บทที่347 ไม่อยากให้ภรรยาเก่าของผมต้องเสียใจ
“อีกชุดเป็นของผม” มองไปที่แววตาของเวินจิ้ง มู่วี่สิงยิ้มตอบ
เวินจิ้งเขินอาย โอเค
ลุกลงจากเตียง ทั้งสองนั่งที่โต๊ะอาหารต่อหน้า มู่วี่สิงเทซุปให้เธอ และคนซอสให้เข้ากัน เคลื่อนไหวอย่างละเอียดอ่อนและอ่อนโยน
เวิ้นจิ้งตกตะลึงเล็กน้อย มู่วี่สิงได้ทำกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้เหรอ
เมื่อนึกถึง ก็ทำให้ปวดใจ
เธอถามไปอย่างไม่รู้ตัว “คุณปู่ไม่ได้เร่งให้คุณแต่งงานใหม่เหรอ”
เธอจำได้ว่าครั้งแรกที่เธอกลับไปที่บ้านตระกูลมู่กับมู่วี่สิง คุณปู่รู้สึกกังวลมากกับการแต่งงานของมู่วี่สิง
“ช่วงนี้เขาไม่ได้อยู่ที่หนานเฉิง และเคลื่อนไหวไปไหนไม่ได้”
“โอ้”
“อยากแต่งงานกับผมอีกครั้งเหรอ” มู่วี่สิงมีอารมณ์ขัน
เวินจิ้งเลิกคิ้ว “ไม่อยาก”
“ทำไมเหรอ”
“ไม่ทำไม” เวินจิ้งไม่ได้พูดอีก
เมื่อคิดว่ามู่วี่สิงจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น เธอรู้สึกเสียใจมาก
“ถ้าคุณไม่ต้องการ ผมก็จะไม่แต่ง” มู่วี่สิงพูดอย่างจริงจัง
ได้ยินดังนั้น เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น ปกปิดความประหลาดใจในสายตาเอาไว้ไม่อยู่
“มันเป็นเรื่องของคุณ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน” ขณะที่เธอปกปิดอาการเอาไว้ ก็พูดเบาๆ
“คิดแบบนี้จริงๆเหรอ” มู่วี่สิงมองเธอ สายตาของเขาดูเหมือนจะเข้าใจทุกอย่าง
เวินจิ้งรู้สึกว่าตัวเองอยู่ต่อหน้ามู่วี่สิงนั้น เหมือนจะซ่อนอะไรเอาไว้ไม่อยู่
“แน่นอน ถ้าไม่ล่ะ” เวินจิ้งลดใบหน้าลง
ผู้ชายคนนั้นยิ้มเบาๆ “ผมไม่อยากให้ภรรยาเก่าของผมต้องเสียใจ”
“ฉันไม่เสียใจสักหน่อย” เวินจิ้งปากแข็ง
จนกระทั่งค่ำ เมื่อเห็นว่ามู่วี่สิงยังไม่กลับไปไหน เวินจิ้งมองดูเขา “คุณยังไม่กลับไปเหรอ”
“อยู่คนเดียวที่นี่ไม่กลัวเหรอ” มู่วี่สิงเลิกคิ้ว
ห้องผู้ป่วยนี้เป็นห้องวีไอพี และใหญ่มาก แต่กลับเงียบเชียบ
“ไม่กลัว”
“อืม งั้นผมไปล่ะ” พูดจบ มู่วี่สิงก็แยกออกไปจริงๆ
เวินจิ้งมองไปยังข้างหลังของเขา และย่นหน้าเล็กๆด้วยความกังวล
เมื่อเห็นเขาแยกจากไป ทำไมถึงรู้สึกไม่สบายใจขนาดนี้ ……..
“ไม่ ………” เธอได้ตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว
มู่วี่สิงหยุดก้าวเท้า หันหลังกลับ และถามว่า “อะไร”
“คุณอยู่ที่นี่เถอะ” เวินจิ้งกัดฟันพูด
“ผมอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณ แล้วคุณจะตอบแทนผมยังไง” มู่วี่สิงเข้าไปใกล้ ก้มตัวลงและมองเธอ
หน้าตาที่หล่อเหลานั้นทำให้เธอหลงใหล
เวินจิ้งกลืนน้ำลายเบาๆ แก้มของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
มู่วี่สิงตั้งใจที่จะยั่วยวนเธอ!
เธอหาเหตุผลตอบกลับ “ฉันได้รับบาดเจ็บที่บ้านตระกูลมู่ คุณจะไม่ควรผิดชอบเหรอ”
“อืม รับผิดชอบยังไง” มู่วี่สิงถามอย่างอดทน
เมื่อคำพูดนี้ออกมา เวินจิ้งได้ว่อกแว่ก
พระเจ้า เธอกำลังพูดอะไรออกไป!
“แน่นอน…….”
ยังไม่ทันพูดจบ จูบที่ร้อนรุ่มครอบคลุมลง และปลายจมูกเต็มไปด้วยกลิ่นที่คุ้นเคย เวินจิ้งเบิกตากว้างด้วยความตะลึง……
เธอถูกเขาบังคับไปที่หัวเตียง ทั้งร่างก็อยู่ในอ้อมแขนของเขา
เมื่อกลับมามีสติ เธอต้องการผลักเขาออกไปทันที
และเป็นการจูบที่ไม่นาน
เวินจิ้งหายใจเข้าลึกๆ แล้วมองดูมู่วี่สิงด้วยความเขินอาย “คุณออกไปจากฉัน”
เขาได้เข้ามาใกล้มาก ไม่รู้ว่าตัวว่าจะมีเสน่ห์ดึงดูด!
“อืม ผมแค่อดไว้ไม่ได้” คนที่ประสบความสำเร็จก็หัวเราะด้วยความสนุก
เวินจิ้งหยิบทิชชูข้างๆ แล้วเช็ดที่ปากอย่างแรง
มู่วี่สิงไม่ได้มองเธออีก แล้วนั่งลงที่โซฟาข้างๆ
“ในเมื่อคุณเกิดเรื่องมันจะไม่เกี่ยวกับผมได้ไง ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งลึก
เวินจิ้งหันหลัง มีอาการโกรธปนโกรธเล็กน้อย
เต็มไปด้วยบรรยากาศที่แปลกๆ แต่ในบรรยากาศอย่างนี้ เวินจิ้งก็ค่อยๆหลับไปแล้ว
มู่วี่สิงมองดูการนอนหลับของเธอ และค่อยๆเผยให้เห็นถึงความเปล่งประกายของดวงตา
ในเวลานี้ หลิงอี้ก็ได้มาถึง
เมื่อเห็นมู่วี่สิง เขาได้หยุดชะงัก
“คุณมู่อยู่ที่นี่ ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่”
“แล้วคุณเหมาะเหรอไง” มู่วี่สิงหันหน้า และดวงตาเย็นชาเล็กน้อย
“ผมเป็นเพื่อนของเวินจิ้ง และคุณ คืออดีตสามีของเธอ”
“เพื่อน” มู่วี่สิงพลางขยี้คำนี้ และมีรอยยิ้มเย็นชา
“เธอยอมรับไหม”
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเวินจิ้งจะเอาหลิงอี้มาเป็นเพื่อน
ได้ยินดังนั้น สีหน้าหลิงอี้ก็ได้เปลี่ยนไป และกำมือแน่นขึ้น
“ผมจะอยู่คืนนี้” มู่วี่สิงพูดพลางยั่วยุ
“ผมก็จะอยู่” หลิงอี้นั่งอีกด้านหนึ่งของโซฟา
การเคลื่อนไหวเช่นนี้ ทำให้เวินจิ้งตกใจตื่นขึ้นมา แต่เธอกลับไม่อยากจะลืมตาขึ้น
แต่ผู้ชายสองคนอยู่ในห้องผู้ป่วยของเธอ เธอจะนอนหลับได้อย่างไร
“เวินจิ้ง คุณอยากให้ใครอยู่เป็นเพื่อน ฮึ้ม” เมื่อว่าเวินจิ้งตื่นขึ้น มู่วี่สิงจึงถาม
ในเวลานี้ เวินจิ้งอยากจะแกล้งทำเป็นหลับก็ไม่ได้แล้ว
กระพริบตาปริบๆ เธอมองไปที่ชายหนุ่มรูปงามสองคนที่อยู่ต่อหน้าเธอ และรู้สึกเสียวซ่าอยู่พักหนึ่ง
“พวกคุณกลับไปเถอะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งลึก
“อืม พักผ่อนให้เต็มที่” มู่วี่สิงยืนขึ้นก่อน แล้วไม่ได้อยู่ต่อ
ใบหน้าหล่อของหลิงอี้ตึงเครียด และยังคงไม่ไหน
“ฉันง่วงแล้ว หลิงอี้ คุณจะไปได้ยัง” เห็นเขายังไม่ได้กลับไป น้ำเสียงของเวินจิ้งยิ่งนิ่งลึก
“คุณแค่ไม่อยากเจอผม”
“ใช่” เวินจิ้งพูดโดยไม่คิด
เธอไม่ต้องการติดกับหลิงอี้สักนิดเดียว
ในที่สุดห้องผู้ป่วยก็เงียบลง แต่เวินจิ้งกลับนอนไม่หลับ
ในหัวเต็มไปด้วยรอบจูบของมู่วี่สิง จนทำให้เธอคิดถึง
นอกประตู มู่วี่สิงยืนพิงกำแพง และมองหลิงอี้เดินออกมา
“ทำไมคุณถึงยังคิดถึงเวินอยู่อีก” หลิงอี้ลดตาลง
“เรื่องของผม คุณอี้เป็นห่วงมากรึไงกัน”
“ที่ผมเป็นห่วงก็คือเวินจิ้ง”
“เธออยากให้คุณเป็นห่วงเหรอไง” มู่วี่สิงพูดเย้ยหยัน
“ผมจะรอเธอ”
ผู้ชายทั้งสองคน ยืนอยู่หน้าห้องผู้ป่วยทั้งเช้า
จนกระทั่งวันที่สองของเช้าวันรุ่งขึ้น มู่วี่สิงไม่ได้เข้าไปอีก หลิงอี้ออกไปซื้ออาหารเช้ากลับมา แต่กลับเห็นว่าในห้องผู้ป่วยนั้นว่างเปล่า
เมื่อสอบถามพยาบาลถึงได้รู้ว่า เวินจิ้งเพิ่งออกจากโรงพยาบาลแล้ว
หลิงเหยาเห็นเวินจิ้งกลับมา รู้สึกประหลาดใจมาก
“จะต้องอยู่โรงพยาบาลหลายวันไม่ใช่เหรอ”
“เมื่อเช้าตรวจดูอาการไม่เป็นอะไรแล้ว จึงขออนุญาตออกโรงพยาบาลได้”
ความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของเธอไม่สามารถปกปิดได้ และรอยคล้ำใต้ตาของเธอนั้นคล้ำมาก
หลิงเหยาถามด้วยความกังวลว่า “เมื่อคืนเธอไม่ได้นอนเลยเหรอเนี่ย อยู่โรงพยาบาลยังไม่ชินใช่ไหม”
“ก็โอเคแหละ” เธอหาวและเธอก็พร้อมจะไปเรียน
“เธอเป็นอย่างนี้จะไปเรียนได้ไง นอนพักสักนิดก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะช่วยไปลากับศาสตราจารย์ให้” หลิงเหยาพลางขวางเธอ
เวินจิ้งได้โบกมือ “ฉันไม่ง่วง ซื้อกาแฟสักแก้วก็โอเคแล้ว”
………..
เพราะห้องทดลองของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปยังคงซ่อมแซมอยู่ สถานที่ของห้องทอดลองและพัฒนายาได้เปลี่ยนสถานที่ไปที่ตึกทดลองของมหาวิทยาลัยหลินไห่ชั่วคราว อีกทั้งอาคารนี้ถูกสร้างโดยบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ในช่วงนี้จะมีบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะมาทำงานที่นี่ทุกวัน
เวินจิ้งมาช่วยศาสตราจารย์ไป๋ตรวจสอบห้องทดลอง เมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานที่คุ้นเคย แต่ก็ไม่มีใครสนใจเธอ
เวินจิ้งรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย
ตอนนี้อยู่มหาวิทยาลัยหลินไห่ ดังนั้นจะต้องบันทึกการใช้ห้องทดลองทุกวัน
Amy ได้ถูกไล่ออกแล้ว ตอนนี้หลู่ชิงเพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่งกำลังรับผิดชอบโครงการวิจัยและพัฒนา
เมื่อเห็นเวินจิ้ง เธอทำสีหน้าไม่ดี
แต่เวินจิ้งต้องถามเธอเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนา
หลู่ชิงพูดเบาๆ “เธออยากรู้อะไร ก็ไปถามคุณมู่ได้เลยไม่ใช่เหรอ”
“คุณมู่ไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่ใช่เหรอ” เวินจิ้งขมวดคิ้ว
“พวกเราจะไปรายงานกับคุณมู่”
เห็นได้ชัดว่า หลู่ชิงไม่ต้องการยุ่งกับเธอ
แต่ศาสตราจารย์ไป๋ยังคงรอให้เธอกลับไปรายงาน