บทที่ 295 ตั้งแต่ต้นจนจบก็แค่หลอกใช้เธอ
ภายในห้อง เวินจิ้งแช่น้ำสักพัก ก็ยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิม หัวมึนๆ แล้วยืนขึ้น ทั้งร่างล้มลง
เสียงขยับนี้ทำให้หลิงอี้เป็นห่วงมากๆ แต่ว่า เขาไม่กล้าจะเข้าไป
ไม่งั้น เขาจะบังคับตัวเองให้ไม่ทำร้ายเธอไม่ได้
เขากำหมัดแน่น หลิงอี้พิงอยู่ข้างประตู ข้างหูก็ค่อยๆ นึกถึงคำพูดของคุณปู่ “จะใจอ่อนไม่ได้”
ไม่ว่ากับใครเขาก็ไม่ใจอ่อน แต่เวินจิ้ง เขาทำไม่ได้
อยู่ๆ ด้านนอกประตูก็มีเสียงลอดเข้ามาทำให้เขาดึงสติกลับมา ขมวดคิ้ว เขารู้ได้ทันทีเลยว่าคือมู่วี่สิง
แต่ว่าประตูบานนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว นอกจากจะมีกุญแจ ไม่งั้นทั้งด้านนอกด้านในก็เปิดไม่ออก
เวินจิ้งได้ยินเสียงอย่างอัตโนมัติ ดวงตาลุกวาว ไม่สนใจว่าจะรู้สึกไม่สบายตัว จากนั้นเธอก็เดินโซเซออกมา
หลิงอี้ขวางเธอไว้ “เธอออกไปไม่ได้”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย!”
พอเสียงหมด เวินจิ้งก็เดินไปที่ข้างประตู แล้วใช้แรงทุบประตู “มู่วี่สิง ฉันโดนขังไว้”
“เด็กดี รอฉันก่อนนะ” น้ำเสียงของมู่วี่สิงถึงแม้จะดูเข้ม แต่พอฟังดีๆ ก็ดูเหมือนมีความตื่นตระหนกอยู่เล็กน้อย
ประตูบานนี้จัดการไว้อย่างดี เขาโทรหาเกาเชียน สั่งให้เขาพามืออาชีพมาที่นี่
“มู่วี่สิง ฉันคิดถึงนาย……” เวินจิ้งพูดเสียงอ่อย นั่งลงบนพื้น ไฟในตัวเธอกำลังจะเผาเธอจนหมดสติ
โดนคนใกล้ตัวจัดการ ทำไมต้องเป็นคุณตาด้วย……
หลิงอี้ได้ยินเสียงที่ปวดใจของเธอ ทนไม่ไหว เขาจึงพยุงเธอขึ้น
“คืนนี้เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
เวินจิ้งสะบัดเขาออกอย่างเย็นชา “อย่ามาแตะตัวฉัน!”
“ถ้าเธออยากจะออกไป ยังมีอีกวิธีนึง” หลิงอี้หรี่ตา
เขาลากเธอไปที่โซฟา บนโต๊ะมีหนังสือข้อตกลงอยู่หนึ่งฉบับ
“ถ้าหากเธอยอมเซ็นต์ข้อตกลงหย่านี้ ฉันมีทางให้เธอออกไป”
เวินจิ้งมองต่ำใบหน้าซีดเผือด
หนังสือการหย่า………
เธอหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “นี่คือเป้าหมายของพวกนายใช่มั้ย หลิงอี้ นายจะบังคับฉัน?”
“ฉันไม่ได้บังคับเธอ งานแต่งงานของเธอกับมู่วี่สิงที่จริงมันเป็นเรื่องผิดพลาด เขาขอเธอแต่งงาน ตั้งแต่ต้นจนจบเขาแค่หลอกใช้เธอ!”
“แล้วมันยังไง ฉันรักเขา!” เวินจิ้งพูดแทรกเขาอย่างเย็นชา
ขณะนี้ เธอไม่มีสติแล้ว
ไม่ว่าจะยังไง เธอก็ยอมเชื่อใจเขาทั้งนั้น เพราะว่าเธอรักเขา
หลิงอี้ถึงกับสั่น ความโกรธในสายตากำลังจะระเบิดออกมา
เธอยังกล้า……รักมู่วี่สิง?
เธอเป็นไปได้ยังไง……….
ความเจ็บปวดในสายตาก็เริ่มจะเอ่อล้นออกมา เขากำหมัดแน่น
ที่ระเบียง ร่างสูงค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ ได้ยินที่เวินจิ้งพูด ปากบางของมู่วี่สิงก็ค่อยๆ ยกยิ้มขึ้น
เกือบจะในพริบตา เขาก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วคล้องคอของหลิงอี้เอาไว้ แล้วเหวี่ยงเขามาอยู่ที่ข้างตัว
พอหลิงอี้รู้สึกตัว เขาก็ตอบโต้มู่วี่สิง แล้วผู้ชายทั้งสองก็เริ่มชกต่อยกัน
เวินจิ้งอึ้งอยู่นาน มู่วี่สิงเมื่อกี้เขา……เข้ามาทางระเบียง?
เขาปืนขึ้นมาเหรอ?
พอตั้งสติได้ เวินจิ้งก็เข้าไปขวางที่ด้านหน้าของมู่วี่สิง
“หลิงอี้ นายพอได้แล้ว” เวินจิ้งพูดเสียงเข้ม
พอเมื่อเข้าใกล้มู่วี่สิง ไฟในตัวเธอก็เริ่มลุกโชนขึ้น
คันจัง อยากได้
แต่ว่า เธอต้องใจเย็นไว้
หลิงอี้หรี่ตาลง “เวินจิ้ง เธอคิดว่าเขาจะพาเธอไปได้เหรอ? เธอโดนวางยาแบบพิเศษนะ ถ้าหากฉันไม่ให้ยาถอนพิษเธอ สามวันนี้ เธอจะยิ่งทรมานมากขึ้นนะ”
“นายมันไอ้สารเลว!” เวินจิ้งโกรธจัดจนสะบัดมือไปทางหลิงอี้
เขาหลบมันอย่างใจเย็น
สายตาขุ่นมัวมองไปที่เวินจิ้ง เขาพูดเสียงเข้ม “คุณปู่ต้องการให้พวกเธอหย่าให้ได้ เวินจิ้ง ท่านทำเพื่อเธอนะ ขอแค่พวกเธอเซ็นต์ใบหย่า ฉันจะให้ยาถอนพิษกับเธอ”
“หลิงอี้ นายกล้ามาก” เสียงชั่วร้ายของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น
มองไปที่เอกสารการหย่าบนโต๊ะ เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วก็ฉีกมันออกอย่างแรง
เขาโอบไหล่ของเวินจิ้ง และพาเธอออกไปโดยไม่ได้พูดอะไร
หลิงอี้หรี่ตา มองไปทางเศษกระดาษนั่น ปากบางก็ยกยิ้ม “เวินจิ้ง แล้วการตัดสินใจของเธอล่ะ?”
แต่ว่า เวินจิ้งไม่ได้ให้คำตอบใดๆ กับเขา
เธอกอดมู่วี่สิงไว้ เธออดใจไม่ไหวแล้วจูบเขาอย่างดุเดือด
มู่วี่สิงดันเธอไปที่ขอบระเบียงอย่างไหลลื่น เธอเขย่งปลายเท้าขึ้น อยากได้ยิ่งกว่านี้มากกว่านี้……
หลิงอี้สีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชา แล้วหันหน้าหนีอย่างโมโห
ประตูบานนี้ มีแค่หลินเจิ้นเท่านั้นที่เปิดได้
ถ้าไม่ออกไป ก็ทำได้แค่เป็นผู้ชมอยู่ที่นี่
แต่ว่า เขาก็ไม่มีทางเลือก
ตอนนี้ที่เขามี ก็แค่ยาถอนพิษ
พอเห็นมู่วี่สิงกับเวินจิ้งนัวเนียอยู่ด้วยกัน เขาก็หันหลังให้
“พวกนายจะเอากันแบบนี้ไม่ควบคุมหน่อยเหรอ?” หลิงอี้พูดอย่างโมโห
“ถ้าหากคุณหลิงยินดีที่จะให้ยาถอนพิษ มันคงจะดีมาก” เสียงของมู่วี่สิงดังขึ้น
พอเห็นดวงตาที่มีเสน่ห์ของเวินจิ้ง เขาจะอดทนได้ยังไง
ถ้าเธอยั่วยวนอีกครั้ง ต่อหน้าเธอ เขาไม่เคยมีแรงควบคุมตัวเอง
เกาเชียนพาคนมาเพื่อจะงัดประตูแล้ว แต่ก็ไม่เห็นความเคลื่อนไหวใดๆ ถ้าหากไม่ได้โดนขวางไว้ด้านนอก งั้นประตูบานนี้ก็โดนปิดตายแล้ว
คิ้วเขาเลิกขมวด จากนั้นก็กดโทรศัพท์หาเกาเชียน
“มาที่สวนดอกไม้ด้านหลัง”
“มู่วี่สิง…….ฉันทรมานจัง…….” เวินจิ้งกำเสื้อเชิ้ตของเธอแน่น ตอนนี้ไม่ได้ยินเสียงรอบข้างแล้ว
สติสุดท้ายก็เหลือแค่ผู้ชายที่อยู่ข้างหน้า ทำให้เธอพอใจได้มั้ย…….
บีบคิ้วอยู่สักครู่ แล้วมู่วี่สิงก็จับแขนของเวินจิ้งไว้ เพื่อหยุดการกระทำของเธอ
“เด็กดี อดทนหน่อยนะ”
“ทนไม่ไหวแล้ว!”
พอพูดจบ เวินจิ้งก็ทนไม่ไหวจึงกระชากกระโปรงของตัวเองออก……
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว แล้วรีบถอดเสื้อคลุมมาคลุมร่างกายให้เธอทันที
หลิงอี้ถึงแม้ว่าจะหันหลังให้อยู่ แค่ที่ระเบียงมีเสียง เขาก็รู้เรื่องอย่างชัดเจน
ผู้หญิงที่เขาชอบ กำลังอยู่ในอ้อมแขนของชายอื่น
“คุณมู่ นายหายาถอนพิษไม่เจอหรอก” หลิงอี้พูดเสียงเข้ม
“ไม่ต้องให้คุณหลิงลำบากหรอก ในเมื่อคุณไม่ยอมให้ ผมก็แค่เสียเวลาคิดหาทางนิดหน่อย”
“นายจะทำร้ายเธอ นายรู้อะไรมั้ย ถ้าผ่านสามวันนี้ไปไม่ได้ เธอจะ……” สีหน้าของหลิงอี้ดูรีบร้อน
เขาเดินเข้ามา การสูญเสียเวินจิ้งทำให้ใจของเขาเจ็บปวด
คุณปู่บังคับให้เวินจิ้งกับมู่วี่สิงหย่ากันอย่างโหดร้าย ไม่แม้แต่ลังเล ที่จะทำร้ายเวินจิ้ง
นี่ก็คือวิธีการของหลินเจิ้น ขอแค่ให้ได้มา จะทางไหนก็ทำได้ไม่เลือก
“นายก็รู้ถึงผลลัพธ์ งั้นก็ส่งยามา!” มู่วี่สิงหรี่สายตาอาฆาต
“เซ็นต์ใบหย่า แล้วฉันจะให้นาย” พอพูดจบ หลิงอี้ก็หยิบเอกสารการหย่าฉบับใหม่ขึ้นมา
มู่วี่สิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ฉันจะไม่หย่ากับเวินจิ้ง”
“ถึงแม้เธอจะมีอันตราย ถึงแม้ว่า……เธอจะตาย? นายก็ไม่ยอมหย่าเหรอ?” หลิงอี้โกรธจัด จนกระชากคอเสื้อของมู่วี่สิง
แต่ว่าเขาเผชิญหน้ากับหลิงอี้ อย่างใจเย็น
อย่างไรก็ตามคำว่าตายคำนี้ มันทำให้เขาเริ่มสับสน
เขาไม่ได้ตอบกลับ
เขารู้ ว่าวิธีการของหลินเจิ้นเป็นยังไง หลายปีก่อนเขาก็เคยได้ยินมา
ก็แค่คิดไม่ถึง ว่าจะใช้มันกับเวินจิ้ง
“นายสามารถพาเธอกลับไปได้ แต่ว่าพรุ่งนี้ นายก็ต้องพาเธอกลับมาอยู่ดี” หลิงอี้พูดยืนยัน
มู่วี่สิงหันกลับ เกาเชียนมาถึงแล้ว เขากอดเวินจิ้งไว้แล้วลงมาจากระเบียง ตอนที่ลง เขากอดเอวบางของเธอไว้ ให้เวินจิ้งนอนอยู่บนร่างเขา