Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 281

ตอนที่ 281

บทที่ 281 ข้างตัวคุณหญิงมู่มีผู้ชาย

“คุณตาคะ ช่วงเวลานี้ หนูแค่อยากดูแลคุณตาให้ดีๆก็เท่านั้นเอง” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“คุณตารู้ แต่ว่าหลิงอี้จะทำการวิจัยพอดี เธอก็ไปช่วยไปเรียนรู้ ก็จะยิ่งทำให้เข้าใจบริษัทหลินซื่อของเรานะ” หลินเจิ้นพูดด้วยน้ำเสียงหนักใจ

“ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้สนใจ” เวินจิ้งพูดอย่างนิ่งๆ

“หรือสาเหตุเป็นเพราะผม?” หลิงอี้เหล่ตามอง

“แน่นอนว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณหลิงเลยค่ะ เพียงแค่ช่วงนี้ฉันต้องศึกษาหลักสูตรใหม่ล่วงหน้า แบ่งไปคิดหลายอย่างไม่ได้ กลัวทำเสียงานไปหมด” เวินจิ้งตอบด้วยสีหน้าจริงจัง

แต่หลิงอี้ดูออกว่าเธอดื้อรั้นกว่าใครๆ

“เสี่ยวจิ้ง แม้แต่คำพูดของฉันก็ไม่ฟังแล้วหรอ?” หลินเจิ้นโกรธเล็กน้อย

“คุณตาคะ หนูไม่ได้หมายถึงอย่างนี้ แต่เวลานี้ หนูไม่อยากเข้าร่วมงานอะไรเลย หวังว่าคุณตาจะเข้าใจ”

“ฉันหลินเจิ้นมีหลานสาวคนเดียวก็คือเธอ! ไม่ใช่ว่าฉันจะบังคับเธอ เพียงแต่…..นี่เป็นความรับผิดชอบของเธอ!” หลินเจิ้นทุบโต๊ะอย่างโมโหแล้วลุกขึ้น

เวินจิ้งก้มหน้า สั่นไปทั้งตัว

ความรับผิดชอบ

ผ่านไป 25 ปีแล้ว เธอไม่เคยรู้เรื่องฐานะและสิ่งที่ต้องรับผิดชอบเลย แต่อยู่ๆก็มีภาระที่หนักหล่นลงมาทับบ่าของเธอ

เธอยิ้มอย่างเย็นชา

“ฉันไม่ได้สนใจบริษัทหลินซื่อเลย”

สีหน้าของหลินเจิ้นซีดลงทุกที พอได้ยินคำพูดของเวินจิ้ง ยิ่งทำให้โกรธจนเกือบจะล้มลง

หลิงอี้ รีบมาพยุงเขาไว้ทันที หลินเจิ้นชี้หน้าเวินจิ้งอย่างโกรธสุดขีด

“เวินจิ้ง คุณหยุดพูดก่อน” หลิงอี้พูดอย่างหนักแน่น

เวินจิ้งนั่งลงอย่างเงียบๆ มองดูคุณแม่กับหลิงอี้พยุงคุณตาขึ้นไปชั้นบน เธอหยิบมือถือโทรไปหามู่วี่สิง

เพียงแต่เวลานี้เขากำลังประชุมอยู่ มือถือไม่ได้อยู่กับตัว

จนผ่านไปเกือบสิบนาที มือถือเวินจิ้งค่อยดังขึ้นมา

แต่เวลานี้ คุณหมอขึ้นไปที่ห้องคุณตาแล้ว เธอยืนอยู่ตรงระเบียง

“คุณหญิงมู่” น้ำเสียงที่อ่อนโยนของมู่วี่สิงผ่านมา

เวินจิ้งกัดริมฝีปาก สักพักถึงตอบกลับด้วยเสียงต่ำ “อืม”

“โดนรังแกหรอ?” มู่วี่สิงถามอย่างรวดเร็ว

“เปล่า”

“มี บอกผมมา ฮึ?”

“ไม่มีจริงๆ ก็แค่คิดถึงคุณ”

“ถ้าไม่บอกผมอีก คืนนี้ผมจะรีบไปหาทันที” มู่วี่สิงมองดูตารางเดินทาง

พึ่งจะวันแรก เขาก็คิดถึงเธอมากเหมือนกัน

ไม่ควรปล่อยเธอไปจริงๆ

“เวินจิ้ง คุณตาตื่นแล้วนะ”ในเวลานี้เอง หลิงอี้เดินมา

พอได้ยินเสียงของผู้ชาย มู่วี่สิงก็ขมวดคิ้ว เขารู้ว่าเป็นหลิงอี้

สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา

“ฉันยุ่งแล้ว บาย” เวินจิ้งวางสายแล้ว

มู่วี่สิงได้ยินเสียงที่ยุ่งอยู่ในสาย ใบหน้าที่หล่อเหลาค่อยๆชักสีหน้า

เขาเรียกให้เกาเชียนเข้ามา “ตารางเดินทางพรุ่งนี้ยกเลิกให้หมด”

“นี่นายกำลังจะทำอะไร? ”ทันใดนั้น มีเสียงที่มีพลังดังขึ้นมาจากข้างนอก มูเฉิงเดินเข้ามา

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว “คุณปู่ ทำไมถึงมาได้ครับ?”

“พรุ่งนี้เป็นวันประชุมกรรมการผู้จัดการ เธอต้องอยู่” มูเฉิงพูด “มู่เหิงก็จะมาด้วย”

ฟังจบ มู่วี่สิงก็ชักสีหน้า

“ปกติเขาไม่เข้าร่วมการประชุมกรรมการผู้จัดการนี่ครับ?”

“เขาอยู่เมืองหนานเฉิงแล้ว ฉันได้ยินมาว่า ช่วงนี้เขาร่วมมือกับองค์กรในประเทศอยู่ไม่น้อย ในนามของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป” มูเฉิงพูดเสียงต่ำ

ดูท่าจะหมดความอดทนแล้ว

มู่วี่สิงกลับแสดงสีหน้าไร้ความรู้สึก ความทะเยอทะยานของมู่เหิง เขารู้มานานแล้ว

ไม่งั้นเขาจะเต็มใจมาอยู่ประเทศ c ตลอดทำไม แต่ไหนแต่ไรที่นั่นไม่ใช่ศูนย์กลางของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

“อืม การประชุมกรรมการผู้จัดการของพรุ่งนี้ คุณปู่ไปแทนผมนะ”

“เธอจะไปไหน?” มูเฉิงพูดเสียงต่ำ

“ตระกูลหลิน”

“หลานสะใภ้บ้านฉันอยู่ตระกูลหลิน?” มูเฉิงเข้าใจทันที

“อืม คุณปู่ คุณก็ไม่อยากให้ผมทำหลานสะใภ้คุณหลุดไป ใช่มั้ยครับ?” มู่วี่สิงเลิกคิ้ว

“แน่นอน หลานสะใภ้สำคัญที่สุด วางใจได้ มีฉันอยู่ มู่เหิงก็ไม่กล้าทำอะไร”

เห็นมู่วี่สิงจะไป มูเฉิงเรียกเขาไว้ “ช่วงนี้เธอก็พักอยู่กับตระกูลหลินไปสักพัก ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่ามู่เหิงคิดจะทำอะไร”

……

ตระกูลหลิน

เวินจิ้งยืนอยู่หน้าประตูห้องคุณตา คุณหมอให้ยาเขากิน อาการของเขาถึงค่อยดีขึ้น

“หลิงอี้ เธอไปดูคุณปู่สิ” หลินเวยเดินออกมา

หลังจากหลิงอี้เดินเข้าไป ในระเบียงเหลือเพียงเวินจิ้งกับหลินเวย

“เสี่ยวจิ้ง ฉันรู้เธอไม่อยากสืบทอดบริษัทหลินซื่อ แต่ว่า นี่เป็นความตั้งใจของคุณตานะ” หลินเวยพูดด้วยความลำบากใจ

เวินจิ้งเม้มปาก ดังนั้น เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ใช่หรือไม่

“แต่ก่อนฉันไม่เคยดูแลเธอเลย ตอนนี้ฉันก็จะไม่บังคับเธอ หากเธอไม่ยอมรับ ฉันจะพูดกับคุณพ่อให้ บริษัทหลินซื่อฉันจะเป็นคนดูแลเอง”

“แม่คะ หนู……” เวินจิ้งมองไปที่คุณแม่ เธอไม่อยากให้คุณตาได้รับการกระทบกระเทือน แต่ว่าเธอพึ่งจะสอบเข้าปริญญาโท ต่อไปก็ยากที่จะดึงเวลามาทุ่มเทให้กับบริษัทหลินซื่อได้

อีกอย่างเธอเรียนด้านการแพทย์ แต่บริษัทหลินซื่อที่ใหญ่ขนาดนี้ ต้องการคนที่มีความสามารถมาสืบทอดกิจการต่อ

เธอเองก็ไม่มีความสามารถด้านนี้เลย

“แม่รู้เสี่ยวจิ้งไม่ต้องกดดันนะ ทางคุณตา แม่จะจัดการให้เอง”

เวินจิ้งพยักหน้า จนตกดึกแล้ว เธอก็ยังนอนไม่หลับ

จนกระทั่งมือถือข้างๆดังขึ้น มู่วี่สิงส่งตำแหน่งให้เธอ

สนามบิน ประเทศB

เวินจิ้งตาสว่างขึ้นมา มู่วี่สิงมาแล้ว?

เขาอยู่เมืองหนานเฉิง น่าจะยุ่งมากนะ ตอนนี้ใกล้สว่างแล้วด้วย เขาจะรีบกลับมาได้ยังไง……

อีกอย่าง นึกถึงตอนนี้หลิงอี้ก็พักอยู่ตระกูลหลิน เขาต้องโกรธแน่ๆ

เธอรีบโทรหามู่วี่สิงทันที

“ทำไมคุณถึงมาได้คะ?”

น้ำเสียงเวินจิ้งแผ่วเบาพร้อมกับออดอ้อน

“ข้างกายคุณหญิงมู่มีผู้ชายด้วย คุณคิดว่าผมยังนั่งอยู่เฉยๆได้มั้ยล่ะ?” มู่วี่สิงพูดอย่างเย็นชา

เวินจิ้งเม้มปาก เขารู้ได้ไง?

“คุณพูดถึงหลิงอี้หรอ?”

“คุณคิดว่าใครล่ะ?” น้ำเสียงมู่วี่สิงขึ้นๆลงๆ

แต่เวินจิ้งก็รู้แล้วว่าเขากำลังโกรธ

เวินจิ้งกัดริมฝีปากพลางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะพักอยู่ตระกูลหลิน แต่ก็ไม่มีอะไรหนิ……”

สุดท้าย เวินจิ้งก็ไม่ได้ยินเสียงตัวเองแล้ว

ลมหายใจของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความโมโห

“ผมอยู่ประเทศBมีบ้านพักของตัวเอง คุณย้ายออกมา” มู่วี่สิงออกคำสั่ง

“คุณตาพึ่งจะไม่สบาย ฉันไปไม่ได้”

คืนนี้หลินเวยกับหลิงอี้ก็อยู่ด้วย แต่พรุ่งนี้พวกเขาก็ไปทำงานแล้ว มีแค่เธอที่อยู่เป็นเพื่อนคุณตา

ถึงแม้ จะถูกไม่อยากเห็นหน้า แต่เขาก็เป็นญาติของเธอเอง เธอไม่สามารถทิ้งความรับผิดชอบนี้ได้

“จะต้องให้ผมโกรธใช่มั้ย ฮึ?” มู่วี่สิงพูดอย่างเยือกเย็น

“มู่วี่สิง……”

“คุณหญิงมู่ คุณรู้ว่าผมไม่ไว้ใจ”

“คุณไม่ไว้ใจอะไร” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

ถึงแม้ตอนนี้หลิงอี้ก็พักอยู่ตรงข้ามเธอ แต่เธอก็รักษาระยะห่างอยู่ตลอด อีกอย่างเธอก็ปฏิเสธการเข้าร่วมวางแผนวิจัยและพัฒนายาแล้วด้วย

ถึงแม้จะต้องเจอหน้าบ้าง แต่เธอจะไม่สร้างความสนิทสนมกับเขา

“ผมไม่ไว้ใจ ไม่มีผมอยู่ข้างกาย เดี๋ยวคุณจะทำอะไรโง่ๆ”

เวินจิ้ง : ……

“คุณต่างหากที่จะทำอะไรโง่ๆ……”

ถึงแม้ บางทีอาจจะเลอะเลือนบ้าง แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น

กลับกลายเป็นว่าไม่มีมู่วี่สิงอยู่ข้างกาย มันทำให้เธอมีสติมากขึ้น

พอเห็นเขา ก็ทำให้หลงจนมึนงงขึ้นมา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท