Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 256

ตอนที่ 256

บทที่ 256 ใส่ใจเขามาก

“พี่สาว เธอก็ยังคงเย็นชากับฉัน” ฉีเซินพูดอย่างไม่พอใจ

หลังอาหาร เวินจิ้งไม่พูดอะไรมาก

“ไม่ต้องเรียกฉันว่าพี่สาว ไม่ชิน” เวินจิ้งพูดเสียงเงียบ

“เธอเป็นลูกสาวของแม่ฉัน เธอยังอยากปฏิเสธตัวตนนี้?”

“ยังไงก็มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ฉันไม่อยากกลับไปตระกูลหลิน”

เธอไม่ได้ละการติดต่อจากตระกูลหลิน แต่ถ้าหากจะให้ยอมรับ เธอยังต้องปรับตัว

“เพราะว่าเธอเป็นลูกที่แม่ฉันทอดทิ้ง ดังนั้นเธอจึงไม่เต็มใจกลับไป เลยละเว้น” ฉีเซินมองเวินจิ้ง เปิดเผยเธอ “อย่างไรก็ตาม แม่ฉันก็ทำอะไรไม่ถูก ไม่เช่นนั้น ตอนนั้นตระกูลฉีคงทนเธอไม่ได้”

“ตระกูลฉี? ตอนนั้นเราทำอะไรกับเขาไว้?” สายตาของเวินจิ้งเผยความกังวลออกมา

“เธออยากรู้ งั้นก็ช่วยฉันอย่างหนึ่ง ผลประโยชน์ร่วมกัน” ฉีเซินหรี่สายตา

เวินจิ้งอยากรู้ เรื่องระหว่างตระกูลฉีกับตระกูลหลิน

“นายจะบอกฉันจริงเหรอ?”

“ฉันเคยหลอกเธอเมื่อไหร่กัน?” ฉีเซินเข้าหา

เวินจิ้งผลักเขาออก “เรื่องที่นายหลอกฉันไม่น้อย”

“ผู้ชายคนนั้นคือมู่วี่สิง ไม่ใช่ฉัน”

เวินจิ้งไม่ได้เถียงเขา

“นายจะให้ฉันช่วยอะไร?”

“คืนนี้มีสังสรรค์ดื่มเหล้า หากเธออยู่ ข้อตกลงของฉันก็จะราบรื่นขึ้นมาก” ฉีเซินยกริมฝีปากบาง

“ฉันดื่มเหล้าไม่เป็น และให้ความบันเทิงไม่เป็น” เวินจิ้งลำบากใจ

“เธอเป็นแค่ไม้ทื่อๆก็พอแล้ว”

เวินจิ้ง: …

กลางคืน ตะเกียงไฟแรก

มีสายโทรเข้ามาจากมู่วี่สิง เวินจิ้งกำลังอยู่บนรถของฉีเซิน

“ยังอยู่บ้านหลิน?”

เวินจิ้งเงียบ มองไปที่ฉีเซิน

“ค่ะ ฉันจะกลับดึกหน่อย”

“ฉันประชุมเสร็จ ค่อยไปรับเธอ”

“ไม่ต้องไม่ต้อง คุณนายฉีจะส่งฉันกลับไป คุณตั้งใจทำงาน” น้ำเสียงของเวินจิ้งเบาลง

มู่วี่สิงฟังออกคำพูดของเธอดูไม่ธรรมชาติ ดวงตาสีดำเคร่งขรึม

เวินจิ้งรีบวางสาย กลับรู้สึกผิดเล็กน้อย

เฮ้อ ชัดเจนกับฉีเซินก็ไม่ได้ทำอะไร แต่เพราะไม่อยากทำให้มู่วี่สิงโกรธ

เธอใส่ใจเขามากจริงๆ

“ทำไมฉันถึงรู้สึก เธอเหมือนกำลังเล่นชู้กับฉัน” ฉีเซินล้อเลียน

เวินจิ้งจ้องมองเขาอย่างใจเย็น “น้องชาย เล่นชู้คำนี้อย่าใช้มั่วซั่ว

“ไม่แน่เราอาจไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ” ฉีเซินพูดกะทันหัน

“ฉันไม่ผิดประเพณีกับนายหรอก” เวินจิ้งพูดเย็นชา

“ใครจะรู้ ถ้าหากเราไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด เธอจำไว้ ฉันเป็นตัวเลือกหมายเลขหนึ่งของเธอ” ฉีเซินเข้าใกล้ ตากระพริบเป็นประกาย

เวินจิ้งเลี่ยงสายตาของเขา อดไม่ได้ที่จะกรอกตาบน

ยังเป็นตัวเลือก…

“ฉีเซิน นายโรคจิตรึเปล่า ฉันไม่สนใจนาย”

“เรื่องของวันข้างหน้า ตอนนี้ตอบไม่ได้”

“เมื่อก่อน ตอนนี้ ต่อไป นายจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไม่ได้” เวินจิ้งกระแทกเสียงไป

“เธอยืนยันเป็นมู่วี่สิงแล้วเหรอ?” น้ำเสียงไม่พอใจของฉีเซิน

เวินจิ้งหันไป แม้ว่าเธอจะเปิดใจไปแล้ว แต่ท่าทีของมู่วี่สิงกลับไม่สามารถทำให้เธอมั่นคงได้

เธอเชื่อที่เขาพูด ว่าจะไม่จากเธอไปไหน

แต่ว่า เธออยากให้เขาตอบเหมือนกัน

เธอรู้สึกว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ เพียงแต่ เขาไม่เคยยอมรับ

หัวใจของเวินจิ้งก็เจ็บทันที

เธอคิดว่าตัวเองไม่มีทางผิดหวังกับการชอบความกล้าหาญของใครสักคนอีก แต่เมื่อเผชิญหน้ากับมู่วี่สิง เธอเต็มใจ

“พี่สาวของฉัน ฉันยังรอว่าต่อไปเธอจะร้องไห้ในอ้อมแขนของฉัน”

“ไม่มีวันนั้น”

ฉีเซินหรี่สายตา วันนั้น ไม่นานก็ถึง

คลับซีเซิง

ขณะที่เวินจิ้งเดินตามฉีเซิน คนในห้องส่วนตัวก็ถึงกันแล้ว

ร่างสูงหันหลังไปทางเวินจิ้ง ด้านข้างหล่อเหลาและมีเสน่ห์

แสงสลัว ใบหน้าของผู้ชายค่อยๆหันมา

หลิงอี้?

เธอถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ไม่คิดว่าจะเจอเขาอีกครั้ง

ความกลัวบนใบหน้าของเธอฉีเซินเห็นอย่างชัดเจน รอยยิ้มลึกซึ้ง

“คุณหลิง ขอโทษที่มาสาย”

หลิงอี้นั่งตรงกลาง สายตามองไปที่เวินจิ้งอย่างปิดบังไม่ได้

ผู้หญิงคนนี้ ยังกล้ามาปรากฏตัวตรงหน้าเขา

“นี่คือพี่สาวของฉัน เวินจิ้ง” ฉีเซินแนะนำ

“เวินจิ้ง” หลิงอี้เคี้ยวชื่อนี้ ค่อนข้างเหมาะกับเธอ

ไม่ว่าเมื่อไหร่ อารมณ์อ่อนโยนและเงียบสงบของเธอทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ

“คุณหลิง” เวินจิ้งพูดเสียงเบา

เธอรู้ ว่าฉีเซินนำความเดือดร้อนมาให้เธอ

เธอถลึงตาใส่เขา และกระซิบ “นายจงใจ?”

“ฉันจงใจอะไร?” ฉีเซอนพูดล้อเล่น

เวินจิ้งขมวดคิ้ว การไร้การแสดงทางสีหน้าของฉีเซิน ทำให้เวินจิ้งสงสัย

แต่เธอนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ เธอกับหลิงอี้รายงานอย่างใกล้ชิด โดยไม่มีใบหน้าเต็มของเธอ

หรือว่าฉีเซินจะไม่ร้จริงๆว่าเธอรู้จักหลิงอี้?

“ไม่มีอะไร” เวินจิ้งหันไป

“เธอรู้จักกับหลิงอี้?”

หลิงอี้พูด “อืม ก่อนหน้านี้ฉันเข้าใจผิดคิดว่าคุณเวินเป็นคู่หมั้นของฉัน ทำให้เธอเดือดร้อนมาก ไม่คิดว่าจะเป็นพี่สาวของนาย”

“พี่สาวของฉันใจดีมาก” ฉีเซินมองเวินจิ้ง “พี่สาว เธอไม่รังเกียจความผิดของคุณหลิง ใช่ไหม?”

เวินจิ้งยิ้มเห่ยๆ “เป็นความเข้าใจผิด อธิบายให้ชัดเจนก็พอแล้ว”

ไม่แคร์ไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ไปจุกจิก

“อืม งั้นเรามาคุยเรื่องทางการ”

ฉีเซินและหลิงอี้ต้องการร่วมมือกันในการพัฒนายาตัวใหม่ เวินจิ้งน่าเบื่อ และไม่มีเจตนาที่จะสอดแนมในความเป็นส่วนตัวเชิงพาณิชย์ของผู้อื่น

อย่งไรก็ตาม สาวตาที่เหมือนมีอะไรและไม่มีอะไรของหลิงอี้ส่งมา ทำให้เธอเหมือนนั่งอยู่บนเข็ม

“แผนของคุณฉีนั้นดีมากแต่ผมยังต้องกลับไปพูดคุยกับผู้บริหาร” หลิงอี้ไม่ได้เซ็นชื่อทันที

ฉีเซินไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ขยิบตาให้เวินจิ้ง

เวินจิ้งงง เขาบอกให้เธอเป็นแค่ “ท่อนไม้” ไม่ใช่เหรอ นี่เธอยังต้องโน้มน้าวด้วยเหรอ?

“คุณเวินคิดยังไงครับ?” หลิงอี้ถาม

สายตาบังคับของฉีเซินมองมา

เวินจิ้งหนังหัวชา การทำงานนี้ไม่ง่ายจริงๆ…

“คุณหลิงคิดว่ายังมีปัญหาอะไรอีก?”เวินจิ้งยิ้ม

“ยาตัวใหม่นี้ในท้องตลาดมีประเภทที่คล้ายกัน แต่ผู้ชมไม่กว้าง และยอดขายไม่สูง”

“ยอดขายของยาประเภทเดียวกันไม่สูงเพราะช่องการไม่แพร่กระจาย บริษัทยารายใหญ่ยังไม่ได้ทำการวิจัยยาตัวนี้อย่างเป็นทางการ ทำไมคุณหลิงไม่เป็นคนแรกที่เป็นคนกินปู?”

หลิงอี้เลิกคิ้ว แปลกใจกับคำพูดของเวินจิ้ง

นี่ควรเป็นสำหรับมืออาชีพในด้านอุตสาหกรรมที่รู้เท่านั้น

“แต่สุดท้ายแล้วมันเป็นแผนวิจัยและพัฒนามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะรีบเร่งไม่ได้”

“คุณหลิงพูดมีเหตุผล”

เวินจิ้งมองไปทางฉีเซิน แสดงให้เห็นว่าเธอได้พยายามแล้ว

“ฉันรับสายก่อน พี่สาว เธอช่วยสร้างความบันเทิงให้กับคุณหลิงหน่อย” ฉีเซินออกไปประชุมครึ่งทาง

ในห้องเหลือเพียงสองคน เวินจิ้งคิดแค่อยากออกจากที่นี่เร็วๆ

ดึกมากแล้ว มู่วี่สิงน่าจะกลับบ้านแล้ว?

เธอคิดถึงเขามาก…

รู้สึกได้ถึงความว้าวุ่นใจของเวินจิ้ง หลิงอี้หรี่สายตา “ไม่อยากให้ความบันเทิงกับฉัน?”

“หากคุณหลิงมีธุระ รอให้คุณฉีกลับมาค่อยเจรจาต่อรอง” เวินจิ้งทำตัวห่างเหินกับเขา

ความไม่พอใจปรากฏบนใบหน้าของหลิงอี้ “เรื่องก่อนหน้านี้ฉันต้องขอโทษด้วย”

“ฉันไม่ได้โกรธ ฉันรู้ว่าคุณก็ถูกคนทำให้เข้าใจผิด”

“ถ้าหากเธอคือซูยิน ฉันจะพึงพอใจมาก” หลิงอี้ยกริมฝีปากบาง

เวินจิ้งอึ้ง ทันใดนั้นในหัวสมองก็นึกขึ้นมาถึงคำพูดที่หลิงอี้เคยพูดกับเธอ—คบกับเขา

เธอไม่เคยคิดจริงจัง

กลับรู้ ว่าเขาไม่ได้พูดเรื่อยเปื่อย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท