลับไปงั้นหรอ”

“คุณอยากอยู่กับเขาขนาดนั้นเลยหรอ” อานฉิงบีบปลายคางของเธอไว้ ความโกรธที่อยู่ในตาส่องประกายออกมา

เขาไม่ตกลงให้ลู่หวั่นกับมู่วี่สิงร่วมงานตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เธอไม่ฟังใครเลย เขาจึงทำตามใจเธอ

แต่ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าใครจะผิดหรือถูก เขาก็ไม่อยากให้ลู่หวั่นอยู่ต่ออีกแล้ว

ยังไงที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ที่เขามีอำนาจอยู่แล้ว

ลู่หวั่นเม้มริมฝีปาก “คุณหมายความว่าอะไร”

“ผมรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ แต่ว่าลู่หวั่น อย่ามาท้าทายขีดจำกัดของผมนะ เพราะผมชอบคุณเลยทำตามใจคุณ แต่คุณจำสถานะของตัวเองไว้ดีๆ ล่ะคุณหญิงอาน” เขาเตือน

“ฉันจำได้ตลอด แต่ว่าโครงการนี้สำคัญมากสำหรับฉัน มีแค่มู่วี่สิงคนเดียวที่สามารถร่วมงานได้” ลู่หวั่นพูดอย่างลึกซึ้ง

นี่คือวิจัยที่เธอกับมู่วี่สิงทำตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยแล้ว สองคนมีแนวคิดทางเดียวกันสูงมากกับยาตัวนี้ หวังว่าจะรีบพัฒนาและผลิตออกมา

นอกจากมู่วี่สิงคนเดียวแล้ว ก็ไม่มีใครมีความสามารถแบบนี้

“ผมรู้ว่านี่คือความปรารถนาของคุณ ผมก็ช่วยคุณได้”

สีหน้าของลู่หวั่นเย็นชา “มีแค่เขาคนเดียว”

ทันใดนั้นอานฉิงก็ปล่อยมือออก สีหน้าโกรธเคืองมาก “คืนนี้กลับประเทศBกับผมทันทีเลย”

“ถ้าฉันไม่กลับล่ะ”

“คุณคิดว่ามู่วี่สิงจะอนุญาตให้คุณอยู่ต่อหรอ” อานฉิงพูดด้วยความเยือกเย็น

สีหน้าของลู่หวั่นซีดลงมา มองสัญญาที่อยู่ข้างๆ เธอกัดริมฝีปากไว้แน่นๆ

การ์เด้นมูเจียวาน

หลายวันที่ผ่านมานี้เวินจิ้งไม่ได้ออกจากบ้าน มู่วี่สิงก็ไม่ได้ไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป มีแต่เกาเชียนที่มารายงานเรื่องงานให้เขา

ชุดแต่งงานส่งมาแล้ว เวินจิ้งดูหางกระโปรงที่ประดับเต็มเศษเพชร แค่วางไว้ในมือยังรู้สึกเอ็นดูมากเลย

เหมือนกับอยู่ในฝันอย่างนั้น

ในหัวนึกถึงเรื่องราวต่างๆ หลังจากที่แต่งงานกับมู่วี่สิง สำหรับเธอแล้ว งานแต่งงานนี้ก็มีความเห็นแก่ตัวของตัวเองอยู่เล็กน้อย

ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าข้างนอกประตูก็ได้ดังขึ้น คือมู่วี่สิงที่วางงานในมือลงแล้วมาหา

“ผมช่วยใส่ให้คุณ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท