Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 384

ตอนที่ 384

บทที่ 384 เป็นคนที่เธอรัก

“เธอคิดว่าเป็นไปได้เหรอ” มู่วี่สิงหรี่สายตาลง เดินออกไปจากวิลล่าตลอดทาง เขาได้นำไปใช้แล้ว ไม่มีใครกล้ามาขวาง

เมื่อเข้าไปในรถสปอร์ต ออร่าความเยือกเย็นของมู่วี่สิงก็ลดลง กุมมือของเวินจิ้งไว้ อุณหภูมิความร้อนในบนร่างกายของเธอทำให้เขาร้อนขึ้นมาเช่นกัน

เสียงแหบห้าวของเขาดังอยู่ข้างหูเธอ กอดเวินจิ้งไว้แน่น “ขอโทษ ภรรยามู่ ฉันมาสายไป”

เขาไม่กล้าคิด หากเขามาสายอีกนิด อะไรจะตามมา

สายตาที่เจ็บปวดและเยือกเย็นพัวพันกัน กอดเธอไว้ราวกับจะซึมเธอเข้าไปในกระดูก

จูบปากเธออย่างลึกซึ้ง ราวกับว่าแบบนี้ ถึงจะทำให้เขาสงบลงได้

แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้อีก เวินจิ้งยังควบคุมตัวเองอยู่ แต่เมื่อได้รับลมหายใจของมู่วี่สิง หัวสมอง “ฮง” ประกายไฟระเบิด

เธอโอบหลังคอของเขาไว้ เพียงต้องการมากกว่านี้ ยิ่งจูบยิ่งลึก

เรื่องบางเรื่องเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็เก็บกลับคืนไม่ได้…

แต่เวินจิ้งยังรู้ตัวอยู่บ้าง ว่าผู้ชายตรงหน้า คือมู่วี่สิง

พวกเขาหย่ากันแล้ว

พวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้ว

พวกเขาไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้อีก

เขาจูบตลอดทาง เวินจิ้งพยายามใช้แรงผลักเขาออก กลั้นหายใจ เธอพูดเสียงเข้ม “มู่วี่สิง คุณส่งฉันกลับตระกูลหลินเถอะ”

สถานการณ์ตอนนี้ของเธอ ก็ไม่เหมาะที่จะกลับไปหอพัก

เมื่อได้ยินเช่นนี้ วินาทีนั้นสีหน้าของมู่วี่สิงก็ตึงเครียด เขาเห็นความไม่แยแสและความต่อต้านในสายตาของเวินจิ้ง

มือเรียวยาวบีบคางของเธอไว้ เขาพูดเสียงเย็นชา “เวินจิ้ง เธอแน่ใจว่าเธอสามารถ?”

“ฉันสามารถ” เวินจิ้งพูดแน่วแน่

มู่วี่สิงไม่ให้โอกาสนี้กับเธอ แล้วจูบเธออีกครั้ง กดเธอลงบนโซฟา…

เวินจิ้งไม่สามารถทนต่อสิ่งล่อใจได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายคนนี้คือมู่วี่สิง

คือคนที่เธอรัก

ดวงตาค่อยๆแดงก่ำ เธอทำได้เพียงจับไหล่ของเขาไว้ ไม่สามารถต้านทานได้ ทำได้เพียงจมลึก…

ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ เวินจิ้งร้องไห้ตลอด ขดตัว เธอถูกมู่วี่สิงกอดไว้ในอ้อมแขน

เวลานี้ อารมณ์ค่อยๆได้สติ

แต่เมื่อนึกถึงมือของมู่เหิงได้สัมผัสเธอ เธอก็อดไม่ได้ตัวสั่นขึ้นมาอีกครั้ง สะอิดสะเอียนจนอยากจะอ้วก

ทันใดนั้น เธอก็ผลักมู่วี่สิงออก

ในความเป็นจริงอุณหภูมิความร้อนในร่างกายยังไม่ลดลง แต่สบายขึ้นไม่น้อย

ยาแบบนั้น ฉีเซินเป็นคนจัด หรือว่ามู่เหิง?

บริษัทฉีเซิน

การประชุมใช้เวลาสามชั่วโมงเต็ม ตอนที่ฉีเซินออกมา ผู้ช่วยรออยู่ข้างนอกอย่างใจจดใจจ่อ

“ประธานฉี…”

“พูด”

ฉีเซินขมวดคิ้ว ดูท่าทางกังวลของผู้ช่วย สมองมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

“คุณเวินจิ้งถูกนำตัวไปแล้ว”

“อะไรนะ! พวกแกกลุ่มไร้ประโยชน์ ฉันจัดคนมาเฝ้าเยอะขนาดนั้น!” ฉีเซินเตะผู้ช่วยด้วยความโมโห ความโมโหอยู่ตรงอก

ผู้ช่วยลุกขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก และไม่กล้าพูด

เป็นเวลานานกว่าฉีเซินจะสงบลง ถามอย่างเยือกเย็น “เกิดอะไรขึ้น!”

“มู่เหิงมาที่วิลล่า แต่ได้กล่าวไว้ว่า เขาได้รับบาดเจ็บหนัก”

“มู่เหิง…เขาไปที่นั่นทำไม!”

“ไม่แน่ใจ…”

“ไสหัวไป!” ฉีเซินสีหน้าเข้ม รีบกลับไปวิลล่าทันที

คนของมู่วี่สิงกระจายออกไปนานแล้ว วิลล่าเงียบสงบ ฉีเซินเดินเข้ามาห้องที่จัดไว้ให้เวินจิ้ง เห็นเพียงภาพของมู่เหิงที่นองเลือด

ข้างกายเขาไม่มีใครสักคน

เห็นมือของเขา ฉีเซินตกใจอย่างชัดเจน

“ส่งฉันไปโรงพยาบาล…” มู่เหิงพูดกระซิบ

ฉีเซินขมวดคิ้ว นั่งลง “ทำไมเวินจิ้งถึงหนีไปได้?”

คนเฝ้าของเขาแน่นหนาขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เวินจิ้งจะหนีออกไปด้วยตัวเอง

แล้วมู่เหิงก็บาดเจ็บหนัก…

หัวสมองก็มีร่างหนึ่งแวบเข้ามา คือมู่วี่สิง?

เขาควรจะอยู่ที่เมืองเป่ยเฉิงไม่ใช่เหรอ!

“เหอะ ผู้หญิงคนนั้น…” มู่เหิงยังพูดไม่จบ ก็ได้สลบไป

ฉีเซินพูดด้วยความโกรธ “สิ่งของที่ใช้ไม่ได้ ล้วนเป็นสิ่งของที่ใช้ไม่ได้! นำตัวไปส่งโรงพยาบาล!”

เวินจิ้งมองออกไปนอกหน้าต่างการตกแต่งที่คุ้นตา ที่นี่คือ…การ์เด้นมู่เจียวาน

“ฉันจะกลับตระกูลหลินเอง” เวินจิ้งผลักมู่วี่สิงออก

มู่วี่สิงอุ้มเธอลงจากรถ ไม่ได้ให้โอกาสเธอได้ออกไปจากที่นี่

เดินเข้ามาถึงลิฟต์ เวินจิ้งคุ้นเคยกับทุกมุมเป็นอย่างมาก

เธอเคยคิดว่าที่นี่คือบ้านจริงๆแล้ว

“มู่วี่สิง ตอนนี้คุณคืนมือถือให้ฉันได้รึยัง” เวินจิ้งนึกขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง

หลังจากได้นอนโรงพยาบาล มือถือของเธออยู่ที่มู่วี่สิงตลอด

“อืม” มู่วี่สิงตอบเรียบๆ “กลับไปก่อน”

เดินขึ้นไปบังกะโลชั้นบนสุด การตกแต่งทั้งหมดยังคงเป็นเหมือนเดิมทุกอย่างก่อนที่เธอจะออกไป ไม่มีฝุ่นเลยแม้แต่น้อย ดูออกว่าได้มาทำความสะอาดทุกวัน

มู่วี่สิง…ยังพักอยู่ที่นี่?

เวินจิ้งเพิ่งรับมือถือมา ทางเข้ามีหมอเดินเข้ามา เป็นหมอประจำของตระกูลมู่

“ตรวจร่างกายของเธอหน่อย” มู่วี่สิงสั่ง แล้วถอยไปข้างๆ

“ถูกวางยาปลุกเซ็กส์แต่ตอนนี้ฤทธิ์ยาได้หายไปแล้ว ผมออกยาบำรุงร่างกายก็พอแล้ว”

มู่วี่สิงพยักหน้า แต่ความกังวลในสายตายังไม่หายไปไหน

การ์เด้นมู่เจียวานกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง มีเพียงเวินจิ้งและมู่วี่สิง

เปิดมือถือ ตอนแรกเวินจิ้งอยากแจ้งให้หลินเวยมารับเธอ แต่เมื่อนึกขึ้นได้

เมื่อกี้เธอหมดสติ นึกไม่ถึงว่าหลินเวยก็อยู่

คนที่ฉีเซินต้องการจัดการไม่ใช่หลินเวย สามารถรับประกันความปลอดภัยของเธอได้

แต่ตอนนี้ เธอสามารถเรียกให้ใครมารับเธอได้

ความคิดของเวินจิ้งเขียนไว้บนหน้าผาก มู่วี่สิงยึดมือถือเธอไว้อีกครั้ง “พักผ่อนที่นี่คืนหนึ่ง พรุ่งนี้ฉันส่งเธอกลับหอพัก”

เวินจิ้งเม้มปาก ไม่ได้ตอบอะไร

ระหว่างเหม่อลอย มู่วี่สิงได้ก้มตัวลง ยกแขนแล้วโอบเธอไว้ในอ้อมแขนบนโซฟา

“ทำไม ข้ามแม่น้ำเพื่อทำลายสะพาน?” น้ำเสียงของเขาเย็นชาเล็กน้อย

“คุณก็หาประโยชน์ ไม่ใช่เหรอ?” เวินจิ้งพึมพำ

เมื่อได้ยินเช่นนี้ มู่วี่สิงหัวเราะออกมาเบาๆ เชยคางของเธอขึ้นมา “ตอนนี้ดึกมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น พรุ่งนี้เธอควรไปโรงพยาบาลไปตรวจร่างกายก่อน”

เวินจิ้งไม่ได้ปฏิเสธ

สามวันก่อนเธอถูกฉีเซินนำตัวออกไปจากโรงพยาบาล อาการของเธอยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้

“งั้นฉันนอนที่นี่ครู่หนึ่ง” ตอนนี้เธอก็ไม่ใช่เจ้าของบ้านที่นี่ นอนที่ห้องรับแขกเหมือนว่าจะเหมาะสมกว่า

“นอนในห้องนอน ที่นี่ไม่สบายตัว” มู่วี่สิงโอบเอวเธออีกครั้ง

ใจของเวินจิ้ง “ตึกตึก” เต้นไปเรื่อย

โดยเฉพาะการได้มองใบหน้าที่หล่อเหลาของมู่วี่สิง ไม่มีผู้หญิงสามารถต้านทานได้…

เหมือนว่าจะสังเกตได้ถึงสายตาของเวินจิ้ง ริมฝีปากเรียวบางของมู่วี่สิงยกขึ้นเผยรอยยิ้ม “ฉันทำให้หลงใหลเหรอ?”

“ที่ไหนกัน พูดไร้สาระ” เวินจิ้งรีบหลบสายตาอย่างรวดเร็ว

อุ้มเธอขึ้นไปบนเตียง มู่วี่สิงห่มผ้าให้เธออย่างอ่อนโยนอีกครั้ง ความร้อนกระจายในดวงตา เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “นอนดีๆ มีอะไรเรียกฉันได้ตลอด ฉันอยู่ห้องอ่านหนังสือ”

“ออ” เวินจิ้งง่วงและเหนื่อยมาก

ถูกฉีเซินขังไว้หนึ่งวันหนี่งคืน เธอไม่กล้าหลับ อารมณ์ตึงเครียดตลอด บวกกับสถานการณ์ที่รุนแรงเมื่อครู่ ร่างกายเธอกำลังจะพัง

อดนอนไม่ไหวแล้ว เธอจึงค่อยๆหลับตาลง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท