Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 313

ตอนที่ 313

บทที่ 313 ฆ่า

ประสาทวิทยาเป็นวิชาเอกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในมหาวิทยาลัยหลินไห่ แต่โควตาสงวนไว้ให้นักเรียนเดิมของมหาลัย คนนอกเข้ามาได้ยาก และเวินจิ้งได้ทำงานมาหลายปีแล้ว และดูเหมือนว่าเหตุการณ์ก่อนหน้าของมหาวิทยาลัยหนานเฉิงเต็มไปด้วยความโกลาหลก็เพราะเธอ

ไม่คิดว่าจะถูกไป๋สือรับเข้าเข้ามาเอง

แต่หลิงเหยาก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว นี่ก็เพราะความเกี่ยวข้องกับมู่วี่สิง

มีความเหยียดหยามภายใต้ดวงตาของเธอ

เวินจิ้งไม่ทันได้สังเกต วันนี้เธอก็เพิ่งรู้ มีคนไม่น้อยอิจฉาที่เธอได้ติดตามไป๋สือ

ไป๋สืออยู่มหาวิทยาลัยหลินไห่เป็นเวลาสิบปี รับบัณฑิตไม่เกินสิบคน และนักเรียนของเขา แต่ละคนเป็นผู้นำในวงการแพทย์

ไม่นาน หลิงอี้ยกกระเป๋าเดินทางของหลิงเหยามา

“พี่ชาย ทำไมช้าขนาดนี้!” หลิงเหยาใส่อารมณ์

“รถติด ฉันไม่ได้ขับเครื่องบินมาซะหน่อย” หลิงอี้บอกกับหลิงเหยาด้วยความรัก

เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เวินจิ้งหันไป สบตาเข้ากับหลิงอี้พอดี

หลิงอี้ถามอย่างเป็นห่วง “แผลหายดีหมดรึยัง?”

เวินจิ้งหันไป ตอบอย่างเรียบๆ

หลิงเหยามองคนทั้งสอง และดึงพี่ชายมาข้างกาย ถามด้วยเสียงเบา “มิน่าวันนี้พี่ถึงได้มาช่วยฉันถือกระเป๋าเดินทาง มาเจอเวินจิ้ง?”

หลิงอี้ขมวดคิ้ว…เรื่องนี้ เขาไม่รู้จริงๆ

ช่วงเวลานี้ เขากำลังคิดที่จะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไง

ตอนนี้เวินจิ้งโสด เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะตามจีบเธอ

แต่เธอกลับต่อต้านเขาขนาดนี้

เขาไม่มีประสบการณ์ตามจีบผู้หญิง ปกติจะเป็นผู้หญิงที่เข้าหาเขาตลอด

“ไม่รู้” เขาพูดเรียบๆ

“ฉันไม่เชื่อ เมื่อกี้เจอเวินจิ้ง สายตาของพี่ตรงเลย”

“อย่าพูดไปเรื่อย” หลิงอี้ทำหน้าตึง

“ไม่ใช่ซะหน่อย ฉันหิวแล้ว ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อย” หลิงเหยาคล้องแขนพี่ชายอย่างสนิทสนม

เห็นพี่ชายมองเวินจิ้งอย่างไม่รู้ตัว หลิงเหยาช่วยเขาเอ่ยปาก “เวินจิ้ง ไปกินข้าวด้วยกันไหม? พี่ฉันเลี้ยง”

เวินจิ้งส่ายหน้า “ฉันยังไม่หิว พวกเธอไปกินเถอะ”

แต่หลังจากกินข้าวเสร็จ หลิงอี้ห่อหมูย่างกลับบ้านแล้วยื่นให้หลิงเหยา “เธอรวดเอาขึ้นไปให้เวินจิ้ง”

“พี่ เอาไปให้เอง ไม่งั้นผลลัพธ์อะไรก็ไม่มี”

“ต้องการผลลัพธ์อะไร?” หลิงอี้สงสัย

“พี่จะจีบเวินจิ้งไม่ใช่เหรอ? งั้นก็เริ่มเองก่อน เธอถึงจะมีความรู้สึก”

“ตอนนี้เธอไม่อยากเจอฉัน” หลิงอี้ส่งกล่องข้าวให้หลิงเหยา

ขึ้นไปบนห้อง เวินจิ้งได้ทำความสะอาดห้องเรียบร้อยแล้ว แน่นอน แม้แต่ที่ของหลิงเหยาเองด้วย

“ดูแล้วพี่ชายของฉันห่อข้าวกลับมาให้เธอนั้นถูกต้อง ลำบากเธอแล้วนะ” หลิงเหยายื่นข้าวกล่องให้เวินจิ้ง

“ขอบใจ ฉันโอนเงินให้เธอ เธอค่อยโอนให้เขา” เวินจิ้งหยิบมือถือออกมา

“หลิงเหยาโบกมือ “อย่านะ พี่ชายฉันไม่รับแน่นอน”

“แบบนี้ไม่ค่อยดี”

“เขากำลังตามจีบเธอ เธอก็ควรรับความสุขนี้ไว้ ยังไงสามสิบปีมานี้เธอก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาตามจีบ ให้เขาได้ฝึกๆไว้ก็ดี”

หลิงเหยาก็อยากเห็นเหมือนกันว่าพี่ชายที่หยิงยโสของเธอ จะตามจีบผู้หญิงยังไง

เวินจิ้งเบ้ปากอย่างหมดความอดทน หลิงอี้ตามจีบผู้หญิงครั้งแรก?

เธอคิดว่าหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาคงไม่ขาดผู้หญิง

แต่เมื่อมาคิดๆ หน้าตาหล่อเกิน คงจะถูกตามจีบตลอด…

กลางคืน เวินจิ้งเพิ่งกินข้าวเสร็จ ทันใดนั้นหลิงเหยาก็เดินมา

“ไปสร้างมิตรภาพไหม รวดไปรู้จักเพื่อนใหม่”

เวินจิ้งกำลังเขียนคำพูด พรุ่งนี้เธอจะได้พูดในฐานะตัวแทนนักเรีนในพิธีเปิด

หลิงเหยามองใบหน้าที่เรียบเฉยของเธอ น้ำเสียงอ่อนลง “ไปเถอะไปเถอะ แม้ว่าจะไม่ดีพอสำหรับพี่ชายของฉัน แต่ก็มีรสนิยมที่เหมาะสมกับเธอ”

“หลิงเหยา ฉันไม่มีกระจิตกระใจมามีความรัก” เวินจิ้งส่ายหน้า

ตอนนี้เธอแค่อยากเอาใจใส่กับการเรียน

“ก็ไม่จำเป็นต้องมีความรัก นักศึกษาประสาทวิทยาของเธอรู้จักหมดแล้วเหรอ? ไม่รู้จักก็ตามฉันมา”

เวินจิ้งถูกหลิงเหยาลากออกไป

ที่ตั้งของสมาคมอยู่ชั้นบนสุดของร้านอาหารจีนในโรงเรียน นักศึกษาที่มาส่วนใหญ่มาจากแผนกประสาทวิทยาและศัลยกรรมทรวงอก

หลิงเหยาและเวินจิ้งเป็นคนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวิทยาลัย เมื่อเข้ามาฝูงชนก็แตกตื่น

เวินจิ้งถูกหลิงเหยาลากให้มานั่งอยู่ตรงกลาง ค่อนข้างคับแคบ เธอไม่ชอบความวุ่นวาย

แต่กับหลิงเหยา ความเป็นธรรมชาติของเธอทำให้ทำความคุ้นเคยกับคนรอบได้อย่างรวดเร็ว

ข้างๆเวินจิ้งเป็นผู้ชายใส่แว่น ผิวขาวสะอาด เขาเริ่มเอ่ยปาก “สวัสดี ฉันชื่อตู้ลี่เฉิง แผนกประสาทวิทยาเหมือนกัน”

“ฉันชื่อเวินจิ้ง” เวินจิ้งยิ้มบางๆ

ตู้ลี่เฉิงลดสายตาลง ถือแก้วน้ำด้วยความตื่นเต้น

เหมือนเห็นในแก้วของเวินจิ้งว่างเปล่า เขาช่วยเทให้เธอเต็มแก้ว

“ได้ยินมาว่าเธอเป็นคนเดียวที่ศาสตราจารย์ไป๋รับมาเป็นนักเรียน เธอทำได้อย่างไร?” ตู้ลี่เฉิงถามอย่างสงสัย “ฉันติดต่อศาสตราจารย์ไป๋ตั้งนานแล้ว เขาบอกว่าปีนี้เขาจะไม่รับนักเรียนแล้ว”

“ศาสตราจารย์อาจเปลี่ยนใจในภายหลัง”

“แต่ว่าผลสอบของเธอดีมาก ถูกศาสตราจารย์ไป๋รับไว้ ก็เป็นอย่างที่คาดหวังไว้”

“เธอกินอะไรหน่อยเถอะ พวกเขาไม่ร้องเพลงกันแล้ว เธอคงไม่ชอบ?” ตู้ลี่เฉิงมองเธอ

ดูแล้วนิสัยของเวินจิ้งก็จะเรียบร้อยไม่ชอบเล่น แม้แต่พูดก็น้อยมาก เว้นแต่ต่อหน้าคนที่คุ้นเคย

“ฉันกินอิ่มแล้ว นานไปร้องเพลงกับพวกเขาเถอะ เดี๋ยวฉันก็จะกลับไปอ่านหนังสือแล้ว”

“งั้นฉันส่งเธอกลับ พอดีฉันมีคำถามระดับมืออาชีพอยากถามเธอและต้องการคำชี้แนะจากเธอ”

“ไม่ต้องส่งฉันแล้ว นายถามฉันมาเถอะ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะช่วยนายได้ไหม” เวินจิ้งเกรงใจ

ทันใดนั้นตู้ลี่เฉิงก็เข้ามาใกล้ “งั้นเราไปสนามหญ้าตรงนั้น ตรงนี้วุ่นวายมาก…”

ใกล้ดึกแล้ว สนามหญ้าคนไม่เยอะ ตู้ลี่เฉิงมองสายตาของเวินจิ้งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

“เราไปทางนั้นเถอะ ที่นี่วุ่นวายเกิน…”

ค่อยๆห่างออกไปจากความวุ่นวาย เวินจิ้งมองไปรอบๆ เงียบจนผิดปกติ

เมื่อหันไป สายตาของตู้ลี่เฉิงก็เปลี่ยนเป็นความน่ากลัว

เมื่อนึกถึงบางสิ่งได้ เวินจิ้งก็รับหันไป

แต่ตู้ลี่เฉิงเร็วกว่าได้ลากเธอเข้าไปในห้องอุปกรณ์ซึ่งอยู่ไม่ไกล และเสียง “ปัง” ปิดประตูอย่างแรง

ดวงตาของตู้ลี่เฉิงเปลี่ยนเป็นสีแดง

“นายจะทำอะไร?” เวินจิ้งสังเกตรอบๆ แต่ที่นี่แม้แต่หน้าต่างสักบานก็ไม่มี ทางที่จะสามารถออกไปได้ก็มีแต่ประตูนี้

ตู้ลี่เฉิงยิ้มเยือกเย็น ใกล้เข้ามาทีละก้าว คว้าผมของเวินจิ้งอย่างรุนแรง

“ฉันทำอะไร? ฉันก็ไม่ได้อยากทำอะไร ฉันก็แค่ทนเห็นนักเรียนที่ขโมยความคิดไม่ได้แต่กลับถูกศาสตราจารย์ไป๋รับไว้เป็นนักเรียน เธอรู้ไหมว่าเพื่อที่ฉันจะทำให้เขายอมรับ…ใช้ความพยายามไปมากเท่าไหร่ แต่เขากลับเลือกเธอ…”

ความไม่พอใจในสายตาของตู้ลี่เฉิงปรากฏออกมา แรงมือค่อยๆหนักขึ้น

เวินจิ้งสีหน้าขาวซีด มือข้างหนึ่งใช้แรงกดตู้ลี่เฉิงไว้ มืออีกข้างหยิบดัมเบลล์ข้างๆขึ้นมาและฟาดไป

ตู้ลี่เฉิงหลบไม่ทัน หน้าผากเลือดไหล แต่กลับกระตุ้นความโกรธของเขา

“ตู้ลี่เฉิง คะแนนผลรวมของฉันได้ที่หนึ่ง ได้รับการยอมรับจากศาสตาราจารย์ไป๋ถือว่าสมเหตุสมผล!” เวินจิ้งพูดเงียบๆ

เธอเงยหน้าขึ้น พยายามอย่างหนักที่จะผลักเขาออก

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท