Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 352

ตอนที่ 352

บทที่ 352 ไม่มีทางตัดขาดกันได้

ในเวลานี้ มู่ซือซือได้จัดเตรียมบอดี้การ์ดนำอาหารที่นักศึกษาหลายคนส่งมาให้มู่วี่สิง “คุณอยากจะกินอะไร เดี๋ยวฉันจะไปซื้อมาให้”

“ไม่ต้อง ผมอยากกลับบ้าน”

“ไม่ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ”

“ไม่มีใครเลยเหรอ” มู่วี่สิงมองไปที่เวินจิ้ง

เวินจิ้งกระพริบตา เธอล่ะ

และมู่ซือซือก็ได้มองไปยังเธอ ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร

“งั้นเธอก็เห็นพี่ชายฉันแล้วหนิ ว่าเขาเกิดอุบัติเหตุ เธอนั่นแหละต้องเป็นรับผิดชอบ” มู่ซือซือพูดเตือน

พูดจบ ก็จากไปอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้น ในห้องผู้ป่วยก็เหลือคนอยู่แค่สองคน

เวินจิ้งรู้สึกโล่ง

“สรุปแล้วคุณเจ็บตรงไหนเหรอ” เวินจิ้งถาม

ทำไมเธอถึงคิดว่ามู่วี่สิงปกติดีล่ะ……

“ขยับไม่ได้”

“ฮื้ม” เวินจิ้งเดินเข้าไปใกล้

หรือว่า……จะเป็นที่ขา

เธอหยิบรายงานผู้ป่วยที่อยู่ด้านข้าง กระดูกขาขวาหักเหรอ

“เกิดอะไรขึ้น”

“รถชน”

สีหน้าของเวินจิ้งก็ซีดเซียวลง เปิดผ้าห่มออกอย่างกังวล และแล้วขาของมู่วี่สิงใส่เฝือกอยู่

“เป็นอุบัติเหตุเหรอ” เธอถาม

“อืม” ความเยือกเย็นในดวงตาของผู้ชายคนนั้นได้เปล่งประกายออกมา

เวินจิ้งใช้เวลาสักพักในการเรียกสติกลับมา และได้พลิกดูรายงานผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง อาการของมู่วี่สิงก็ไม่ได้รุนแรงมาก แต่ต้องนอนพักอยู่โรงพยาบาลอย่างน้อยครึ่งเดือน

“ได้จ้างพยาบาลมาดูแล้วเหรอ” เวินจิ้งถาม

อาการของเขาแบบนี้ จำเป็นต้องมีคนมาดูแล

“ที่จริงก็มี เพิ่งจะกลับไปเอง”

“มู่ซือซือเหรอ”

“อืม”

เวินจิ้งรู้สึกงุนงง ทำไมรู้สึกเหมือนมู่วี่สิงกำลังโกหกอยู่…..

มู่ซือซือเป็นคนพิการ จะมาดูแลเขาได้ที่ไหน….

“เดี๋ยวฉันจะไปติดต่อพยาบาลมาให้สักคนแล้วกัน”

“ไม่ต้อง ผมไม่ชอบให้คนอื่นมาเข้าใกล้ผม” น้ำเสียงของมู่วี่สิงพูดเพื่อเลี่ยงอะไรบางอย่าง

เวินจิ้งลำบากใจ “คุณทำอย่างนี้ไม่ได้นะ แล้วคุณจะเข้าห้องน้ำได้ยังไงล่ะ”

“ล้มลงสองสามครั้งก็ยังลุกขึ้นเดินได้”

คำพูดนี้ ….. ได้ยินแล้วเวินจิ้งก็รู้สึกตกใจกลัว

สีหน้าเธอก็ซีดลง

แล้วภาพนั้นเธอคิดแล้วก็รู้สึก ….. เจ็บปวดมาก!

“กลับไปเถอะ ต้องไปเรียนไม่ใช่เหรอ” มู่วี่สิงไม่ได้มองเธอ และยังคงจัดการกับงานที่อยู่ในมือต่อไป

แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บ เขาก็ยังคงเป็นคนบ้างาน

แต่เวินจิ้งกลับไม่มีทางจะนิ่งเฉยได้ ประวัติผู้ป่วยได้เขียนไว้ มู่วี่สิงหักโหมงานหนักไม่ได้ และอีกอย่างส่วนขาไม่ว่าอะไรก็ตามไม่ควรได้รับอันตรายใดๆ

“ฉันไม่วางใจ” เวินจิ้งพูดด้วยความหงุดหงิด

มู่วี่สิงจะปฏิบัติต่อตัวเองอย่างนี้ได้อย่างไร

“แล้วจะอยู่เป็นเพื่อนผมเหรอ” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

“ฉันอยู่กับคุณได้แค่แป๊บเดียวเท่านั้น”

อีกเดี๋ยวเธอต้องกลับไปเข้าเรียน

“ตอนเย็นมาได้” ใครคนหนึ่งค่อยๆโน้มน้าว

กระต่ายขาวตัวน้อยยังคงไม่สังเกตเห็น……

ในหัวเต็มไปด้วยภาพของมู่วี่สิงที่กำลังล้มลงอยู่ในห้องน้ำ เมื่อคิดแล้วก็รู้สึกทุกข์ใจ

“ได้” ทั้งหมดนี้เหมือนเป็นผีหรือเทพเจ้าที่ได้ตอบตกลงไป ……

ในตอนบ่ายเวินจิ้งกลับไปเรียน เรื่องที่ต้องดูแลมู่วี่สิงนั้น หลังจากที่เธอกลับไปที่หอพักในตอนเย็น เธอก็ได้บอกกับหลิงเหยาแล้ว

“มู่วี่สิงได้รับบาดเจ็บ เธอเป็นห่วงมากใช่ไหม”

“เป็นห่วงมาก”

“พวกเธอหย่ากันแล้วนะ” หลิงเหยาเตือน

ได้ยินดังนั้น เวินจิ้งก็ได้นิ่งไป เธอมักจะจงใจเพิกเฉยกับความจริงข้อนี้

“เขาไม่มีคนดูแล…..”

ในห้องผู้ป่วยมีเพียงแค่มู่วี่สิงคนเดียว บอดี้การ์ดต่างกำลังเฝ้าอยู่ข้างนอก ส่วนมู่ซือซือก็ไม่สะดวกที่จะมาคอยดูแลเขา……

หลิงเหยาสูดหายใจเข้าลึกๆ และอยากเขกหัวเวินจิ้งให้ตื่นขึ้นมาจริงๆ

ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเรื่องนี้มู่วี่สิงมีเจตนา

“ช่างมัน เธออยากเหวี่ยงตัวเองเข้าไปในแหก็ไปเถอะ กลางคืนไม่กลับมาแล้วใช่ไหม”

“กลับแน่นอน”

หลิงเหยาไม่อยากจะเชื่อ ดูจากนิสัยของมู่วี่สิงแล้ว ถ้าเวินจิ้งไปแล้ว จะต้องให้เธออยู่ต่อแน่นอน

“ทำตัวดีๆล่ะ” หลิงเหยาเตือนเธอ

แก้มของเวินจิ้งแดงในทันที และรีบมาปิดปากเขา

“อย่าพูดอะไรมั่วๆ ! เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันแบบนั้น!”

หลิงเหยาอดยิ้มไม่ได้ “หรือเธอจะบอกว่าพวกเธอเป็นเพื่อนกันเหรอ”

เวินจิ้งรู้สึกเขินอาย เธอและมู่วี่สิง……

ไม่ควรนับเป็นเพื่อนงั้นเหรอ

แต่ก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว

ดังนั้น ……เธอกำลังจะทำอะไร

แต่ก็ไม่มีทางจะตัดขาดกันได้

มู่วี่สิงมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าสองคนนี้ไม่ได้พบเจอกันอีก เธอก็ตัดใจไปได้แล้วใช่ไหม

ในใจยังคงไม่มีคำตอบ

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เวินจิ้งได้เตรียมอาหารว่างมาล่วงหน้าแล้ว

แต่กลับไม่เห็นมู่วี่สิงในห้องผู้ป่วย เธอจึงวางกล่องข้าวที่ซื้อมา เมื่อได้ยินการเคลื่อนไหวในห้องน้ำ เธอก็รีบวิ่งไปทันที

เมื่อผลักประตูเข้าไป ภาพที่เห็นทำให้แก้มของเธอได้แดง …..

ตื่นเต้นชะมัด!

มู่วี่สิงกำลังพิมกำแพง เมื่อเห็นเวินจิ้งเข้ามา ดวงตาของเขาก็ยังคงนิ่งเงียบ

ได้สวมกางเกง เขายื่นมาที่ล้างสะอาดแล้วออกมาก

เวินจิ้งงุนงงไปหมด สายตาไม่มีที่ให้มองเลย

“ช่วยประคองผมออกไปหน่อย” น้ำเสียงที่อบอุ่นของมู่วี่สิงดังขึ้น

เวินจิ้งกระพริบตา ในที่สุดก็เรียกสติกลับมาได้

ภาพเมื่อกี้นี้อยู่ในหัวของเธอนานไม่หายไปไหน ….

ประคองแขนของมู่วี่สิง อุณหภูมิร่างกายของเธอร้อนระอุมาก

มู่วี่สิงยิ้มเบาๆอยู่ข้างหูของเธอ “ไม่เคยไม่เห็นซะหน่อย”

เวินจิ้ง : ………

“ทำไมคุณไม่ล็อคประตู!” เธอพูดพลางหงุดหงิด

“ผมก็ไม่รู้ว่าคุณจะรีบเข้ามา”

“ฉันคิดว่าคุณเป็นอะไร” ตอนนี้เวินจิ้งเริ่มหงุดหงิดมากขึ้น

ช่วยประคองมู่วี่สิงกลับมานอนบนเตียง สายตาของเวินจิ้งก็ไม่กล้ามองดูมู่วี่สิง

ช่วยเขาเปิดกล่องข้าว และเธอก็ยื่นมันต่อหน้าเขา แล้วนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ไกลที่สุด

“มานี่สิ” สายตามู่วี่สิงลืมตาขึ้นอย่างไม่พอใจ

เวินจิ้งไม่ขยับ และก้มหน้าอ่านหนังสือ

สีหน้าของมู่วี่สิงนิ่งเงียบลง และก็ยังไม่ได้กินข้าว ได้แต่มองไปที่เวินจิ้ง

“คุณกินข้าวไปโอเคไหม” สุดท้ายเวินจิ้งก็เงยหน้าขึ้น

“มาอยู่กับผม”

“ก็ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณแล้วนี่ไง”

“ไกลเกินไป”

เวินจิ้งไม่ได้สนใจเขา

แต่มู่วี่สิงกินข้าวช้า จนทำให้อาหารเย็นหมดแล้ว

เวินจิ้งถึงจะยอม

ผู้ชายคนนี้รู้จักใช้จิตวิทยากับเธอจริงๆ

แม้ว่าเขากำลังรับประทานอาหารอยู่ ร่างของมู่วี่สิงไม่สามารถซ่อนออร่าที่ดูแพงและสง่างามไว้ได้ เขาอบรมเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงกล่องข่าวราคาแค่สิบหยวน แต่เธอมีความรู้สึกว่ามู่วี่สิงกำลังกินอาหารตะวันตกอยู่

ผู้ชายคนนี้ มีเสน่ห์มาก ……

เมื่อสังเกตเห็นสายตาของเวินจิ้ง มู่วี่สิงสบตา และยกปลายนิ้วนิ้วสัมผัสที่ใบหน้าสีขาวของเธอเบาๆ

“คุณยังไม่ได้กินข้าวเลยนะ” น้ำเสียงของเขาจริงจัง

เวินจิ้งกัดริมฝีปาก “ฉันไม่หิว”

“หรือคุณอยากให้ผมลากคุณมากิน” แววตาของมู่วี่สิงนิ่งลง

เวินจิ้งรู้สึกไม่สบายตัวที่ถูกสายตาของเขามองมา แต่เขามีสิทธิ์อะไรที่ยังจะมาสนใจเธอ……

เวินจิ้งพูดอย่างไม่พอใจ “คุณไม่ต้องมาสนใจฉัน”

วินาทีต่อมา คางก็ถูกบีบแน่น สายตาของมู่วี่สิงนั้นเยือกเย็นมาก

“อย่าสนใจคุณงั้นเหรอ ฮื้ม” น้ำเสียงของเขายิ่งอันตรายมากขึ้น

เวินจิ้งมองดูสายตาของเขา ชั่วพริบตาเดียวหัวใจก็เต้นแรง

“ใช่” เธอพูดอย่างนิ่งเฉย

“ไม่มีทาง” มู่วี่สิงเริ่มปล่อยมือที่เย็นชา

เวินจิ้งไม่มองเขา

เธอลดตาลง ในเวลานี้ เสียง “กูกู” ท้องร้องก็ดังออกมาพอดี เธอหิวมากแล้วจริงๆ

มู่วี่สิงรีบสั่งให้เกาเชียนเข้ามา “ออกไปซื้อไก่ทอดมาหน่อย”

“มู่วี่สิง! เดี๋ยวฉันก็กลับไปแล้ว ฉันไปกินที่มหาวิทยาลัย” เวินจิ้งถึงกับห้ามทันที

ได้ยินดังนั้น สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชากว่าเดิม

วางตะเกียบลง และเขาก็ย้ายโน๊ตบุ๊คมาไว้ข้างหน้า

“อืม” น้ำเสียงของเขาไม่แยแสอย่างยิ่ง

เกาเชียนยืนอยู่ข้างๆ ก็ได้ตะลึงกับการทำงานของเขาเป็นอย่างมาก

ทำไมรู้สึกเหมือนว่าทั้งสองคนกำลังจีบกันอยู่

แต่เขาก็ไม่ได้พูดและก็ไม่กล้าที่จะดูเช่นกัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท