Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 322

ตอนที่ 322

บทที่ 322จะไม่กลับไปอีก

ในเวลานี้ โทรศัพท์ของเวินจิ้งดังขึ้น หลิงเหยาได้โทรศัพท์ให้เธอ และถามว่าตอนนี้เธออยู่ไหน

“ฉันอยู่ที่ร้านอาหารหงเซิงนอกมหาวิทยาลัย”

“พอดีเลย ฉันกับพี่ชายก็มากินข้าวที่นี่ เธอกลับมากินด้วยกันไหม”

“ฉัน …… ฉันกำลังกินข้าวกับมู่วี่สิงอยู่”

“อะไรนะ เธอกำลังกินข้าวอยู่กับสามีเก่าเหรอ” เสียงของหลิงเหยาก็ดังขึ้น

หลิงอี้หน้าก็ได้นิ่งลง และก็ได้วางเมนูลง

หลิงเหยาได้แอบยิ้ม “งั้นฉันไม่รบกวนแล้ว”

เมื่อวางสายโทรศัพท์ เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น และได้ยินเสียงของมู่วี่สิง “ใครโทรมา”

“หลิงเหยา”

“คุณสนิทกับเขาเหรอ” เขาถาม

ช่วงที่มู่วี่สิงและหลิงเหยาได้รู้จักกันก็ไม่ได้สั้น เมื่อก่อนหลิงเหยามักจะมาหามู่ซือซือที่บ้านตระกูลมู่เพื่อไปเที่ยวด้วยกันบ่อยครั้ง ทั้งสองเจอกันก็หลายครั้ง

แต่ก็รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เฉลียวฉลาดคนหนึ่ง

“หลิงเหยาเหรอ เธอสบายดี ตอนที่ฉันถูกสงสัยว่าโกงข้อสอบก่อนหน้านี้ เธอก็ได้ช่วยฉันไว้มากเลยทีเดียว/ช่วยฉันไว้ได้ไม่น้อย” เวินจิ้งยิ้ม

หลิงเหยาก็ไม่ได้เข้าถึงยากอย่างที่เธอคิดไว้ ในทางกลับกัน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนที่สนิทกัน

แต่ในความหมายนั้น …… ควรจะมีความข้องเกี่ยวกับหลิงอี้อยู่

“คนที่คุณเพิ่งประกันตัวออกมา คือใครเหรอ” เวินจิ้งถาม

เธออยากรู้ว่าจริงๆแล้วใครกันเป็นคนวางยาฉือซิน

สุดท้ายแล้วฉือซินก็เคยเป็นคนใกล้ชิดกับเธอมากเช่นกัน

“แม่ของซือซือ คือภรรยาคนที่สองของมู่เฟิง”

เวินจิ้งตกตะลึงสักพัก ปรากฏว่ามู่ซือซือและมู่วี่สิงไม่ได้เป็นพี่น้องกัน

“ทำไมเธอถึงต้องทำแบบนี้”

“อานเวยได้พุ่งเป้าไปที่ฉืออี้เหิง” มู่วี่สิงไม่ได้พูดอะไรมาก

เวินจิ้งก็ไม่ถามต่อ สีหน้าของมู่วี่สิงอึมครึม และเขาก็ไม่ต้องการพูดถึงมันอย่างชัดเจน

บรรยากาศของมื้ออาหารนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น เวินจิ้งไม่คาดคิดว่าหลังที่หย่าร้างกัน เธอและมู่วี่สิงจะสามารถมานั่งกินข้าวด้วยกัน

………

ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เนื่องจากตระกูลหลิงไม่ได้อยู่ในหนานเฉิง หลิงเหยาก็เลยไปที่บ้านตระกูลมู่เพื่อจะไปเที่ยวกับมู่ซือซือ

เวินจิ้งอ่านหนังสืออยู่ที่หอพักด้วยตัวเอง ระหว่างนั้นหลินเวยได้โทรศัพท์หาเธอ ให้เธอกลับไปกินข้าว

เมื่อได้ยินเสียงหลินเวยดูเหมือนไม่สบาย เวินจิ้งรู้สึกไม่สบายใจอยู่ตลอดเวลา และได้เรียกรถแท็กซี่

ขณะที่เพิ่งลงจากรถ ร่างที่คุ้นเคยก็ได้เดินออกมาจากหน้าประตู

เมื่อเห็นเวินจิ้ง ฉินเฟยก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นในไม่ช้า “นี่ไม่ใช่สาวน้อยร้อยชั่งของตระกูลหลินเหรอ”

เวินจิ้งไม่ได้สนใจเธอ และเดินมุ่งเข้าไปที่บ้านตระกูลฉี

แต่ฉินเฟยกลับเดินตามมา ด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ “เวินจิ้ง เธอคิดว่าทำไมเธอถึงได้โชคดีขนาดนี้นะ ที่ได้สืบทอดทรัพย์สินหลายพันล้าน ทำไมฉันไม่มีชีวิตแบบนี้บ้าง”

เวินจิ้งหน้านิ่งลง “ฉินเฟย คุณคิดจะพูดอะไร/คุณคิดจะพูดอะไร”

“ฉันคิดจะพูดอะไรเหรอ เวินจิ้ง ฉันจะบอกเธอให้นะ บัญชีของเรายังไม่ได้คิดเลยนะ ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปแน่”

“ทำไมน้องฉินถึงไม่ปล่อยฉันไป” เวินจิ้งเย้ยหยัน

“เธอยังไม่รู้อีกเหรอ ว่าสิทธิบัตรและสิทธิ์ของการจัดจำหน่ายยาหลักที่ขายภายใต้ชื่อของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปทั้งหมดนั้น ถูกโอนไปให้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปในราคาถูก ซึ่งนี่เป็นการช่วยบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปให้รอดพ้นจากวิกฤต/ความหายนะในช่วงนี้ ผู้ที่ตัดสินใจครั้งนี้ ก็คือมู่วี่สิง ผู้ชายคนที่เธอสนิทที่สุด”

ได้ยินดังนั้น สีหน้าเวินจิ้งก็ได้ซีดเซียว มู่วี่สิงกำลังจะช่วยบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเหรอ

ก่อนหน้านี้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเกือบจะล้มละลาย แต่ภายหลังมาก็ได้ถูกซื้อโดยบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป

ถ้าตอนนี้ยังมีสิทธิ์เหล่านี้อยู่ ไม่แน่ก็อาจจะสามารถพลิกกลับมาได้

“เวินจิ้ง หากไม่ใช่ฉันที่ทำร้ายเธอ แต่เป็นมู่วี่สิงล่ะ ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงช่วยฉันมาตลอดล่ะ” พูดจบ ฉินเฟยพลางย่ำรองเท้าส้นสูง และทิ้งความภาคภูมิใจไว้

เวินจิ้งอึ้งตั้งแต่แรก คำพูดของฉินเฟยไม่ต้องสงสัยเลย มู่วี่สิง……..

ใช่ เธอเคยเห็นภาพที่รถของมู่วี่สิงรับส่งฉินเฟย เขาไม่ได้ส่งหลักฐานทางอาญาเกี่ยวกับการที่เธอได้ใส่ร้ายบริษัทการผลิตยาเทียนอีหมิ่นประมาทวันที่เธอได้

บวกกับตอนนี้

เธอเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาทันที และค้นหาข่าวของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เป็นจริงอย่างที่ฉินเฟยพูดไว้

ทำไมมู่วี่สิงถึงได้ทำอย่างนี้

เธอไม่เชื่อฉินเฟย! เธอไม่เชื่อ!

แต่เรื่องจริงทั้งหมดนี้อยู่ตรงหน้าเธอ!

“เวินจิ้ง” ฉีเซินเดินออกมา เมื่อเห็นสีหน้าซีดของเวินจิ้ง จึงคิดอยากช่วยเธอด้วยความกังวล

แต่กลับถูกเธอผลักออกอย่างโกรธเคือง

ฉีเซินหรี่ตาแคบ “เจอฉินเฟยมาเหรอ”

เขารู้ว่าถ้าฉินเฟยได้เจอกับเวินจิ้ง ก็จะพูดอะไรไม่ดีอย่างแน่นอน

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก และไม่ได้พูดอะไร

เธอยังคงคิดเกี่ยวกับคำพูดของฉินเฟย

ในเวลานี้ ฉีเซินได้เห็นโทรศัพท์มือถือของเธอ เป็นข่าวที่ประกาศล่าสุดของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

เขายิ้มขึ้นมาทันที “บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปกำลังร่วมมือกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป พวกเรามักจะพูดถึงการรับซื้อกิจการกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปกันเป็นปกติ คาดไม่ถึงว่าเขาและฉินเฟยนั้นมีความสัมพันธ์อันดี จนทำให้โอนได้ในราคาต่ำ”

“สถานการณ์ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปช่วงนี้ไม่ค่อยดีนัก” เวินจิ้งขมวดคิ้ว จู่ๆก็นึกถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

เนื่องจากอานเวยมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีฆาตกรรม บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็ตกอยู่ในภาวะวิกฤตความน่าเขื่อถือ ตัวตนของอานเวยได้รับการขยายใหญ่ขึ้น จริงๆแล้วไม่มีผลกระทบต่อบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป แต่คนที่อยู่เบื้องหลังพยายามจะเอาชนะบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอย่างชัดเจน

“มันเป็นความจริง แต่ฉันก็คิดไม่ถึงว่าหมู่วี่สิงจะเบิกบานใจได้ถึงขนาดนี้ ในความเป็นจริงเราก็ยังให้ความช่วยเหลือบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปด้วย นอกจากบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปอยู่เบื้องหลังของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแล้ว แต่มีเพียงไม่กี่บริษัทที่กล้าจะขายสิทธิบัตรยาที่ขายดีที่สุดและสิทธิ์ทางการตลาด” ฉีเซินพูดอย่างมั่นใจ

คราวนี้ คิดยังไงกับการที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปมีรายได้อย่างต่อเนื่อง

แต่เวินจิ้งมักรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

บางทีมันอาจเป็นจิตใต้สำนึกของเธอที่มักจะเชื่อในมู่วี่สิง

แต่ความสัมพันธ์ของเขาและฉินเฟย เขาไม่เคยอธิบาย

“แม่กำลังรอเธออยู่ เข้าไปเถอะ”

เวินจิ้งกลับมามีสติ เพิ่งจะรู้ตัวว่ายืนอยู่นาน และเท้าก็เริ่มชา

เมื่อขยับก็เกือบจะล้มลง

ฉีเซินรีบช่วยเธอทันที เม้มริมฝีปากยิ้มและพูดว่า “ผมคิดว่าคุณจะส่งกอดมาให้ผมหน่ะ”

เวินจิ้งจ้องที่เขา “คุณปล่อยฉัน”

“ได้อยู่แล้ว แม่ฉันกำลังมองอยู่” ฉีเซินได้คลายมือ

เวินจิ้งเพิ่งจะได้เห็นหลินเวยที่ได้เดินออกมา

เธอถูกห่อด้วยผ้าคลุมไหล่ สีหน้าซีดมาก และจามอยู่ตลอดเวลา

“แม่ เป็นหวัดหนักแล้ว แม่รักษาตัวเองดีๆ ฉันจะไม่กลั่นแกล้งเวินจิ้งแล้ว”

หลินเวยขมวดคิ้ว เมื่อเห็นเวินจิ้งเดินมา ใบหน้ามีรอยยิ้มเล็กน้อย

“คุณนายหลิน” เวินจิ้งทักทายอย่างสุภาพ

ฉีเซินขมวดคิ้ว และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยจากการทักทายคำนั้นของเวินจิ้ง

“เธอไม่เรียก แม่ ล่ะ”

“ใช่ เสี่ยวจิ้ง หรือเรียกแม่ของฉัน ดีไหม” ท่าทางการขอร้องของหลินเวย ทำให้เวินจิ้งทนไม่ได้

อย่างไรก็ตาม เธอไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับตระกูลหลิน

เมื่อมองไปที่เวินจิ้งที่มีอาการไม่พอใจ หลินเวยถอนหายใจ “คุณตาของเธอไม่อยู่แล้ว ข้างกายฉันก็มีเด็กอย่างพวกเธอแค่สองคนแล้ว พวกเธอต่างก็อยู่ และก็เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ”

เวินจิ้งได้ขมวดคิ้ว เหมือนจะนานมากแล้ว และก็ไม่เคยเห็นใครอื่นจากตระกูลฉี

เธอรู้เพียงว่าพ่อผู้ให้กำเนิดของเธอเสียชีวิตมานานแล้ว และเธอก็ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตระกูลฉี

“คุณนายฉี พักร้อนฉันจะกลับมา” เวินจิ้งกล่าว

ตอนนี้เธอได้ย้ายออกจากการ์เด้นมูเจียวานแล้ว สถานที่แห่งนั้นที่เธอเคยคิดว่าเป็นบ้าน และไม่สามารถกลับไปได้อีกแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท