บทที่ 303 สงสัย
กลางคืนเวินจิ้งถึงจะตื่นขึ้นมา อั้ยเถียนคุยมือถืออยู่ในห้อง กลับไม่ได้เฉินเซียว
เวินจิ้งอึ้ง เธอรู้ว่าคนที่คุยสายกับอั้ยเถียนคือใคร
เสี้ยงหง
เมื่อเห็นเวินจิ้ง ในไม่ช้าอั้ยเถียนก็วางสาย
เมื่อครู่น้ำเสียงของอั้ยเถียนนั้นออดอ้อน และสนิทสนมกันมาก
เธอก็ไม่อยากปิดบังเวินจิ้ง
“เป็นเสี้ยงหง”
“เธอกับเขา ตอนนี้เป็นอะไรกัน?” เวินจิ้งถามอย่างกังวล
“เฮ้อ อาจจะเป็นเพื่อน” อั้ยเถียนนอนลงมา
“ความคิดของเขา เธอยังไม่ชัดเจนเหรอ?” เวินจิ้งขมวดคิ้ว
เสี้ยงหงมีคู่หมั้น อีกอย่างงานแต่งของพวกเขาก็ไม่สามารถถอนได้
“เขา…เวินจิ้ง ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีแบบนี้ ที่จะสามารถอยู่กับคนที่รักได้” อั้ยเถียนพูดอย่างเสียใจ
“แล้วเฉินเซียวล่ะ?”
“เขาเป็นสามีของฉัน ฉันรู้มาโดยตลอด”
“เขาชอบเธอไหม?” เวินจิ้งถาม
ถ้าชอยอั้นเถียน แล้วทำไมเวลาของเขาอยู่แต่กับงาน และแยกไม่ออกที่จะให้เวลาเพียงน้อยนิดมาอยู่กับอั้ยเถียน
ถ้าหากไม่ชอบ…
การแต่งงานครั้งนี้ยิ่งบิดเบือน
อั้ยเถียนเงียบ เป็นเวลานาน ถึงจะพูดเบาๆ “ขอแค่องค์กรของเราทั้งสองสามารถแข็งแกร่งได้ ฉันจะชอบเขาไหม และเขาจะชอบฉันไหมแล้วจะเกี่ยวอะไร การแต่งงานของเรา เพียงเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของครอบครัว”
“ฉันรู้ เพียงแต่เมื่อเป็นเวลานาน นี่เป็นสิ่งที่เธอพูดกับฉันไม่ใช่เหรอ? บางที เธออาจจะชอบเขา”
“ไม่มีทาง และไม่มีวันนั้น” อั้ยเถียนส่ายหน้า
หัวใจของเธอไม่อิสระอีกต่อไป
กลางคืน เรื่องที่ทั้งสองคนคุยกัน เวินจิ้งกระฉับกระเฉงมาก แต่อั้ยเถียน ดื่มเหล้าไม่น้อยเลย ไม่นานก็เมา
มือถือของเธอดังขึ้นตลอด เป็นสายของเฉินเซียว
ปลุกอี้ยเถียนไม่ตื่น เวินจิ้งจึงไม่ได้รับสาย
จนกระทั่งวันถัดไป ท้องฟ้าค่อยๆสว่างขึ้นมา
ข้างนอกมีเสียงเคาะประตู เวินจิ้งในใจรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนัก คงไม่ใช่คนของตระกูลหลิน?
เธอมองออกไปจากช่องตาแมว เป็นเฉินเซียวนั่นเอง
เธอเปิดประตูออกช้าๆ ยังไม่ได้พูด เฉินเซียวก็พุ่งเข้ามา
“เธอคือ?” เฉินเซียวรู้สึกแปลกใน
“อั้ยเถียนล่ะ”
“เธอยังไม่ตื่น”
เมื่อเห็นว่าเฉินเซียวจะเข้าไป เวินจิ้งอยากจะขวางเขาไว้ เพียงแต่เขาเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าบนเตียงมีแค่อั้ยเถียน สายตาโกรธของเขาค่อยๆลดลง
“ผู้ชายคนนั้นล่ะ?” เฉินเซียวถาม
เวินจิ้งขมวดคิ้ว และถามอย่างสงสย “ผู้ชายคนไหน?”
“ผู้ชายที่นอนกับเธอ”
“เฉินเซียว คุณพูดบ้าอะไร ที่นี่มีแค่ฉันกับอั้ยเถียน!” เวินจิ้งถามด้วยความโกรธ
หรือว่าเฉินเซียวสงสัยอั้ยเถียน…
เธอขวางอยู่ตรงหน้าอั้ยเถียน “ตัวคุณเองที่ไม่อยู่กับอั้ยเถียน มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้เหรอ?”
“เธอก็รู้จักผู้ชายคนนั้นใช่ไหม?” เฉินเซียวหรี่สายตา ทันใดนั้นก็คว้าคอเสื้อของเวินจิ้งอย่างแรง ดวงตาของเขากดขี่ข่มเหง
เวินจิ้งหยุด และพูดอย่างใจเย็น “ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไร”
“งั้นเหรอ?” เขาหันไปมองอั้ยเถียนที่นอนอยู่บนเตียง ยกมือขึ้นเพื่อจะเลิกผ้าห่มออก
แต่อั้นเถียนก็รีบลืมตาขึ้นมา มองเขาด้วยความเย็นชา
เธอหัวเราะ “ขอโทษ ที่คุณจับไม่ได้ว่าฉันสวมเขา”
สีหน้าของเฉินเซียวเย็นชา ยกมือขึ้นมาบีบคอของอั้ยเถียนแรงๆ
อัเยเถียนไม่ต่อต้าน และมองเขาด้วยความเย็นชา
แต่เวินจิ้งเป็นห่วงมาก อยากจะผลักเฉินเซียวออก แต่กำลังของตัวเองสู้เขาไม่ไหว
“เฉินเซียว คุณปล่อยมือนะ!”
“อั้ยเถียน ฉันเคยบอกแล้ว อยู่อย่างสันติภาพ เธอก็ไม่ฟัง!” สายตาของเฉินเซียวลุกเป็นไฟ
“ฉันและเพื่อนมาพักผ่อน ยังไม่ถือว่าสันติภาพอีกเหรอ?”
“ผู้ชายคนนั้นต้องอยู่แน่นอน!” เฉินเซียวพูดอย่างมั่นใจ
“ถ้าหากคุณคิดว่าเขาอยู่ งั้นก็อยู่” อารมณ์ของอั้ยเถียนนั้นธรรมะธัมโมจริงๆ
เวินจิ้งดูออก เธอชินตั้งนานแล้ว
“คุณไปตรวจเช็คกล้องวงจร และข้อมูลการเช็คอินก็มีแค่ฉันกับอั้ยเถียน” เวินจิ้งพูดอธิบาย พยายามลดความโกรธของเฉินเซียว
“เธอเป็นหน้ากาก ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก”
“เฉินเซียว คุณบีบฉันให้ตาย หรือไม่ก็ไสหัวออกไป!” อั้ยเถียนพูดเยือกเย็น
“เธอคิดว่าฉันไม่กล้าบีบเธอให้ตาย!” เฉินเซียวหรี่สายตา ฝ่ามือใหญ่บีบแน่นขึ้น
เวินจิ้งรีบหยิบมือถือ เธอจะแจ้งตำรวจ!
ไม่ควรให้เฉินเซียวก่อเรื่องลงไป!
เมื่อสังเกตถึงความเคลื่อนไหวของเวินจิ้ง เฉินเซียวถึงจะคลายมือออก
“กลับบ้านกับฉัน” เขาจับข้อมือของอั้ยเถียน
“ตอนนี้ฉันยังไม่อยากลับไป” อั้ยเถียนไอตลอด เมื่อครู่เฉินเซียวอยากจะบีบเธอให้ตายจริงๆ
เธอไม่อยากกลับไป…
เวินจิ้งได้โทรหาหน้าฟร้อนด้านล่างแล้ว ในไม่ช้าก็มีรปภ.ขึ้นมา
เพียงแค่เห็นว่าเป็นเฉินเซียว กลับไม่กล้าเข้าใกล้
ที่แท้โรงแรมนี้เป็นขององค์กรของเฉินเซียว
“เฉินเซียว คุณใช้สมองบ้าง ถ้าหากฉันเล่นชู้จริงๆ จะอยู่ที่โรงแรมของคุณเหรอ?” อั้ยเถียนพูดเสียงเย็น
เฉินเซียวหรี่สายตาลงอย่างรุนแรง ในที่สุดอารมณ์ก็อ่อนลงไม่น้อย
เขามองที่ไปเวินจิ้ง สายตาเย็นชา
“พรุ่งนี้กลับมาบ้านเก่าทานข้าว”
เสียงสิ้นสุด ก็ออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่เหลียวมองอั้ยเถียนสักนิด
อั้ยเถียนมองเวินจิ้ง ยิ้มอย่างขมขื่น “ทำให้เธอตกใจใช่ไหม?”
“เขาเป็นแบบนี้ตลอดเหรอ?” เวินจิ้งถามอย่างเป็นห่วง
“บางครั้ง มีครั้งหนึ่งเขาได้ยินว่าฉันคุยกับเสี้ยงหง เขาก็รู้แล้ว”
“แล้วหลังจากนั้นล่ะ เธอก็ปล่อยให้เขาทำแบบนี้ต่อไป? ทำให้เสียชีวิตได้”
ความโกรธเมื่อครู่ของเฉินเซียว เธอรับรู้ได้อย่างชัดเจน
เขาต้องการบีบอั้ยเถียนให้ตายจริงๆ
“เขาไม่บีบฉันให้ตายหรอก วางใจได้”
“เถียนเถียน ออกไปจากเขาดีไหม?” เวินจิ้งนั่งลงข้างเธอ ตบไหล่ของเธออย่างปลอบโยน
เมื่อได้ยินที่พูด อั้ยเถียนส่ายหน้า “ทำไมได้”
…
เพราะดหตุการณ์ที่วุ่นวายนี้ ทั้งสองจึงไม่มีกะจิตกะใจพักผ่อน อีกอย่างอั้ยเถียนต้องกลับตระกูลเฉิน วันรุ่งขึ้นจึงออกจากรีสอร์ตแต่เช้า
เวินจิ้งก็คิดไว้ว่าจะกลับหนานเฉิงแล้ว
สนามบิน อั้ยเถียนมาส่งเธอ
“เธอกลับไป ก็ไม่รู้จะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่” อั้ยเถียนรู้สึกเสียดาย
“เถียนเถียน แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าฉันวุ่นวาย แต่ฉันก็อยากให้บทเรียนกับเธอ ว่าออกไปจากเฉินเซียว”
ผู้ชายคนนั้น มีความกดขี่ข่มเหง
แม้ว่าเขาจะออกเดินทางเพื่อธุรกิจประจำ แต่ก็ต้องมีช่วงที่อยู่บ้าน
เธอไม่รู้ว่าอั้ยเถียนอดทนมาได้ยังไง
รู้สึกเจ็บปวดแทนเธอ
เมื่อตรวจสัมภาระเสร็จ เวินจิ้งนั่งอยู่หน้าจุดเช็คอิน เวลานี้ มีบอดี้การ์ดนับสิบคนวิ่งเข้ามาล้อมเวินจิ้งไว้
“คุณหนู คุณนายมีคำสั่ง ให้คุณไปโรงพยาบาลด่วน”
“ฉันจะกลับประเทศแล้ว” เวินจิ้งไม่สนใจ
แต่บอดี้การ์ดขวางไว้ เธอก็ไม่สามารถเช็คอินได้
“ขออภัยครับ คุณหนู”
สิ้นสุดคำพูด บอดี้การ์ดสองคนจับไหล่ของเวินจิ้งบังคับให้ตามไป
“ปล่อยฉัน!” เวินจิ้งดิ้นรนอย่างโกรธ
แต่ยังไงก็สะบัดสองคนที่จับเธอไว้ไม่ออก
“ฉันไม่ไป! ปล่อยฉันนะ!” เวินจิ้งหันหัว และก้มหัวลงกัดแขนของบอดี้การ์ดหนึ่งในสองคน
บอดี้การ์ดปล่อยมือออกเล็กน้อย เวินจิ้งรีบวิ่งไปยังฝ่ายสอบถาม
“ฉันต้องการความช่วยเหลือ พวกเขาจะลักพาตัวฉัน” เวินจิ้งพูดเสียงเบา
“ขออภัย คุณผู้หญิง” พนักงานขมวดคิ้วอย่างลำบากใจ
ด้านบนได้แจ้งลงมาแต่แรกแล้ว ว่าไม่ให้เข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้