Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 356

ตอนที่ 356

บทที่ 356 วางแผนใส่ร้ายมานานแล้ว

เกาเชียนรีบออกไปจัดการกับเรื่องต่างๆ และมู่วี่สิงยังคงนิ่งเงียบ

แต่เวินจิ้งกลับไม่นิ่งเฉยเหมือนกับเขา เธอไม่ต้องการให้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเกิดเรื่องขึ้น

เมื่อเห็นความกังวลของเวินจิ้ง มู่วี่สิงงอริมฝีปากบางๆ “เป็นห่วงมากเหรอ”

“เปล่า” เวินจิ้งเบือนหน้าหนี

“เป็นเพราะผม ดังนั้นก็เลยห่วงว่าบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะเกิดเรื่องงั้นเหรอ” มู่วี่สิงมองผ่านเธอ

“สุดท้ายแล้ว ครั้งหนึ่งฉันก็เคยทำงานที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป” เวินจิ้งได้แต่อธิบายได้เท่านั้น

“วางใจได้ มีผมอยู่ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก” มู่วี่สิงสาบานที่เต็มไปด้วยความน่าเชื่อถือและจริงใจ

เวินจิ้งมองดูเขา คำพูดของมู่วี่สิงมักจะทำให้เธอมั่นใจได้เสมอ

ความสามารถของเขานั้น ก็ไม่เคยทำให้คนอื่นต้องสงสัย

ไม่ว่าจะในอาชีพของแพทย์หรือการเป็นประธานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ความสามารถของเขามีมากล้นฟ้า

ในช่วงเย็น เวินจิ้งมาถึงหอพัก

เรื่องปัญหาเกี่ยวกับยาตัวใหม่ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแม้ว่าจะมีการเริ่มแผนการประชาสัมพันธ์ แต่ก็ไม่สามารถที่จะหลีกการรั่วไหลออกไปได้ ยอดขายของยาตัวใหม่ก่อนหน้านี้เพิ่มสูงมากและตอนนี้ก็เริ่มที่จะลดลงแล้ว

เวินจิ้งมองดูข่าว และไม่ต้องการที่จะไปติดตาม แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องของมู่วี่สิง เธอก็ทำอะไรไม่ได้

หลิงเหยาเดินเข้ามา มองดูคอมพิวเตอร์ของเธอ แล้วพูดพลางส่ายหัว “ฉันได้ยินมาว่าเรื่องนี้ดูท่าจะวุ่นวายใหญ่โต อาจจะทำให้คนถึงแก่ชีวิตได้”

“ไม่มีทาง” เวินจิ้งพูดเสียงนิ่ง

“ฉันก็หวังว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ราคาของยานี้ยังไม่สูง ประสิทธิภาพก็ดี สำหรับผู้ป่วยแล้วมันก็เป็นประโยชน์อย่างมาก ถ้าต้องถอนออกไปจริงๆ ก็น่าเสียดาย”

“ฉันเชื่อในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป”

หลิงเหยามองมาที่เธอ “รักเขาก็รักทุกอย่างของเขาด้วยจริงๆ มู่วี่สิงกรอกยาอะไรให้เธอ เธอถึงได้เชื่อเขามากขนาดนี้”

เวินจิ้งนิ่งไปครู่หนึ่ง ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว และไม่ได้ปฏิเสธใดๆ

หลิงเหยาก็เหมือนเป็นหมาหัวเน่าตัวหนึ่ง……

บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปนี้ได้จัดการกับเรื่องอย่างรวดเร็ว และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเข้าสอบสวนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาและก็ได้ตรวจสอบรายงานการทดสอบทั้งหมดในเวลานั้นเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่ได้พบปัญหาอะไร

เพียงแต่ว่า ยังคงมีบุคคลภายนอกที่ยังคงตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวยา

นักข่าวได้ถูกกันไว้ในโรงพยาบาล และตอนนี้ผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลจงซิน เพื่อรอให้รายงานสรุปผลของโรงพยาบาลออกมาก่อน

ในขณะเดียวกัน มู่วี่สิงก็ยังอยู่รักษาที่โรงพยาบาลจงซิน ไม่รู้ว่านักข่าวได้ยินข่าวลือมาจากไหน ถึงได้ขึ้นมาห้อมล้อมมู่วี่สิง …….

ฉากของโรงพยาบาลได้ถูกถ่ายทอดสดออกไป หลิงเหยาได้ยื่นโทรศัพท์ให้เวินจิ้ง บนนั้นเป็นวิดีโอที่พวกนักข่าวกำลังจะสัมภาษณ์มู่วี่สิง

แม้ว่าตอนนี้พวกนักข่าวจะถูกบอดี้การ์ดหยุดเอาไว้ แต่ทำให้ในโรงพยาบาลก็วุ่นวายมาก

ใบหน้าของเวินจิ้งเต็มไปด้วยความกังวลใจ เดี๋ยวเธอก็ต้องไปเรียน แต่นักข่าวเหล่านี้มีผลต่อความเจ็บป่วยของมู่วี่สิงอย่างแน่นอน…….

“เหยาเหยา จะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม” เวินจิ้งถามอย่างวิตกกังวล

“แน่นอน ไม่เห็นเหรอว่ามีบอดี้การ์ดที่แข็งแกร่งตั้งหลายคนแหนะ นักข่าวเข้าไม่ได้หรอก”

หลิงเหยาไม่ได้กังวลอะไร แต่สัมผัสได้ถึงความวิตกกังวลบนสีหน้าของเวินจิ้ง และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “เธออยากจะไปก็ไปสิ อีกแป๊บก็เลิกเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ”

“อะไร”

เวินจิ้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แน่นอน เพิ่งจะได้รับข้อความยกเลิกคลาสเรียนของศาสตราจารย์ไป๋ คาบการทดลองถูกย้ายไปเป็นวันพรุ่งนี้ตอนค่ำ

งั้นเดี๋ยวก็ไม่มีเรียนแล้ว

“ก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของฉัน” เวินจิ้งส่ายหัว

ถ้าเธอไป ก็อาจจะเพิ่มความยุ่งยากเข้าไปอีก

เธอเปิดดูถ่ายทอดสดก็ได้แล้ว

แต่อารมณ์ของพวกนักข่าวนั้นรุนแรงมาก แม้ว่าบอดี้การ์ดจะกัดคนเอาไว้ แต่บางคนก็เริ่มใช้ความรุนแรงแล้ว ภาพตอนนี้วุ่นวายมาก

ภาพการถ่ายทอดสดค่อยๆถูกบางสิ่งบางอย่างทำลายพังไป การถ่ายทอดสดต้องหยุดลง…..

เวินจิ้งขมวดคิ้ว และได้รีเฟรชซ้ำแล้วซ้ำอีก ยังคงดูไม่ได้

เธอเปิดเวยป๋อ และพยายามค้นหาข่าวต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข่าวด้านลบของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เหตุการณ์ดังกล่าวค่อนข้างหนักมาก แม้ว่าบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะชี้แจงว่าไม่มีปัญหา แต่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อสรรพคุณของยาและชื่อเสียงของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

ขณะนี้เธอได้ทวีตข้อความของเวยป๋อ ซึ่วโพสต์โดยนักข่าวว่าเธอได้รีบเข้าไปในห้องผู้ป่วยของมู่วี่สิง……

เวินจิ้งนั่งไม่ติด จึงรีบขับรถไปที่โรงพยาบาลทันที

ระหว่างทางนั้น ได้ติดตามสถานการณ์ของโรงพยาบาลมาตลอด

เนื่องจากโอบล้อมไปด้วยนักข่าว จึงทำให้โรงพยาบาลไม่สามารถทำงานได้ตามปกติได้ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ที่หน้าประตู ตอนนี้ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้

เวินจิ้งคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้มาก เธอพบประตูชั้นบนของแผนกผู้ป่วยใน และรอบข้างยังคงมีนักข่าวเข้ามา

“ฉันมองแล้วครั้งนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะต้องแย่แน่ๆ เดิมที่ก่อนหน้านี้บริษัทขายยาได้เป็นจำนวนมาก ตอนนี้ยาตัวใหม่ก็เกิดเรื่องขึ้นอีก โชคร้ายจริงๆ….”

“แต่มู่วี่สิงเป็นผู้ถืออำนาจบริษัทนี้ และมู่วี่สิงเขาเองก็เป็นแพทย์ จะทำไมยาในตลาดเกิดปัญหาขึ้นได้ยังไง……..”

“จริงด้วย ฉันเชื่อในคุณธรรมของมู่วี่สิง แต่ตอนนี้เรื่องที่เกิดเอาไม่อยู่แล้วใช่ไหม….”

“ได้โปรดพวกคุณเชื่อในตัวของหมอมู่ เชื่อในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป!” น้ำเสียงของเวินจิ้งดังขึ้นทันที

นักข่าวทั้งสองนิ่งอึ้งไป และมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า

“ยาของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไม่มีทางมีปัญหา” เวินจิ้งย้ำอีกครั้ง

“ตอนนี้ไม่ได้เกิดเรื่องเหรอ ถ้าไม่มีปัญหา แล้วทำไมมีผู้ป่วยมากมายขนาดนี้…..”

คำพูดนี้ ในตอนนั้นเวินจิ้งไม่สามารถจะปฏิเสธได้

เธอก็ไม่เข้าใจกับสถานการณ์ของผู้ป่วยเหล่านั้น

แต่พวกเขากำลังสร้างปัญหาก่อให้เกิดความตื่นตระหนก เธอรู้

เรื่องนี้ กลับยิ่งเป็นเหมือนการวางแผนใส่ร้ายมานานแล้ว

เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ก็มาถึงห้องผู้ป่วยของมู่วี่สิง

และในขณะนี้ ในทางเดินระเบียงว่างเปล่า ไม่มีใครแม้แต่คนเดียว

เวินจิ้งวิ่งไปด้วยความวิตกกังวล ประตูห้องผู้ป่วยเปิดอยู่ แต่ไม่มีใครอยู่ข้างในสักคนเดียว

มู่วี่สิงล่ะ

นักข่าวทั้งสองก็วิ่งตามเข้ามา แต่ไม่ช้าก็ได้รับข้อความว่า “มู่วี่สิงกำลังมาชั้นล่าง พวกเรารีบไปกัน!”

พูดจบ หันกลับออกไปอย่างรวดเร็ว เวินจิ้งก็ตามลงไปกับเขาด้วย

ในเวลานี้ รายงานของโรงพยาบาลออกมาแล้ว สภาพร่างกายของผู้ป่วยไม่มีความเกี่ยวข้องกับยาตัวใหม่ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป แต่มีการติดเชื้อด้วยโรคติดเชื้อประเภทหนึ่งที่เป็นที่นิยมกัน

พวกผู้ป่วยได้ยินผลรายงานนี้ แต่กลับไม่พอใจ

“จะติดเชื้อได้ไง พวกเรากินตัวยาโพลีนี้เข้าไปชัดๆ!”

“ใช่ พวกคุณอย่ามาปิดบัง….”

“เนื่องจากผลลัพธ์ออกมาแล้ว ขอให้ทุกคนอย่าตำหนิโพลีตัวยานี้อีก เนื่องจากเพิ่งวางตลาด ผมรู้ว่าทุกคนมีความสงสัยในยาชนิดใหม่นี้แน่นอน พวกเรายินดีรับความคิดเห็นของทุกคน แต่หากมีการทำลายชื่อเสียงหรือใส่ร้าย บริษัทมู่ซือกรุ๊ปขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดี” มู่วี่สิวพูดขึ้นมาด้วยเสียงอันดัง”

เกาเชียนที่อยู่ข้างเขาได้นำรายละเอียดข้อมูลทั้งหมดของยาโพลีนี้ออกมา ถึงแม้ว่าพวกผู้ป่วยได้รับยาโพลีนี้เข้าไปแล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันทั้งหมด พวกเราทั้งหมดเพิ่งกลับมาจากต่างถิ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้ได้ยืนยันแล้วว่าเป็นโรคติดเชื้อ

เวินจิ้งที่ยืนอยู่หน้าทางเข้าลิฟต์ จ้องมองข้ามไปยังฝูงชนจำนวนมาก และจมไปยังร่างอันยาวของมู่วี่สิง

ความสามารถของเขาโดดเด่นมากพอมานานแล้ว จึงสะดุดตาชัดเจน

แม้จะกำลังค้ำไม้เท้าอยู่ ก็ยังคงเปล่งประกาย

“ไม่…….ฉันไม่ได้มีโรคติดเชื้อ……”

ทันใดนั้น ผู้ป่วยหัวรุนแรงดูเหมือนจะบ้าคลั่งขึ้นมา โกรธจนจะเข้าไปทำร้ายมู่วี่สิง

เกาเชียนตอบโต้อย่างรวดเร็วเพื่อบล็อกตัวผู้ป่วย แต่มือของเขาก็ยื่นออกไปแล้ว…..

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท