Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 292

ตอนที่ 292

บทที่ 292 ยินดีจะเสียเวลาไปพร้อมกับเธอ

วันที่จะกลับหนานเฉิงใกล้เข้ามาแล้ว เวินจิ้งอยู่เป็นเพื่อนคุณตาทุกวัน

อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดของคุณตา เวินจิ้งก็เพิ่งจะรู้เมื่อเร็วๆ นี้เอง

ตระกูลหลินไม่ได้วางแผนจัดงานอะไรใหญ่โต แค่อยู่บ้านอวยพรวันเกิดให้ท่าน

พอคิดว่าจะให้ของขวัญคุณตา เวินจิ้งก็ถึงกับปวดหัว จึงให้อั้ยเถียนช่วยออกความคิดเห็น

“เธออยู่ที่ประเทศBเหรอ? น่าเสียดายที่ฉันยังไม่ได้กลับไป ฉันได้ยินว่าที่นั่นมีร้านหนึ่งซื้อยาที่ทำจากโสม คุณตาเธอสบายดีมั้ย ให้ฉันส่งยาดีๆ ไปให้เขาดีมั้ย น่าจะพอมีประโยชน์นะ”

เวินจิ้งนิ่งไป เรื่องนี้เธอไม่เคยคิดเลย

ข้างๆ คุณตามีหมอประจำตัวคอยดูสุขภาพท่าน เธอไม่เคยนึกถึงเลย

หลังจากวางสายไป เธอจึงไปหาหมอเพื่อถาม ระยะนี้เขาก็กำลังหาส่วนผสมยา หวังว่าจะทำให้คุณตาสู้ไปได้อีกสักระยะ

“คุณเวิน ถ้าหากคุณหาเจอคงจะดีมากจริงๆ ”

เวินจิ้งรับห้องมา รอให้มู่วี่สิงกลับมา แล้วเธอจะถามเขาว่าพอจะหาได้มั้ย

มู่วี่สิงพอมีเส้นสาย แถมยังเป็นผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์ คงจะไม่ลำบากมาก

“ยาตัวนี้ มีแค่ในประเทศB รอข่าวจากฉันเถอะ”

“จริงเหรอ?” เวินจิ้งตาเป็นประกาย

ปากบางของมู่วี่สิงกระตุกยิ้ม “ฉันเคยพูด ขอแค่เป็นความต้องการของคุณนายมู่ ฉันก็จะพยายามทำให้ถึงที่สุด”

วันถัดไป มู่วี่สิงเลื่อนงานของช่วงเช้าออกไป แล้วพาเวินจิ้งออกไปข้างนอก

ระยะเวลาที่ทั้งสองมาประเทศBก็ไม่สั้นแล้ว การที่เดินเล่นท่ีนี่ เป็นครั้งแรก

เวินจิ้งเปลี่ยนไปใส่กระโปรงสีขาว แล้วแต่งหน้านิดหน่อย

มู่วี่สิงจับมือเธอ “อยากไปเดทกับฉันมั้ย?”

เวินจิ้งยิ้ม “ใช่สิ คุณมู่จะเป็นเกียรติมั้ย?”

“ด้วยความยินดี” มู่วี่สิงจับหน้าเธอเงยขึ้น แล้วจึงประทับจูบลงไป

ร้านค้าในประเทศBมีอยู่ไม่น้อย ร้านซ่อนอยู่ในตรอกซอกซอย ที่ไม่สะดุดตา

เวินจิ้งหยุดฝีเท้าที่ร้านที่ดูสะอาดและเรียบง่ายร้านหนึ่ง

เมื่อกี้ทั้งสองได้ไปเดินดูร้านยามาหลายร้าน แต่ว่าก็ไม่ใช่ร้านที่มู่วี่สิงหา

เดินเข้าไปในประตูแคบ แสงรอบข้างก็มืด เคาน์เตอร์ทำจากไม้จันทน์เก่าส่งกลิ่นหอมของไม้

กลิ่นยาหอมอ่อนๆ โชยมา กลิ่นที่ชัดเจนนี้ทำให้มู่วี่สิงสูดหายใจเข้าลึก

แล้วจึงเดินตามทางเดินเข้าไปต่อ จนถึงพื้นที่ที่กว้างกว่าเก่าเล็กน้อย สายตาของมู่วี่สิงมองไปที่ตัวอักษรบนลิ้นชักในร้าน

บนชั้นมีหนังสือทางการแพทย์เก่าๆ วางอยู่ ขวดถูกจัดเรียงอย่างประณีตในนั้นเต็มไปด้วยยาสมุนไพรจีน ที่เขาคุ้นเคย

ในร้านมีหญิงชราอยู่ท่านหนึ่ง เธอไม่ได้ทักทายลูกค้า เธอแค่สนใจไปที่กล่องสมุนไพร

ชามหยกขาว เธอใช้ไม้ในมือบดมันไปมาอย่างคล่องแคล่ว หญ้าสีเขียวสดไม่นานก็ถูกบดจนมีน้ำออกมา

มู่วี่สิงนิ่งไปสักพัก แล้วจึงใช้สายตามองลงไปที่ชั้นวางข้างตัวเขา

“สวัสดีครับ ผมอยากจะขอดูขวดนั้นหน่อย”

เวินจิ้งเงยหน้ามองตามมู่วี่สิง มันคือขาวโหลสีฟ้าขาว เขารับมา และเทใบยาในขวดลงบนกระดาษที่อยู่บนโต๊ะหน้าเขาไม่มาก แล้วหยิบขวดโหลขึ้นมาดู

เวินจิ้งไม่เข้าใจ พวกเขาไปเพื่อจะซื้อยา แต่ทำไมมู่วี่สิงยังมองแต่ขวดโหล…..

“มู่วี่สิง ขวดโหลนี้มีอะไรพิเศษเหรอ?”

“ส่วนผสมยาของคุณตา ถ้าหากหาเจอแล้วจริงๆ ก็ต้องเก็บมันไว้ในขวดที่เก็บกลิ่นได้ดีเป็นพิเศษ ไม่งั้นมันจะเน่า”

เวินจิ้งเกินคาด ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้

ทั้งหมดเป็นยาจีน ไม่คิดว่ามู่วี่สิงจะเข้าใจเรื่องนี้ไม่น้อยเลย

“ขวดโหลกระเบื้องลายสีฟ้าขาวนี้ คงถูกเผาเมื่อราชวงศ์ชิงปียงเจิ้ง ลายดอกไม้สีเทาที่เป็นเอกลักษณ์ และคงมีราคาที่สุด ไร้ที่ติ ไม่มีข้อบกพร่อง ไม่ใช่แค่ขวดยาที่มีราคา แถมยังเป็นของโบราณอีกด้วย”

ในมุมมองของเขา ถ้าหากเอาขวดโหลนี้ให้คุณตาพร้อมกัน ถึงจะเหมาะสมที่สุด

เวินจิ้งเข้าใจแล้ว

ปกติแล้วคุณตาก็ชอบสะสมของโบราณอยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่ามู่วี่สิงจะรอบคอบกว่าเธออีก

เธอหยิบใบยาออกมา แล้วยื่นให้หญิงชรา

“ขอถามหน่อยค่ะที่นี่มายาพวกนี้มั้ยคะ?”

หญิงชราถอดแว่นเก่าๆ นั้นออก แล้วเดินเข้ามาใกล้

“ที่นี่มีแค่ยาตัวเดียว ส่วนยาตัวอื่น อีกร้านบนถนนนี้มีอยู่”

ซื้อตัวยาหนึ่งในนั้นและขวดยาไว้ แล้วทั้งสองก็ออกไป

บนถนนสายนี้มีร้านเป็นสิบๆ ร้าน พวกเขาทำได้แค่ดูทีละร้านๆ

“ตอนกลางวันนายต้องกลับบริษัทมู่ซื่อมั้ย? ฉันหาคนเดียวก็ได้” เวินจิ้งมองไปที่ผู้ชายด้านข้าง

เธอรู้ว่าส่วนผสมพวกนี้หายาก อาจจะต้องใช้เวลาทั้งวันในการหา

“เธอแค่คนเดียวฉันไม่วางใจ คุณนายมู่ เมื่อไหร่เธอจะเรียนรู้ที่จะเพิ่งพาฉันบ้าง ห้ะ?” มู่วี่สิงบีบคางของเธออย่างไม่ค่อยพอใจ

เวินจิ้งกัดริมฝีปาก เธอแค่กลัวจะรบกวนมู่วี่สิง

ปกติแล้วเขาจะยุ่งมาก……

พอรู้ความคิดของเวินจิ้ง มู่วี่สิงก็พูดเสียงเข้ม “เวลาของฉัน ยินดีจะเสียเวลาไปพร้อมกับเธอ”

หน้าของเวินจิ้งเริ่มแดงระเรื่อ ประโยคนี้เหมือนประโยคบอกรักเลย……

มือโดนมู่วี่สิงจับไว้ เขาพาเธอเดินดูร้านยาทีละร้านๆ ต่อ

ใกล้จะมืดแล้ว เหลือแค่ไม่ถึงห้าร้านแล้ว

เวินจิ้งเดินเข้าไปในร้านที่เป็นลานเล็กๆ ข้างหน้าเธอ เจ้าของร้านคือชายชราสูงอายุ

“ยาพวกนี้ที่ร้านฉันมีหมด แต่ว่า ฉันไม่ได้ขายนานแล้ว พวกเธอกลับไปเถอะ” ชายชราโบกมือ

“คุณปู่คะ บอกเหตุผลหนูได้มั้ย? ตัวยาพวกนี้มีความสำคัญกับคุณตาของหนูมากๆ ”

“เหตุผล? เพราะว่ายาพวกนี้มันปลูกไม่ได้แล้ว หาไม่ได้แล้วน่ะสิ เธอบอกสิว่าฉันยังจะขายให้เธออยู่มั้ย?” ชายชราพูดเสียงเข้ม

เวินจิ้งนิ่งไปสักพัก สายตาหมดหวัง

คุณปู่ยืนยันขนาดนั้น เธอจะขอยังไงเขาก็คงไม่ขาย

“ทำไงดี?” เวินจิ้งหงุดหงิด

“ถ้าหากผมยอมเอายามีที่ค่ามาแลก คุณปู่ ท่านจะยอมรับการแลกของเท่าเทียมนี้มั้ย?” มู่วี่สิงโค้ง ถามอย่างมีมารยาท

“ยาอะไรฉันก็ไม่ยอมแลก!”

“ตี้หวงมี่ ทั้งโลกนี้มีแค่หนึ่งร้อยชิ้น เมื่อยี่สิบปีที่แล้วก็เลิกผลิตไปแล้ว ได้ยินมาว่าถ้าขายตอนนี้มูลค่าคงมากว่ากี่สิบล้าน ตอนนี้ผมมีอยู่หนึ่งชิ้น ขอแลกกับยาสมุนไพรของท่านพวกนี้”

เวินจิ้งช็อกไปแล้ว ยาราคากี่สิบล้าน?

ส่วนผสมในใบสั่งยาของเธอถึงแม้จะมีบางตัวที่เลิกผลิตไปแล้ว แต่ราคาก็คงไม่มากไปกว่าสิบล้านหรอกมั้ง……

มู่วี่สิงนี่นายคงไม่……

เธอรีบดึงเขาไว้ “ไม่ได้นะ”

ของขวัญชิ้นนี้เธอจะให้คุณตา เธอไม่คาดหวังว่ามู่วี่สิงจะมาเสียเงิน

“นายพูดจริงเหรอ?” ชายชราตาเป็นประกาย และตื่นเต้นจนลุกขึ้นยืน

ปากบางของมู่วี่สิงยกยิ้ม “ถ้าหากท่านยอมตกลง พรุ่งนี้จะส่งมาให้อยู่ในมือท่าน”

“มู่วี่สิง ไม่ได้นะ มันมีค่ามากเกินไป ฉันไม่ซื้อแล้ว……” เวินจิ้งขวางเขาไว้

แต่ว่า เขาได้ตัดสินใจไปแล้ว

“แน่นอน พรุ่งนี้ผมจะเอาตี้หวงมี่มาแลก”

“ดี……ดี!”

ออกมาจากร้านยา เวินจิ้งก็ยังไม่ได้สติ

การแลกเปลี่ยนก็พูดสำเร็จแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท