Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 381

ตอนที่ 381

บทที่ 381 ไม่มีใครหยุดฉันได้

เวลานี้ ห้องรับแขก

หลินเวยได้ส่งคนติดตามฉีเซินแต่แรกแล้ว ดังนั้นเรื่องที่เขาพาตัวเวินจิ้งไป เธอชัดเจนอย่างดี

หลังจากวางแผนเสร็จ เธอถึงจะมา

อันที่จริงที่นี่ไม่ใช่อสังหาของฉีเซิน แต่เป็นสถานที่พักอาศัยเมื่อก่อนของหลินเวย เพียงแต่เธอไม่ได้มาพักที่นี่นานแล้ว “ดูแล้วฉันจะประเมินแกต่ำเกินไป” ฉีเซินเดินลงมาจากชั้นสองอย่างขี้เกียจ

ไม่คิดว่าคนที่จะหาเจอก่อน คือหลินเวย

“ฉีเซิน แกจะทำอะไร” หลินเวยหน้าเข้ม แต่สายตาปิดบังความห่วงใยไม่มิด

“แม่ อย่ามายุ่ง” ฉีเซินนั่งลงโซฟา ยกกาแฟขึ้นมาอย่างสง่างาม

สำหรับการมาของหลินเวย เขาไม่กังวล

ชั้นสองเฝ้าไว้อย่างหนาแน่น และเมื่อกี้เขาก็รู้แล้ว ว่าหลินเวยมาคนเดียว เธอก็พาเวินจิ้งไปไม่ได้

“เวินจิ้งเป็นลูกสาวของฉัน แกเป็นลูกชายของฉัน ตอนนี้ลูกชายของฉันลักพาตัวลูกสาวของฉัน แกให้คนเป็นแม่อย่างฉันอย่ามายุ่ง?” หลินเวยโกรธมาก

รู้เบาะแสของเวินจิ้ง เดิมทีเธอดีใจมาก เพียงแต่ไม่นาน ฉีเซินก็พาตัวไปแล้ว

“แม่ คุณก็รู้ว่าผมเป็นลูกชายของคุณ คุณยังไม่เข้าใจผมอีกเหรอ? ผมไม่ทำร้ายเวินจิ้ง”

“ตอนนี้แกเริ่มจะกลายเป็นคนแปลกหน้าไปแล้ว ฉันไม่เชื่อแก” น้ำเสียงของหลินเวยผิดหวังเต็มๆ

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉีเซินหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น “คนที่กลายเป็นคนไม่รู้จักไม่ใช่ผม”

“ไม่มีธุระอะไรแล้วผมให้คนส่งคุณกลับ ผมยังมีธุระ” น้ำเสียงของฉีเซินเย็นชา

“ฉันจะพาเวินจิ้งไปด้วย” หลินเวยตัดสินใจพูด

“อย่าแม้แต่จะคิด”

สิ้นเสียง เขาเรียกบอดี้การ์ดมา “ส่งคุณนายหลิน”

เร็วมาก บอดี้การ์ดก็มาจับไหล่ของหลินเวย เธอดิ้นไม่ได้

ความผิดหวังในสายตาแพร่กระจาย หลินเวยเม้มริมฝีปาก แต่ไม่ได้ต่อต้าน

แต่หลังจากออกมาจากประตู ก็มีบอดี้การ์ดของอีกฝั่งพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว บอดี้การ์ดข้างๆของหลินเวยถูกเตะออก เธอเป็นอิสระ ก็รีบเข้าไปวิลล่าอย่างรวดเร็ว

ประตูด้านนอก บอดี้การ์ดสองคนที่มีความสามารถคล้ายกันก็ต่อสู้กันขึ้นมา สีหน้าของฉีเซินเยือกเย็นมาก พูดอย่างโกรธ “ยังอึ้งอยู่ทำไม! ไป!”

ชั่วครู่เดียว บอดี้การ์ดที่อยู่ในวิลล่าก็ออกไปกันหมด

หลินเวยจะขึ้นไปชั้นสอง ร่างสูงของฉีเซินขวางเธอไว้

ตอนที่หลินเวยจะตบเข้าไป เขาจับข้อมือของเธอไว้แน่น

“แล้วยังไง แม่”

“ฉีเซิน แกกล้าแตะต้องเวินจิ้ง ก็อย่าโทษฉันแล้วกัน!” น้ำเสียงของหลินเวยเยือกเย็นมาก

“ทำไม แม่ยังต้องการทำอะไรอีก?” ฉีเซินถามอย่างอดทน

“หากเวินจิ้งเกิดเรื่อง ทั้งหมดของแกในวันนี้ ฉันจะเก็บคืนหมด!”

ฉีเซินกลับยิ้ม “คุณคิดว่าผมยังเป็นฉีเซินคนที่คุณคอยควบคุมอยู่เหรอ? ฉันไม่ใช่ตั้งนานแล้ว”

บีบข้อมือของหลินเวย เขาใช้แรงหนัก แล้วผลักเธอออก

หลินเวยยืนไม่อยู่ ร่างกายแทบจะล้มลง

ฉีเซินไม่ได้มองเธอเลยสักนิด พูดทันที “แม่ เรื่องที่ผมจะทำ ไม่มีใครหยุดผมได้”

ชั้นสอง

เวินจิ้งยืนอยู่ตรงระเบียงมองความเคลื่อนไหวตรงสวนดอกไม้ตลอด แม้ว่าคนที่หลินเสยพามาจะฝีมือดี แต่ที่นี่ถูกฉีเซินควบคุมไว้แต่แรกแล้ว ไม่นานก็มีบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา ฉากตรงหน้าวุ่นวายมากขึ้น

มองประตูด้านข้างไม่มีบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่ เวินจิ้งหันเดินออกจากห้อง บอดี้การ์ดตรงทางเดินทั้งหมดอยู่ที่สวนดอกไม้ข้างนอก เวินจิ้งเดินออกไปตลอดทางกลับไม่เจอใครสักคน

เพียงแต่ เมื่อเดินผ่านห้องหนังสือ ประตูถูกปิดไว้เพียงครึ่ง ใต้แสงไฟคือหลินเวยที่ถูกมัดไว้กับโซฟา

เวินจิ้งต้องการเดินเข้าไป กลับมีเสียงของฉีเซินดังขึ้นมา

“แม่ ไม่ให้ผมส่งคุณกลับไป งั้นก็ต้องลำบากคุณอยู่ที่นี่แล้ว”

สายตาของเวินจิ้งตกใจ เห็นได้ชัดถึงข้อมือของหลินเวยที่มีบาดแผล

ฉีเซินตีหลินเวย?

เธอเป็นแม่ของเขานะ!

“ฉีเซิน ฉันยังไม่ตาย ก็จะไม่ให้แกทำร้ายเวินจิ้ง!” หลินเวยพูดด้วยความโกรธ

“ผมเคยบอกแล้ว ผมจะไม่ทำร้ายเธอ แต่ผมคิดว่า ต่อไปผมคงไม่ใช่ลูกชายของคุณแล้ว แต่เป็นลูกเขยของคุณ”

“พูดไร้สาระ!” หลินเวยโกรธมาก

“ใครจะรู้” ฉีเซินยิ้มอย่างเยือกเย็น

หัวใจของเวินจิ้งเย็นลง ร่างที่ผอมบางสั่นเทาอย่างอดไม่ได้

เวลานี้ เหมือนจะมีเสียงเท้าดังมาทางนี้ เวินจิ้งตกใจ ตอนที่เงยหน้า ฉีเซินได้ออกมาแล้ว

“ทำไม อยากออกไป?” ฉีเซินมองเธออย่างหยอกล้อ

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก จ้องเขาด้วยความโกรธ

“หรือว่า อยากจะพูดคุยกับแม่ของเธอ”

สิ้นเสียง เขาเปิดประตู

ในที่สุดหลินเวยก็เจอลูกสาว บนหน้าที่ตึงเครียดก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย

“เสี่ยวจิ้ง” หลินเวยอดไม่ได้ ชั่วครู่ก็ร้องไห้ออกมา

กี่วันมานี้เธอได้ตามหาเบาะแสของเวินจิ้งตลอด ไม่มีใครรู้ ว่าเธอเป็นห่วงและกลัวมาก

โชคดี ที่เธอไม่เป็นอะไร

“แม่” เวินจิ้งเดินเข้ามา

แต่ก็ป้องกันจากฉีเซินไว้ ไม่กล้าเข้าไปใกล้

“เสี่ยวจิ้ง แผลของเธอเป็นยังไงบ้าง?” หลินเวยถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นอะไรแล้ว” เวินจิ้งนั่งลงข้างเธอ

มือต้องการแกะเชือกที่มัดหลินเวยไว้

แต่ฉีเซินกลับขวางเธอไว้

“ฉีเซิน เธอเป็นแม่ของนายนะ ทำไมนายถึงทำแบบนี้กับเธอได้!” เวินจิ้งจ้องเขาด้วยความโกรธ

ฉีเซินไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลย พูดเสียงเย็น “เธอไม่ได้มองฉันเป็นลูกชาย หากเขายอมให้ฉันแต่งงานกับเธอ อย่างนั้นฉันก็จะปล่อยคนอย่างแน่นอน”

“บ้า!” เวินจิ้งด่าอย่างอดไม่ได้

“บ้า? เวินจิ้ง หากมู่วี่สิงไม่ปล่อยบริษัทมู่ซื่อ ฉันก็จะบ้า ฉันก็จะให้เธอแต่งงานกับฉันให้ได้!” ฉีเซินโกรธเพราะคำพูดของเวินจิ้ง ทันใดนั้นก็ดึงผมของเวินจิ้งแรงๆ

หลินเวยที่อยู่ข้างๆเป็นห่วงมาก แต่มือเท้าของเธอถูกมัดไว้หมด ทำได้เพียงมองฉากนี้ด้วยดวงตาแดงก่ำ พูดด้วยความโกรธ “ฉีเซิน แกปล่อยมือเดี๋ยวนี้!”

เวินจิ้งใบหน้าซีดขาว ดวงตาที่ดื้อรั้นจ้องมองไปที่ฉีเซิน แรงของเขาหนักขึ้นเรื่อยๆ เธอเจ็บมาก แต่ก็ไม่ได้สารภาพ

“ฉีเซิน…แกปล่อยเสี่ยวจิ้ง…” น้ำเสียงของหลินเวยสะอื้น

ฉีเซินหรี่สายตา มองเวินจิ้งที่แทบจะเป็นลม ถึงจะคลายออกเล็กน้อย

ผลักเธอไปที่โซฟาอย่างรุนแรง เขาพูดเสียงเข้ม “อย่ามาท้าทายความอดทนของฉัน เวินจิ้ง”

เวินจิ้งยิ้มอย่างเยือกเย็น “นายบีบฉันให้ตาย มิฉะนั้น ให้ตายนังไงฉันก็จะไม่แต่งงานกับนาย”

คอเสื้อถูกฉีเซินคว้าไว้ เขาเข้าใกล้เธอ น้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย “ฉันจะให้เธอตายได้ยังไง ภรรยาฉี”

“อย่าเรียกไปเรื่อย ฉันไม่มีความเกี่ยวข้องกับนาย!” เวินจิ้งพูดด้วยความโกรธเคือง

“งั้นเหรอ? จะให้ฉันทำให้เธอตอนนี้เลยไหม?” ฉีเซินหรี่สายตาอย่างอันตราย

ดึงเวินจิ้ง เขานำตัวเธอออกไปจากห้องหนังสือ หลินเวยเสียงลำคอไม่ดี อยากตะโกนเรียก แต่กลับออกเสียงไม่ได้

น้ำตาในดวงตาไหลตลอด…

ห้องนอน

เวินจิ้งมองผู้ชายตรงหน้า ตอนที่มือของเขายื่นมา เธอยกเท้าเตะออกไป

แต่ฉีเซินเร็วกว่าคว้าข้อมือของเธอไว้ได้

ดันเธอไปที่กำแพง เขายกใบหน้าเล็กของเธอ มุมปากยกขึ้นอย่างร่าเริง “กลัวเหรอ?”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท