Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 317

ตอนที่ 317

บทที่317 รับผิดชอบเรื่องนี้เพื่อเธอ

เวินจิ้งหันหลังกลับไม่ได้ไปหาไป๋สือ แต่กลับรีบวิ่งไปยังสถานีวิทยุกระจายเสียงของมหาวิทยาลัยแทน

ขณะนี้เป็นเวลาในตอนเช้า สถานีวิทยุมีเพียงแต่นักศึกษาปฏิบัติหน้าที่อยู่เท่านั้น เมื่อเห็นเวินจิ้ง พลางมองเธอด้วยสีหน้าบึ้งตึง “เธอยังเข้ามาที่ได้อีกยังไง……ไม่ใช่คนของมหาวิทยาลัยเรา ห้ามเข้ามา!”

“ฉันยังไม่ถูกมหาวิทยาลัยไล่ออก” พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งลึก

“เธอจะทำอะไร!” นักศึกษาเริ่มหงุดหงิดมากขึ้น

“ฉันขอแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น” พูดจบ เวินจิ้งได้พูดออกอากาศ

ในขณะนี้ ทุกคนในมหาวิทยาลัยต่างก็ได้ยินสิ่งที่เธอพูด

“เพื่อนทุกคนและอาจารย์ทุกท่าน ฉันเวินจิ้ง ฉันรู้ช่วงนี้วุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องการโกงข้อสอบของฉัน แต่ฉันขอชี้แจง ณ ที่นี้ว่า ไม่ว่าจะเป็นตอนนี้หรือก่อนหน้านี้ ฉันไม่เคยละเมิดกฎระเบียบใดๆทั้งสิ้น ฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยหลินไห่ได้ด้วยความสามารถของฉันเอง สำหรับเรื่องทำไมคำตอบในข้อสอบของฉันถึงไปเหมือนกับนักศึกษาอีกคนหนึ่ง ในเมื่อตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานมายืนยันว่าใครเป็นคนโกงข้อสอบ ฉันยินดีที่จะสอบใหม่อีกครั้งกลางสนามกีฬาต่อหน้าผู้คนทั้งหมด!”

พูดจบ เวินจิ้งก็ปิดวิทยุ คำพูดที่เพิ่งพูดออกไป ได้ถูกปลุกเร้าก่อนที่จะพูดออกมา

แต่เธอก็ไม่เสียใจที่ได้ทำลงไป

เพื่อนร่วมชั้นที่อยู่ข้างๆก็ได้อึ่งทึ่ง และความชื่นชมก็ค่อยๆปรากฏผ่านสายตาออกมาเล็กน้อย “เพื่อน เธอโคตรดุดันเลย!”

เวินจิ้งยิ้ม จริงๆแล้ว …… เธอก็ไม่แน่ใจว่าจะยอมรับการตัดสินใจของเธอได้หรือไม่

ตอนนี้เธอต้องรีบไปหาไป๋สือ

“เพื่อน ขอบคุณนะ”

หลังจากที่เวินจิ้งออกไป และเธอก็ได้ไปที่อาคารสำนักงานทันที

และในเวลานี้ อาจารย์ใหญ่ได้จัดการประชุมศาสตราจารย์ในสาขาวิชาต่างๆสำหรับเรื่องนี้โดยทันที

“ฉันไม่เห็นด้วย มหาวิทยาลัยไม่เคยมีตัวอย่างแบบนี้มาก่อน ตอนนี้อาจารย์ที่คุมสอบแสดงให้เห็นชัดแล้วว่า ขณะที่สอบเวินจิ้งมีพฤติกรรมที่ผิดปกติ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอได้ทำการโกงข้อสอบ”

“เย่เฉียว ถึงแม้ว่าเวินจิ้งมีพฤติกรรมผิดปกติขณะสอบ แต่ฉันไม่คิดว่าเขาจะโกงข้อสอบ ในเมื่อตอนนี้เธอเต็มใจที่จะให้คุมสอบใหม่อีกครั้ง งั้นให้โอกาสเธออีกครั้งเถอะ” ไป๋สือกล่าว

“ศาสตราจารย์ไป๋สือ ฉับทราบว่าเธอเป็นนักศึกษาของคุณ คุณต้องเข้าข้างเธออยู่แล้ว แต่ว่ามหาวิทยาลัยไม่เคยมีกฎแบบนี้มาก่อน!”

“จริงด้วย ศาสตราจารย์ไป๋สือ ทำแบบนี้ไม่ค่อยจะเหมาะสมกับกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยเท่าไหร่นัก” อาจารย์ใหญ่ก็ไม่เห็นด้วย

“และเวินจิ้งได้พูดออกอากาศโดยไม่ได้รับความยินยอมจากหัวหน้ามหาวิทยาลัย มันก็เป็นการเพิกเฉยต่อกฎของมหาวิทยาลัยด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องถูกลงโทษ!”

“เย่เฉียว คุณไปจัดการเรื่องนี้ และอย่าปล่อยให้เวินจิ้งได้ก่อเรื่องใหญ่อีก”

………….

เมื่อเวินจิ้งได้มาถึงออฟฟิศของไป๋สือ เขาเพิ่งเสร็จจากการประชุม

“เมื่อเห็นเวินจิ้ง เขาได้ยิ้ม “ดูเหมือนว่านักเรียนที่ฉันรับมาไม่ธรรมดา”

เธอเป็นคนแรกที่กล้าพูดต่อหน้าอาจารย์และนักเรียนในมหาวิทยาลัย

สิ่งที่เวินจิ้งเพิ่งพูดผ่านวิทยุกระจายเสียงออกไปนั้น ตอนนี้ได้ทราบทั่วทั้งมหาวิทยาลัยแล้ว

“ยังไม่อยากออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน ทั้งๆที่ไม่มีความผิด ศาสตราจารย์ ฉันมั่นใจในความสามารถของฉัน”

“อย่างไรก็ตาม อาจารย์ใหญ่ได้ปฏิเสธคำร้องขอของเธอแล้ว” ไป๋สือกล่าว

ได้ยินดังนั้น เวินจิ้งขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่าได้คิดถึงการตัดสินใจในครั้งนี้ เมื่อได้ยินแล้ว เธอก็คงจะผิดหวัง

“ศาสตราจารย์ ฉันยังมีโอกาสอีกไหม” เวินจิ้งถามอย่างกังวล

“อืม แล้วไม่มีใครเตรียมอะไรให้เธอเหรอ” ไป๋สือมองไปยังสนามกีฬาข้างนอก

เวินจิ้งมองออกไปนอกหน้าต่าง และไม่คาดคิดว่ามีนักศึกษาบางคนได้เอาโต๊ะและเก้าอี้มาวางไว้แล้ว คนที่ออกข้อสอบคือรุ่นพี่ของสาขาประสาทวิทยา

ไป๋สือได้เดินไปมาและพูดว่า “ฉันเพิ่งได้ติดต่อกับสาขาประสาทวิทยา การสอบของเธอและหลี่หมิงจะมีวันนี้ช่วงบ่าย นักศึกษาทั้งหมดของมหาวิทยาลัยจะมาคุมสอบ”

“ศาสตราจารย์ไป๋ ขอบคุณมากค่ะ” เวินจิ้งเกือบหายใจไม่ออก

ไม่คิดว่าคำขอที่ได้ถูกอาจารย์ใหญ่ปฏิเสธ แต่ไป๋สือยังสามารถช่วยเหลือเธอได้อย่างแน่วแน่

“อย่าขอบคุณไปก่อน ถ้าหากคะแนนของเธอแย่กว่าหลี่หมิงหละก็ แสดงว่าเธอก็เหมือนตบหน้าฉันแล้วจริงๆ”

“ศาสตราจารย์ไป๋ ขอให้เชื่อมั่นในตัวฉัน” เวินจิ้งยิ้ม และพูดอย่างมั่นใจ

เมื่อลงมาที่สนามกีฬา เวินจิ้งเห็นร่างสองคนที่คุ้นเคย คือ หลิงเหยาและหลิงอี้

หลิงเหยาไม่ใช่นักศึกษาของ สาขาวิชาประสาทวิทยา แต่สุดท้ายแล้วนักศึกษาสาขาเดียวก็มีกำลังคนที่จำกัด นักศึกษาจากสาขาวิชาอื่นๆก็มาช่วยด้วยเช่นกัน

“เวินจิ้ง เธอมาตอนนี้ไม่ได้นะ ตอนนี้รุ่นพี่ของเธอกำลังออกข้อสอบ” หลิงเหยาได้เดินมา

เวินจิ้งยิ้ม “หลิงเหยา ลำบากพวกเธอแล้ว”

“โอเค พี่ชายฉันเหนื่อยกว่า เขาไม่ได้ออกไปไหนจากมหาวิทยาลัยเลย กำลังพยายามหาหนทางให้เธอหน่ะ” หลิงเหยามองพี่ชาย ทำไมก่อนหน้านี้ไม่ได้รู้สึกหลงรักพี่ชายเธอกันนะ

ได้ยินดังนั้น เวินจิ้งก็ตกตะลึง สำหรับหลิงอี้แล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะคิดเห็นอย่างไรต่อเขา

“พูดอะไรถึงฉันเหรอ” เห็นหลิงเหยายิ้มอย่างมีเลศนัย เมื่อหลิงเข้ามา

“กำลังพูดให้พี่ดูดีแหละ เอาล่ะ พี่ไปเป็นเพื่อนเวินจิ้งเถอะ ฉันจะไปทำธุระต่อ”

“หลิงอี้ คุณรีบกลับบริษัทเถอะ เรื่องนี้ทำให้คุณต้องมาเสียเวลามากไปแล้ว” เวินจิ้งพูดอย่างรู้สึกผิด

เธอไม่ได้หวังให้หลิงอี้มาช่วยเธอ แต่ไหนแต่ไรมาทั้งสองก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกัน

“ผมเต็มใจ อีกทั้งช่วงนี้บริษัทไม่ได้มีเรื่องอะไรมาก รอคุณสอบใหม่เสร็จเรียบร้อย ผมโล่งใจก็จะกลับไปทำงาน”

“หลิงอี้ ……”

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว รับผิดชอบเรื่องนี้เพื่อคุณ ผมก็ไม่คิดว่ามันเป็นการเสียเวลา”

…………..

ในตอนเช้ายังไม่ได้กินอะไร เวินจิ้งจึงไปโรงอาหารเพื่อซื้อของกิน

ขณะที่เธอได้ออกนอกประตู ก็เผชิญกับเสียงเหน็บแนมและยั่วเย้าต่างๆนาๆ เมื่อได้ซื้ออาหารเช้าและนั่งลง เวลานี้สองร่างก็เข้ามาอยู่ฝั่งตรงกันข้าม นั่นก็คือ ตู้ลี่เฉิงและหลี่หมิง

เวินจิ้งขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

“เธอนี่เป็นผู้หญิงที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ยังกล้าจะสอบใหม่อีกเหรอ ฉันเกรงว่าการสอบช่วงบ่ายของเธอจะไม่ผ่านหน่ะสิ จะต้องขายหน้าแน่ๆ” ตู้ลี่เฉิงพูดเหน็บแนบ

“ตู้ลี่เฉิง นี่ฉันยังไม่นับเรื่องที่เธอขังฉันอยู่ในบัญชีของห้องเครื่องอุปกรณ์นะ ถ้าฉันสอบไม่ผ่าน ฉันจะฟ้องเธอแน่”

“เหอะ เธออย่ามาพูดมั่วซั่ว จะมาให้ฉันจ่ายค่าเละเทะอะไรกัน” ถึงตายตู้ลี่เฉิงก็ไม่ยอมรับ

“เวินจิ้ง เธอควรยกเลิกการสอบซะเถอะ ถ้าหากคะแนนของฉันสูงกว่าเธอเกินไป ก็จะน่าเกลียด ฉันไม่อยากรังแกเด็กผู้หญิงนะ” น้ำเสียงของหลี่หมิงได้ผ่านเข้ามา

ได้ยินดังนั้น เวินจิ้งยิ้ม “แต่ฉันคงหวังว่าเธอจะสามารถรังแกฉันได้หน่ะสิ หลี่หมิง”

สีหน้าของหลี่หมิงเริ่มซีดเซียว

“หลี่หมิง เธออย่าได้กลัวผู้หญิงคนนี้ไปเลย ฉันเชื่อว่าเธอเพียงแค่ชั่ววินาทีเธอก็สามารถกำจัดเขาได้”

“ฉันจะคอยดู” เวินจิ้งไม่ได้สนใจทั้งสองอีก

………….

ในตอนบ่าย เวินจิ้งมาถึงสนามกีฬาตรงเวลา

มีโต๊ะสองตัวอยู่กลางสนาม ซึ่งอยู่ห่างกันมาก

นักศึกษาจำนวนมากได้มารวมตัวกันล้อมรอบ บนเวทีสูงที่อยู่ไม่ไกล มีไป๋สือนั่งอยู่ตรงกลาง และยังมีศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยาหลายคนด้วยเช่นกัน

การสอบครั้งนี้เป็นคำถามที่ออกโดยนักศึกษาของสาขาด้านประสาทวิทยา แต่ท้ายที่สุดแล้วการเลือกหัวข้ออะไรมาเป็นคำถามในการสอบ ศาสตราจารย์จะเป็นคนตัดสินเอง เพื่อแสดงถึงความยุติธรรม

และในเวลานี้ ภายในอาคารสำนักงาน

อาจารย์ใหญ่มองดูสถานการณ์ที่สนามกีฬา สีหน้าเขาดูไม่ดีเลย

“อาจารย์ใหญ่ ตอนนี้ไป๋สืออยู่ในฐานะผู้อาวุโสมากพอและกล้าที่จะเพิกเฉยต่อเธอแล้ว” เย่เฉียวพูดข้างๆอย่างโกรธเคืองข้างๆ

“ตอนนี้นักศึกษาต่างก็หายไปแล้ว ฉันก็ห้ามไม่ได้” อาจารย์ใหญ่ส่ายหัว

“ฉันจะไปหยุดสนามสอบครั้งนี้”

“ไม่จำเป็น ถ้าตอนนี้คุณออกไป ก็จะทำให้นักศึกษารู้สึกว่าเราไม่ได้จัดการกับเรื่องนี้อย่างเป็นกลาง”

“อาจารย์ใหญ่ …….”

“คุณออกไปเถอะ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท